“เพื่อสุขภาพ” ชุมชนสุขภาพ เรื่องราวตรงใจ ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย รุ่นไหนก็รัก ♡
วิธีการจัดการความเครียดสำหรับรุ่นใหญ่ ต้องตัดที่ตรงไหน มาดูคำตอบกัน !
ความเครียดกับมนุษย์เป็นของคู่กัน ความจริงแล้วการเกิดความเครียดเป็นกลไกอย่างหนึ่งของร่างกายที่ช่วยให้เราตื่นตัวและรับมือกับสถานการณ์กดดันต่างๆ ได้ดีขึ้น แต่หากเครียดมากไปย่อมส่งผลเสียในหลายด้าน ยิ่งช่วงวัยกลางคนเป็นต้นไปที่มีสถานการณ์ตึงเครียดในชีวิตประจำวันหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นความรับผิดชอบต่องาน ต่อครอบครัว สถานะทางการเงิน สังคม และเรื่องเศรษฐกิจการเมือง สิ่งเหล่านี้ทำให้เราเกิดความเครียดสะสมจนส่งผลกระทบต่อสุขภาพกายและใจได้ทั้งนั้น เพราะฉะนั้นลองมาดู วิธีการจัดการความเครียด แบบฉบับคนรุ่นใหญ่กันดีกว่าว่าจะมีแนวคิดและกิจกรรมคลายเครียดอะไรที่เหมาะกับเราบ้าง
- 7 วิธีการจัดการความเครียด ฉบับคนรุ่นใหญ่ ทำกิจกรรมอะไรดีต่อใจของเราที่สุด
- ออกกำลังกาย
“กีฬาคือยาวิเศษ” เป็นวลีคลาสสิกที่นำมาใช้ได้ทุกยุคทุกสมัย เพราะการออกกำลังกายนอกจากจะช่วยให้เรารูปร่างดี กล้ามเนื้อแข็งแรงสมส่วนแล้ว ยังเป็นวิธีกำจัดความเครียดที่มีประสิทธิภาพ ช่วยให้ร่างกายหลั่งสารเอนโดรฟินหรือสารแห่งความสุข ช่วยลดความตึงเครียด ลดความวิตกกังวล แถมยังช่วยให้สุขภาพจิตดีขึ้น ส่งผลดีต่อทั้งกายและใจแบบนี้เราต้องลองหาเวลาว่างสัก 30 นาทีเพื่อออกกำลังกายเบาๆ อย่างน้อย 3 วันต่อสัปดาห์แล้วหล่ะ
- กินอาหารเสริม
การกินอาหารเสริมเป็นหนึ่งในวิธีการจัดการความเครียดที่ดีต่อสุขภาพกายของเราไปพร้อมกัน สารอาหารหลายอย่างมีสรรพคุณช่วยบรรเทาความเครียดและยังช่วยลดความวิตกกังวลได้ เช่น
- เลมอนบาล์ม : พืชตระกูลเดียวกับมิ้นต์หรือสะระแหน่ กลิ่นของมันช่วยให้ผ่อนคลายและช่วยคลายเครียดได้ดี
- โอเมก้า- 3 : เป็นกรดไขมันดีที่อยู่ในปลาทะเลน้ำลึกหรือปลาแซลมอน นอกจากจะมีประโยชน์ต่อร่างกายแล้วยังมีการศึกษาที่พบว่า การกินอาหารที่มีกรดโอเมก้า-3 เป็นประจำช่วยลดความเครียดลงได้ถึง 20%
- ชาเขียว : สารโพลีฟีนอลในชาเขียวมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระชั้นดี อีกทั้งยังช่วยให้เรารู้สึกผ่อนคลายและลดความวิตกกังวล
- ทำสมาธิ
หนึ่งในวิธีการจัดการความเครียดที่ดีที่สุดก็คือการทำสมาธิ คนไทยอย่างเรารู้จักการทำสมาธิดีอยู่แล้ว แต่นอกเหนือจากการนั่งสมาธิตามปกติ เราอาจเปิดเพลงบรรเลงเพื่อเพิ่มบรรยากาศที่ผ่อนคลายหรือใช้วิธีจุดเทียนหอมเข้ามาช่วยก็ได้ หากใครไม่เคยนั่งสมาธิมาก่อนและยังมีความกังวล ไม่สามารถนั่งสมาธินานๆ ได้ ลองเริ่มจากการนั่งสมาธิช่วงเช้าหรือก่อนนอนวันละ 5 นาทีแล้วค่อยๆ เพิ่มเวลาขึ้นดูนะคะ
เกร็ดสุขภาพ : การนั่งสมาธิมีประโยชน์หลายอย่าง นอกจากจะช่วยคลายเครียดและทำให้ผ่อนคลายแล้ว การนั่งสมาธิยังทำให้สุขภาพจิตดี ช่วยบรรเทาความเจ็บปวด บรรเทาอาการซึมเศร้า ช่วยแก้ปัญหานอนไม่หลับหรือหลับยาก อีกทั้งยังช่วยให้เราตระหนักรู้ในตัวเองมากขึ้นด้วย
- เขียนบันทึก
การเขียนบันทึกคืออีกวิธีกำจัดความเครียดที่หลายคนนึกไม่ถึงแต่เราขอบอกเลยว่านี่คือหนึ่งในวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดเลยค่ะ เพราะการเขียนคือการปลดปล่อยความเครียดอย่างหนึ่ง เราสามารถเขียนทุกอย่างที่ต้องการได้โดยไม่ต้องกลัวหรือเกรงใจใคร เป็นวิธีที่ช่วยให้เราได้ระบายอารมณ์ นอกจากนี้ยังได้ทบทวนตัวเอง ทบทวนสิ่งต่างๆ และทบทวนอารมณ์ของเราไปพร้อมกันด้วย
- เข้าคลาสโยคะ
การเข้าคลาสออกกำลังกายอย่างคลาสโยคะเป็นวิธีการจัดการความเครียดที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งในกลุ่มคนวัยหนุ่มสาวและช่วงวัยกลางคน นั่นก็เพราะโยคะใช้หลักการหายใจและสมาธิเป็นพื้นฐานในการเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรง ระหว่างเข้าคลาสจึงเหมือนเราได้ฝึกทั้งโยคะและสมาธิไปในตัว มีการศึกษาหลายชิ้นพบว่าการฝึกโยคะเป้นประจำนอกจากจะช่วยให้สุขภาพจิตดีขึ้นแล้ว โยคะยังมีส่วนทำให้เราอารมณ์ดี แจ่มใส และช่วยลดอาการซึมเศร้าอีกด้วย
เกร็ดสุขภาพ : การเข้าคลาสโยคะนอกจากจะได้ออกกำลังกายเพื่อรูปร่างที่ดี ร่างกายที่แข็งแรงและได้ปลดปล่อยความตึงเครียดแล้ว ยังเป็นการร่วมกิจกรรมกลุ่มกับคนที่มีความสนใจคล้ายกัน ทำให้เราได้เข้าสังคม ได้พูดคุยกับคนรอบข้างมากขึ้น เป็นจุดเริ่มต้นของมิตรภาพใหม่ๆ และยังเป็นวิธีการคลายเครียดด้วยนะ
- หัวเราะ
การหัวเราะเป็นวิธีกำจัดความเครียดที่มีประโยชน์มากกว่าที่เราคิดเพราะเวลาที่เราหัวเราะดังๆ จากใจจริงนั้นกล้ามเนื้อบนใบหน้าจะผ่อนคลาย ช่วยปลดปล่อยความเครียดแถมยังดีต่อสุขภาพจิตของเรา เพราะฉะนั้นลองปรับความคิดตัวเองใหม่ มองหาวิธีมองโลกในแง่ดี และค้นหาเรื่องขำขันจากสิ่งต่างๆ รอบตัว หัวเราะกันวันละนิดจิตแจ่มใสนะคะ
- ใช้เวลากับเพื่อนและครอบครัว (V)
วิธีการจัดการความเครียดไม่ได้มีแต่วิธีที่ต้องอยู่กับตัวเองเท่านั้น เพราะการเข้าสังคมก็คือการปลดปล่อยความเครียดเช่นกันค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้เวลาที่มีคุณภาพกับเพื่อนหรือครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นการกินข้าว การดูหนัง เล่นกีฬา หรือไปเที่ยวด้วยกัน นอกจากนี้ยังรวมถึงกิจกรรมเรียบง่ายที่สุดอย่างการพูดคุยกัน เท่านี้ก็ช่วยให้เราผ่อนคลายจากความเครียดต่างๆ แล้วหล่ะ เพราะกำลังใจจากเพื่อนและครอบครัวนี่แหละที่สำคัญที่สุด
วิธีการจัดการความเครียดมีหลายวิธี ลองเลือกวิธีที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของเราดูนะคะ อย่าลืมว่าความเครียดส่งผลเสียต่อร่างกายและจิตใจ หากใครปล่อยให้ตัวเองเครียดเรื้อรังก็อาจเป็นสาเหตุของการทำงานที่ผิดพลาดไปจนถึงกระทบกับความสัมพันธ์ของคนรอบตัว ดังนั้นมาหาวิธีการกำจัดความเครียดที่เหมาะกับเรากันดีกว่า จะได้สุขภาพดีทั้งกายและใจ ไม่ต้องกังวลเรื่องความเครียดอีกต่อไปค่ะ
อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : helpguide.org, healthline.com
ติดตามเราได้ที่ … เฟสบุ๊ค : เกร็ดสุขภาพ