“เพื่อสุขภาพ” ชุมชนสุขภาพ เรื่องราวตรงใจ ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย รุ่นไหนก็รัก ♡
ภูมิแพ้ในเด็กเป็นยังไง ? เลี้ยงลูกอย่างไร ให้ไม่เสี่ยงเป็นโรคภูมิแพ้
เริ่มต้นปีใหม่ปีนี้ มาลงทุนที่ดีที่สุดด้วยการเลี้ยงลูกให้ปราศจาก โรคภัย ไข้เจ็บ กันค่ะ เพราะ การลงทุนในลูกไม่ว่าจะยังไง ไม่ขาดทุนแน่นอน พี่หมอเป็นอีกคนหนึ่งที่เป็นภูมิแพ้ชนิดที่เรียกว่าอยู่กับมันมาตลอดชีวิต แพ้หนักขนาดเคยแพ้ละอองยาที่จะฉีดให้คนไข้ ต้องฉีดยาต้านแพ้ตัวเองก่อนจะไปให้ยาคนไข้ ส่วนสามีก็ไม่น้อยหน้า ต้องมียาขยายหลอดลมพกติดตัวตลอดเพราะแพ้อะไรที่เป็นหนักขนาดหลอดลมตีบทุกรอบ แต่เราก็เลี้ยงลูกไม่ให้เป็นภูมิแพ้ได้ ตั้งเด็กจนโตไม่เคยต้องนอนโรงพยาบาล หยุดเรียนเพราะหวัด น้ำมูกเลย กรรมพันธุ์เป็นสาเหตุสำคัญของการมี ภูมิแพ้ในเด็ก ก็จริงแต่เราก็พอจะมีทางที่หลีกเลี่ยงการเกิดได้ค่ะ
ภูมิแพ้ในเด็ก คืออะไร ?
ร่างกายมนุษย์มีกลไกป้องกันตัวเองจากสิ่งที่เป็นอันตราย เช่น ไวรัส แบคทีเรีย หรือสิ่งแปลกปลอมซึ่งอันตรายต่างๆ ที่เข้ามาในร่างกาย แต่บางทีกลไกนี้ก็ทำงานตอบสนองต่อ “สัญญาณเตือนภัยที่ผิดพลาด” คือ โจมตีอย่างรุนแรงกับสิ่งที่ไม่เป็นอันตราย เช่น ฝุ่น ละอองเกสร น้ำหอม อาหาร ก่อให้เกิดภูมิแพ้ขึ้นโดยปกติ สารก่อภูมิแพ้เหล่านี้ไม่เป็นอันตรายกับคนโดยทั่วไป แต่คนที่เป็นภูมิแพ้ ร่างกายจะทึกทักว่าสารก่อภูมิแพ้เหล่านี้เป็นอันตรายที่ต้องกำจัด ร่างกายเลยโจมตีสารก่อภูมิแพ้ด้วยแอนติบอดีที่เรียกว่าอิมมูโนโกลบูลินอี (IgE) แอนติบอดีเหล่านี้ติดอยู่กับเซลล์พิเศษที่เรียกว่าแมสต์เซลล์ mast cell เมื่อแอนติบอดี้จับสารก่อภูมิแพ้ได้ เจ้าแมสต์เซลล์ก็ปล่อยฮีสตามีนและสารเคมีอื่นๆ ที่หวังมาทำลายสารก่อภูมิแพ้ แต่สารป้องกันเหล่านี้มาระคายเคืองเนื้อเยื่อที่อยู่รอบข้างด้วย ทำให้เกิดอาการภูมิแพ้ขึ้น ระคายเคืองเนื้อเยื่อจมูก จะทำให้เกิดอาการแพ้ทางจมูก จมูกบวม หายใจลำบาก มีน้ำมูกหรือถ้าเกิดขึ้นในท่อทางเดินหายใจและปอด อาจทำให้เกิดอาการหอบหืด ไอ หายใจมีหวีด ระคายเนื้อเยื่อบุตา มีอาการภูมิแพ้ใต้ตาบวม ซึ่งถ้าปฏิกิริยาเกิดขึ้นทั่วทั้งทั้งร่างกาย อาจเป็นอาการแพ้อย่างรุนแรงได้
อะไรที่ก่อให้เกิด ภูมิแพ้ในเด็ก ?
สารก่อภูมิแพ้ อาจเข้าสู่ร่างกายได้ทางสูดหายใจเข้าสู่จมูก ไซนัส หลอดลม หรือปอด นอกจากนี้ยังเข้าสู่ผิวหนังทางการสัมผัสร่างกายโดยตรง หรือทางการรับประทานเข้าไปก็ได้ สิ่งที่อาจก่อให้เกิดอาการแพ้ได้ ได้แก่ ละอองเกสร รา ไรฝุ่น ปัสสาวะและน้ำลายสัตว์ ขนนก แมลงสาบ อาหาร ยา ถึงแม้รูปแบบของโรคภูมิแพ้พบได้ในครอบครัวที่ไม่ใช่โรคติดต่อ อย่างไรก็ตาม ปัจจัยทางพันธุกรรมจำเพาะก็ยังไม่เป็นที่เข้าใจอย่างถ่องแท้ และมีหลายต่อหลายคน ที่ไม่มีประวัติครอบครัวก็เป็นภูมิแพ้ ได้ ที่สำคัญ ภาวะภูมิแพ้ในเด็ก ไม่ใช่แค่ ภูมิแพ้ใต้ตาบวม น้ำมูกไหล แค่นั้น แต่หมายถึง การขาดเรียน ขัดขวางพัฒนาการ ยับยั้งการเจริญเติบโต ในบางคนที่รุนแรงอาจถึงชีวิตได้เช่นกัน
เลี้ยงลูกอย่างไรให้ไกลภูมิแพ้ ?
ก่อนอื่นเลย ถ้ารู้ว่าลูกมีอาการภูมิแพ้จากอะไร ก็จะง่ายในการหลีกเลี่ยงจากสารก่อแพ้เหล่านั้น อาการอาจมาในรูปแบบ ภูมิแพ้ใต้ตาบวม ไอ จาม มีน้ำมูก หายใจมีเสียงหวีด หรือแม้แต่ มีผื่นตามร่างกาย คันตามตัว คันตา ท้องเสีย อาเจียน บางทีก็ไม่มีรูปแบบที่ชัดเจน และก็หาไม่เจอว่าเป็นหลังจากสัมผัสอะไร การใส่ใจเอาใจใส่ สังเกตเผ้าระวังความเปลี่ยนแปลงของลูกจึงจำเป็นมาก
การดูแลบ้านเรือน ที่นอน ที่เล่น ให้สะอาด ไม่มีฝุ่น และการจัดการความสะอาดสัตว์เลี้ยง หรือบางบ้านที่ลูกภูมิแพ้เยอะ ก็ไม่สามารถจะเลี้ยงสัตว์กันได้เลย ทั้งๆ ที่สัตว์เลี้ยงสามารถช่วยให้เด็กและคนในบ้านสุขภาพจิตดี ฝึกความมีจิตใจอ่อนโยน การเป็นภูมิแพ้ในเด็ก เลยทำให้ขาดโอกาสเพิ่มอีกอย่างหนึ่ง แล้วเราจะทำอย่างไรกันดีเพื่อให้ไม่เป็นภูมิแพ้ในเด็ก
ต้องเริ่มต้นตั้งแต่อยู่ในท้องแม่กันเลยค่ะ บางการศึกษาพบว่า อาหารที่เด็กจะชอบกินตอนโต กินได้ ไม่แพ้ ขึ้นกับอาหารที่แม่กินตอนท้อง รวมทั้งตอนให้นมด้วย ถ้าแม่กินได้ ไม่ช่างเลือกลูกก็มีโอกาสที่จะกินได้ทุกอย่างเข่นกัน ดังนั้นคุณแม่ก็ควรรับประทานอาหารดีมีประโยชน์ให้ครบถ้วน อาหารมื้อเช้าครบ 5 หมู่ การให้ลูกได้มีโอกาสสัมผัสธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เล่นดิน เล่นทราย หรือการไปฟาร์มปศุสัตว์ ทำให้ร่างกายค่อยๆ ได้ปรับตัวกับการรับสารก่อภูมิแพ้ ก็ทำให้ห่างไกล ภูมิแพ้ในเด็กใด้เช่นกัน
เกร็ดสุขภาพ : Tip เคล็ดลับเพื่อป้องกันโรคภูมิแพ้ ถ้าเป็นไปได้ ให้นมแม่อย่างเดียวตั้งแต่แรกเกิดจนถึงสี่เดือน เริ่มป้อนอาหารอื่น เมื่อลูกน้อยพร้อมและเกินอายุสี่เดือน ให้นมลูกต่อไปในขณะที่เริ่มกินอาหารอื่น ให้ได้นานที่สุด เมื่อเริ่มป้อนอาหารแก่ลูกน้อย ให้รวมอาหารที่อาจทำให้เกิดอาการแพ้ เช่น นมวัว ไข่ ถั่วลิสง ถั่วเปลือกแข็ง ถั่วเหลือง งา ข้าวสาลี ปลา และอาหารทะเลอื่นๆ ภายใน 12 เดือนแรกของชีวิต การศึกษาแสดงให้เห็นว่าสิ่งนี้อาจลดโอกาสที่ลูกน้อยจะแพ้อาหารได้ เมื่อลูกเริ่มรับได้ ให้ใส่อาหารเหล่านี้เป็นประจำในอาหารของทารก
คำแนะนำตามหลักฐานนี้อิงจากหลักฐาน รวมถึงการวิจัยในทารกที่เป็นโรคเรื้อนกวางรุนแรงและแพ้ไข่ ทารกบางคนอาจยังแพ้อาหารแม้ว่าจะทำตามคำแนะนำนี้ หากลูกมีอาการแพ้ ให้หยุดให้อาหารนั้นทันทีและไปพบแพทย์ จดบันทึกอาหารที่แพ้รวมทั้งผลิตภัณฑ์จากสิ่งนั้นๆ เฝ้าระวังหลีกเลี่ยง ตามที่แพทย์วินิจฉัย เพื่อป้องกันการแพ้แบบรุนแรง อย่างไรก็ตาม เด็กที่ไม่แพ้ไข่ อาจแพ้ ไข่ดิบ ไข่ลวกได้
อาหารที่ป้องกันและช่วยอาการภูมิแพ้ไม่ให้รุนแรง
โปรไบโอติกได้รับการพิสูจน์แล้วว่าให้ทั้งผลต้านการอักเสบ และป้องกันอาการแพ้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อให้ในการตั้งครรภ์และให้นมบุตร มารดาที่ดื่มนมที่มีอาหารเสริมโปรไบโอติกระหว่าง และหลังการตั้งครรภ์ สามารถลดโอกาสที่ทารกจะเป็นโรคเรื้อนกวาง ซึ่งเป็นภาวะที่เกี่ยวข้องกับการแพ้อื่นๆ ได้เกือบครึ่งหนึ่ง นอกจากนี้ยังพบว่าเด็กเล็ก (อายุ 2 ถึง 5 ปี) ที่เป็นโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ ถ้าให้ดื่มนมที่มีโปรไบโอติกแลคโตบาซิลลัสเป็นเวลา 12 เดือน จะมีอาการภูมิแพ้น้อยลงอย่างเห็นได้ชัด
- ผลไม้และอาหารที่อุดมด้วยวิตามินซี
วิตามินซีช่วยลดฮีสตามีน ทั้งยังลดการสร้างและช่วยให้สลายเร็วขึ้น ทำให้บรรเทาอาการภูมิแพ้ได้ นอกจากพลังในการต่อสู้กับฮีสตามีนแล้ว อาหารวิตามินซียังช่วยบรรเทาอาการแพ้โดยลดการอักเสบของเซลล์ ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการลดภูมิแพ้ในเด็กนั้นเอง
- bioflavonoids หรือวิตามินพี
ไบโอฟลาโวนอยด์ทำให้แมสต์เซลล์คงตัว ส่งผลให้จำนวนเซลล์ที่ทำปฏิกิริยากับสารก่อภูมิแพ้ลดลง ซึ่งแหล่งที่ดีของสารบรรเทาอาการภูมิแพ้ในเด็กนั้นอยู่ใน แอปเปิ้ล และหัวหอมค่ะ
- โอเมก้า3
อาหารจำพวกปลา เช่น ปลาแซลมอน ซึ่งอุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีฤทธิ์ต้านการอักเสบที่อาจช่วยบรรเทาอาการภูมิแพ้ได้ อาหารอื่นๆ ที่อุดมด้วยโอเมก้า 3 ที่ต่อสู้กับการอักเสบ ได้แก่ วอลนัทและเมล็ดแฟลกซ์ ซึ่งทั้งสองอย่างนี้สามารถเพิ่มความกรุบกรอบให้กับอาหารจานใดก็ได้ แต่เด็กที่แพ้อาหารกลุ่มถั่วเปลือกแข็งไปแล้วหมดสิทธ์ใช้อาหารพวกนี้ช่วยแล้วนะคะ
- แมกนีเซียม
อาหารที่อุดมด้วยแมกนีเซียม เช่น อัลมอนด์ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ รำข้าวสาลี และสาหร่ายเคลป์ เป็นอาหารที่ยอดเยี่ยมสำหรับการบรรเทาอาการแพ้ เพราะแมกนีเซียมเป็นยาขยายหลอดลมและเป็นยาแก้แพ้ นอกจากนี้ แมกนีเซียมยังมีผลต่อกล้ามเนื้อของหลอดลมและร่างกายทั้งหมด การขาดแมกนีเซียมจะมีระดับฮีสตามีนในเลือดสูงกว่าเมื่อสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้
เกร็ดสุขภาพ : วิธีหนึ่งที่ทำให้มั่นใจว่า อาหารของลูก มีคุณสมบัติในการต้านภูมิแพ้ในเด็ก คือ การเพิ่มปริมาณผักและผลไม้เข้าไปทุกมื้ออาหาร ฤทธิ์ต้านการอักเสบตามธรรมชาติจะสามารถช่วยบรรเทาอาการแพ้ได้แน่นอน มีการพบว่าเด็กที่กินผักทั้งสดและปรุงสุก มะเขือเทศ แตงกวา และผลไม้อื่นๆ หลากหลาย จะมีโอกาสน้อยที่จะมีอาการภูมิแพ้กำเริบ หรือแม้แต่เป็นหวัด ในทางกลับกัน เด็กที่กินขนมปังและมาการีนมากกว่า มีแนวโน้มที่มีอาการภูมิแพ้มากกว่า
อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : kidshealth.org, childrenshospital.org, everydayhealth.com
ติดตามเราได้ที่ … เฟสบุ๊ค : เกร็ดสุขภาพ