“เพื่อสุขภาพ” ชุมชนสุขภาพ เรื่องราวตรงใจ ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย รุ่นไหนก็รัก ♡
แก้พิษผึ้งต่อย ต้องทำยังไงบ้าง ? แชร์วิธีรักษาตัวเองเบื้องต้นแบบปลอดภัย
ในบางครั้งเราก็อาจตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ทันตั้งตัว เมื่อเดินเล่นอยู่ในสวนดีๆ แล้วเกิดโดนผึ้งต่อยขึ้นมา หรือเด็กๆ ที่กำลังเล่นกันสนุกสนาน แล้วกลับโดนผึ้งต่อยด้วยความเจ็บปวด ดังนั้น สิ่งสำคัญคือเราต้องรู้ว่าต้องทำอะไรก่อน และไม่ควรทำอะไรบ้าง เมื่อผึ้งต่อยบวม วิธีรักษาทำอย่างไร เพื่อจะได้บรรเทาอาการและลดความเจ็บปวดลงได้ เรามาดูวิธี แก้พิษผึ้งต่อย ที่สามารถทำเองได้แบบเบื้องต้นเพื่อความปลอดภัยกันค่ะ
แก้พิษผึ้งต่อย ทำยังไงได้บ้าง ? ดูแลรักษาเบื้องต้นอย่างไร
เมื่อเราหรือคนใกล้ชิดถูกผึ้งต่อย สิ่งแรกที่ต้องทำคือเอาเหล็กในออกอย่างรวดเร็ว ยิ่งเหล็กในอยู่ในผิวหนังนานเท่าไร พิษของเหล็กก็จะยิ่งหลั่งออกมามากเท่านั้น ทำให้เจ็บและมีอาการบวมมากขึ้น และขั้นตอนเมื่อถูกผึ้งต่อยบวม วิธีรักษาจากแพทย์ผิวหนัง ได้แนะนำเคล็ดลับดังต่อไปนี้
อยู่ในความสงบ
แม้ว่าผึ้งส่วนใหญ่จะต่อยเพียงครั้งเดียว แต่หากเป็นตัวต่อและแตนก็สามารถต่อยได้อีกครั้ง หากคุณถูกแมลงใดๆ ต่อย ให้เดินออกจากพื้นที่นั้นอย่างใจเย็น เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกโจมตีเพิ่มเติม
ให้นำเหล็กในออก
หากเหล็กในยังคงอยู่ในผิวหนังของคุณ ให้เอาเหล็กในออกทันทีโดยใช้เล็บมือหรือขอบบัตรเครดิต ซึ่งจะช่วยควบคุมปริมาณสารพิษที่ปล่อยสู่ผิวของคุณและแก้พิษผึ้งต่อยได้ ห้ามใช้แหนบดึงเพื่อเอาเหล็กในออกเด็ดขาด เนื่องจากการบีบจะทำให้พิษปล่อยสู่ผิวหนังมากขึ้น
ล้างบริเวณที่โดนเหล็กในและประคบเย็น
ควรล้างบริเวณที่ถูกต่อยด้วยสบู่และน้ำก่อนเป็นอย่างแรกเพื่อแก้พิษผึ้งต่อย แล้วใช้ประคบเย็นเพื่อลดอาการบวม การประคบน้ำแข็งบริเวณที่ต่อยเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการลดการดูดซึมพิษ และยังสามารถช่วยลดอาการบวมได้ แต่หากอาการบวมเคลื่อนไปที่ส่วนอื่นๆ ของร่างกาย เช่น ใบหน้าหรือลำคอ ต้องรีบไปโรงพยาบาลทันที เพราะนั่นแปลว่าคุณอาจมีอาการแพ้
หากมีอาการปวดให้ใช้ยาแก้ปวด
พิจารณาใช้ยาแก้ปวดเพื่อระงับอาการปวดจากการถูก ผึ้ง ตัวต่อ และแตนต่อยได้ เพราะการถูกแมลงเหล่านี้ต่อยเป็นสิ่งที่เจ็บปวด ยาแก้ปวด เช่น อะเซตามิโนเฟน หรือไอบูโพรเฟน สามารถช่วยบรรเทาอาการปวดได้ แต่ต้องปฏิบัติตามคำแนะนำบนฉลากและใช้ยาที่ถูกต้องเสมอ
เกร็ดสุขภาพ : โดยปกติพิษผึ้งจะไม่เป็นพิษและจะทำให้เกิดอาการปวดและบวมเฉพาะที่เท่านั้น อาการแพ้จะเกิดขึ้นเมื่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายไวต่อพิษมากเกินไปและผลิตแอนติบอดี้ต่อมัน ทำให้ฮีสตามีนและสารอื่นๆ จะถูกปล่อยเข้าสู่กระแสเลือด ทำให้หลอดเลือดขยายตัวและเนื้อเยื่อบวม ปฏิกิริยารุนแรงนี้อาจนำไปสู่ภาวะช็อกจากอะนาไฟแล็กติก ซึ่งเป็นอาการต่อเนื่องที่คุกคามชีวิต รวมถึงอาจมีอาการบวมที่คอ หายใจลำบาก หากมีอาการแพ้พิษผึ้งจึงต้องรีบไปโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด
อาการเมื่อโดนผึ้งต่อยแบบไหนอันตราย
สำหรับคนส่วนใหญ่ อาจพบอาการปวดเฉียบพลัน บวม แดง รู้สึกอุ่น และคันที่บริเวณถูกต่อยแต่ไม่มีโรคแทรกซ้อนร้ายแรง หรือหากโดนต่อยที่มืออาจรู้สึกเหมือนมีอาการเหน็บชาที่มือเท่านั้น แต่หากคุณแพ้ผึ้งหรือโดนต่อยหลายครั้ง ผึ้งต่อยอาจเป็นปัญหามากกว่าเพราะสามารถเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ เพราะเมื่อเราถูกผึ้งต่อยมันจะทิ้งสารพิษที่เป็นพิษซึ่งอาจทำให้เกิดอาการปวดและอาการอื่นๆ บางคนแพ้สารพิษนี้ อาการแพ้เล็กน้อยอาจทำให้เกิดรอยแดงและบวมที่บริเวณต่อยมากขึ้น แต่หากมีอาการแพ้อย่างรุนแรงอาจทำให้เกิดอาการดังต่อไปนี้
- ลมพิษ
- ผิวสีซีด
- อาการคันรุนแรง
- อาการบวมของลิ้นและลำคอ
- หายใจลำบาก
- ชีพจรเต้นเร็ว
- คลื่นไส้และอาเจียน
- ท้องเสีย
- อาการวิงเวียนศีรษะ
- หมดสติ
หากคุณมีสัญญาณของปฏิกิริยารุนแรงต่อผึ้งต่อยเหล่านี้ ต้องขอความช่วยเหลือฉุกเฉินเพื่อแก้พิษผึ้งต่อย เพราะนั่นหมายถึงคุณอาจประสบภาวะช็อกจากภูมิแพ้ ซึ่งเป็นปฏิกิริยาการแพ้ที่คุกคามถึงชีวิตได้ หากสังเกตเห็นสัญญาณของอาการแพ้ข้างต้น หรือหากคุณหรือคนที่คุณรู้จักถูกต่อยหลายครั้งโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นเด็ก ให้ไปพบแพทย์ทันทีเพราะนั่นอาจเป็นสัญญาณของการแพ้พิษผึ้งซึ่งอันตรายอย่างมากค่ะ
อาการเมื่อโดนผึ้งต่อยแบบไหนอันตราย
สำหรับผึ้งธรรมดาที่ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้การรักษาที่บ้านก็เพียงพอ เพราะอาการอาจมีแค่ปวด บวม แดง เราสามารถดูแลตัวเองได้เหมือนเวลาเราเป็นตะคริว ซึ่งสาเหตุการเป็นตะคริวก็มาจากหลายอย่างด้วยกัน แต่ในทางกลับกัน การถูกผึ้งต่อยหลายครั้งหรืออาการแพ้อาจเป็นเหตุฉุกเฉินทางการแพทย์ที่ต้องได้รับการรักษาทันที เมื่อถูกผึ้งต่อยบวม วิธีรักษาฉุกเฉินสำหรับอาการแพ้มีดังต่อไปนี้
การรักษาฉุกเฉินสำหรับอาการแพ้
ในระหว่างที่มีภาวะแอนาฟิแล็กติกกำเริบ ทีมแพทย์ฉุกเฉินอาจทำการช่วยฟื้นคืนชีพ (CPR) หากคุณหยุดหายใจหรือหัวใจหยุดเต้น คุณอาจได้รับยารวมถึงอะดรีนาลีน เพื่อลดการตอบสนองต่อการแพ้ของร่างกาย หรือยาแก้แพ้และคอร์ติโซนทางหลอดเลือดดำ เพื่อลดการอักเสบของทางเดินหายใจและปรับปรุงการหายใจ
ช็อตภูมิแพ้
ผึ้งและแมลงกัดต่อยเป็นสาเหตุทั่วไปของการเกิดแอนาฟิแล็กซิส หากคุณมีปฏิกิริยารุนแรงต่อการถูกผึ้งต่อยหรือถูกผึ้งต่อยหลายตัว แพทย์อาจจะแนะนำให้ทำการทดสอบภูมิแพ้และพิจารณาการฉีดช็อตภูมิแพ้ หรือการบำบัดด้วยภูมิคุ้มกัน เพื่อแก้พิษผึ้งต่อย ซึ่งช็อตเหล่านี้โดยทั่วไปแล้วจะได้รับเป็นประจำเป็นเวลา 2-3 ปี และสามารถช่วยลดหรือขจัดการตอบสนองต่อพิษผึ้งได้
การเยียวยาที่บ้านเพื่อบรรเทาอาการผึ้งต่อย
หลังจากโดนผึ้งต่อยไปแล้ว หากไม่มีอาการแพ้รุนแรง แต่ยังมีอาการปวด บวม หรือคัน สามารถใช้วิธีเหล่านี้เพื่อช่วยบรรเทาอาการและแก้พิษผึ้งต่อยได้ค่ะ
น้ำผึ้ง
น้ำผึ้งอาจช่วยรักษาบาดแผล ความเจ็บปวด และอาการคันได้ ในการรักษาผึ้งต่อยด้วยน้ำผึ้ง ให้ใช้ปริมาณเล็กน้อยในบริเวณที่ได้รับผลกระทบ และปิดด้วยผ้าพันแผลหลวมๆ ทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง
ผงฟู
แป้งที่ทำจากเบกกิ้งโซดาและน้ำสามารถช่วยแก้พิษผึ้งต่อย ลดอาการปวด อาการคันและบวมได้ ทาเบกกิ้งโซดาเป็นชั้นหนาๆ ในบริเวณที่ได้รับผลกระทบ ปิดด้วยผ้าพันแผล ทิ้งไว้อย่างน้อย 15 นาที และทาซ้ำได้ตามต้องการ
สมุนไพรและน้ำมัน
สมุนไพรอย่างว่านหางจระเข้ และน้ำมันหอมระเหยลาเวนเดอร์ มีคุณสมบัติในการรักษาบาดแผลและอาจช่วยบรรเทาอาการของผึ้งต่อยได้ ว่านหางจระเข้เป็นที่รู้จักกันดีสำหรับใช้ปลอบประโลมผิวและบรรเทาอาการปวด ให้หักใบว่านหางจระเข้และบีบเจลลงบนบริเวณที่ได้รับผลกระทบโดยตรง ในขณะที่น้ำมันหอมระเหยลาเวนเดอร์มีคุณสมบัติต้านการอักเสบและสามารถช่วยบรรเทาอาการบวมได้ เจือจางน้ำมันหอมระเหยด้วยน้ำมันตัวพา เช่น น้ำมันมะพร้าวหรือน้ำมันมะกอก หยดส่วนผสม 2-3 หยดลงบนบริเวณที่ถูกต่อย หรือใช้น้ำมันทีทรีเป็นยาฆ่าเชื้อตามธรรมชาติและอาจบรรเทาอาการเมื่อถูกผึ้งต่อยได้ ผสมกับน้ำมันตัวพาแล้วหยดบริเวณที่ถูกต่อยเช่นกัน
เกร็ดสุขภาพ : ข้อควรระวังเมื่อต้องอยู่ในบริเวณที่แมลงสัตว์กัดต่อยอยู่รวมกัน หรือใช้เวลานอกบ้านที่มีโอกาสจะพบเจอผึ้งหรือแมลงอื่นๆ ได้ ให้ทำตามขั้นตอนเหล่านี้เพื่อลดความเสี่ยงที่จะถูกผึ้งต่อย
I• ไม่ควรเดินเท้าเปล่าข้างนอก
l• อย่าใส่น้ำหอมที่มีกลิ่นหอม ผลิตภัณฑ์สำหรับเส้นผม หรือผลิตภัณฑ์สำหรับร่างกาย
I• พยายามเลี่ยงการใส่เสื้อผ้าสีสดใส หรือเสื้อผ้าที่มีลายดอกไม้
l• อย่าขับรถโดยเปิดกระจก
I• ควรอยู่ห่างจากถังขยะที่ไม่มีฝาปิด
แม้ว่าพิษของผึ้งจะไม่อันตรายหากผู้ที่ถูกต่อยไม่มีอาการแพ้ แต่หากเราเกิดมีอาการแพ้พิษผึ้ง ก็จำเป็นที่จะต้องเข้ารับการรักษาโดยเร็วจากแพทย์เพื่อแก้พิษผึ้งต่อยให้เร็วที่สุดก่อนที่จะเป็นอันตรายต่อชีวิต เช่นเดียวกับอาการเจ็บป่วยทางร่างกายอื่นๆ อย่างหมอนรองกระดูกทับเส้น ถ้าไม่อันตรายก็สามารถดูแลตนเองที่บ้านได้เช่นกัน เพราะฉะนั้น ได้รู้ถึงวิธีการดูแลเบื้องต้นกันไปแล้วว่าหากถูกผึ้งต่อยจะต้องทำอย่างไรบ้าง อย่าลืมนำเอาวิธีเหล่านี้ไปใช้กันนะคะ
อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : healthline.com, aad.org, mayoclinic.org, mountsinai.org
ติดตามเราได้ที่ … เฟสบุ๊ค : เกร็ดสุขภาพ