“เพื่อสุขภาพ” ชุมชนสุขภาพ เรื่องราวตรงใจ ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย รุ่นไหนก็รัก ♡
เช็กกัน ! เป็นหวัดน้ำมูกไหล เป็นอาการหวัดหรือว่าภูมิแพ้
เวลาที่เราเป็นหวัดหรือเป็นภูมิแพ้ อาการร่วมที่มีเหมือนกันก็คือ “น้ำมูกไหล” แต่ทุกคนรู้ไหมคะว่าสรรพคุณของผักชีต่างจากน้ำมูกไหลเพราะภูมิแพ้อย่างไร เมื่อร่างกายเริ่มส่งสัญญาณเตือนโดยเริ่มมีน้ำมูก คัดจมูก เราจะรู้ได้อย่างไรว่านั่นคืออาการเป็นหวัดหรือเป็นภูมิแพ้อากาศกันแน่นะ ? วันนี้เรามีคำตอบของทั้งสองอาการมาฝากแล้วค่ะ
- อาการเป็นหวัด เป็นอย่างไรกันแน่
หวัด คือ โรคจมูกอักเสบจากการติดเชื้อไวรัส (Viral rhinitis) เมื่อเป็นแล้วจะมีไข้ อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ และมักจะมีน้ำมูกไหล สาเหตุเกิดจากภูมิต้านทานในร่างกายทั้งจากความเครียด พักผ่อนน้อย หรือสัมผัสกับอากาศเย็นจัดและอากาศที่เปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน ไวรัสที่ทำให้เกิดอาการไวรัสที่ทำให้เกิดเป็นหวัดน้ำมูกไหลก็คือ Rhinovirus, Influenza, Parainfluenza และ Adenovirus อาการหวัดเป็นอาการป่วยที่สามารถหายได้เองภายใน 7 – 10 วัน โดยที่เราไม่ต้องกินยา แค่ดูแลตัวเองให้เหมาะสมหรือกินอาหารบางอย่างก็ช่วยบรรเทาอาการหวัดได้ เช่น กระเทียม พริก หรือหอมแดง เป็นต้น
- อาการ เป็นหวัดน้ำมูกไหล และอาการข้างเคียง
เวลาที่เราเป็นหวัด มักมีอาการของโรคอย่างเป็นหวัดน้ำมูกไหล โดยน้ำมูกจะมีลักษณะข้นเป็นส่วนใหญ่ แต่บางครั้งผู้ป่วยก็อาจมีน้ำมูกใสได้เช่นกัน นอกจากนี้ยังมีอาการข้างเคียงที่เกิดร่วมด้วย คือ ตัวร้อน มีไข้ เจ็บคอหรือแสบคอ โดยเมื่อสัมผัสกับไวรัสแล้วจะใช้เวลาสักพักจึงจะแสดงอาการป่วยออกมา
เกร็ดสุขภาพ : อาการหวัดเป็นอาการที่เกิดขึ้นเนื่องจากร่างกายของเราอ่อนแอหรืออยู่ในช่วงที่ภูมิคุ้มกันต่ำจากการพักผ่อนน้อย เครียด หรืออากาศเปลี่ยนแปลง ดังนั้นใครไม่อยากเสี่ยงเป็นหวัด อย่าลืมดูแลสุขภาพให้ดีนะคะ ไม่ว่าจะเป็นการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำสะอาดเยอะๆ กินอาหารที่มีประโยชน์และช่วยต้านหวัด เช่น กระเทียม หอมแดง เครื่องเทศรสเผ็ดร้อน น้ำซุปร้อนๆ หรือข้าวงอกที่มีวิตามินบำรุงร่างกายหลายชนิด ที่สำคัญหาเวลาออกกำลังกายบ้าง เท่านี้ก็เป็นยาต้านหวัดจากธรรมชาติแล้วค่ะ
- ภูมิแพ้อากาศเป็นอย่างไรต่างจากเป็นหวัดน้ำมูกไหลอย่างไร
ภูมิแพ้อากาศ คือ โรคภูมิแพ้ชนิดหนึ่งที่เกิดจากผู้ป่วยถูกกระตุ้นโดยอุณหภูมิและความชื้นในอากาศที่เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ไปจนถึงการสัมผัสกับสารเคมี ฝุ่นควัน หรือสารที่ทำให้เกิดการระคายเคืองต่างๆ ขึ้นอยู่กับว่าผู้ป่วยแพ้สิ่งกระตุ้นประเภทไหน โดยส่วนใหญ่มักเป็นควันบุหรี่ ไรฝุ่น ควันรถ รวมถึงอากาศที่เปลี่ยนจากร้อนไปเย็นหรือเย็นไปร้อนก็มีส่วนกระตุ้นภูมิแพ้ได้เช่นกัน
- อาการของน้ำมูกไหลเมื่อเป็นภูมิแพ้และอาการข้างเคียง
ผู้ป่วยที่เป็นภูมิแพ้จะไม่มีไข้ ไม่มีอาการตัวร้อน แต่จะมีอาการไอ จาม น้ำมูกไหล และน้ำมูกมจะเป้นน้ำมูกใสๆ ไม่ขุ่น มีเสมหะในลำคอ นอกจากนี้ผู้ป่วยบางรายอาจเกิดอาการข้างเคียงอื่นๆ ร่วมด้วย อย่างเช่น คันคอ คันตามร่างกาย แสบตา และหูอื้อ อาการภูมิแพ้มักเป็นๆ หายๆ และไม่ใช่โรคติดต่อ แต่ขึ้นอยู่กับการปฏิบัติตัวของผู้ป่วยรวมถึงการสัมผัสกับสิ่งกระตุ้นต่างๆ ค่ะ
เกร็ดสุขภาพ : ไม่ว่าจะเป็นภูมิแพ้อากาศหรือหวัดก็จัดอยู่ในกลุ่มโรคเกี่ยวกับระบบหายใจทั้งสิ้น ซึ่งโรคในกลุ่มนี้มักเกิดขึ้นจากการดูแลตัวเองของเราเป็นหลัก หากไม่อยากป่วยเป็นหวัดหรือเป็นภูมิแพ้ เราก็ต้องรู้จักดูแลร่างกายให้แข็งแรง หมั่นสร้างเสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกายผ่านการพักผ่อน การเลือกกินอาหาร และการออกกำลังกาย ส่วนใครรู้ตัวว่าเป็นภูมิแพ้ก็ต้องหลีกเลี่ยงสิ่งที่กระตุ้นเราด้วยนะคะ เช่น ไม่อยู่ในที่ๆ มีคนสูบบุหรี่ สวมหน้ากากอนามัยเมื่อต้องเดินทางไปนอกบ้าน หรือไม่พาตัวเองไปอยู่ในที่เสี่ยงอย่างเช่นพื้นที่แออัด เป็นต้น
- วิธีการดูแลตัวเองให้ห่างไกลจากโรคหวัดและภูมิแพ้
ใครไม่อยากเสี่ยงเป็นหวัดน้ำมูกไหลหรือเป็นภูมิแพ้ เราก็สามารถดูแลตัวเองได้ด้วยวิธีง่ายๆ ดังนี้
- หลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้น : คนเป็นภูมิแพ้มีสิ่งเร้าหรือสิ่งกระตุ้นที่หลากหลายแตกต่างกันออกไป หลักๆ ก็เช่น ควันบุหรี่ ควันรถ ไรฝุ่น น้ำหอมกลิ่นแรง และอากาศที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เป็นต้น หากรู้ว่าตัวเองแพ้สิ่งกระตุ้นประเภทไหนก็ต้องเลี่ยงสิ่งกระตุ้นนั้น
- ออกกำลังกายเป็นประจำ : การออกกำลังกายนอกจากจะช่วยให้รู้ร่างกระชับ สมส่วน และร่างกายแข็งแรงแล้ว ยังเป็นการเสริมเกราะป้องกันให้ร่างกายอีกทางหนึ่งเพราะช่วยให้ภูมิคุ้มกันในตัวเราแข็งแรงขึ้น ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคหวัดและภูมิแพ้ได้เป็นอย่างดี อาจเริ่มด้วยการออกกำลังกายแบบแอโรบิกก็ได้ เพราะความหมายของแอโรบิกก็คือการออกกำลังกายโดยใช้ออกซิเจน ทำให้หัวใจแข็งแรง ช่วยลดไขมันได้ดี จึงทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้นได้ค่ะ
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ : การพักผ่อนทำให้ร่างกายได้ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรออย่างมีประสิทธิภาพ เปรียบเหมือนการชาร์จพลังงานให้ร่างกายสามารถต่อสู้กับโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ได้อย่างเต็มที่
- กินอาหารที่มีประโยชน์ : แหล่งอาหารที่ดีคือตัวช่วยบำรุงสุขภาพจากภายใน หากไม่อยากป่วยเป็นหวัด ไม่อยากเป็นภูมิแพ้ และอยากห่างไกลโรคร้ายอื่นๆ ก็ต้องเลือกกินผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ แป้ง และไขมัน ในอัตราส่วนที่เหมาะสม รวมถึงเลือกกินอาหารที่ดีต่อร่างกาย เลี่ยงของหวาน มันเค็ม ด้วยนะคะ
- ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด : แม้ว่าอาการหวัดและภูมิแพ้จะสามารถหายได้เองตามธรรมชาติหากเราดูแลตัวเองดี แต่หากมีอาการรุนแรงขึ้นก็ควรไปปรึกษาแพทย์และทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดจะดีที่สุด
ได้รู้กันไปแล้วว่าเป็นหวัดน้ำมูกไหลต่างจากน้ำมูกไหลเพราะภูมิแพ้อย่างไร รวมถึงความแตกต่างของโรคทั้งสองชนิดทั้งสาเหตุและอาการข้างเคียงอื่นๆ ดังนั้นหากมีน้ำมูกไหลคราวหน้า ลองสังเกตดูว่าเป็นน้ำมูกใสหรือขุ่นพร้อมสังเกตอาการข้างเคียงไปด้วย จะได้แยกความแตกต่างของโรคออกและดูแลตัวเองอย่างเหมาะสมนะคะ
อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : paolohospital.com, si.mahidol.ac.th
ติดตามเราได้ที่ … เฟสบุ๊ค : เกร็ดสุขภาพ