“เพื่อสุขภาพ” ชุมชนสุขภาพ เรื่องราวตรงใจ ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย รุ่นไหนก็รัก ♡
มารู้จัก ประโยชน์สมุนไพร หลากหลายชนิด มีติดบ้านไว้ หายห่วงแน่นอน
สมุนไพรไทย คือสิ่งที่อยู่คู่กับวิถีชีวิตของเรามาอย่างช้านาน และด้วยความที่ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีความหลากหลายทางชีววิทยาที่สูง ประเทศไทยจริงมีสมุนไพรหลากหลายชนิด และมีวิธีใช้ประโยชน์จากสิ่งเหล่านั้นได้อย่างมากมาย วันนี้เราจึงอยากนำเสนอสมุนไพรไทยที่เป็นที่นิยม เพื่อให้ทุกท่านได้ทราบว่าสมุนไพรไทยมีอะไรบ้างและรวมไปถึง ประโยชน์สมุนไพร แต่ละชนิดเป็นอย่างไร
ความหมายของคำว่า สมุนไพร
สมุนไพร คือ ยาที่ได้จากธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นจากพืชพันธุ์ หรือแร่ธาตุต่างๆ ซึ่งสิ่งเหล่านั้นจะต้องไม่ถูกแปรเปลี่ยนสภาพโครงสร้างภายใน เป็นยาที่สามารถนำมาใช้รักษาโรคต่างๆ และบำรุงร่างกายได้ ซึ่งเราสามารถทำการจำแนกประเภทของสมุนไพรโดยแบ่งตามลักษณะการใช้งานได้แก่
การใช้งานในรูปแบบของเหลว เช่น การนำมาต้มกับน้ำ การตากเป็นยาแห้งแล้วนำไปชงเป็นเครื่องดื่ม รวมไปถึงการบดจนละเอียดแล้วนำมาคั่นเป็นน้ำด้วย
การใช้งานในรูปแบบของแข็ง เช่น นำมาปั้นเป็นก้อนยา การหั่นเป็นชิ้นบางๆ แล้วนำมาตากแดด
การใช้งานในรูปแบบอื่นๆ เช่น การนำมาพอก และการรมควัน
- สมุนไพรไทยมีอะไรบ้าง
สมุนไพรไทยนั้นมีด้วยกันมากมายหลายชนิด วันนี้เราจึงเลือกสมุนไพรไทยที่มีความนิยม เป็นที่รู้จักในวงกว้าง และมีประโยชน์สมุนไพรที่ควรมีไว้ติดบ้าน
- ฟ้าทะลายโจร
ฟ้าทะลายโจร หรือ น้ำลายพังพอน ถูกจัดไว้ในประเภทพืชล้มลุก ความสูงประมาณ 30 – 70 เซนติเมตร ทุกๆ ของต้นฟ้าทะลายโจรมีรสชาติที่ขม ซึ่งสรรพคุณของฟ้าทะลายโจรนั้นมีอยู่ด้วยกันมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย ช่วยยับยั้งในการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง ช่วยรักษาโรคเบาหวาน อีกทั้งยังช่วยในเรื่องการแก้อาการปวดหัวตัวร้อนได้อีกด้วย ทั้งนี้ ควรรับประทานต้นฟ้าทะลายโจรอย่างพอดี ไม่ควรรับประทานมากจนเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดอาการท้องอืด อาหารไม่ย่อย และไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีความดันต่ำและสตรีมีครรภ์อีกด้วย
- สะระแหน่
สะระแหน่ คือพืชที่ลักษณะของใบคล้ายคลึงกับพืชตระกูลมิ้นต์เป็นอย่างมาก มีกลิ่นที่หอมคล้ายกับผลมะนาวและตระไคร้ โดยที่สะระแหน่นั้น อุดมไปด้วยแร่ธาตุและสารอาหารต่างๆ ที่จำเป็นต่อร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 วิตามินซี ธาตุแคลเซียม ธาตุฟอสฟอรัส รวมไปถึงธาตุเหล็ก ซึ่งประโยชน์สมุนไพรของสะระแหน่มีทั้งการช่วยดับร้อนให้แก่ร่างกาย ช่วยทำให้ผิวชุ่มชื้น บำรุงรักษาสายตา ช่วยบรรเทาอาการปวดหัวจากความเครียด แก้หวัด อีกทั้งยังสามารถช่วยในการบรรเทาอาการหอบหืดอีกด้วย
- ตะไคร้
ตะไคร้ สมุนไพรไทยที่มีกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ และเป็นที่รู้จักกันดี เพราะสามารถนำมาปรุงเป็นอาหารได้หลากหลายเมนู และยังมีประโยชน์สมุนไพรอีกด้วย โดยที่รากและลำต้นของตะไคร้นั้น สามารถช่วยในเรื่องบำรุงธาตุในร่างกาย ช่วยขับปัสสาวะ แก้ปวดกระเพาะ และส่วนของใบก็สามารถช่วยบรรเทาอาการความดันโลหิตสูง แต่ในกลุ่มสตรีมีครรภ์ ควรรับประทานตะไคร้อย่างพอประมาณ เพราะตะไคร้จะกระตุ้นการบีบตัวของกล้ามเนื้อมดลูกได้
เกร็ดสุขภาพ : ตะไคร้มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว ถึงแม้ว่ากลิ่นนั้นจะเป็นที่ชื่นชอบของมนุษย์ แต่สำหรับยุงแล้ว กลิ่นนี้ถือว่าเป็นกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ ดังนั้นการนำตะไคร้มาสกัดเป็นน้ำมันหอมระเหยก็สามารถช่วยในการป้องกันยุงลาย ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคไข้เลือดออกที่เป็นหนึ่งในโรคที่มากับฝนได้
- ขมิ้นชัน
ขมิ้นชัน ถูกจัดไว้เป็นพืชล้มลุกตระกูลเดียวกับขิง มีเหง้าอยู่ใต้ดิน มีเนื้อเป็นสีเหลือง และมีกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งในขมิ้นชันอุดมไปด้วย วิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 วิตามินซี ธาตุแคลเซียม รวมไปถึงเกลือแร่ต่างๆ โดยที่ประโยชน์สมุนไพรของขมิ้นชัน คือ ช่วยควบคุมระดับคอเลสเตอรอลในร่างกาย ช่วยกำจัดสารพิษ บรรเทาอาการของโรคความดันโลหิตสูงและโรคเกาต์ ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ และยังช่วยในการบรรเทาอาการไอและเจ็บคออีกด้วย ทั้งนี้ หากรับประทานขมิ้นชันมากจนเกินไป อาจส่งผลทำให้เกิดอาการวิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้อาเจียน และนอนไม่หลับได้
- ว่านหางจระเข้
ว่านหางจระเข้ หรือ Aloe Vera คือต้นพืชที่มีเนื้อแบบอิ่มอวบ จัดอยู่ในตระกูลลิเลียม (Lilium) สายพันธุ์ของว่านหางจระเข้นั้นมีมากถึง 300 สายพันธุ์ และมีด้วยกันหลากหลายขนาดมากมาย ซึ่งประโยชน์สมุนไพรของว่านจระเข้ คือ ช่วยบำรุงผิวพันธุ์ให้มีความชุ่มชื้น ช่วยในการรักษาแผลถลอก และแผลที่เกิดจากความร้อน เช่นแผลไฟไหม้ แผลน้ำร้อนลวก แผลจากการฉายรังสี ช่วยบรรเทาอาการปวดฟัน แก้อาการท้องผูก อีกทั้งยังช่วยในการป้องกันและบรรเทาอาการของโรคเบาหวานอีกด้วย
เกร็ดสุขภาพ : หากสงสัยว่าว่านหางจระเข้ช่วยอะไรได้อีกบ้าง คำตอบคือ ว่างหางจระเข้สามารถใช้ในการหมักผมให้มีความนุ่มสลวยได้อีกด้วย โดยการนำเนื้อวุ้นใสภายในใบของว่านหางจระเข้ไปล้างน้ำให้สะอาด จากนั้นนำไปปั่นรวมกับน้ำเปล่าในอัตราส่วน 1 : 1 นำน้ำที่ได้มาหมักที่โคนผมพร้อมกับนวดเบาๆ เป็นเวลา 15 – 20 นาที แล้วจึงล้างออก เพียงเท่านี้ ก็สามารถเพิ่มความชุ่มชื้นให้เส้นผมได้แล้ว
เพียงเท่านี้ ทุกท่านก็ได้ทราบแล้วว่า สมุนไพรไทยมีอะไรบ้างอย่างคร่าวๆ และรู้ถึงประโยชน์สมุนไพรเหล่านั้น หวังว่าทุกท่านจะนำข้อมูลเหล่านี้ไปแบ่งปันและบอกต่อให้แก่คนที่ท่านรัก เพราะข้อมูลดีๆ แบบนี้ รู้ไว้ก่อนดีกว่าแน่นอน
อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : med.mahidol.ac.th, thairath.co.th, medthai.com, opsmoac.go.th
ติดตามเราได้ที่ … เฟสบุ๊ค : เกร็ดสุขภาพ