“เพื่อสุขภาพ” ชุมชนสุขภาพ เรื่องราวตรงใจ ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย รุ่นไหนก็รัก ♡
Xerostomia คือ อะไร ? รู้จักภาวะปากแห้ง น้ำลายน้อยกัน แล้วดูแลตัวเองก่อนบานปลายกัน !
จริงๆ แล้ว การปากแห้งเกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นการขาดน้ำเนื่องจากดื่มน้ำไม่เพียงพอ หรือมีการขับถ่ายน้ำออกจากร่างกายมากเกินไป เช่น อาการท้องร่วง อาเจียน เหงื่อออกมาก การหายใจด้วยปากเป็นเวลานาน ทำให้ช่องปากและคอแห้ง เกิดได้จากการนอนหลับปากอ้าหรือหายใจทางปาก ปากแห้ง เพราะขาดวิตามิน และอื่นๆ ซึ่งในบทความนี้ เพื่อสุขภาพ จะพาไปรู้จักกันว่า อาการปากแห้งเกิดจากอะไร เพื่อให้ผู้อ่านได้ดูแลตัวเองให้ถูกจุดมากขึ้นกันค่ะ
ปากแห้งเกิดจากอะไรได้บ้าง ? รู้จักภาวะ Xerostomia กัน !
นอกจากอาการปากแห้ง คอแห้งจะเกิดจากการขาดน้ำ เพราะว่าดื่มน้ำไม่พอ หรือการนอนอ้าปากแล้ว ยังเกิดจากผลข้างเคียงจากการใช้ยา เช่น ยารักษาโรคความดันโลหิตสูง ยาขับปัสสาวะ ยาแก้แพ้ ยาลดน้ำหนัก เป็นต้น นอกจากนี้ยังพบว่าโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ โรคเบาหวาน ก็มีผลทำให้ต่อมน้ำลายทำงานผิดปกติ อีกทั้งอากาศแห้ง ความร้อน หรือสิ่งแวดล้อมแห้งแล้ง ก็ส่งผลให้เกิดอาการปากแห้งคอแห้งได้เหมือนกัน
Xerostomia คือ อะไร ? ปากแห้งเกิดจากอะไรกันแน่ !
ภาวะปากแห้ง หรือ Xerostomia คือ ภาวะที่มีการผลิตน้ำลายน้อยกว่าปกติ หรือมีการผลิตน้ำลายไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย สาเหตุสำคัญของ Xerostomia มีดังนี้
- ผลข้างเคียงจากการใช้ยา เช่น ยารักษาโรคความดันโลหิตสูง ยาขับปัสสาวะ ยาแก้แพ้ ยาลดน้ำหนัก เป็นต้น
- การได้รับรังสีรักษาบริเวณศีรษะและคอ ซึ่งทำให้ต่อมน้ำลายเสื่อมสภาพ
- โรคเบาหวาน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของต่อมน้ำลาย
- โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ (Rheumatoid arthritis) หรือโรคโซเกร็น (Sjogren’s syndrome)
- การหายใจด้วยปากมากเกินไป
- ความเครียด
อาการของ Xerostomia คืออะไร ?
อาการของ Xerostomia หรือภาวะปากแห้ง มีดังนี้
- ปากแห้ง มีความรู้สึกแห้งกร้านในช่องปาก
- ลิ้นแห้งแตกร้าว ปากเปื่อย มีรอยแผลในช่องปาก
- กลืนอาหารและน้ำลายลำบาก
- พูดไม่ชัดเจน เสียงแหบพร่าเนื่องจากคอแห้ง
- รสชาติอาหารไม่ออก ไม่มีรสชาติ
- ปากมีกลิ่นปากไม่พึงประสงค์
- เสี่ยงต่อการเกิดฟันผุและโรคปริทันต์เพิ่มขึ้น เนื่องจากการขาดน้ำลายซึ่งมีหน้าที่ชะล้างและถ่ายเทแร่ธาตุในช่องปาก
- ยากต่อการใส่ฟันปลอมเนื่องจากการยึดเกาะไม่ดี
- ต่อมน้ำลายโป่งพอง บวม แดง และอักเสบ (ในบางราย)
หากมีอาการปากแห้งมากและเรื้อรัง ควรพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาที่เหมาะสม เนื่องจากอาจเป็นอาการแสดงของโรคบางชนิด
การรักษาภาวะ Xerostomia คือ มีอะไรบ้าง ?
การรักษาภาวะปากแห้ง (Xerostomia) มีหลายวิธี มีอะไรบ้าง มาดูกันต่อค่ะ
- เพิ่มการบ้วนปากและดื่มน้ำบ่อยๆ เพื่อชุ่มชื้นช่องปาก
- งดหรือลดการบริโภคอาหารและเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของคาเฟอีน แอลกอฮอล์ เนื่องเป็นสารกระตุ้นให้เกิดความแห้ง
- เคี้ยวหมากฝรั่งไร้น้ำตาลหรือของเคี้ยวพิเศษ เพื่อกระตุ้นการผลิตน้ำลาย
- ใช้ยาเม็ดหรือสเปรย์กระตุ้นการหลั่งน้ำลาย เช่น pilocarpine, cevimeline
- ใช้น้ำยาบ้วนปากสำหรับผู้ป่วยปากแห้ง ซึ่งมีส่วนผสมของสารให้ความชุ่มชื้น
- ใช้เจลหรือผลิตภัณฑ์เคลือบปากและลิ้น เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นชั่วคราว
- ทายาบรรเทาอาการที่บริเวณต่อมน้ำลาย หากเกิดจากการอักเสบของต่อม
- ในรายที่รุนแรงมาก อาจพิจารณาให้ละอองพ่นละอองน้ำแร่หรือสารละลายน้ำเกลือ
- รักษาสาเหตุของโรคที่เป็นต้นเหตุของภาวะปากแห้ง เช่น โรคเบาหวาน โรคข้ออักเสบ เป็นต้น
- หลีกเลี่ยงหรือเปลี่ยนยาที่เป็นสาเหตุของปากแห้
เกร็ดสุขภาพ : ผลกระทบของ Xerostomia ได้แก่ เสี่ยงต่อการเกิดฟันผุมากขึ้น เสี่ยงต่อการติดเชื้อในช่องปาก รสชาติอาหารไม่ออก การเคี้ยวและกลืนลำบาก พูดไม่ชัดเจน การรักษาด้วยการกระตุ้นการหลั่งน้ำลายโดยการเคี้ยวหมากฝรั่งไร้น้ำตาล ดื่มน้ำบ่อยๆ ใช้ยาเม็ดหรือสเปรย์กระตุ้นการหลั่งน้ำลาย เป็นต้น
คำแนะนำในการดูแลตัวเองเพื่อไม่ให้อยู่ในภาวะ Xerostomia
สำหรับคำแนะนำในการดูแลตัวเองเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดภาวะปากแห้ง Xerostomia คืออะไรบ้าง มาดูกันค่ะ
- ดื่มน้ำให้เพียงพอตลอดวัน อย่างน้อย 8 แก้วต่อวัน เพื่อให้ร่างกายได้รับสารน้ำอย่างเพียงพอ
- งดหรือลดการดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของคาเฟอีน แอลกอฮอล์ เนื่องจากส่งผลให้เกิดความแห้งในช่องปากได้
- หลีกเลี่ยงสภาพแวดล้อมที่แห้งเกินไป เช่น อากาศร้อนจัด การเปิดเครื่องปรับอากาศนานๆ
- หลีกเลี่ยงหรือลดการใช้ยาที่มีผลข้างเคียงทำให้เกิดภาวะปากแห้ง เช่น ยาแก้แพ้บางชนิด ยาลดความดัน เป็นต้น
- เลี่ยงการหายใจทางปาก ควรหายใจทางจมูก เพื่อป้องกันความแห้งในปาก
- เคี้ยวของที่มีความชุ่มชื้น เช่น หมากฝรั่งไร้น้ำตาล เพื่อกระตุ้นการผลิตน้ำลาย
- งดสูบบุหรี่และดื่มสุรา เนื่องก่อให้เกิดการระคายเคืองและทำลายต่อมน้ำลาย
- หมั่นดูแลรักษาสุขภาพช่องปากให้สะอาด แปรงฟันและล้างปากอย่างสม่ำเสมอ
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์และเป็นแหล่งของวิตามินเสริมสร้างเนื้อเยื่อช่องปากให้แข็งแรง
- หากมีภาวะเจ็บป่วยเรื้อรังที่เพิ่มความเสี่ยงต่อปากแห้ง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อวางแผนการดูแลรักษาและป้องกัน
การปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดปากแห้ง และป้องกันปัญหาสุขภาพช่องปากได้
เกร็ดสุขภาพ : ภาวะ Xerostomia นั้นหากไม่ได้รับการดูแลรักษาอย่างเหมาะสม อาจนำไปสู่โรคแทรกซ้อนได้หลายโรค ได้แก่ ฟันผุ,โรคปริทันต์, การติดเชื้อราในปาก, เยื่อบุช่องปากอักเสบ, การสูญเสียประสาทสัมผัสรสชาติ, มีกลิ่นปาก หรือการติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบนบ่อยขึ้น เนื่องจากน้ำลายมีบทบาทในการป้องกันการติดเชื้อ
นอกเหนือจากคำแนะนำพื้นฐานในการดูแลตนเองเพื่อป้องกันและบรรเทาอาการปากแห้ง (Xerostomia) แล้ว ยังมีคำแนะนำเพิ่มเติมดังนี้
- หลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มที่มีรสเปรี้ยว เค็ม หรือมีฤทธิ์กัดกร่อน เนื่องจากอาจระคายเคืองเนื้อเยื่อช่องปากที่แห้งได้ง่าย
- รับประทานอาหารที่อ่อน และเคี้ยวง่าย เช่น โจ๊ก ซุป พุดดิ้ง ไอศกรีม เป็นต้น จะง่ายต่อการเคี้ยวและกลืน สำหรับผู้ที่เป็นเบาหวาน ก็ให้กินอาหารที่เหมาะสม (สามารถดูเมนูอาหารสำหรับผู้เป็นเบาหวานเพิ่มเติมได้อีกนะคะ)
- หลีกเลี่ยงอาหารแห้งและแข็ง เช่น ขนมปังกรอบ ธัญพืชอบกรอบ เนื่องจากเคี้ยวลำบากและอาจทำให้เกิดแผลในปากได้
- เติมวิตามินบี 12, วิตามินซี ผลิตภัณฑ์สมุนไพรเสริม เพื่อบำรุงสุขภาพช่องปากและกระตุ้นการสร้างน้ำลาย
- สวมใส่อุปกรณ์ทำความชื้นทางการแพทย์ เช่น เครื่องพ่นละอองไอน้ำ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับช่องปาก
- สำหรับผู้สูงอายุ ควรตรวจสุขภาพช่องปากอย่างสม่ำเสมอ เนื่องมักประสบปัญหาการขาดสารน้ำและภาวะปากแห้งได้ง่าย
- ดูแลรักษาความสะอาดปากและฟันอย่างพิถีพิถัน หมั่นแปรงฟันและล้างปากด้วยน้ำยาบ้วนปากที่เหมาะสม
- ผ่อนคลายความเครียด ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เนื่องความเครียดเป็นปัจจัยหนึ่งที่มีผลให้เกิดภาวะปากแห้งได้
- หากภาวะปากแห้งมาจากโรคประจำตัว ต้องควบคุมโรคประจำตัวให้ดีขึ้น
- ปรึกษาแพทย์หรือทันตแพทย์ เพื่อตรวจหาสาเหตุ รับการรักษาที่ถูกต้อง และรับความรู้เพิ่มเติมอย่างละเอียด
ได้รู้กันไปแล้วว่า Xerostomia คืออะไร และ ถึงแม้ว่าอาการปากแห้งจะดูไม่ได้อันตรายมากนัก แต่หากเป็นขึ้นมาแล้ว ไม่รีบรักษา ก็อาจก่อให้เกิดโรคแทรกซ้อนอื่นๆ ตามมาได้ ซึ่งการปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้ จะช่วยให้การจัดการภาวะปากแห้งได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และป้องกันปัญหาสุขภาพต่างๆ ที่อาจเกิดตามมาได้ค่ะ สำหรับใครที่มีอาการดื่มน้ำเยอะแต่ก็ยังปากแห้ง ลองอ่านบทความเพิ่มเติมในเว็บของเราได้เลยนะคะ
Featured Image Credit : freepik.com/cookie_studio
ติดตามเราได้ที่ … เฟสบุ๊ค : เกร็ดสุขภาพ