X

โรคหลอดเลือดสมอง สาเหตุ คืออะไร ? ชวนป้องกัน เป็นแล้วอาจเสี่ยงอัมพาต อันตรายถึงชีวิต ถ้าไม่คิดระวัง !

เพื่อสุขภาพ” ชุมชนสุขภาพ เรื่องราวตรงใจ ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย รุ่นไหนก็รัก ♡

โรคหลอดเลือดสมอง สาเหตุ คืออะไร ? ชวนป้องกัน เป็นแล้วอาจเสี่ยงอัมพาต อันตรายถึงชีวิต ถ้าไม่คิดระวัง !

เชื่อว่าทุกคนเคยได้ยินชื่อโรคหลอดเลือดสมองกันมาก่อนอย่างแน่นอน รู้จักกันดีในชื่อ Stroke จากข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขระบุไว้ว่า โรคหลอดเลือดสมองเป็นสาเหตุการเสียชีวิตของคนไทยอันดับที่ 2 รองจากโรคมะเร็ง มักจะพบได้ในผู้สูงอายุ เช่น โรคหลอดเลือดสมองตีบ โรคหลอดเลือดสมองแตก ซึ่งอาจมีอันตรายถึงชีวิต บางรายเป็นอัมพาตหรือสูญเสียสมรรถภาพทางกายบางอย่าง หากไม่ระวังหรือไม่ป้องกันตั้งแต่เนิ่นๆ ก็อาจมีความเสี่ยงได้ โรคหลอดเลือดสมอง สาเหตุ เกิดจากอะไร ? เราจะป้องกันตัวเองอย่างไรให้ห่างไกลจากโรคนี้ ไปอ่านกันเลยค่ะ

โรคหลอดเลือดสมอง สาเหตุ เกิดจากอะไร ?

โรคหลอดเลือดสมอง สาเหตุ, โรค stroke
Image Credit : freepik.com

โรคหลอดเลือดสมอง หรือ โรค Stroke คือภาวะสมองขาดเลือดที่เกิดจากหลอดเลือดสมองตีบ อุดตัน หรือมีเลือดออกในสมอง หรือมีอาการเส้นเลือดในสมองตีบ ทำให้เลือดไม่ไปเลี้ยงสมอง ส่งผลให้เซลล์สมองขาดออกซิเจน และสมองตาย ผู้ที่เป็น stroke จำเป็นที่จะต้องพบแพทย์ทันทีและทำการรักษาโดยเร็วที่สุด เพราะจะช่วยลดความรุนแรงจากภาวะสมองตายได้ รวมถึงลดภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นเพื่อป้องกันความพิการและทุพลภาพที่อาจเกิดขึ้นได้ ซึ่งโรคหลอดเลือดสมอง สาเหตุหลักๆ มีดังนี้

1. หลอดเลือดในสมองตีบ (Atherosclerosis)

โรคหลอดเลือดสมอง สาเหตุมาจากหลอดเลือดในสมองตีบ พบได้มากถึง 80% ซึ่งเกิดจากการมีลิ่มเลือดก่อตัวขึ้น เพราะผนังหลอดเลือดสมองมีคราบไขมันเกาะจนแข็ง ทำให้หลอดเลือดสมองตีบแคบลงจนอุดตัน โดยมีปัจจัยเสี่ยงคือ อายุ ภาวะความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ เป็นโรคอ้วน ซึ่งโรคอ้วนมีความเกี่ยวข้องกับการนอนกรนหรือมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ทำให้เสี่ยงที่จะเกิดภาวะเลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอ

2. หลอดเลือดในสมองอุดตัน (Embolic)

โรคหลอดเลือดสมอง สาเหตุอีกอย่างหนึ่งคือ หลอดเลือดในสมองอุดตันจากลิ่มเลือดที่ก่อตัวในเส้นเลือดนอกสมอง เช่น ที่หัวใจ แล้วลอยตามกระแสเลือดไปอุดตันที่หลอดเลือดเล็กๆ ในสมอง ทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองไม่ได้ ผู้ที่มีภาวะเสี่ยงคือ เป็นโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ เป็นโรคลิ้นหัวใจ กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด มีภาวะหัวใจโต เป็นต้น

เกร็ดสุขภาพ : หลอดเลือดในสมองอุดตัน สามารถพบได้ในวัยรุ่นด้วยเช่นกัน เช่นในผู้ที่เล่นกีฬาที่มีการบิดหรือสะบัดคอแรงๆ หรืออาจะเกิดจากอุบัติเหตุ ที่อาจทำให้หลอดเลือดเลือดที่คอฉีกขาดได้ อาทิ บันจี้จัมป์ กีฬาเอ็กซ์ตรีมต่างๆ ซึ่งพบได้บ่อยในกลุ่มคนไข้วัยรุ่น มักจะมีอาการปวดคอมาก หรือมีภาวะอ่อนแรงครึ่งซีก นอกจากนี้ ยังมีบางรายที่หลอดเลือดดำอุดตันด้วยเช่นกัน เช่น กลุ่มที่รับประทานยาคุมกำเนิดหลังคลอด เป็นต้น

3. หลอดเลือดสมองแตก (Hemorrhagic)

โรคหลอดเลือดสมอง สาเหตุที่มักพบได้ก็คือ หลอดเลือดในสมองแตก ซึ่งเกิดจากหลอดเลือดมีความเปราะบางร่วมกับมีภาวะความดันโลหิตสูง ทำให้บริเวณที่หลอดเลือดมีความเปราะบางนั้นโป่งพองและแตกในที่สุด ทั้งนี้ หากในหลอดเลือดมีไขมันสะสมมากก็ทำให้ปริแตกได้ง่ายเช่นกัน ซึ่งเป็นสาเหตุที่อันตรายมากเพราะทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองได้น้อยลงอย่างฉับพลัน และทำให้เกิดเลือดออกในสมอง ส่งผลให้เสียชีวิตในเวลาอันรวดเร็ว

อาการของโรคหลอดเลือดสมอง เป็นอย่างไร ?

โรคหลอดเลือดสมอง สาเหตุ, โรค stroke
Image Credit : freepik.com

การสังเกตุอาหารของผู้ป่วยนั้นมีความสำคัญมาก เนื่องจากมีอาการรุนแรงมากน้อยตามแต่ละสาเหตุ หากสังเกตเห็นความผิดปกติได้เร็ว ก็จะทำให้รักษาได้ทันอย่างท่วงที และป้องกันภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ ซึ่งอาการของโรค Stroke มีดังนี้

  • พูดไม่ชัด พูดไม่ได้ รู้สึกสับสน งุนงง หรือไม่เข้าใจในสิ่งที่ผู้อื่นพูด
  • มีอาการอ่อนแรงหรือชาอย่างเฉียบพลัน บริเวณหน้า แขนขา โดยส่วนใหญ่แล้วอาการจะเกิดกับร่างกายเพียงซีกเดียว ร่วมกับอาการปากเบี้ยว พูดไม่ชัดหรือพูดไม่ได้ 
  • เกิดอาการตามัวเฉียบพลัน หรือเห็นภาพซ้อน 
  • เวียนศีรษะ ปวดศีรษะ เดินเซ ทรงตัวผิดปกติ คลื่นไส้ อาเจียน

เช็กอาการผู้ป่วยจาก FAST

เมื่อสังเกตได้ว่าคนใกล้ชิดมีอาการผิดปกติ และเข้าข่ายอาการของโรคหลอดเลือดสมอง ให้ทดสอบผู้ป่วยด้วยวิธี FAST ดังต่อไปนี้

  • F – Face : ใบหน้า ให้ผู้ป่วยพยายามยิ้ม แล้วสังเกตว่ามีอาการปากเบี้ยวหรือไม่ 
  • A – Arm : แขน ให้ผู้ป่วยพยายามยกแขนทั้งสองข้างเหนือศีรษะ แล้วสังเกตดูว่าแขนข้างใดข้างหนึ่งไม่มีแรง ตกลงข้างตัว ต่างจากอีกข้างชัดเจน
  • S – Speech : คำพูด โดยการถามคำถามง่ายๆ ที่ผู้ป่วยน่าจะตอบได้ เพื่อฟังเสียงผู้ป่วยและดูว่าสามารถสื่อสารได้หรือไม่ มีอาการพูดไม่ชัดหรือไม่ 
  • T – Time : หากเกิดอาการเหล่านี้ ควรไปพบแพทย์ให้เร็วที่สุด

เกร็ดสุขภาพ : นอกจากการเป็นโรคหลอดเลือดสมองที่ทำให้เลือดไม่ไปเลี้ยงสมองแล้ว มีอาการหนึ่งที่เรียกว่า สมองขาดเลือดชั่วคราว หรือ Transient Ischemic Attack (TIA) คือการที่เลือดไปเลี้ยงสมองส่วนใดส่วนหนึ่งน้อยลงทันที และกลับสู่สภาพเดิมได้ในเวลาอันรวดเร็ว จึงทำให้ไม่เกิดภาวะสมองตายจากการขาดเลือด ซึ่งอาการจะคล้ายๆ โรคหลอดเลือดในสมองตีบ แต่จะหายได้ภายในเวลา 24 ชั่วโมง และจะมีอาการสั้นๆ ภายใน 5 – 10 นาทีเท่านั้น แต่ 1 ใน 3 ของผู้ป่วยที่มีอาการ TIA มักจะกลายเป็นโรคหลอดเลือดสมองตีบภายใน 7 วัน ดังนั้น หากมีอาการผิดปกติใดๆ ควรไปพบแพทย์ทันที

ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคหลอดเลือดสมอง

โรคหลอดเลือดสมอง สาเหตุ, โรค stroke
Image Credit : freepik.com

ตอนนี้ก็ได้ทราบแล้วว่า โรคหลอดเลือดสมอง สาเหตุเกิดจากอะไรบ้าง ซึ่งแต่ละสาเหตุนั้นก็มีปัจจัยเสี่ยงที่แตกต่างกันไป เรามาเจาะลึกกันเลยค่ะ

  • อายุ เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น หลอดเลือดก็จะเสื่อมตามไปด้วย เพราะจะมีไขมันและหินปูนมาเกาะมากขึ้น ทำให้หลอดเลือดแคบลง
  • เพศ โดยเพศชายมีความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดสมองสูงกว่าเพศหญิง
  • ภาวะการแข็งตัวของเลือดเร็วกว่าปกติ ส่งผลให้เกิดการจับตัวกันของเม็ดเลือดและเกิดลิ่มเลือดได้ง่ายกว่าคนปกติ 
  • ความดันโลหิตสูง ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญที่สุดของโรคหลอดเลือดสมอง
  • เบาหวาน ทำให้หลอดเลือดแข็งตัวทั่วร่างกาย หากเกิดที่สมอง จะทำให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคหลอดเลือดสมอง 2 – 3 เท่า 
  • ไขมันในเลือดสูง ซึ่งเสี่ยงต่อการเป็นโรคหลอดเลือดสมองและโรคหลอดเลือดหัวใจได้ด้วย
  • โรคหัวใจ เพราะทำให้เกิดลิ่มเลือด ถ้าลิ่มเลือดไปอุดตันที่หลอดเลือดสมอง ก็ทำให้สมองขาดเลือดได้ 
  • การสูบบุหรี่ สารนิโคตินและคาร์บอนมอนออกไซค์ทำให้ปริมาณออกซิเจนลดลง ซึ่งจะไปทำลายผนังหลอดเลือด การสูบบุหรี่เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดสมองมากถึง 3.5%
  • ยาคุมกำเนิด ในผู้หญิงที่ใช้ยาคุมกำเนิดที่มีฮอร์โมนเอสโตรเจนสูงจะเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดสมองสูง 
  • โรคซิฟิลิส เป็นสาเหตุของหลอดเลือดอักเสบและหลอดเลือดแข็ง

ภาวะแทรกซ้อนจากการเป็นโรคหลอดเลือดสมอง

โรคหลอดเลือดสมอง สาเหตุ, โรค stroke
Image Credit : freepik.com

โรคหลอดเลือดสมองทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนกับผู้ป่วยได้ ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นชั่วคราว หรือเกิดขึ้นถาวร ทำให้ผู้ป่วยมีความพิการและทุพลภาพ ซึ่งความรุนแรงนั้นจะขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่สมองขาดเลือด และขึ้นอยู่กับส่วนของสมองที่ได้รับผลกระทบ โดยจะมีภาวะต่างๆ ดังนี้

  1. อัมพาต อาจเป็นอัมพาตส่วนใดส่วนหนึ่งบนร่างกาย หรือไม่สามารถขยับกล้ามเนื้อบนใบหน้าได้ ซึ่งจะเกิดบริเวณด้านใดด้านหนึ่งของใบหน้าหรือแขน
  2. มีปัญหาด้านการพูด การกลืน หรือการรับประทานอาหาร ซึ่งอาจไม่เข้าใจในภาษาได้ ทั้งยังส่งผลกระทบต่อการอ่านและการเขียนด้วย 
  3. สูญเสียความทรงจำ มีปัญหาเกี่ยวกับสมอง เช่น มีปัญหาเกี่ยวกับการคิดวิเคราะห์ การตัดสินใจ หรือการเข้าใจในสิ่งต่างๆ
  4. มีอารมณ์แปรปรวน และอาจมีภาวะซึมเศร้า
  5. รู้สึกเจ็บปวด หรือชาตามร่างกาย
  6. มีพฤติกรรมทอดทิ้งตัวเอง หรือ Self – Neglect มีการแยกตัวออกจากสังคม และจำเป็นที่จะต้องได้รับการช่วยเหลือในการดูแลตัวเองหรือการทำกิจวัตรประจำวัน

โรคหลอดเลือดสมอง ป้องกันได้อย่างไร ?

โรคหลอดเลือดสมอง สาเหตุและปัจจัยเสี่ยงบางประการ สามารถป้องกันได้เช่นกัน หลักๆ คือการดูแลสุขภาพของตนเองให้แข็งแรงและปลอดโรคภัยไข้เจ็บ ซึ่งสามารถทำได้ ดังนี้

  • วัดความดันโลหิตอย่างสม่ำเสมอ (อ่านเพิ่มเติม ใบวัดความดันดูยังไง) ถ้าพบว่ามีความดันโลหิตสูงกว่า 140/80 mmHg ควรไปพบแพทย์ และถ้าหากได้ยามารับประทาน ก็ควรรับประทานตามแพทย์สั่ง ไม่ควรละเลย เพื่อสุขภาพของตัวเอง
  • ลดการกินอาหารเค็มจัด หวานจัด มันจัด รับประทานผักผลไม้ให้มากขึ้น
  • เลิกสูบบุหรี่และลดการดื่มแอลกอฮอล์ และสารเสพติด
  • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ครั้งละ 30 นาทีเป็นต้นไป 
  • ตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี เพื่อตรวจวัดระดับน้ำตาลและไขมันในเลือด ควบคุมระดับน้ำตาล – ไขมันให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
  • ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ

แม้ว่าโรค Stroke หรือโรคหลอดเลือดสมองจะพบได้บ่อยในผู้สูงอายุ แต่ปัจจุบันก็สามารถพบได้ในวัยรุ่นหรือวัยกลางคนมากขึ้น เพราะปัจจุบันมีผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงมากขึ้น และเป็นตั้งแต่อายุไม่มาก รวมถึงมีระดับไขมัน – น้ำตาลในเลือดสูงเช่นกัน จึงเสี่ยงที่จะเป็นโรคหลอดเลือดสมองด้วย การดูแลสุขภาพของตนเองจึงเป็นสิ่งสำคัญ หมั่นตรวจสุขภาพประจำปีอยู่เสมอ และเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หลีกเลี่ยงน้ำตาล และอาหารที่มีไขมันสูง งดการกินเค็มจัด หวานจัด มันจัด กินอาหารที่ดีต่อสุขภาพมากขึ้น พร้อมกับออกกำลังกายเป็นประจำ งดการสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ ก็จะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดโรคหลอดเลือดในสมองได้ค่ะ

อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : bangkokinternationalhospital.com, medparkhospital.com, praram9.com, bumrungrad.com, stroke.org, cdc.gov

Featured Image Credit : freepik.com/rawpixel.com

ติดตามเราได้ที่ … เฟสบุ๊ค : เกร็ดสุขภาพ

ติดต่อโฆษณา

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้การวิเคราะห์

    เราขออนุญาติใช้คุกกี้นี้เก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ เพื่อประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ที่ดีขึ้นให้กับคุณ

Save