“เพื่อสุขภาพ” ชุมชนสุขภาพ เรื่องราวตรงใจ ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย รุ่นไหนก็รัก ♡
ตรวจสุขภาพ ประกันสังคม ตรวจอะไรบ้าง ? แตกต่างกับการตรวจสุขภาพโดยทั่วไปมากน้อยแค่ไหน ?!
ใกล้จะหมดปีแล้ว ทุกคนเคลียร์สิ่งที่ต้องทำในปีนี้ไปเรียบร้อยแล้วหรือยังคะ ? แล้วเรื่องของสุขภาพล่ะ ? ใครที่มีสิทธิประกันสังคม อาจจะทราบดีว่า ประกันสังคมสามารถใช้สิทธิทำฟันได้ 900 บาทต่อปี และนอกจากสิทธิทำฟันแล้ว ประกันสังคม ยังตรวจสุขภาพประจำปีได้ฟรีด้วยนะคะ แต่จะเป็นไปตามเงื่อนไขที่ทางประกันสังคมกำหนด ซึ่งสามารถตรวจสอบรายการตรวจได้กับทางโรงพยาบาลที่ได้ไปขึ้นทะเบียนไว้ และถ้าใครไม่มีสิทธิประกันสังคม ก็มีแพ็กเกจตรวจสุขภาพมากมายจากโรงพยาบาลต่างๆ ให้เลือก ซึ่งเราทุกคนควรตรวจสุขภาพเป็นประจำ อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อเป็นการตรวจเช็กสุขภาพและการทำงานของร่างกายว่ามีความปกติดีหรือไม่ แล้ว ตรวจสุขภาพ ประกันสังคม ตรวจอะไรบ้าง ? และถ้าเป็นโปรแกรมตรวจสุขภาพที่ต้องเสียค่าใช้จ่าย จะเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร ? ตรวจที่ไหนได้บ้าง ? ไปดูกันเลยค่ะ
ชวนเช็ก! ตรวจสุขภาพ ประกันสังคม ตรวจอะไรบ้าง ? ใครมีสิทธิ์ ม.33 และ ม.39 ใช้สิทธิ์ได้ฟรี !
สำหรับสิทธิประกันสังคม นอกจากประกันสุขภาพที่เอาไว้ใช้เวลาเจ็บไข้ได้ป่วย เช่น เป็นหวัดน้ำมูกไหล มีไข้สูงจนต้องไปโรงพยาบาล และไม่เสียค่าใช้จ่าย กับสิทธิ์ในการทำฟันแล้ว ยังสามารถใช้สิทธิ์ตรวจสุขภาพประจำปีได้ฟรีอีกด้วย! ซึ่งตรวจได้ถึง 14 รายการด้วยกัน และเป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด มาดูกันค่ะว่า ตรวจสุขภาพ ประกันสังคม ตรวจอะไรบ้าง ? จะได้ไปใช้สิทธิ์กัน
- การคัดกรองการได้ยิน Finger Rub Test อายุ 15 ปีขึ้นไป ตรวจได้ 1 ครั้ง/ ปี
- การตรวจเต้านมโดยแพทย์หรือบุคลากรสาธารณสุข
- อายุ 30 – 39 ปี ตรวจได้ทุกๆ 3 ปี
- อายุ 40 – 54 ปี ตรวจได้ทุกปี
- อายุ 55 ปีขึ้นไป ตรวจตามความเหมาะสมหรือมีความเสี่ยง
- การตรวจตาโดยความดูแลของจักษุแพทย์
- อายุ 40 – 54 ปี ตรวจ 1 ครั้ง/ ปี
- อายุ 55 ปีขึ้นไป ตรวจทุก 1 – 2 ปี
- การตรวจสายตาด้วย Snellen eye Chart อายุ 55 ปีขึ้นไป ตรวจ 1 ครั้ง/ปี
- ตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด CBC อายุ 18 ปีขึ้นไป ตรวจ1 ครั้ง/ปี
- ตรวจปัสสาวะ UA อายุ 55 ปีขึ้นไป ตรวจ 1 ครั้ง/ปี
- ตรวจน้ำตาลในเลือด FBS
- อายุ 35 – 54 ปี ตรวจทุกๆ 3 ปี
- อายุ 55 ปีขึ้นไป ตรวจ 1 ครั้ง/ปี
- ตรวจการทำงานของไต Cr อายุ 55 ปีขึ้นไป ตรวจ 1 ครั้ง/ปี
- ตรวจไขมันในเส้นเลือดชนิด Total & HDL Cholesterol อายุ 20 ปีขึ้นไป ตรวจทุกๆ 5 ปี
- ตรวจเชื้อไวรัสตับอักเสบ HBsAg สำหรับผู้ที่เกิดก่อนปี พ.ศ. 2535 ตรวจ 1 ครั้ง/ปี
- ตรวจมะเร็งปากมดลูก Pap Smear
- อายุ 30 – 54 ปี ตรวจทุกๆ 3 ปี
- อายุ 55 ปีขึ้นไป ตรวจตามความเหมาะสมหรือมีความเสี่ยง
- ตรวจมะเร็งปากมดลูกวิธี Via
- อายุ 30 – 54 ปี ตรวจทุกๆ 5 ปี
- อายุ 55 ปีขึ้นไป แนะนำให้ตรวจแบบ Pap Smear
- ตรวจเลือดในอุจจาระ FOBT อายุ 50 ปีขึ้นไป ตรวจ 1 ครั้ง/ปี
- Chest X-ray หรือเอกซเรย์ปอด อายุ 15 ปีขึ้นไป ตรวจ 1 ครั้ง/ปี
ตอนนี้ก็ได้รู้แล้วว่า ตรวจสุขภาพ ประกันสังคม ตรวจอะไรบ้าง ซึ่งสามารถตรวจได้ตามรายการโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และอยู่ในเงื่อนไขที่กำหนด กล่าวคือ มีอายุตามตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ และตรวจได้ตามจำนวนครั้งที่ระบุไว้ ผู้ที่มีสิทธิประกันสังคม ควรจะตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี เพื่อที่จะได้เช็กสุขภาพตัวเอง และค้นหาปัจจัยเสี่ยงในการเกิดโรคต่างๆ จะได้ป้องกันอย่างท่วงที หรือถ้าหากพบความผิดปกติ ก็จะได้ทำการรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ นะคะ โดยสามารถตรวจสอบสิทธิการรักษาได้ด้วยตัวเองที่นี่
เกร็ดสุขภาพ : ผู้ประกันตนที่สามารถใช้สิทธิประกันสังคมในการตรวจสุขภาพประจำปีโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ได้แก่ ผู้ประกันตนมาตรา 33 และมาตรา 39 เท่านั้น โดยสามารถตรวจสอบสิทธิของตนเองได้ที่โรงพยาบาล และการตรวจสุขภาพบางรายการต้องขึ้นกับช่วงอายุของผู้ประกันตนด้วย ดังนั้น การเช็กสิทธิกับโรงพยาบาลก่อนตรวจ ก็จะเป็นการเซฟค่าใช้จ่ายได้ค่ะ
การตรวจสุขภาพประจำปีที่โรงพยาบาลทั่วไป ถ้าไม่มีสิทธิ์ ประกันสังคม ตรวจได้ไหม ? ตรวจอะไรบ้าง ?
สำหรับใครที่ไม่มีสิทธิประกันสังคม แต่อยากตรวจสุขภาพประจำปี ก็สามารถตรวจได้ตามโรงพยาบาลทั่วไป ที่มักจะจัดแพ็กเกจตรวจสุขภาพเอาไว้ ซึ่งก็จะมีค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ หรือใครที่ทำประกันสุขภาพไว้ ก็สามารถตรวจได้ในบางรายการ แล้วแต่เงื่อนไขกรมธรรม์ที่กำหนดไว้ ซึ่งปกติแล้ว การตรวจสุขภาพประจำปีหรือตรวจร่างกาย ควรจะเริ่มตั้งแต่อายุ 20 ปีขึ้นไป แต่ในกรณีที่มีอาการผิดปกติหรือมีความสงสัยว่าตนเองมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคต่างๆ ก็สามารถตรวจได้ เพราะถ้ายิ่งตรวจเจอเร็ว ก็จะยิ่งทำการรักษาได้เร็ว ซึ่งรายการการตรวจสุขภาพประจำปีโดยทั่วไป ก็จะไม่ต่างจากการตรวจสุขภาพ ประกันสังคม ตรวจอะไรบ้าง โดยจะมีรายการตรวจดังนี้
- ตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด หรือ CBC
- ตรวจการทำงานของไต
- ตรวจการทำงานของตับ
- ตรวจปัสสาวะ
- เอ็กซเรย์ปอด
- ตรวจการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี
- ตรวจระดับน้ำตาลในเลือด
- ตรวจระดับไขมันในเลือด ทั้งคอเรสเตอรอล และไตรกลีเซอไรด์
สำหรับเพศหญิงที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป ควรตรวจสุขภาพ ตรวจอะไรบ้าง ? ควรเข้ารับการตรวจมะเร็งปากมดลูก โดยปัจจุบันมีวิธีการตรวจแบบใหม่คือ Thin Prep คือวิธีที่รู้ผลแม่นยำ และมีประสิทธิภาพ เพื่อตรวจหาเชื้อไวรัส HPV ที่จะนำไปสู่การเป็นมะเร็งปากมดลูก และถ้ามีอายุ 40 ปีขึ้นไป ควรเข้ารับการตรวจมะเร็งเต้านมอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง รวมถึงตรวจอัลตราซาวด์หาความผิดปกติในมดลูก รังไข่ด้วย
และสำหรับเพศชายที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป ควรตรวจมะเร็งต่อมลูกหมากปีละ 1 ครั้ง เนื่องจากช่วงอายุนี้จะมีความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก อย่างไรก็ตามทั้งเพศหญิงและชาย หากมีอายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไป ควรตรวจการติดเชื้อทางเดินอาหาร และตรวจอัลตราซาวด์ในช่องท้องเพื่อหาความผิดปกติของถุงน้ำดี ตับ และไต และควรตรวจสมรรถภาพการทำงานของหัวใจ และความแข็งแรงของกระดูกร่วมด้วย
เกร็ดสุขภาพ : การตรวจสุขภาพประจำปีด้วยโปรแกรมต่างๆ เหล่านี้ สามารถตรวจเพื่อค้นพบความเสี่ยงต่อการเป็นโรคต่างๆ ได้มากมาย อาทิ โรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดสมอง โรคหัวใจขาดเลือด ภาวะโลหิตจาง มะเร็งตับ มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งปากมดลูก มะเร็งเต้านม มะเร็งปอด ภาวะทุพโภชนาการ การติดเชื้อ HIV และโรคเอดส์ (อ่านเพิ่มเติม โรคเอดส์ เกิดจากเชื้อโรคชนิดใด) เป็นต้น
เตรียมตัวก่อนไปตรวจสุขภาพประจำปี ควรเตรียมตัวยังไงดี ?
การตรวจสุขภาพ ตรวจอะไรบ้าง ก็หายข้องใจกันไปแล้ว และบางคนอาจจะอยากลองไปตรวจดูบ้าง เพื่อเช็กสุขภาพและสภาพร่างกายของตัวเองว่ายังคงแข็งแรงดีหรือไม่ สำหรับการเตรียมตัวก่อนไปตรวจสุขภาพ มีดังนี้
- งดน้ำและอาหาร (สามารถดื่มน้ำเปล่าได้) อย่างน้อย 8 – 10 ชั่วโมง ก่อนเข้ารับการตรวจสุขภาพ
- พักผ่อนให้เพียงพอ ควรนอนอย่างน้อย 6 ชั่วโมงก่อนเข้ารับการตรวจสุขภาพ
- งดดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 24 ชั่วโมง ก่อนเข้ารับการตรวจสุขภาพ
- สวมใส่เลื้อผ้าที่สบาย และงดใส่เครื่องประดับ โดยเฉพาะเครื่องประดับโลหะ
- หากมีโรคประจำตัวหรือประวัติสุขภาพอื่นๆ ควรนำเอกสารการตรวจสุขภาพหรือประวัติทางสุขภาพติดตัวไปด้วย
อยากตรวจสุขภาพประจำปี ตรวจที่ไหนได้บ้าง ?
สำหรับใครที่อยากตรวจสุขภาพประจำปี เรามีมาให้เลือกทั้ง 5 โรงพยาบาลในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล สำหรับใครที่สนใจจะตรวจที่ไหน ก็สามารถติดต่อสอบถามกับทางโรงพยาบาลได้โดยตรงเลยค่ะ โดยมีโรงพยาบาลดังนี้
1. Bangkok Hospital
- แพ็กเกจตรวจสุขภาพสำหรับผู้หญิง อายุน้อยกว่า 30 ปี – 50 ปีขึ้นไป (มี 6 แพ็กเกจให้เลือก)
- ราคา : 4,400 – 28,800 บาท
- แพ็กเกจตรวจสุขภาพสำหรับผู้ชาย อายุน้อยกว่า 30 ปี – 50 ปีขึ้นไป (มี 6 แพ็กเกจให้เลือก)
- ราคา : 4,400 – 21,600 บาท
สอบถามเพิ่มเติม : โทร 1719 หรือ 02-755-1591
แผนที่ :
2. โรงพยาบาลเปาโลสมุทรปราการ
- โปรแกรมตรวจสุขภาพสำหรับผู้ชาย All You Can Check 27 รายการ และ 37 รายการ
- ราคา : 6,990 และ 9,990 บาท
- โปรแกรมตรวจสุขภาพสำหรับผู้หญิง All You Can Check 28 รายการ และ 38 รายการ
- ราคา : 6,990 และ 9,990 บาท
สอบถามเพิ่มเติม : โทร 02-363-2000
แผนที่ :
3. โรงพยาบาลสมิทติเวช สุขุมวิท
- โปรแกรมตรวจสุขภาพประจำปี สำหรับสุภาพสตรี อายุน้อยกว่า 30 ปี – 55 ปีขึ้นไป (มี 5 แพ็กเกจให้เลือก)
- ราคา : 6,500 – 29,500 บาท
- โปรแกรมตรวจสุขภาพประจำปี สำหรับสุภาพบุรุษ อายุน้อยกว่า 30 ปี – 55 ปีขึ้นไป (มี 5 แพ็กเกจให้เลือก)
- ราคา : 6,500 – 23,400 บาท
สอบถามเพิ่มเติม : โทร 02-022-2222
แผนที่ :
4. โรงพยาบาลวิชัยยุทธ
- โปรแปรมตรวจสุขภาพประจำปี สำหรับผู้หญิง / ผู้ชาย อายุน้อยกว่า 30 ปี – 60 ปีขึ้นไป (มี 5 แพ็กเกจให้เลือก)
- ราคา : 3,300 – 23,900 บาท
สอบถามเพิ่มเติม : โทร 02-265-7777
แผนที่ :
5. โรงพยาบาลพญาไท 2
- โปรแปรมตรวจสุขภาพประจำปี สำหรับผู้หญิง / ผู้ชาย อายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป – 50 ปีขึ้นไป (มี 5 แพ็กเกจให้เลือก)
- ราคา : 1,999 – 21,600 บาท
สอบถามเพิ่มเติม : โทร 1772
แผนที่ :
ตอนนี้ก็ได้รู้แล้วว่า ตรวจสุขภาพ ประกันสังคม ตรวจอะไรบ้าง ? ใครที่มีสิทธิประกันสังคมอยู่กับโรงพยาบาลที่ได้ลงทะเบียนไว้ ก็สามารถตรวจสอบกับทางโรงพยาบาล และเข้าไปใช้สิทธิโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายได้เลย และถ้าใครไม่ได้เป็นผู้ประกันตน แต่อยากจะตรวจสุขภาพประจำปี ก็มีแพ็กเกจตรวจสุขภาพของโรงพยาบาลต่างๆ ที่สามารถซื้อแพ็กเกจและตรวจได้ โดยมีราคาตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักหมื่น แล้วควรเลือกตรวจสุขภาพ ตรวจอะไรบ้าง ? สำหรับโรงพยาบาลทั่วไป ควรเลือกแพ็กเกจที่เป็นไปตามอายุของเรา จะเหมาะสมที่สุดค่ะ ทั้งนี้ แม้จะเป็นคนที่ร่างกายแข็งแรง ไม่ค่อยเจ็บป่วยอะไร ก็ควรไปตรวจสุขภาพประจำปี เพื่อที่จะได้เช็กสภาพร่างกาย อย่างพวกค่าไขมัน น้ำตาลในเลือด หรือค่าความดันที่ถ้ามีความผิดปกติไป ก็อาจก่อให้เกิดโรคต่างๆ ได้ ทางที่ดี ควรไปตรวจไว้ก่อน ถ้าร่างกายยังแข็งแรงดี ก็แสดงว่าเราดูแลตัวเองเก่ง สุขภาพปกติ แต่ถ้ามีความผิดปกติใดๆ เกิดขึ้น ก็จะได้รักษาตั้งแต่เนิ่นๆ ไม่ให้บานปลายได้ค่ะ
อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : paolohospital.com, sikarin.com, bangkokbiznews.com, sso.go.th
Featured Image Credit : freepik.com/snowing
ติดตามเราได้ที่ … เฟสบุ๊ค : เกร็ดสุขภาพ