“เพื่อสุขภาพ” ชุมชนสุขภาพ เรื่องราวตรงใจ ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย รุ่นไหนก็รัก ♡
ผักกะแยง ประโยชน์ ไม่ธรรมดา ที่อยากให้ทุกคนได้รู้จัก !
ผักกะแยง คือผักอะไร ? ผักที่อาจจะคุ้นเคยในชื่อ ผักแขยง ซึ่งชื่อ ผักกะแยง นั้นใช้กันในภาคอีสาน หรือเรียกว่า ผักอีออม ส่วนภาคเหนือจะเรียกว่า ผักพา ผักกะแยงเป็นพืชที่มีถิ่นกําเนิดในทวีปเอเชียรวมถึงประเทศไทยซึ่งพบได้ทั่วทุกภาคของประเทศ โดยเฉพาะภาคอีสานและภาคเหนือ พบตามบริเวณที่ชื้นแฉะ ริมคันนา หรือริมหนองน้ำ ในบทความนี้จะมาแนะนำผักกะแยง ประโยชน์ด้านวิตามินและสารอาหารต่างๆ รวมถึงวิธีการกินที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ และไอเดียเมนูอาหารผักกะแยง ตลอดจนแนะนำวิตามิน-อาหารเสริมที่เกี่ยวข้องกับสรรพคุณ ผักกะแยง ประโยชน์ ด้านต่างๆ ที่มีต่อร่างกายทั้งรายละเอียดของแต่ละผลิตภัณฑ์ ราคา และช่องทางการซื้อออนไลน์
ผักกะแยง ประโยชน์มาก รสชาติเผ็ดร้อนพร้อมสรรพคุณที่ต้องลอง
ผักกะแยงเป็นพืชล้มลุกเนื้ออ่อนมีอายุปีเดียว ลําต้นมีลักษณะอวบทรงกลม ตั้งตรงผิวลําต้นมีสีเขียวอ่อน และมีขนปกคลุม ลําต้นมีกลิ่นฉุนแรงและให้รสเผ็ด ส่วนใบเป็นใบเดี่ยวขนาดเล็ก ออกเป็นคู่ตรงข้ามตามข้อปล้องของลําต้น ผักกะแยง ประโยชน์อยู่ที่ด้านบนของใบมีตุ่มเล็กๆ ที่เป็นต่อมน้ำมันอยู่มาก
นอกจากนี้ผักกะแยง ประโยชน์เชิงสมุนไพรนั้น ได้แก่ ใช้แก้ไข้ (อ่านเรื่องเป็นไข้ห้ามกินผลไม้อะไร เพิ่มเติมได้อีกนะคะ) แก้ไอ ขับลม ช่วยเจริญอาหาร ขับน้ำนม ระบายท้อง โดยใช้ต้นสดประมาณ 15-30 กรัม นํามาต้มกับน้ำดื่ม ใช้แก้พิษเบื่อเมา โดยใช้ต้นแห้งที่เก็บเอาไว้ประมาณ 1 ปี มาต้มกับน้ำดื่ม ใช้แก้ฝีกลากและอาการคันตามผิวหนังโดยใช้ต้นสดตําพอกหรือคั้นเอาน้ำทาหรือจะต้มน้ำชะล้างบริเวณที่เป็นก็ได้ ใช้ลดอาการบวมช้ำ โดยนําลําต้นมาขยําแล้วใช้ประคบ ใช้แก้อาการวิงเวียนศีรษะโดยใช้ลําต้นและใบสด นํามาขยําแล้วดม
เกร็ดสุขภาพ : องค์ประกอบทางเคมีจากส่วนต่างๆ ของผักกะแยงพบว่ามีสารสําคัญๆ อยู่หลายชนิดเช่น Stigmasterol, B-sitosterol, Isothymusin, Nevadensin, Salvigenin, Chlorogenic acid, Caffeic acid และในส่วนของ ต้นและใบของผักแขยงยังมีน้ำมันหอมระเหยอยู่ประมาณ 0.13% ประกอบไปด้วยสาร d-limonene และ d-perillaldehyde นอกจากนี้ในส่วนที่กินได้ของผักกะแยง ประโยชน์ทางโภชนาการใน 100 กรัมดังนี้ พลังงาน 32 กิโลแคลอรี ใยอาหาร 1.5 กรัม โปรตีน 1.2 กรัม ไขมัน 0.5 กรัม คาร์โบไฮเดรต 4.2 กรัม ฟอสฟอรัส 33 มิลลิกรัม แคลเซียม 55 มิลลิกรัม เหล็ก 27 มิลลิกรัม วิตามินเอ 3,823 หน่วยสากล วิตามินบี1 0.85 มิลลิกรัม วิตามินบี2 0.12 มิลลิกรัม วิตามินบี3 หรือไนอะซิน 0.6 มิลลิกรัม วิตามินซี 5.0 มิลลิกรัม และด้วยวิตามินเอที่สูงนี้จึงนับว่าผักกะแยงนั้นเป็นอาหารวิตามินเอ
ไอเดียเมนูผักกะแยง
ผักกะแยง คือผักอะไร อันที่จริงก็คือผักแขยงนั่นเอง ผักกะแยงนำมาทำอาหารได้หลายเมนู แต่สำหรับคนอีสานนิยมนำมารับประทานสดๆ เป็นผักจิ้มแจ่ว แนมกับลาบ ก้อย ส้มตำ ซุบหน่อไม้ ลองมาดูกันว่าถ้านำมาทำอาหารจะทำอะไรได้บ้าง
• แกงปลาดุกใส่ผักกะแยง
เมนูนี้จะมีน้ำสะอาด ปลาดุก ผักกะแยง เป็นส่วนผสม มีเครื่องแกงที่ประกอบด้วย ข่า ตะไคร้ หอมแดง กระเทียม พริกแดง ส่วนเครื่องปรุงรสจะใช้ น้ำปลาร้า ผงปรุงรส น้ำปลา และมะขามเปียก วิธีทำจะเริ่มจากหั่นปลาดุกเป็นชิ้นล้างน้ำเกลือให้สะอาด เสร็จแล้วต้มน้ำให้เดือด ก่อนใส่เครื่องแกงและมะขามเปียกลงไปต้มจนหอม ให้ชิมความเปรี้ยวตามที่ต้องการแล้วตักมะขามเปียกออก ใส่ชิ้นปลาลงไปต้มจนสุก จากนั้นจึงปรุงรสตามชอบ ใส่ผักกะแยงแล้วปิดไฟ ตักเสิร์ฟ รับประทานผักกะแยง ประโยชน์พร้อมความอร่อย
• แกงสายบัวปลานิลใส่ผักแขยง
ผักกะแยง ประโยชน์มาก รสชาติหอมๆ บวกกับปลาร้านัวๆ เข้ากันดีกับสายบัว ต้องเมนูนี้เลย จะใช้ปลานิล สายบัว ผักกะแยง รวมกับผักที่อยากใส่ พริกแห้ง พริกสด หอมแดง และเครื่องปรุงได้แก่ น้ำปลาร้า น้ำมะขามเปียก น้ำปลา ผงชูรส และเกลือ ขั้นตอนการทำเริ่มจากปอกสายบัว หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ แล้วหั่นผักแขยงขนาดตามชอบ เสร็จแล้วไปเตรียมปลา โดยล้างปลาให้สะอาด ขอดเกล็ดควักไส้ แล้วหั่นเป็นท่อนๆ เตรียมเครื่องแกงโดยนำพริกแห้ง หอมแดง พริกสด มาโขลกหยาบๆ จากนั้นตั้งน้ำให้เดือดใส่พริกแกงที่โขลกลงไป ปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียก เกลือ น้ำปลาร้า ผงชูรส น้ำปลา ชิมรส พอน้ำเดือดจัดๆ ใส่ปลานิลลงไป ตอนนี้ห้ามคน พอปลานิลสุกก็ใส่ผักกะแยงกับสายบัว รอสายบัวสุกก็ยกเสิร์ฟได้
• อ่อมปูนา
ปูนา เป็นอาหารชั้นดีของชาวนา ร่วมกับผักกะแยง ประโยชน์มาก ที่เก็บจากปลายนา ก็สามารถนำมาทำอ่อมปูนาได้ โดยต้องใช้ปูนา ½ กก. หอมสด 5-6 ต้น ผักชีลาว 1 กำมือ ผักกะแยง 1 กำมือ หอมแดง 2 หัว พริก 4-5 เม็ด น้ำปลาร้า และน้ำปลา ขั้นตอนแรกคือต้องล้างปูให้สะอาด แกะกระดองปู แคะเอามันปูออก นำอกและก้ามปูมาตำให้แหลก ใส่น้ำกรองเอาแต่น้ำ จากนั้นตำหอม พริก ตะไคร้ ตั้งหม้อใส่น้ำปูที่กรองมาแล้ว ใส่ผักกะแยง ปรุงรสโดยใส่น้ำปลาร้า ก็พร้อมเสิร์ฟ
แนะนำวิตามิน-อาหารเสริม
คนส่วนใหญ่มักจะรับประทานแบบสดผักกะแยง ประโยชน์หลากหลาย จึงจะแนะนำวิตามิน-อาหารเสริมที่มุ่งเน้นประโยชน์เหมือนการรับประทานผักกะแยงแบบสดเป็น ดังนี้
1. ยาขับลม ของ เพชรแดง
สรรพคุณการขับลม แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ จุกเสียด ก็คือสิ่งพบในผักกะแยง ประโยชน์เช่นเดียวกันวิธี ทั้งนี้หากใช้ยาครบ 1 กล่อง จะช่วยรักษาอาการปวดจุกแสบท้องในกระเพาะอาหาร หากใช้ยาครบ 6 กล่องขึ้นไป จะแก้อาการเปรี้ยวในปาก กรดไหลย้อน ท้องผูก ริดสีดวงทวาร
วิธีกิน : ครั้งละ 2-3 แคปซูล วันละ 3 ครั้งหลังอาหาร
ขนาดบรรจุ : 30 เม็ด/กล่อง
ราคาโดยประมาณ : 229 บาท
2. วิตามินรวม ของ DECA
วิตามินรวมนี้จะมีประโยชน์เฉพาะกับคนบางกลุ่ม เช่น มีสุขภาพไม่ดีเนื่องจากกินอาหารที่ไม่ค่อยมีประโยชน์ มีปัญหาย่อยอาหารยาก หรือผู้สูงอายุที่เริ่มจะขาดวิตามินหรือเกลือแร่บางชนิด ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้เหมาะที่จะใช้วิตามินรวม วิตามินรวมนี้ประกอบไปด้วย วิตามินเอ 5,000 หน่วยสากล วิตามินดี 400 หน่วยสากล วิตามินซี 70 มก. วิตามินบี12 5 หน่วยสากล กรดโฟลิก 100 ไมโครกรัม วิตามินบี6 2 มก. วิตามินบี2 2 มก. วิตามินบี1 2 มก. วิตามินอี 15 มก.
วิธีกิน : วันละ 1 เม็ด หลังอาหาร
ขนาดบรรจุ : 50 เม็ด/กล่อง
ราคาโดยประมาณ : 100-224 บาท
3. อาหารเสริมบำรุงน้ำนม ของ ขาวละออ
อาหารเสริมนี้สรรพคุณบำรุงน้ำนมเหมือนต้นกะแยง ช่วยกระจายเลือดลมในหญิงหลังคลอด บำรุงไฟธาตุ ปรับระบบการย่อยอาหารให้ดีขึ้น ส่วนประกอบที่สำคัญใน 1 เม็ดมีเมล็ดพริกไทยล่อน กระทือ เร่ว และตัวยาอื่นๆ จึงเป็นสมุนไพรไทย รักษาโรค ทั้งนี้ห้ามใช้ในหญิงตกเลือดหลังคลอด และผู้ที่มีไข้
วิธีกิน : ครั้งละ 1-3 เม็ด วันละ 3 ครั้ง ก่อนอาหาร
ขนาดบรรจุ : 60 เม็ด/กล่อง
ราคาโดยประมาณ : 160 บาท
ตอนนี้ก็ได้ทราบแล้วว่า ผักกะแยง คือผักอะไร มีประโยชน์อย่างไร แต่ก็มีข้อควรระวังในการนำผักนี้มาบริโภคคือ สตรีมีครรภ์ห้ามรับประทานผักกะแยงเพราะอาจทําให้เกิดอาการผิดสําแดงได้ ส่วนสตรีหลังคลอดควรระมัดระวังในการรับประทานเพราะอาจเกิดการแพ้ได้ นอกจากนี้ผักกะแยงมีสารแคลเซียมออซาเลตสูง หากรับประทานมากเกินไปหรือรับประทานเป็นประจําอาจทําให้เกิดนิ่วในอวัยวะต่างๆได้
อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : ayushology.com, phargarden.com, cookpad.com
Featured Image Credit : freepik.com/bowonpat
ติดตามเราได้ที่ … เฟสบุ๊ค : เกร็ดสุขภาพ