X

สมุนไพรแก้ท้องผูกในผู้สูงอายุ มีอะไรบ้าง ? มาเช็กเพื่อดูแลผู้สูงอายุกัน !

เพื่อสุขภาพ” ชุมชนสุขภาพ เรื่องราวตรงใจ ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย รุ่นไหนก็รัก ♡

สมุนไพรแก้ท้องผูกในผู้สูงอายุ มีอะไรบ้าง ? มาเช็กเพื่อดูแลผู้สูงอายุกัน !

ในวัยสูงอายุ นอกจากสุขภาพจะไม่แข็งแรงเหมือนแต่ก่อนแล้ว ความเสื่อมของระบบต่างๆ ในร่างกายก็เกิดขึ้นด้วย เช่น ระบบย่อยอาหารที่ทำงานไม่ดีเหมือนเดิม ส่งผลทำให้ท้องอืดท้องเฟ้อ และท้องผูกได้ ถ้าท้องผูกบ่อยๆ เข้าก็อาจทำให้มีสุขภาพตามมา เช่น ทำให้เกิดโรคริดสีดวงทวาร สำไส้อุดตัน ไส้เลื่อน เป็นต้น ดังนั้น เพื่อการมีสุขภาพที่ดีของผู้สูงอายุ และเพื่อบรรเทาอาการท้องผูกที่เกิดขึ้น ในบทความนี้ มีข้อมูลเกี่ยวกับ สมุนไพรแก้ท้องผูกในผู้สูงอายุ นำมาฝากกัน ซึ่งหลายๆ ชนิดเป็นสมุนไพรที่หาได้ง่ายทั่วไป สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ จะมีอะไรบ้างนั้น ไปดูกันเลยค่ะ

เกร็ดสุขภาพ : ปัญหาท้องผูกในผู้สูงอายุ มักเกิดจากปัญหาเรื่องฟันและช่องปาก ด้วยความเสื่อมของวัย ทำให้ฟันไม่แข็งแรง หรือฟันผุฟันหลุดได้ หากไม่ดูแลสุขภาพช่องปากให้ดี ทำให้มีปัญหาด้านการเคี้ยวอาหารไม่ละเอียด ส่งผลให้ท้องอืดท้องเฟ้อ อาหารไม่ย่อย และมีปัญหาเรื่องระบบขับถ่ายได้ อีกทั้งการขาดการออกกำลังกาย ขาดการเคลื่อนไหวร่างกายในผู้สูงอายุ ก็จะทำให้ท้องผูกได้เช่นกัน

7 สมุนไพรแก้ท้องผูกในผู้สูงอายุ ใช้ได้ ใช้ดี ขับถ่ายสะดวก ห่างไกลท้องผูก

มาดูกันว่า สมุนไพรชนิดใดบ้างที่จะช่วยบรรเทาอาการท้องผูกในผู้สูงอายุได้ เพื่อที่จะช่วยแก้ไขอาการ และทำให้ผู้สูงอายุมีสุขภาพที่ดีขึ้น ห่างไกลโรคระบบทางเดินอาหารต่างๆ

1. ขี้เหล็ก

สมุนไพรแก้ท้องผูกในผู้สูงอายุ, สมุนไพรแก้ท้องผูก
Image Credit : Wikipedia

ขี้เหล็ก มีฤทธิ์กระตุ้นการบีบตัวของลำไส้ใหญ่ จึงเป็นสมุนไพรแก้ท้องผูกในผู้สูงอายุได้ และช่วยให้มีการขับถ่ายที่ดีขึ้น เหมาะสำหรับผู้สูงอายุที่มีอาการนอนไม่หลับ รับประทานอาหารไม่ค่อยได้ และมีอาการท้องผูก การใช้ใบขี้เหล็กรักษาอาการท้องผูกตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณะสุข ให้ใช้ใบอ่อนขี้เหล็ก 4 – 5 กำมือ ต้มเอาแต่น้ำ ดื่มก่อนอาหาร นอกจากจะใช้เป็นยาระบายแล้ว ยังมีฤทธิ์ทำให้นอนหลับสบาย และช่วยเจริญอาหารได้อีกด้วย อย่างไรก็ตาม ไม่แนะนำให้รับประทานขี้เหล็กเป็นประจำต่อเนื่องเป็นเวลานาน เพราะอาจมีพิษสะสมในตับจนส่งผลเสียต่อร่างกายได้

2. มะขามแขก

มะขามแขก เป็นสมุนไพรแก้ท้องผูกมาอย่างยาวนาน  และแก้ท้องผูกในผู้สูงอายุได้  โดยมีสารที่กระตุ้นให้ลำไส้เกิดการบีบตัว วิธีรับประทานคือ นำใบแห้งหรือฝักแห้งต้มมารับประทาน โดยใช้ใบแห้ง 1 – 2 หยิบมือ หรือใช้ฝัก 4 – 5 ฝัก หักเป็นชิ้นเล็กๆ ต้มกับน้ำ 1 ถ้วยประมาณ 15 นาที ซึ่งสามารถใช้เดี่ยวๆ หรือใช้กับสมุนไพรอื่นๆ ร่วมด้วย นอกจากนี้ มะขามแขกยังได้รับการพัฒนาเพื่อขึ้นทะเบียนเป็นยาแผนปัจจุบัน (ยาเม็ด) หรือพัฒนาจากสมุนไพรอีกด้วย

ยาระบายมะขามแขกที่อยู่ในรูปแบบเม็ดและแคปซูล ให้รับประทาน 2 – 4 เม็ดก่อนนอน หากเป็นรูปแบบยาชง ให้รับประทานครั้งละ 2 กรัม ชงกับน้ำร้อน 120 – 200 มิลลิลิตร ก่อนนอน ทั้งนี้ การใช้มะขามแขก อาจทำให้ปวดเกร็งช่องท้อง ปวดมวนท้อง คลื่นไส้ อาเจียนได้ และห้ามใช้ยาระบายมะขามแขกในผู้ที่มีภาวะทางเดินอาหารอุดตัน

3. แมงลัก

แมงลักสามารใช้เป็นสมุนไพรแก้ท้องผูกในผู้สูงอายุได้ เพราะแมงลักมีฤทธิ์เป็นยาระบายที่ดี ช่วยเพิ่มกากใยอาหาร และเมือกของแมงลักจะช่วยหล่อลื่นลำไส้ ช่วยให้อุจจาระอ่อนตัว ขับถ่ายสะดวกขึ้น โดยวิธีใช้คือ นำเม็ดแมงลัก 1 ช้อนชา แช่น้ำ 1 แก้ว ทิ้งให้พองเต็มที่ แล้วรับประทานก่อนนอน ก็จะช่วยให้ขับถ่ายสะดวกได้ ทั้งนี้ ไม่ควรรับประทานเม็ดแมงลักในขณะที่ยังพองตัวไม่เต็มที่ เพราะอาจทำให้เม็ดแมงลักมีการดูดน้ำจากกระเพาะอาหาร และจับตัวกันเป็นก้อน อุดตันในลำไส้ ซึ่งอาจทำให้ท้องผูกได้เช่นกันถ้ารับประทานแบบผิดวิธี

4. คูน

สมุนไพรแก้ท้องผูกในผู้สูงอายุ, สมุนไพรแก้ท้องผูก
Image Credit : samunpri.com

คูน หรือรู้จักกันในชื่อราชพฤกษ์ ลมแล้ง มีฤทธิ์เป็นยาระบาย จึงสามารถใช้เป็นสมุนไพรแก้ท้องผูกในผู้สูงอายุได้เช่นกัน โดยการขูดเนื้อในฝักแก่ของดอกคูนออกมาประมาณ 1 หัวแม่มือ ต้มกับน้ำ 1 ถ้วยตวง เติมเกลือลงไปเล็กน้อย และกรองเอาแต่น้ำไว้ดื่มก่อนนอน หรือก่อนอาหารเช้า ซึ่งเหมาะกับผู้ที่มีอาการท้องผูกเป็นประจำ นอกจากนี้ เนื้อในฝักคูนยังมีสารจำพวกเพกตินที่เป็นอาหารของโพรไบโอติกในลำไส้ และมีรสเปรี้ยวอ่อนๆ ช่วยละลายเมือกที่ค้างอยู่ในลำไส้ จึงเป็นยาระบายชั้นดี ทั้งนี้ควรระวังการแพ้คือ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ง่วงซึม และท้องเสียได้

เกร็ดสุขภาพ : การกินโพรไบโอติก ธรรมชาติ จะช่วยปรับสมดุลลำไส้ ทำให้ลำไส้ทำงานได้ดีขึ้น กระตุ้นการทำงานของระบบย่อยอาหาร ลดอาการท้องอืด ท้องเสีย กระตุ้นการขับถ่าย บรรเทาอาการลำไส้แปรปรวน และยังช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้ดีขึ้นอีกด้วย

5. สะระแหน่

สะระแหน่ เป็นสมุนไพรคู่ครัวพื้นบ้านของไทย นิยมนำมาใส่ในลาบ หรือในยำต่างๆ ซึ่งสะระแหน่มีประโยชน์ต่อระบบย่อยอาหาร สามารถใช้เป็นสมุนไพรแก้ท้องผูกในผู้สูงอายุ อีกทั้งยังรับประทานง่าย รับประทานได้หลากหลาย จะกินสดหรือใช้ใบสะระแหน่สดต้มกับน้ำดื่มเพื่อบรรเทาอาการอาหารไม่ย่อย และสามารถรักษาอาการลำไส้แปรปรวนได้ โดยมีอาการท้องผูกสลับท้องเสีย ซึ่งอาการลำไส้แปรปรวนจะทุเลาลงหากได้รับประทานน้ำมันสะระแหน่ชนิดแคปซูล ติดต่อกัน 4 สัปดาห์ และมีข้อควรระวังคือ ผู้ที่เป็นโรคกรดไหลย้อน ควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์จากสะระแหน่ทุกชนิด เพราะสะระแหน่มีฤทธิ์คลายกล้ามเนื้อหูรูดในหลอดอาหาร ส่งผลให้กรดไหลย้อนขึ้นมาในหลอดอาหาร ทำให้แสบร้อนกลางอกได้

6. ขิง

ขิง สมุนไพรมิตรแท้คู่ครัวเรือนไทย เป็นสมุนไพรช่วยกระตุ้นการย่อยอาหารได้ แม้จะไม่ได้มีฤทธิ์เป็นยาระบายเพื่อกระตุ้นการขับถ่ายโดยตรง แต่มีคุณสมบัติช่วยย่อยอาหาร ทำให้สุขภาพของกระเพาะอาหารและลำไส้ดีขึ้น ลดอาการท้องอืดท้องเฟ้อ อาหารไม่ย่อย ซึ่งส่งผลให้ท้องผูกตามมาได้ สามารถใช้ขิงเป็นสมุนไพรแก้ท้องผูกในผู้สูงอายุโดยการรับประทานก่อนอาหาร จะช่วยให้การย่อยอาหารมีประสิทธิภาพมากขึ้น หรือรับประทานขิงดิบกับน้ำมะนาว เติมเกลือเล็กน้อยเพื่อกระตุ้นระบบย่อยอาหารได้ ทั้งนี้ ขิงเป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์ร้อน ถ้าหากรับประทานเข้าไปในปริมาณที่มากก็จะทำให้เยื่อบุภายในช่องปากเกิดการอักเสบ จนเป็นอาการร้อนในได้

7. ชุมเห็ดเทศ

สมุนไพรแก้ท้องผูกในผู้สูงอายุ, สมุนไพรแก้ท้องผูก
Image Credit : samunpri.com

ชุมเห็ดเทศ เป็นหนึ่งในยาระบายชั้นเลิศ และเป็นสมุนไพรแก้ท้องผูก จากการใช้ดอกสดของชุมเห็ดเทศจำนวน 1 – 3 ช่อดอกนำมาต้มจิ้มรับประทานกับน้ำพริกในมื้ออาหาร หรือสามารถนำใบสด 8 – 12 ใบ ล้างให้สะอาด หั่นแล้วตากแห้ง นำมาต้มเป็นชาไว้ดื่มได้ หรือจะใช้ใบแห้งบดเป็นผง ปั้นกับน้ำผึ้งเป็นยาลูกกลอนขนาดเท่าปลายนิ้วก้อย รับประทานครั้งละ 3 เม็ด ก่อนนอน เมื่อมีอาการท้องผูก และชุมเห็ดเทศมีข้อควรระวังในการใช้คือ ห้ามใช้ในผู้สูงอายุที่มีภาวะลำไส้อุดตันค่ะ

และนี่ก็เป็น 7 สมุนไพรแก้ท้องผูก ซึ่งสามารถช่วยบรรเทาอาการท้องผูกในผู้สูงอายุได้ อย่างไรก็ตาม นอกจากใช้สมุนไพรเพื่อกระตุ้นการขับถ่ายแล้ว การดื่มน้ำมากๆ การเคี้ยวอาหารให้ละเอียดหรือรับประทานอาหารที่ย่อยง่าย รับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์สูงหรือมีกากใยสูง และเคลื่อนไหวร่างกายอยู่เป็นประจำ ก็จะช่วยลดอาการท้องผูกได้ ทั้งนี้ หากมีอาการท้องผูกร่วมกับอาการผิดปกติอื่นๆ เช่น น้ำหนักลด ถ่ายเป็นมูกเลือด มีลักษณะอุจจาระผิดไป หรือมีประวัติคนในครอบครัวป่วยเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที เพื่อหาสาเหตุที่ชัดเจน และรักษาได้อย่างถูกต้อง จะได้มีสุขภาพแข็งแรงค่ะ

อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : medinfo2.psu.ac.th, samitivejhospitals.com, euphoricherbals.com, pharmacy.mahidol.ac.th

Featured Image Credit : pexels.com/lil artsy

ติดตามเราได้ที่ … เฟสบุ๊ค : เกร็ดสุขภาพ

ติดต่อโฆษณา

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้การวิเคราะห์

    เราขออนุญาติใช้คุกกี้นี้เก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ เพื่อประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ที่ดีขึ้นให้กับคุณ

Save