“เพื่อสุขภาพ” ชุมชนสุขภาพ เรื่องราวตรงใจ ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย รุ่นไหนก็รัก ♡
รวม สมุนไพรไทย รักษาโรค ดีต่อสุขภาพที่คนไทยยังไม่ค่อยรู้จัก !
สมุนไพรไทยเป็นสิ่งที่มาจากการเรียนรู้ของคนในอดีต โดยนำพืชบางชนิดมาใช้เพื่อบำรุงร่างกายและรักษาโรค โดยปัจจุบันอาจพบสมุนไพรในรูปของอาหาร ยาแผนโบราณ หรืออาหารเสริม ซึ่งเราสามารถนำมาใช้เพื่อสุขภาพ เช่น บรรเทาอาการอักเสบ เสริมสุขภาพหัวใจ ลดความเสี่ยงโรคมะเร็ง (ดูอาหารยับยั้งมะเร็งเพิ่มเติมได้) เป็นต้น สมุนไพรแต่ละชนิดมีคุณประโยชน์ วิธีการใช้ และปริมาณในการใช้ ดังนั้นจึงจะมาแนะนำให้รู้จัก สมุนไพรไทย รักษาโรค 5 ชนิดที่คนส่วนใหญ่ยังไม่รู้จัก ข้อมูลคุณประโยชน์ วิธีการใช้ ตลอดจนข้อควรระวังต่างๆ อีกทั้งยังจะแนะนำวิตามิน-อาหารเสริมที่ได้จากสมุนไพรไทยที่มีขายทางช่องทางออนไลน์ รายละเอียด และราคาโดยประมาณ
ทำความรู้จัก 5 สมุนไพรไทย รักษาโรค ไม่คุ้นชื่อแต่ประโยชน์มากมาย
เกร็ดสุขภาพ : สมุนไพรไทยนั้นสามารถใช้ประโยชน์ได้จริงและใช้ได้อย่างกว้างขวาง แต่เพราะคนไทยส่วนใหญ่ใช้การรักษาโรคด้วยการแพทย์แผนใหม่มานานมากจนวิชาแพทย์แผนไทยโบราณที่มีสมุนไพรเป็นยาหลักถูกลืมเลือนไป อย่างไรก็ตาม กระทรวงสาธารณสุขได้พยายามให้เกิดการผสมผสานการแพทย์แผนไทยและสมุนไพรเข้ากับระบบบริการสาธารณสุขของชุมชนอย่างเหมาะสม จึงทำให้สมุนไพรเริ่มเป็นที่รู้จักกันมากขึ้น
แต่ก็ยังมีสมุนไพรไทย รักษาโรคอีกหลายชนิดที่ชื่ออาจจะไม่ค่อยคุ้นหูนัก ดังต่อไปนี้
1. งิ้ว
งิ้วเป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณดีที่ดอก โดยนำดอกที่บานเต็มที่และร่วงหล่นลงจากต้นมาตากแห้งหรือผิงไฟ ซึ่งดอกงิ้วแห้งจะมีรสจืดและต้องนำดอกแห้งประมาณ 6-10 กรัมเอามาต้มกับน้ำ ใช้เป็นสมุนไพรไทย รักษาโรคท้องร่วง ใช้ห้ามเลือด หรือล้างแผลที่เป็นฝีหนอง ถ้าเป็นดอกแดงก็ใช้แก้บิดเลือด และถ้าเป็นดอกเหลืองแก้บิดมูก นอกจากนี้ทางภาคเหนือจะใช้ดอกงิ้วแห้งทำ “น้ำเงี้ยว” สำหรับขนมจีนน้ำเงี้ยว ทั้งยังใช้แต่งสีแกงส้ม แกงกะหรี่ ส่วนเกสรสดจะลวกจิ้มน้ำพริก ทำแกงส้ม หรือผสมข้าวโพดทำขนมแผ่น
2. ชุมเห็ดเทศ
ชุมเห็ดเทศนั้นเป็นไม้พุ่ม ส่วนของต้นที่ใช้เป็นยาคือ ใบ และมีสรรพคุณสามารถบรรเทาอาการท้องผูก ใช้เป็นยาภายนอกรักษาโรคผิวหนัง กลาก เกลื้อน และส่วนของดอกสามารถใช้เป็นสมุนไพรไทย รักษาโรคท้องผูกได้เช่นกัน วิธีการนำชุมเห็ดเทศมารักษาอาการท้องผูกนั้นจะใช้ใบจำนวน 12-15 ใบย่อย นำไปตากแห้ง และคั่วในกระทะก่อน ใบชุมเห็ดเทศถ้าไม่คั่ว เวลารับประทานจะเกิดอาการข้างเคียง คือ มีอาการคลื่นไส้อาเจียน ความร้อนจากการคั่วจะช่วยให้สารที่ออกฤทธิ์ทำให้คลื่นไส้อาเจียนสลายไป จากนั้นนำไปต้มกับน้ำพอควร ดื่มครั้งเดียวก่อนอาหารตอนเช้ามืด หรือก่อนนอน หรือใช้ช่อดอกสด 1-3 ช่อดอก ลวกน้ำเดือดและนำไปจิ้มน้ำพริกรับประทาน
3. พรมมิ
พรมมิเป็นพืชล้มลุกขนาดเล็ก ลำต้นเลื้อยทอดไปตามพื้นดินที่ชุ่มชื้นหรือมีน้ำขัง สามารถพบได้ตามพรุน้ำร้อน หนองน้ำที่โล่ง และตามริมน้ำทั่วไปของประเทศไทย การแพทย์แผนไทยสามารถนำทุกส่วนของต้นมาใช้เป็นสมุนไพรไทย รักษาโรค กล่าวคือ ต้น ใช้ขับพิษร้อนทั้งปวง บำรุงกำลังทำให้ร่างกายแข็งแรง แก้ปวดตามข้อ ดอก แก้โลหิตระดูใสดังสีน้ำล้างหมาก หรือใช้ทั้งต้น เพื่อแก้ร้อนในกระหายน้ำ แก้ไข้ ขับปัสสาวะ บำรุงประสาท ขับเสมหะ ขับพยาธิ บำรุงหัวใจ แก้หืด แก้ปวดประสาท แก้ลมบ้าหมู รักษาริดสีดวง อย่างไรก็ดี ผลการวิจัยในปัจจุบันพบว่าพรมมิช่วยฟื้นฟูความจำโดยเฉพาะในผู้ที่มีภาวะสูญเสียความจำเนื่องจากอายุมาก (อายุ 55 ปี ขึ้นไป) จะพบว่า เมื่อรับประทานสารสกัดพรมมิแล้วสามารถควบคุมความคิดและจิตใจได้ดีขึ้น
4. เร่ว
เร่วหรือเร่วหอมเป็นพืชล้มลุกอยู่ในวงศ์เดียวกับขิงและข่า ทุกส่วนของเร่วมีกลิ่นหอมโดยเฉพาะเหง้าและไหล ในตำรายาไทยนั้นจะใช้ผลของเร่วเป็นสมุนไพรไทย รักษาโรคริดสีดวง แก้หืดไอ เสมหะ แก้ระดูขาว แก้ไข้สันนิบาต ขับลมในลำไส้ แก้ท้องขึ้น อืดเฟ้อ ปวดท้อง แก้คลื่นเหียน อาเจียน สำหรับการใช้เป็นอาหารนั้น เร่วเป็นส่วนประกอบสำคัญในอาหารของจันทบุรี โดยเฉพาะอาหารท้องถิ่นขึ้นชื่อ ก๋วยเตี๋ยวหมูเลียง ที่มีน้ำซุปก๋วยเตี๋ยวมีกลิ่นและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์คือ หอมกลิ่นเครื่องเทศ คำว่า “เลียง” หมายถึง อาหารที่นำมาโขลกด้วยครก ก๋วยเตี๋ยวหมูเลียงเป็นการนำสมุนไพรที่ประกอบด้วยโป๊ยกั๊ก อบเชย ตะไคร้ ข่า ลูกมะกรูด และเร่วหอมโขลกรวมกันมาทำเป็นน้ำซุป
5. หญ้าหนวดแมว
หญ้าหนวดแมวเป็นพืชที่พบได้ทั่วไปตามบ้าน ออกดอกเกือบทั้งปี ดอกมีสีขาวและเกสรตัวผู้ที่ยื่นยาวออกมานอกกลีบดอก ทำให้มีลักษณะคล้ายหนวดแมว จึงมีคนเรียกพืชชนิดนี้ว่า หญ้าหนวดแมว สำหรับฤทธิ์และประโยชน์ด้านสมุนไพรไทย รักษาโรคคือ ใช้ขับปัสสาวะ ขับนิ่ว โดยในใบอ่อนมีโปแตสเซียมสูง ใช้รักษานิ่วได้ทั้งนิ่วด่างซึ่งเกิดจากแคลเซียม (หินปูน) ที่เกิดจากการดื่มน้ำที่มีหินปูน และใช้รักษานิ่วกรด ซึ่งเกิดจากกรดยูริก ที่เกิดจากการรับประทานเนื้อสัตว์และเครื่องในสัตว์มากเกินไป ทำให้มีกรดยูริกสูง เมื่อรับประทานหญ้าหนวดแมว ซึ่งมีโปแตสเซียมสูง จะทำให้กรดยูริกและเกลือยูเรตไม่จับตัวเป็นก้อน ช่วยป้องกันไม่ให้แคลเซียมตกค้างในไต การนำหญ้าหนวดแมวมาใช้กับผู้ป่วยโรคนิ่วมีขั้นตอนไม่ยุ่งยากเพียงใช้ยอดอ่อน (ซึ่งมีใบอ่อน 2–3 ใบ) ที่เก็บช่วงที่หญ้าหนวดแมวกำลังออกดอก มาหั่นเป็นท่อนสั้นๆตากแดดให้แห้ง แล้วใช้ 1 หยิบมือ (2 กรัม) ชงกับน้ำเดือด 1 แก้ว ปิดฝาทิ้งไว้ 5–10 นาที ดื่มขณะร้อนๆ วันละ 3 ครั้ง ก่อนอาหาร และต้องดื่มน้ำตามมากๆ อย่างไรก็ตาม มีข้อควรระวังคือ ไม่ควรใช้หญ้าหนวดแมวกับคนที่เป็นโรคหัวใจเนื่องจากมีเกลือโปแตสเซียมสูง
แนะนำวิตามิน-อาหารเสริม
ในการใช้สมุนไพรไทย รักษาโรคตามตำรับแพทย์แผนไทยแบบเดิมนั้นอาจจะมีข้อจำกัดหลายประการ ทั้งในแง่การจัดเตรียมและวิธีการใช้ประโยชน์ ดังนั้นจึงมีผู้ผลิตหลายรายที่นำสมุนไพรไทยมาแปรสภาพให้เป็นวิตามิน-อาหารเสริมที่พร้อมรับประทาน ผ่านกระบวนการผลิตที่รับรองโดยกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทย มีอะไรบ้างนั้น เรามาดูกัน
1. ผลิตภัณฑ์ส้มแขก ของ Herbal One
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารนี้ทำจากสมุนไพร โดยส่วนประกอบสำคัญสมุนไพรไทย มีอะไรบ้าง ได้แก่ สารสกัดผลส้มแขก 200 มก. สารสกัดจากชาเขียว 100 มก. และแอล-คาร์นิทิน 100 มก. ช่วยเผาผลาญไขมันส่วนเกิน ลดการสะสมของไขมันใหม่ อีกทั้งยังช่วยลดน้ำหนักในคนอ้วน โดยเร่งเผาผลาญไขมันส่วนเกินและลดการสะสมของไขมันใหม่ ทำให้รู้สึกอิ่มท้อง
วิธีกิน : ครั้งละ 2-3 เม็ด วันละ 2 ครั้ง ก่อนอาหาร
ขนาดบรรจุ : 100 เม็ด/กล่อง
ราคาโดยประมาณ : 99 บาท
2. ผลิตภัณฑ์เถาวัลย์เปรียง ของ อภัยภูเบศร
ผลิตภัณฑ์เถาวัลย์เปรียงนี้ ใน 1 เม็ด น้ำหนัก 400 มก. ประกอบด้วยผงเถาวัลย์เปรียง 280 มก. และอื่นๆ 120 มก. เถาวัลย์เปรียงมีฤทธิ์ลดการอักเสบ จึงเป็นทางเลือกเพื่อใช้บรรเทาอาการปวดเมื่อย โดยไม่มีพิษเฉียบพลันและพิษเรื้อรัง เพิ่มภูมิคุ้มกันซึ่งอาจมีประโยชน์ต่อผู้ป่วยเอดส์ ผู้ป่วยมะเร็ง หวัด ภูมิแพ้ และยังผ่านการทดลองทางคลินิกในการแก้ปวดจากเข่าเสื่อมเปรียบกับนาโปรเซน (ยาต้านการอักเสบแผนปัจจุบัน) แล้วพบว่าได้ผลไม่ต่างกัน ซึ่งต้องทราบด้วยว่าปวดเข่าห้ามกินอะไร และในการแก้ปวดหลังระดับเอว (low back pain)เปรียบเทียบกับยาแผนปัจจุบัน คือ ยาไดโคลฟีแนค ก็พบว่าได้ผลไม่ต่างกัน แต่เถาวัลย์เปรียงมีข้อดีที่เป็นสมุนไพรไทย รักษาโรค และมีผลข้างเคียงน้อยกว่า
วิธีกิน : วันละ 1 ครั้ง ครั้งละ 2 เม็ด หลังอาหาร
ขนาดบรรจุ : 70 เม็ด/กล่อง
ราคาโดยประมาณ : 80-90 บาท
3. ผลิตภัณฑ์หญ้าหนวดแมว ของ Thanyaporn Herbs
ผลิตภัณฑ์หญ้าหนวดแมวนี้ใน 1 เม็ดประกอบด้วยสมุนไพรไทย มีอะไรบ้าง มีหญ้าหนวดแมว และอื่นๆ ใช้เป็นยาขับปัสสาวะ และใช้รักษาคนไข้ที่เป็นโรคไตควบคู่กับโรคหัวใจได้ โดยโรงพยาบาลรามาธิบดี ได้ค้นคว้าวิจัยนำหญ้าหนวดแมวมารักษาผู้ป่วยในโรคนิ่วในระบบทางเดินปัสสาวะ สามารถลดอาการปวดของท่อไต (ดูข้อมูลอาหารคนป่วยโรคไตได้ที่นี่) ผู้ป่วยที่เป็นนิ่วขนาดเท่าเม็ดมะละกอหรือเม็ดถั่วเขียว สมุนไพรนี้จะช่วยขับก้อนนิ่วออกมาได้และยังสามารถขับกรดยูริกอันเป็นสาเหตุของโรคเกาต์
วิธีกิน : ครั้งละ 2 เม็ด วันละ 2 ครั้ง หลังอาหาร
ขนาดบรรจุ : 100 เม็ด/กล่อง
ราคาโดยประมาณ : 110 บาท
เกร็ดสุขภาพ : การใช้สมุนไพรไทย รักษาโรคนั้นมีได้ทั้งประโยชน์และโทษ ผู้ใช้ควรศึกษาว่าผลิตภัณฑ์นั้นประกอบด้วยสมุนไพรชนิดใดหรือมีส่วนประกอบของสมุนไพรใด หากมีอาการไม่พึงประสงค์เกิดขึ้นจะได้ทราบว่าเกิดจากสมุนไพรชนิดใด และเก็บข้อมูลในการระวังการใช้ต่อไป ส่วนหญิงมีครรภ์หรือให้นมบุตร และเด็ก ถ้าไม่จำเป็นไม่ควรใช้สมุนไพร โดยเฉพาะสมุนไพรที่ยังไม่มีข้อมูลยืนยันความปลอดภัย เนื่องจากสารบางชนิดในสมุนไพรสามารถผ่านรก ขับออกทางน้ำนม หรือมีผลต่อการเจริญเติบโตได้
อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : ittm.dtam.moph.go.th, medplant.mahidol.ac.th, mlm.mju.ac.th
Featured Image Credit : freepik.com
ติดตามเราได้ที่ … เฟสบุ๊ค : เกร็ดสุขภาพ