“เพื่อสุขภาพ” ชุมชนสุขภาพ เรื่องราวตรงใจ ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย รุ่นไหนก็รัก ♡
ชวนดู วิธีล้างผัก ล้างยังไงให้ปลอดภัยต่อสุขภาพ ?!
การที่เรากินผักเป็นเรื่องที่ดีต่อสุขภาพ ประโยชน์ของการกินผัก นั้นมีมากมาย แต่หากไม่รู้ วิธีล้างผัก หรือล้างไม่สะอาดนั้นอาจจะทำให้ร่างกายได้รับผลเสียมากกว่า เพราะเราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าผักที่เราได้ซื้อมานั้น ปลูกอย่างไร ปลอดภัยหรือไม่และในทุกวันนี้ก็มีการปลูกพืชผักต่างๆ โดยใช้สารเคมีทางการเกษตรมากขึ้น จึงทำให้มีสารเคมีหรือสารตกค้างเยอะ ดังนั้นเราควรป้องกันตัวเราเองให้ได้มากที่สุด ซึ่งในบทความนี้เราก็ได้รวบรวมขั้นตอน วิธีล้างผัก ให้สะอาดอย่างถูกต้องมาฝากกันแล้วค่ะ เป็นวิธีที่สามารถทำตามได้ง่ายและใช้สิ่งที่หาได้ในห้องครัว จะมีวิธีไหนบ้างไปดูกันเลย
มาดู วิธีล้างผัก อย่างถูกวิธีกันเถอะ ล้างผักยังไงให้สะอาดและปลอดภัย ?!
สารพิษตกค้างในผักมีทั้งยาฆ่าแมลง ปุ๋ย รวมไปถึงเชื้อโรคและแบคทีเรียชนิดต่างๆ เช่น เชื้อเอสเชอริเชีย โคไล หรือเชื้ออีโคไล (Escherichia coli) และเชื้อซาลโมเนลลา (Salmonella) ซึ่งเชื้อเหล่านี้ล้วนส่งผลเสียต่อร่างกาย อาจทำให้มีอาการท้องเสียหรือติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ และสารพิษที่สะสมในร่างกายมากๆก็อาจทำให้เกิดโรคมะเร็งได้ แทนที่จะได้รับคุณประโยชน์จากผักก็จะกลายเป็นได้รับโทษจากสารตกค้างปนเปื้อนแทน ซึ่งถ้าเรานำผักมากินโดยที่ไม่ได้ผ่านการทำความสะอาดอย่างถูกวิธี ก็จะได้รับสารพิษและเชื้อโรคเข้าไปเต็มๆ เลยค่ะ และอาจทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์ได้ เช่น คลื่นไส้ อาเจียน หรือเวียนหัว เป็นต้นถ้าอยากกินผักที่สะอาดและปลอดภัยจากสารพิษตกค้างก็มาดูกันเลยค่ะว่าวิธีล้างผัก ให้สะอาดอย่างถูกต้องนั้นมีขั้นตอนอย่างไรบ้าง
1. ล้างด้วยน้ำเปล่า
วิธีล้างผักให้สะอาดวิธีนี้คงเป็นวิธีที่ง่ายและสะดวกที่สุดก็ว่าได้ หากเราล้างถูกวิธีก็จะช่วยล้างสารพิษออกไปได้ถึง 54 – 63% เลยทีเดียว และหากมีการแช่น้ำเพิ่มจะสามารถล้างสิ่งสกปรกเพิ่มได้อีก สามารถทำได้ดังนี้
วิธีล้างผัก :
- เด็ดผักออกมาเป็นใบๆ
- เปิดน้ำให้ไหลผ่านผักอย่างต่อเนื่อง โดยไม่ใช้น้ำที่แรงเกินไปพร้อมกับใช้มือถูเบาๆ
- นำไปแช่ในน้ำสะอาดต่ออีกประมาณ 15 นาที
2. การใช้ด่างทับทิม
วิธีล้างผักโดยใช้ด่างทับทิมนั้นเป็นวิธีที่ค่อนข้างสะดวก สามารถใช้ล้างผักได้ในปริมาณครั้งละมากๆ เหมาะสำหรับผู้ที่ทำร้านอาหารหรือทำอาหารมื้อใหญ่ โดยวิธีนี้จะช่วยลดปริมาณสารเคมีตกค้างได้ 35 – 45% และใช้เวลาไม่นานเลยค่ะ
วิธีล้างผัก :
- นำด่างทับทิบปริมาณ 40 – 60 เกล็ดมาละลายในน้ำอุณหภูมิปกติ ใช้น้ำประมาณ 8 ลิตร
- นำผักมาแช่ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที
- ล้างผักอีกครั้งด้วยน้ำเปล่าที่สะอาด
เกร็ดสุขภาพ : การกินผักที่มีสารตกค้างจากยาฆ่าแมลงหรือมีสารพิษตกค้างเป็นอันตรายต่อร่างกายมากกว่าที่คิด แม้จะกินเข้าไปเพียงนิดเดียวก็อาจทำให้เกิดอาการต่างๆได้ เช่น รู้สึกคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ท้องเสีย ปวดศีรษะ หน้ามืด หายใจไม่ออก มีอาการชา หรืออาจรุนแรงจนถึงขั้นหมดสติ และผู้ที่ทำการเกษตรโดยใช้สารเคมีเป็นประจำหรือผู้ที่อาศัยในบริเวณที่ทำการเกษตรก็อาจมีปัญหาทางสุขภาพได้เช่นกัน เช่น มีปัญหาระบบทางเดินหายใจ ระบบสืบพันธุ์ และระบบประสาท ส่งผลต่อการทำงานของต่อมไร้ท่อ เสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง นอกจากนี้ ยังมีการศึกษาว่า ทารกที่อยู่ในครรภ์อาจเสี่ยงต่อการเป็นโรคสมาธิสั้นและโรคออทิสติกได้อีกด้วย
3. การใช้น้ำส้มสายชู
ไม่ว่าบ้านไหนๆ ก็น่าจะต้องมีน้ำส้มสายชูติดบ้านกันไว้อยู่แล้วใช่มั้ยคะ? ซึ่งวิธีล้างผักด้วยน้ำส้มสายชูนั้นก็ทำได้ง่ายไม่แพ้วิธีอื่นๆ เลย ทั้งยังสามารถลดปริมาณสารเคมีได้มากถึง 29 – 38% เลยค่ะ แล้วก็ไม่ต้องกลัวว่ากลิ่นน้ำส้มสายชูจะติดผักอีกด้วย เพราะใช้หยดเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
วิธีล้างผัก :
- นำน้ำส้มสายชู 1 ช้อนโต๊ะมาผสมกับน้ำเปล่าอุณหภูมิปกติ 4 ลิตร
- แช่ผักที่ต้องการล้างลงไปแล้วทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที
- ล้างผักที่แช่น้ำส้มสายชูซ้ำอีกครั้งด้วยน้ำเปล่าสะอาด
4. การใช้เกลือ
นอกจากเกลือจะใช้สำหรับปรุงอาหารแล้ว ยังมีสรรพคุณเด่นในเรื่องการชำระล้างสิ่งสกปรกด้วยเช่นกัน (สามารถอ่าน เกลือ สรรพคุณ เป็นข้อมูลเพิ่มเติมได้นะคะ) วิธีล้างผักด้วยการแช่น้ำเกลือจะช่วยลดปริมาณสารเคมีได้ 27 – 38% ซึ่งอาจจะชะล้างสารเคมีได้น้อยกว่าวัตถุดิบอื่น แต่ก็สามารถใช้ทดแทนได้ค่ะ
วิธีล้างผัก :
- นำเกลือ 1 ช้อนโต๊ะมาละลายผสมกับน้ำเปล่าประมาณ 4 ลิตร
- นำผักลงไปแช่ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที
- ล้างผักที่แช่น้ำเกลือซ้ำอีกครั้งด้วยน้ำสะอาด หรือสามารถแช่ด้วยน้ำเปล่าอีกครั้งก็ได้ จะช่วยชะล้างสารตกค้างได้มากขึ้น
5. การใช้เบกกิ้งโซดา
เบกกิ้งโซดาเป็นวัตถุดิบสำคัญในการทำขนมหรือเบเกอรี่ แต่นอกจากนี้แล้วก็ยังสามารถใช้ในการล้างผักได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย เพราะเบกกิ้งโซดาจะมีความเป็นด่างอ่อนๆ จึงช่วยล้างเอาสารเคมีออกได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ การใช้เบกกิ้งโซดาล้างผักจะช่วยลดปริมาณสารเคมีที่อยู่ในผักได้มากถึง 80 – 95% เลยค่ะ ถือว่าเป็นวิธีล้างผักที่มีประสิทธิภาพสูงสุดเลยก็ว่าได้และไม่ทำให้ผักเสียรสชาติด้วย
วิธีล้างผัก :
- นำเบกกิ้งโซดา 1/2 ช้อนโต๊ะละลายในน้ำอุณหภูมิปกติประมาณ 10 ลิตร
- แช่ผักทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที
- ล้างผักอีกครั้งด้วยน้ำสะอาด
เกร็ดสุขภาพ : นอกจากวิธีล้างผัก ให้สะอาดแล้ว การเลือกซื้อผักและผลไม้ที่ปลอดภัยก็ช่วยลดความเสี่ยงในการได้รับสารตกค้างจากผักและผลไม้ที่บริโภคเข้าไป โดยการเลือกซื้อผักนั้นควรเลือกผักที่มีสีตามธรรมชาติ ไม่สีสดจนเกินไป ไม่มีคราบสีขาวบนผัก ไม่มีจุดราหรือกลิ่นที่ฉุนผิดปกติ และควรเลือกที่เห็นเป็นตัวแมลงหรือมดเดินอยู่บ้างเพราะในปัจจุบันการเลือกผักที่มีรูแมลงหรือหนอนแทะอาจเป็นการเจาะเทียมโดยผู้ขายได้ หรือถ้าซื้อในห้างก็ควรซื้อที่มีฉลากถูกต้อง สามารถตรวจสอบแหล่งที่มาย้อนหลังได้ และควรเลือกผักที่ได้รับการรับรองจากหน่วยงานราชการ เช่น ตลาดเกษตรกรประจำจังหวัด หรือตลาดผักและผลไม้เกษตรอินทรีย์ที่มีการรับรองว่าเป็นผักปลอดสาร ปลูกโดยไม่ใช้สารเคมี ก็จะช่วยให้เราปลอดภัยมากขึ้นค่ะ
วิธีล้างผักให้สะอาดนั้น ทำตามได้ง่ายและไม่ยุ่งยากเลยค่ะ ที่สำคัญคือ วัตถุดิบที่นำมาใช้ยังเป็นสิ่งใกล้ตัวที่สามารถหาได้จากในครัวอีกด้วย ถึงแม้อาจจะทำให้เสียเวลาในการทำอาหารไปบ้างแต่เพื่อแลกกับสุขอนามัยที่ดีแล้วก็ถือว่าคุ้มค่ามาก เพื่อที่เราจะได้กินผักได้อย่างปลอดภัยและได้รับประโยชน์จากผักได้อย่างเต็มที่ ทีนี้ก็ทำเมนูผักเพื่อสุขภาพได้โดยไม่ต้องกังวลถึงผลเสียที่อาจตามมาจากสารพิษตกค้างในผักอีกต่อไปแล้วค่ะ
อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : wwf.or.th, hsri.or.th, pharmacy.mahidol.ac.th
Featured Image Credit : freepik.com
ติดตามเราได้ที่ … เฟสบุ๊ค : เกร็ดสุขภาพ