“เพื่อสุขภาพ” ชุมชนสุขภาพ เรื่องราวตรงใจ ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย รุ่นไหนก็รัก ♡
ดีท็อกซ์ คือ อะไร ? ทำไมเราถึงต้องทำดีท็อกซ์กัน ?! แล้วไฟเบอร์ช่วยดีท็อกซ์ได้จริงหรือไม่ ? อยากรู้ต้องอ่าน !
สำหรับคนที่รักสุขภาพหรืออยู่ในวงการสุขภาพน่าจะคุ้นเคยกับคำว่าดีท็อกซ์กันอยู่บ้าง โดยเฉพาะสายชีวจิตที่มีการดีท็อกซ์ลำไส้ด้วยการสวนน้ำกาแฟเข้าสู่ร่างกาย แต่สำหรับบางคนก็อาจจะกำลังสงสัยอยู่ว่า ดีท็อกซ์ คือ อะไร ? ทำไมถึงถูกพูดถึงในแวดวงคนรักสุขภาพ แล้วการทำดีท็อกซ์นั้น ทำได้อย่างไรบ้าง ? มีวิธีการอย่างไร และดีต่อสุขภาพอย่างไร เราจำเป็นที่จะต้องทำการดีท็อกซ์ร่างกายหรือไม่ ถ้าใครกำลังมีคำถามแบบนี้อยู่ละก็ อย่ารอช้า ไปหาคำตอบพร้อมๆ กันเลยค่ะ
ดีท็อกซ์ คือ อะไร ? จำเป็นต้องทำดีท็อกซ์หรือไม่ ?
การดีท็อกซ์ คือวิธีการกำจัดสารพิษและสิ่งสกปรกที่ตกค้างในร่างกายออกมา คำว่า ดีท็อกซ์ หรือ Detox นั้น มาจากคำว่า Detoxification ที่หมายความว่า “ล้างพิษ” การทำดีท็อกซ์ก็คือการล้างสารพิษออกจากร่างกาย ร่างกายของเรานั้นเปรียบเสมือนโรงงานขนาดใหญ่ที่มีระบบการทำงานหลายๆ ส่วน รวมถึง “ระบบขับถ่าย” ที่เป็นการขับของเสียออกมาจากร่างกาย ซึ่งการดีท็อกซ์ จะช่วยให้ร่างกายขับของเสียออกมาได้ดีขึ้น และวิธีการดีท็อกซ์นั้นก็มีอยู่มากมาย ตั้งแต่การสวนล้างลำไส้ด้วยน้ำเกลือหรือน้ำกาแฟ การกินอาหารเพื่อล้างพิษตับ การกินแต่น้ำผักผลไม้ในช่วงเวลาสั้นๆ การอดอาหาร การใช้ยาระบาย เป็นต้น
บางคนอาจจะกำลังสงสัยว่า แล้วเราจำเป็นจะต้องทำการดีท็อกซ์หรือไม่ ? การดีท็อกซ์นั้นก็เปรียบเหมือนการทำความสะอาดร่างกายอีกวิธีหนึ่ง แม้ว่าร่างกายจะมีวิธีการขับของเสียออกมาในรูปแบบต่างๆ อยู่แล้วก็ตาม เช่น การขับเหงื่อ การปัสสาวะ การอุจจาระ แต่เราไม่อาจทราบได้ว่า ระบบขับถ่ายของเรานั้นทำงานอย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ และบางคนก็มีปัญหาเกี่ยวกับระบบขับถ่าย ขับถ่ายไม่เป็นเวลา มีอาการท้องผูกบ่อยๆ ซึ่งจะทำให้ร่างกายมีการสะสมสารพิษและส่งผลเสียต่อสุขภาพโดยรวมได้ หากมีอาการดังต่อไปนี้ อาจเป็นสัญญาณว่า เราจะต้องทำการดีท็อกซ์ร่างกาย เพราะเป็นสัญญาณเตือนว่าร่างกายมีของเสียสะสมอยู่มากเกินไป โดยจะมีอาการดังต่อไปนี้
- รู้สึกเหนื่อยล้าโดยไม่มีสาเหตุ
- ระบบขับถ่ายไม่ดี ท้องผูกบ่อยๆ
- ผิวหน้ามีการระคายเคือง เป็นสิว เกิดฝ้า
- มีอาการภูมิแพ้
- ระบบภูมิคุ้มกันต่ำ ป่วยบ่อย
- มีถุงใต้ตาขนาดใหญ่
- ท้องอืดบ่อยๆ
- รู้สึกหงุดหงิด ไม่ค่อยมีสมาธิ
- อารมณ์แปรปรวน รู้สึกหดหู่ ไร้แรงจูงใจ ขาดพลังงาน รู้สึกไม่กระปรี้กระเปร่า
ถ้ามีอาการตามที่กล่าวมา ก็อาจบ่งบอกได้ว่าร่างกายมีการขับของเสียออกมาได้ไม่ดีเท่าที่ควร โดยเฉพาะในคนที่ขับถ่ายไม่ปกติหรือมีอาการท้องผูก ท้องอืดบ่อยๆ ซึ่งการขับถ่ายไม่ปกตินั้น ก็จะทำให้ร่างกายสะสมของเสียได้ ทั้งนี้ สามารถกระตุ้นการขับถ่ายได้ด้วยการกินอาหารที่มีไฟเบอร์สูง หรืออาหารเสริมที่มีไฟเบอร์ ซึ่งไฟเบอร์จะไปกระตุ้นระบบขับถ่ายของเราให้ทำงานได้ดีขึ้น แล้วไฟเบอร์คืออะไร ? ทำไมถึงช่วยในเรื่องการขับถ่ายได้ ไปอ่านในส่วนต่อไปกันเลยค่ะ
ไฟเบอร์ คืออะไร สำคัญยังไงกับระบบขับถ่ายของเรา ?
ไฟเบอร์หรือใยอาหารนั้น เป็นส่วนต่างๆ ของพืชที่ร่างกายมนุษย์ไม่สามารถย่อยหรือดูดซึมได้ เป็นสิ่งที่ไม่เหมือนกับสารอาหารอื่นๆ เช่น ไขมัน โปรตีน หรือคาร์โบไฮเดรต ที่ร่างกายสามารถย่อยสลายและดูดซึมได้ แต่กับไฟเบอร์นั้นจะไม่ถูกย่อย และจะผ่านเข้าไปในกระเพาะอาหาร ลำไส้เล็ก ลำไส้ใหญ่ และออกจากร่างกายไป ทั้งนี้ ไฟเบอร์หรือใยอาหารมีทั้งประเภทที่ละลายน้ำได้และประเภทที่ไม่ละลายน้ำ
สำหรับประเภทที่ละลายน้ำได้ จะสร้างวัสดุคล้ายเจลเมื่ออยู่ในน้ำ สามารถช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลและน้ำตาลในเลือดได้ ไฟเบอร์ที่ละลายน้ำได้มีอยู่ในข้าวโอ๊ต ถั่วลันเตา ถั่ว แอปเปิ้ล แครอท ข้าวบาร์เลย์ ผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว เป็นต้น ส่วนประเภทที่ไม่ละลายน้ำ จะสามารถพองตัวได้ คล้ายกับฟองน้ำ เป็นการเพิ่มกากใยและปริมาณน้ำในกระเพาะอาหาร ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบขับถ่ายให้เป็นปกติ ทำให้ลำไส้บีบตัวและเคลื่อนไหวได้ดีขึ้น และช่วยเพิ่มปริมาณอุจจาระ ดังนั้นจึงเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่มีปัญหาท้องผูกหรืออุจจาระไม่ปกติ พบได้ในแป้งโฮลวีต รำข้าวสาลี ถั่วแระ กล้วย และผักต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นผักใบเขียวหลากชนิด กะหล่ำดอก ถั่วเขียว มันฝรั่ง แครอท และพืชหัวอื่นๆทั้งนี้ ไฟเบอร์ที่ไม่ละลายน้ำยังช่วยดีท็อกซ์ลำไส้ ช่วยกำจัดของเสียที่คั่งค้างในลำไส้ ทำหน้าที่คล้ายกับเป็นไม้กวาดในทางเดินระบบอาหาร และช่วยทำความสะอาดระบบทางเดินอาหารนั่นเอง
เกร็ดสุขภาพ : นอกจากไฟเบอร์จะช่วยทำให้ระบบขับถ่ายของเราทำงานเป็นปกติแล้ว ไฟเบอร์ยังช่วยทำให้อิ่มนาน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด เพราะมีคุณสมบัติชะลอการดูดซึมน้ำตาลและไขมัน ลดความเสี่ยงในการเป็นโรคเบาหวาน ช่วยลดโอกาสเสี่ยงในการเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ เพราะถ่ายอุจจาระได้ง่ายและไม่มีการสะสมของเสียไว้ในร่างกาย ทั้งนี้ เราควรรับประทานไฟเบอร์วันละ 25 – 38 กรัมต่อวัน และดื่มน้ำมากๆ เพื่อให้ไฟเบอร์ทำงานได้ดีขึ้นและเคลื่อนที่ในลำไส้ได้สะดวกมากขึ้น
กระจ่างข้อสงสัย ไฟเบอร์กับดีท็อกต่างกันยังไง ?
ในบางคนอาจจะกำลังสับสนอยู่ว่า ไฟเบอร์กับดีท็อก แตกต่างกันอย่างไร ? ใยอาหารหรือไฟเบอร์ คือ สิ่งที่จะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสามารถขับถ่ายของเสียหรืออุจจาระออกมาได้อย่างเป็นปกติ เป็นตัวช่วยให้ระบบขับถ่ายของเราทำงานได้ดีขึ้น ซึ่งการขับถ่ายนั้น ก็คือการดีท็อกซ์อย่างหนึ่ง การดีท็อกซ์ คือการกำจัดสารพิษและของเสียออกจากร่างกาย เป็นการล้างสารพิษออกจากร่างกายเพื่อให้ระบบต่างๆ ภายในร่างกายสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และทำให้เรามีสุขภาพที่ดีขึ้น ในตอนนี้ก็คงหายสงสัยกันแล้วว่าไฟเบอร์กับดีท็อกต่างกันยังไง ทั้งนี้ เราสามารถกำจัดสารพิษในร่างกายได้ด้วยวิธีต่างๆ ดังต่อไปนี้
1. จำกัดปริมาณสารพิษที่เข้าสู่ร่างกาย
เราสามารถลดการสัมผัสกับสารเคมีได้โดยทำการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น เปลี่ยนขวดน้ำพลาสติกเป็นแก้วแบบใช้ซ้ำได้หรือขวดน้ำสแตนเลส เพื่อลดการสัมผัสพลาสติกและสารเคมีที่เกี่ยวข้อง กรองน้ำสำหรับทำอาหารและอาบน้ำ ซึ่งช่วยลดการสัมผัสกับฟลูออไรด์ คลอรีน ไมโครพลาสติก โลหะหนัก และอื่นๆ รวมถึงติดกรองอากาศภายในอาคาร เพื่อลดการสัมผัสกับเชื้อรา ฝุ่น อนุภาค และ สารเคมีจากมลพิษทางอากาศภายในอาคาร เลือกอาหารออร์แกนิกที่ปลอดสารพิษเพื่อลดการสัมผัสสารกับสารเคมีอย่างยาฆ่าแมลงและยาฆ่าวัชพืชต่างๆ
2. ดื่มชาสมุนไพร
อีกหนึ่งวิธีสำหรับการทำดีท็อกซ์ คือการดื่มชาสมุนไพร สมุนไพรบางชนิดนั้นมีประวัติการใช้เพื่อขับสารพิษมาอย่างยาวนาน และสมุนไพรสามารถนำมาทำเป็นชาที่มีรสชาติดีได้ หรือจะใช้เป็นสารสกัดจากสมุนไพรก็ได้เช่นกัน ซึ่งชาสมุนไพรที่นิยมกันก็คือชาเขียว อันประกอบด้วย EGCG ซึ่งเป็นโพลีฟีนอลที่มีประสิทธิภาพในการส่งเสริมให้ร่างกายสามารถขับสารพิษได้ดีขึ้น
3. ดื่มน้ำให้เพียงพอ
การดื่มน้ำจะช่วยให้ไตสามารถขับล้างสารพิษได้ดีขึ้น โดยปกติแล้ว เราควรดื่มน้ำวันละ 1.5 ลิตร เพื่อรักษาความสมดุลของน้ำในร่างกาย หากดื่มน้ำไม่เพียงพอ จะทำให้ส่งผลเสียหลายประการ ทำให้เกิดความเหนื่อยล้า มีอาการกระหายน้ำ ปากแห้ง รู้สึกไม่สดชื่น ปัสสาวะมีสีเข้ม และการดื่มน้ำน้อยยังส่งผลต่อระบบขับถ่ายของเราอีกด้วย หากดื่มน้ำอย่างเพียงพอ ก็จะทำให้ร่างกายขับถ่ายได้คล่องขึ้น และช่วยลดอาการท้องผูกได้
4. ทำกิจกรรมเรียกเหงื่อ
เราสามารถขับสารพิษออกจากร่างกายผ่านการขับเหงื่อได้ ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายอย่างหนัก หรือการอบซาวน่าก็เป็นวิธีการขับเหงื่อที่ดี การอบซาวน่า ช่วยอะไรได้บ้าง ? นอกจากจะเป็นการขับของเสียออกมาทางเหงื่อแล้ว ซาวน่ายังช่วยทำให้เราผ่อนคลาย ช่วยลดอาการเจ็บปวด ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด และทำให้ผิวพรรณสดใสขึ้นด้วย
5. นอนหลับอย่างมีคุณภาพ
กระบวนการซ่อมแซมฟื้นฟูต่างๆ ของร่างกายเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เรานอนหลับ รวมถึงการดีท็อกซ์ผ่านระบบน้ำเหลืองด้วยเช่นกัน ดังนั้นการนอนหลับให้เพียงพอและนอนหลับอย่างมีคุณภาพในแต่ละคืนจึงมีความสำคัญต่อการดีท็อกซ์ รวมถึงการฟื้นตัวจากอาการเจ็บป่วยที่เกี่ยวข้องกับสารพิษอีกด้วย
6. ขับถ่ายเป็นประจำ
อย่างที่กล่าวกันไปในข้างต้นว่า การขับถ่ายคือการดีท็อกซ์อีกวิธีหนึ่ง เพราะสารพิษจำนวนมากถูกขับออกจากร่างกายผ่านระบบย่อยอาหาร สารพิษพวกนี้จะถูกจับกับไฟเบอร์ในทางเดินอาหาร หากไม่ได้ขับถ่ายเป็นประจำ สารพิษเหล่านี้จะถูกดูดซึมกลับเข้าสู่ร่างกายและทำให้ขับถ่ายออกมาได้ยาก ทั้งยังทำให้ท้องผูกและส่งผลเสียต่อสุขภาพโดยรวมอีกด้วย
เกร็ดสุขภาพ : การรับประทานอาหารที่มีโพรไบโอติกนั้นจะช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่เป็นประโยชน์ในลำไส้ของเรา และยังดีต่อการล้างพิษในร่างกายอีกด้วย นอกจากการกินอาหารที่มีไฟเบอร์สูง การดื่มน้ำมากๆ และเคลื่อนไหวร่างกายบ่อยๆ แล้ว การรับประทานอาหารที่มีโพรไบโอติก ธรรมชาติ ก็จะช่วยให้ลำไส้ของเรามีสุขภาพที่ดีได้ ซึ่งอาหารที่มีโพรไบโอติกก็ได้แก่ โยเกิร์ต นมเปรี้ยว เทมเป้ กิมจิ มิโซะ นัตโตะ คอมบูชา ขิงดอง คอทเทจชีส ดาร์กช็อกโกแลต เป็นต้น
แนะนำวิตามิน-อาหารเสริม
ตอนนี้ก็ได้ทราบกันแล้วว่า วิธีการดีท็อกซ์ร่างกายนั้น สามารถทำได้อย่างไรบ้าง ทั้งนี้ การขับถ่ายเป็นประจำจะช่วยให้ร่างกายขับสารพิษออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ และส่งผลดีต่อสุขภาพของเรา ซึ่งตัวช่วยในการขับถ่ายที่ดีก็คือไฟเบอร์นั่นเอง สำหรับบางคนไม่ค่อยชอบกินผักผลไม้ ก็อาจจะไม่ได้รับไฟเบอร์หรือใยอาหารในปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ดังนั้น การรับประทานอาหารเสริมในกลุ่มไฟเบอร์ ก็จะช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบขับถ่ายได้ดีขึ้น
1. ไฟเบอร์ ของ DONUTT
ผลิตภัณฑ์นี้มีส่วนประกอบสำคัญคือ
- ฟรุคโตโอลิโกแซคคาไรด์ ที่เป็นเส้นใยอาหารชนิดละลายน้ำ มีคุณสมบัติในการช่วยบรรเทาอาการท้องผูก ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของเซลล์เยื่อบุผิวของลำไส้ จึงช่วยป้องกันโรคลำไส้อักเสบ ช่วยลดคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอร์ไรด์ในเลือด ลดความเสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุน เนื่องจากช่วยเรื่องการดูดซึมของแคลเซียม
- ไซเลี่ยมฮัสค์ เมื่อละลายน้ำ มีสารสำคัญคือมิวซิเลจ ซึ่งแก้อาการท้องผูก ช่วยเรื่องริดสีดวงทวาร
- ต้นอ่อนข้าวสาลี อุดมไปด้วยกรดอะมิโน วิตามิน และแร่ธาตุที่มีประโยชน์จำนวน ช่วยล้างสารพิษตกค้างในตับ ขับล้างสารพิษออกจากร่างกาย
- สารสกัดจากอัลฟาฟ่า
- สารสกัดจากผลส้มแขก
- สารสกัดจากบร็อกโคลี
- ผงสาหร่ายสไปรูลิน่า ที่แก้ปัญหาท้องผูก ทำให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น บรรเทาอาการริดสีดวงทวาร ดังนั้นหากต้องการไฟเบอร์ ยี่ห้อไหนดีที่มีส่วนประกอบสำคัญที่หลากหลาย คำตอบคือไฟเบอร์ ของ DONUTT
วิธีกิน : ละลายผลิตภัณฑ์ 1 ซอง ในน้ำธรรมดาหรือน้ำเย็น 1 แก้ว (150 -200 มล.) คนจนกระทั่งละลายหมด ดื่มก่อนนอน
ขนาดบรรจุ : 10 ซอง/กล่อง
ราคาโดยประมาณ : 120 – 129 บาท
2. ไฟเบอร์ เอ็กซ์ ของ Renatar
ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมของ Renatar มีไฟเบอร์สูง ช่วยในเรื่องการขับถ่าย ทำให้เราขับถ่ายได้ง่ายขึ้นเพราะมี Prebiotic และ Phytonutrients อีกทั้งยังเสริมสร้างภูมิคุ้มกันลึกถึงระดับเซลล์ด้วยนวัตกรรมใหม่ล่าสุดที่ชื่อว่า Celltuin ลิขสิทธิ์แห่งแรกแห่งเดียวในประเทศไทย
วิธีกิน : ชงกับน้ำเย็น 200 มล. ดื่มก่อนนอน และดื่มน้ำตามอีก 1 แก้วหลังดื่มไฟเบอร์
ขนาดบรรจุ : 7 ซอง/กล่อง
ราคาโดยประมาณ : 355 บาท
3. ไบโอ โกโก้ มิกซ์ ดีท็อกซ์
ไบโอ โกโก้ มิกซ์ ดีท็อกซ์ เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ช่วยให้ระบบขับถ่ายของเราดีขึ้น มีสารสกัดจากธรรมชาติหลายชนิด ทั้งสารสกัดจากส้มแขก สารสกัดจากแอปเปิ้ล สารสกัดจากถั่วขาว และอื่นๆ มีไฟเบอร์ทำให้ขับถ่ายได้ง่าย สบายท้อง ใครที่ชอบดื่มโกโก้อยู่แล้วจะต้องถูกใจ เพราะรสชาติดี รับประทานได้ง่าย หอมกลมกล่อมได้รสโกโก้เต็มๆ
วิธีกิน : รับประทานวันละ 1 – 2 ซองพร้อมมื้อเที่ยงหรือมื้อเย็น ฉีกซองเทผสมน้ำร้อนหรือน้ำอุ่นปริมาณ 100 – 150 มล. คนให้ละลาย และดื่มทันที
ขนาดบรรจุ : 12 ซอง/กล่อง
ราคาโดยประมาณ : 145 – 149 บาท
ตอนนี้ก็เป็นที่กระจ่างกันแล้วว่า ดีท็อกซ์ คืออะไร และมีความสำคัญกับสุขภาพร่างกายของเราอย่างไร ถ้าร่างกายไม่ได้ทำการดีท็อกซ์ ก็จะไม่ได้ขับสารพิษออกมา ถ้าหากร่างกายมีการสะสมสารพิษและของเสียในปริมาณมากๆ ก็จะส่งผลต่อสุขภาพโดยรวมได้ ทำให้เราเจ็บป่วยบ่อย ร่างกายไม่แข็งแรง ไม่สดชื่น ซึ่งวิธีการดีท็อกซ์นั้นก็ทำได้หลายวิธี หลักๆ ที่ควรทำคือ การขับถ่ายอย่างเป็นประจำและการทำกิจกรรมเรียกเหงื่ออย่างการออกกำลังกาย เพราะดีต่อสุขภาพโดยรวม รวมถึงการนอนหลับที่มีคุณภาพและนอนหลับอย่างเพียงพอ ก็มีความสำคัญต่อการดีท็อกซ์ด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ สำหรับคนที่สงสัยว่า ไฟเบอร์กับดีท็อกต่างกันยังไง ก็คงจะได้คำตอบเป็นที่เรียบร้อยแล้วนะคะ และอย่าลืมรับประทานไฟเบอร์กันเป็นประจำ เพื่อเป็นการส่งเสริมการทำงานของระบบขับถ่ายให้ทำงานเป็นปกติด้วยนะคะ
อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : doconline.com, parashospitals.com, annshippymd.com, health.com, mayoclinic.org
Featured Image Credit : vecteezy.com/Seksak Kerdkanno
ติดตามเราได้ที่ … เฟสบุ๊ค : เกร็ดสุขภาพ