“เพื่อสุขภาพ” ชุมชนสุขภาพ เรื่องราวตรงใจ ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย รุ่นไหนก็รัก ♡
ชวนสังเกต ท้องนอกมดลูกมีอาการอย่างไร ? ใครวางแผนตั้งครรภ์ต้องระวัง !
สำหรับคู่แต่งงานที่ต้องการจะมีบุตร การตั้งครรภ์ถือว่าเป็นข่าวดีมากๆ สำหรับคู่รักที่ต้องการจะมีลูกน้อยมาเติมเต็มครอบครัว ซึ่งในระหว่างตั้งครรภ์ คุณแม่ก็จะต้องดูแลตัวเองมากๆ เพื่อให้มีสุขภาพแข็งแรงอยู่เสมอและตั้งครรภ์ได้อย่างปลอดภัย อย่างไรก็ตาม ก็อาจมีความผิดปกติของการตั้งครรภ์ได้เช่นกัน อย่างเช่นภาวะท้องลม ครรภ์เป็นพิษ เป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์ รวมถึงมีภาวะตั้งครรภ์นอกมดลูก ที่อาจเกิดขึ้นได้เช่นกัน แม้ภาวะผิดปกติต่างๆ ดังกล่าวจะเกิดขึ้นน้อยมากๆ ก็ตาม ในบทความนี้ จะพาไปรู้จักกับการตั้งครรภ์นอกมดลูก หรือท้องนอกมดลูกให้มากขึ้นกัน ท้องนอกมดลูกมีอาการอย่างไร เกิดจากอะไร อันตรายมากหรือไม่ ใครที่กำลังวางแผนจะเป็นคุณแม่มือใหม่จะได้ดูแลตัวเองให้มากขึ้นกัน ไปอ่านได้เลยค่ะ
ท้องนอกมดลูกมีอาการอย่างไร ? ชวนรู้จัก “ภาวะท้องนอกมดลูก” ให้มากขึ้นกัน
ตามปกติแล้ว หากอสุจิได้รับการผสมกับไข่และเกิดการปฏิสนธิ ไข่ที่ได้รับการปฏิสนธิจะเคลื่อนตัวไปยังผนังมดลูกเพื่อฝังตัวและเจริญเติบโตเป็นทารกต่อไป ทำให้เกิดการตั้งครรภ์ขึ้น แต่ภาวะท้องนอกมดลูก หรือ Ectopic Pregnancy เป็นภาวะที่ไข่ได้รับการผสมกับอสุจิแล้วกลายเป็นตัวอ่อนเคลื่อนที่ไปฝังตัวในบริเวณอื่นที่ไม่ใช่ผนังมดลูก มักจะเกิดขึ้นในบริเวณท่อนำไข่หรือบริเวณปีกมดลูก ซึ่งทำให้ตัวอ่อนไม่สามารถเติบโตเป็นทารกต่อไปได้ และถ้าหากไม่ได้รับการรักษา จะเกิดเป็นเนื้อเยื่อเจริญเติบโต ซึ่งจะสร้างความเสียหายให้แก่ท่อนำไข่ที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ ทั้งนี้ ยังสามารถพบการตั้งครรภ์ในบริเวณอื่น เช่น ปากมดลูก ในรังไข่ หรือในช่องท้องได้ด้วย ถ้าหากพบว่ามีการตั้งครรภ์นอกมดลูก จะต้องยุติการตั้งครรภ์ทันที แล้วท้องนอกมดลูกมีอาการอย่างไร ? จะสังเกตได้ยังไง ไปดูพร้อมๆ กันเลยค่ะ
เกร็ดสุขภาพ : การท้องนอกมดลูกมักเกิดขึ้นที่บริเวณท่อนำไข่เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งท่อนำไข่ในเพศหญิงมีขนาดเล็กมากและไม่สามารถขยายตัวได้เหมือนมดลูก เมื่อไข่ที่ได้รับการผสมแล้วไปฝังตัวและมีการเจริญเติบโต ทำให้เนื้อเยื่อท่อนำไข่ฉีกขาด ทำให้มีเลือดออกในปริมาณมาก ซึ่งทำให้เสียเลือดมากจนอาจมีอาการช็อกได้ หรือในกรณีที่พบได้ไม่บ่อยแต่อันตรายมากคือ ไข่ไปฝังตัวที่อวัยวะภายในช่องท้อง หากตัวอ่อนมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องอาจทำให้อวัยวะนั้นๆ ฉีกขาด และทำให้มีเลือดออกเป้นจำนวนมาก จนถึงขั้นอันตรายต่อชีวิตได้
ท้องนอกมดลูกมีอาการอย่างไร ? ชวนสังเกตอาการที่เกิดขึ้น
ในระยะแรกของการตั้งครรภ์นอกมดลูกนั้น มักจะมีอาการคล้ายกับการตั้งครรภ์ทั่วไป เช่น ประจำเดือนขาด มีเลือดไหลออกทางช่องคลอดเล็กน้อย มีอาการคัดหน้าอก เจ็บหน้าอก คลื่นไส้ อาเจียน รู้สึกเวียนศีรษะ เมื่อตรวจการตั้งครรภ์ด้วยการตรวจปัสสาวะ จะได้ผลว่ากำลังตั้งครรภ์ แต่สำหรับคนที่กังวลว่า แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าตั้งครรภ์นอกมดลูก ท้องนอกมดลูก ตรวจเจอไหม ? ถ้าพบว่ามีอาการเหล่านี้ ควรไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยให้เร็วที่สุด
- มีเลือดออกกะปริบกะปรอย เนื่องจากตัวอ่อนฝังตัวในจุดที่ไม่เหมาะสม จึงทำให้มีเลือดออกได้
- ปวดท้องน้อยข้างใดข้างหนึ่ง ในกรณีที่ตัวอ่อนไปฝังตัวอยู่ในบริเวณท่อนำไข่ และเมื่ออัลตราซาวด์ดูจะไม่พบตัวอ่อนทารกอยู่ในโพรงมดลูก
- รู้สึกปวดบริเวณอุ้งเชิงกราน
- มีเลือดออกจากช่องคลอดเป็นจำนวนมาก
- ปวดไหล่ ปวดคอ ปวดบริเวณทวารหนัก
- มีอาการหน้ามืดเป็นลม มีภาวะซีด
หากมีอาการดังกล่าว ให้รีบไปพบแพทย์ทันที เพราะถ้าหากปล่อยทิ้งไว้ อาจมีการเสียเลือดมาก และทำให้เกิดภาวะช็อก อันตรายถึงชีวิตได้
เกร็ดสุขภาพ : ในผู้ที่มีภาวะตั้งครรภ์นอกมดลูก อาจจะรู้สึกปวดไหล่ ปวดคอได้ ซึ่งเกิดจากการที่มีเลือดออกตรงบริเวณช่องท้องเป็นจำนวนมาก จนขึ้นไปถึงกระบังลม ซึ่งมีเส้นประสาทที่เชื่อมต่อกับบริเวณไหล่อยู่ ทำให้มีอาการเจ็บไหล่ ปวดไหล่ ถ้าหากมีอาการดังกล่าวควรรีบไปพบแพทย์ให้เร็วที่สุด เพราะอาจมีอาการรุนแรงจนช็อกและเสียชีวิตได้
สาเหตุของการตั้งครรภ์นอกมดลูก
ตอนนี้ก็ได้ทราบแล้วว่า ท้องนอกมดลูกมีอาการอย่างไร หากใครที่กำลังวางแผนตั้งครรภ์ก็ไม่ต้องกังวลใจจนเกินไปนะคะ เพราะความเครียดก็ส่งผลต่อการตั้งครรภ์ของเราได้ เพียงแต่ว่าถ้ามีอาการผิดปกติใดๆ การไปพบแพทย์ก็เป็นวิธีที่ดีที่สุด จะได้วินิจฉัยได้อย่างถูกต้องและรักษาได้ทันท่วงที ทีนี้เรามาดูกันว่า สาเหตุของการตั้งครรภ์นอกมดลูกนั้น มีอะไรบ้าง
- ตั้งครรภ์เมื่อตอนอายุมาก หรือตั้งครรภ์เมื่อมีอายุ 35 ปีขึ้นไป เนื่องจากมีความเสี่ยงที่อวัยวะในระบบสืบพันธ์ุจะเกิดการเปลี่ยนแปลงหรือมีประสิทธิภาพลดลง
- มีประวัติท้องนอกมดลูกมาก่อน
- เคยผ่าตัดในบริเวณช่องท้อง อุ้งเชิงกราน และท่อนำไข่มาก่อน
- เคยเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
- สูบบุหรี่ เนื่องจากสารนิโคตินในบุหรี่ทำให้เกิดการตั้งครรภ์นอกมดลูกได้
- ใช้ยาคุมฉุกเฉิน หรือคุมกำเนิดด้วยห่วงอนามัย
- มีความผิดปกติของท่อนำไข่
- มีความผิดปกติของการพัฒนาตัวอ่อนหลังเกิดการปฏิสนธิ
- เกิดความไม่สมดุลของฮอร์โมนในกระบวนการตั้งครรภ์
- เป็นผู้ที่อยู่ในภาวะมีบุตรยาก
ท้องนอกมดลูก ตรวจเจอไหม ? สามารถตรวจได้อย่างไร
สำหรับใครที่กำลังวางแผนตั้งครรภ์และมีความกังวลว่า ตนจะตั้งครรภ์นอกมดลูกไหม หากทราบว่า ท้องนอกมดลูกมีอาการอย่างไร และประเมินตนเองว่ามีอาการดังกล่าว ให้รีบมาที่โรงพยาบาลทันที ซึ่งแพทย์จะทำการตรวจดังนี้
- ทำการซักประวัติ เช่น ช่วงที่ประจำเดือนขาด การคุมกำเนิด โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ประวัติการท้องนอกมดลูกจากการตั้งครรภ์ครั้งก่อน และอาการผิดปกติอื่นๆ เช่น ปวดท้อง หน้ามืด เป็นลม มีเลือดออกทางช่องคลอด เป็นต้น
- ทำการตรวจร่างกาย อาจพบว่ามีชีพจรเต้นเร็ว มีความดันโลหิตต่ำ มีอาการปวดท้อง กดแล้วเจ็บ หากตรวจภายในอาจพบเลือดออกทางช่องคลอด ร่วมกับอาการปวดท้องน้อยด้วย
- ตรวจทางห้องปฏิบัติการ โดยการตรวจปัสสาวะเพื่อยืนยันการตั้งครรภ์ ตรวจเลือดเพื่อดูความเข้มข้นของเม็ดเลือด เนื่องจากบางคนอาจมีภาวะเลือดจาง มีภาวะซีดเนื่องจากมีเลือดออกมาก ร่วมกับการอัลตราซาวด์เพื่อดูการตั้งครรภ์ หากไม่พบการตั้งครรภ์ในโพรงมดลูก ก็อาจพบการตั้งครรภ์บริเวณปีกมดลูก หรือพบเลือดออกในช่องท้องได้ ซึ่งจะต้องทำการรักษาต่อไป
ท้องนอกมดลูก รักษาได้อย่างไร ?
เมื่อได้รับการวินิจฉัยว่ามีภาวะตั้งครรภ์นอกมดลูก แพทย์จะให้ทำการยุติการตั้งครรภ์ทันที เนื่องจากตัวอ่อนที่ฝังตัวอยู่นอกมดลูกจะไม่สามารถเจริญเติบโตเป็นทารถได้ ทั้งยังทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพและอาจทำให้เกิดปัญหาการเจริญพันธ์ุในอนาคตอีกด้วย ซึ่งมีวิธีการรักษาดังนี้
- รักษาด้วยการใช้ยา โดยการใช้ยาที่ยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์ ซึ่งก็คือยา Methotrexate โดยยาตัวนี้จะมีผลข้างเคียงคล้ายกับอาการแท้งลูก คือ ทำให้ชาหรือปวดเกร็งหน้าท้อง มีเลือดไหลออกทางช่องคลอด เป็นต้น
- รักษาด้วยการผ่าตัด เพื่อทำการนำตัวอ่อนที่ฝังตัวอยู่ในบริเวณนอกมดลูกออกไป รวมถึงทำการซ่อมแซมเนื้อเยื่อบริเวณที่ได้รับความเสียหาย
- การรักษาภาวะอื่นๆ ซึ่งเป็นภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากการท้องนอกมดลูก อาทิ ต้องได้รับเลือดหากมีการเสียเลือดมาก หรือรักษาอาการอักเสบอื่นๆ เป็นต้น
ท้องนอกมดลูกมีอาการอย่างไร ก็ได้ทราบกันไปเรียบร้อยแล้ว สำหรับใครที่กำลังวางแผนตั้งครรภ์ก็ไม่ต้องกังวลไปนะคะ เพียงแต่ว่า รู้เอาไว้ก็จะได้สังเกตอาการตัวเองในระหว่างตั้งครรภ์ให้มากขึ้น เพราะสำหรับคู่รักที่ต้องการมีบุตรแล้ว นอกจากวิธีนับวันตกไข่เพื่อให้เกิดการปฏิสนธิและตั้งครรภ์ได้แล้ว การดูแลตนเองในระหว่างตั้งครรภ์ก็สำคัญมากๆ อีกเช่นกัน เพื่อให้ทั้งคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์มีสุขภาพแข็งแรงและตั้งครรภ์ได้อย่างปลอดภัย และไม่ต้องกลัวว่า ท้องนอกมดลูก ตรวจเจอไหม หากมีอาการผิดปกติใดๆ ในระหว่างตั้งครรภ์ ควรไปพบแพทย์ทันที เพราะถ้ามีภาวะต้องครรภ์นอกมดลูกจริง ก็จะได้รักษาให้ทันท่วงที โดยที่ไม่ก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงถึงชีวิตค่ะ
อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : mccormickhospital.com, samitivejhospitals.com, my.clevelandclinic.org, nhs.uk
Featured Image Credit : freepik.com/senivpetro
ติดตามเราได้ที่ … เฟสบุ๊ค : เกร็ดสุขภาพ