“เพื่อสุขภาพ” ชุมชนสุขภาพ เรื่องราวตรงใจ ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย รุ่นไหนก็รัก ♡
ปากแห้ง ขาดวิตามินอะไร ? ป้องกันยังไง รักษายังไง ?!
การมีริมฝีปากแตกเป็นหนึ่งในปัญหาสุขภาพของคนในวัยหนุ่มสาว ซึ่งต้องใช้ชีวิตกับการพบปะผู้คนอยู่แทบทุกวัน และปัญหากับริมฝีปากก็อาจทำให้เพื่อนๆ ต้องเสียความมั่นใจในการใช้ชีวิต ท้ายที่สุดแล้ว การรับมือกับริมฝีปากแห้งลอกก็อาจจะไม่ใช่เรื่องสนุกอีกต่อไป เมื่อปัญหานี้นำไปสู่จุดที่ริมฝีปากนั้นมีเลือดออก ดังนั้นจึงอยากให้เพื่อนๆ รู้ว่าสาเหตุที่ปากแห้ง ขาดวิตามินอะไร ต้องเสริมอย่างไร รวมทั้งจะมีวิธีป้องกัน และรักษาปากแห้งได้อย่างไร ตลอดจนแนะนำวิตามิน-อาหารเสริมที่เกี่ยวกับอาการปากแห้ง ทั้งรายละเอียด ราคา และช่องทางการซื้อออนไลน์
อยากมีริมฝีปากสวย ต้องรู้ว่า ปากแห้ง ขาดวิตามินอะไร ?
ปัญหาปากแห้ง แตก ดื่มน้ำเยอะแต่ก็ยังปากแห้งนั้นมีที่มาจากหลายสาเหตุ แต่ก่อนอื่นต้องทำความรู้จักกับริมฝีปากของตนเองก่อน ริมฝีปากของคนเรานั้นไม่มีต่อมไขมัน ดังนั้นจึงอาจเป็นเรื่องยากมากที่ริมฝีปากจะเก็บความชุ่มชื้นไว้ การไม่มีต่อมน้ำมันยังหมายความว่าริมฝีปากยังขาดสิ่งที่ทำให้เกิดความชุ่มชื้นตามธรรมชาติ รวมทั้งไม่มีสิ่งที่ปกป้องผิวชั้นนอก ไม่ให้ความชุ่มชื้นหายไป เพราะฉะนั้นต้องระลึกไว้เสมอว่าริมฝีปากนั้นบอบบางกว่าผิวส่วนอื่นๆ
โดยปกติจะสามารถแก้ไขปัญหาปากแห้งแตกได้ภายในสองสัปดาห์ด้วยการเปลี่ยนแปลงวิถีการใช้ชีวิตให้เหมาะสม อย่างไรก็ตาม หากริมฝีปากแย่ลงเรื่อยๆ เช่น เลือดออก มีรอยแตกขนาดใหญ่ รอยแยก เกิดความเจ็บปวด และมีการลอกอย่างสม่ำเสมอ แบบนี้อาจต้องไปพบแพทย์
เกร็ดสุขภาพ : การขาดวิตามินบีต่างๆ อาจส่งผลให้ริมฝีปากแห้ง แตก และแดง อาการเหล่านี้มักมาพร้อมกับผื่นที่ดูคล้ายคลึงกันรอบปาก ปากแห้ง ขาดวิตามินอะไร โดยส่วนใหญ่เกิดจากการขาดวิตามินบี 12 วิตามินนี้ช่วยให้ร่างกายมีการเจริญเติบโต การรักษาเซลล์ และการหมุนเวียนของเซลล์ เมื่อขาดวิตามินบี 12 จะทำให้ผิวแห้งและหายช้า อย่างไรก็ดี ปากแห้ง ขาดวิตามินอะไร อาจมาจากการขาดวิตามินซีซึ่งทำให้ริมฝีปากแห้งได้ แต่สิ่งนี้เกิดขึ้นได้ยากกว่าเนื่องจากอาหารส่วนใหญ่มีวิตามินซีในปริมาณที่แนะนำในแต่ละวันแล้ว วิธีแก้ไขคือ การตรวจเลือด แพทย์จะสามารถระบุได้ว่าการขาดวิตามินที่แน่นอนคืออะไร และสั่งอาหารเสริมที่จำเป็น (หรือแนะนำการปรับเปลี่ยนอาหาร) ทั้งนี้หากขาดวิตามินบี 12 อาหารเสริมวิตามินบี 12 จะช่วยให้ร่างกายกลับมาเป็นปกติเมื่อเวลาผ่านไป
เมื่อขาดวิตามินบี 2 ผม เล็บ และผิวจะกระด้างไม่สวย รวมไปถึงริมฝีปากด้วย ปากแห้ง ขาดวิตามินอะไร คือวิตามินบี 3 สังเกตง่ายๆ ว่าร่างกายขาดวิตามินตัวนี้คือ ปากจะแห้งแตก ผิวหนังอักเสบแดง ลิ้นและปากบวม ปากแห้ง ขาดวิตามินอะไรอีก ขาดวิตามินบี 6 จะทำให้มีอาการปากนกกระจอก แถมผิวพรรณมีปัญหาด้วย ส่วนการขาดสังกะสีเป็นเวลานานๆ ก็มีโอกาสปากแตก เลือดออกได้
อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่อาจทำให้ริมฝีปากแห้งลอกได้ ตั้งแต่การรับประทานอาหารไปจนถึงภาวะด้านสุขภาพที่ร้ายแรง มาดูสาเหตุและวิธีการรักษาริมฝีปากแห้งกันต่อ
• อาหารที่กินมีรสเค็มหรือเผ็ดมาก
ขนมบางชนิด เช่น เพรทเซล หรือมันฝรั่งทอด อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ริมฝีปากลอกได้ อาหารรสเค็มโดยเฉพาะที่มีเกลือติดอยู่รอบๆ จำนวนมาก เวลากินจะทำให้เกลือไปติดที่ริมฝีปาก และส่งผลต่อผิวหนังของริมฝีปาก เกลือนั้นมีความสามารถในการกักเก็บน้ำ จึงสามารถดูดซับน้ำออกจากริมฝีปากและทำให้ปากแตก เลือดออกได้ นอกจากนี้อาหารรสเผ็ด สามารถทำให้เกิดการระคายเคืองผิวและเกิดการสูญเสียน้ำได้เช่นกัน วิธีแก้ไขคือ งดอาหารรสเค็มรสเผ็ดสักพัก แล้วใช้ลิปบาล์มที่ทำจากขี้ผึ้งพาราฟินทาริมฝีปากจนกว่าจะหายดี
• ชอบเลียริมฝีปาก
สำหรับริมฝีปากแห้ง การเลียคือสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง เพราะในน้ำลายประกอบด้วยเอ็นไซม์ที่มีหน้าที่ทำลายไขมัน โปรตีน และคาร์โบไฮเดรต ซึ่งเป็นสิ่งที่ประกอบกันขึ้นมาเป็นริมฝีปากของเรา หรืออาจจะพูดแบบง่ายๆ ก็คือ ทุกครั้งที่เลียริมฝีปาก เรากำลังย่อยริมฝีปากของเราอยู่ วิธีแก้ไขคือ พกมอยส์เจอไรเซอร์สำหรับริมฝีปากติดตัวไปด้วยเสมอ แล้วก็ใช้ทุกครั้งที่เผลอไปเลีย หรือลองปรับพฤติกรรมโดยหันเหความสนใจมาที่นิ้วแทน จะบีบนิ้วหรือถูนิ้วก็ได้
• ปล่อยให้ริมฝีปากเผชิญกับแสงแดดโดยตรง
ริมฝีปากมักจะเป็นพื้นที่บนใบหน้าที่ขาดการป้องกันรังสียูวี ดังนั้นหากอยู่กลางแดดโดยไม่ได้ทาลิปบาล์มที่มี SPF ก็มีโอกาสที่ผิวริมฝีปากจะแห้งและลอก แสงจากดวงอาทิตย์ดึงน้ำออกจากริมฝีปากและปล่อยให้แห้งขึ้น ทั้งที่ตามปกติก็แห้งตามธรรมชาติอยู่แล้ว นอกจากนี้ อาการอักเสบจากการถูกแดดเผาอาจทำให้ปากแตก เลือดออกได้ วิธีแก้ไขคือ ใช้การเยียวยาแบบเดียวกับผิวไหม้จากแดด เช่น ว่านหางจระเข้และยาแก้ผิวอักเสบ
• ขาดน้ำ
เซลล์ผิวบนริมฝีปากสามารถแห้งได้อย่างรวดเร็ว และมีแนวโน้มที่จะแห้งมากขึ้นหากร่างกายไม่ได้รับความชุ่มชื้นอย่างเหมาะสม สิ่งนี้สามารถเกิดขึ้นได้ทุกช่วงเวลาของปี แต่จะมีอาการมากขึ้นในฤดูหนาว วิธีแก้ไขคือ ดื่มน้ำให้มากขึ้น แนะนำให้ดื่มน้ำประมาณ 11.5 ถ้วยต่อวัน ทั้งจากน้ำและจากอาหาร โดยอาจจะเลือกสมูทตี้ทับทิม-ฝรั่ง ที่เป็นเครื่องดื่มในเมนูอาหารที่มีวิตามินซีสูงมาดื่มทดแทนน้ำก็ได้
• ต้องเผชิญกับอากาศแห้งตลอดเวลา
ไม่ว่าจะอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีความชื้นต่ำตลอดทั้งปี หรือความชื้นเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาลที่เปลี่ยนไป อากาศแห้งจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ริมฝีปากแห้งแตกได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูหนาว ความชื้นที่ลดต่ำลงจะทำให้ริมฝีปากแห้งได้ วิธีแก้ไข คือ จัดการกับอากาศรอบตัว การใช้เครื่องทำความชื้นซึ่งได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อให้ความชื้นเข้าสู่สภาพแวดล้อมก็สามารถช่วยได้
แนะนำวิตามิน-อาหารเสริม
เมื่อเพื่อนรู้ว่าปากแห้ง ขาดวิตามินอะไรแล้ว ทางหนึ่งคือปฏิบัติตามข้อแนะนำข้างต้น อีกทางหนึ่งคือการหาวิตามินอาหารเสริมมากิน ซึ่งก็มีตามที่แนะนำดังนี้
1. วิตามินบี 12 ของ Puritan’s Pride
วิตามินบี 12 นี้มีปริมาณ 1,000 ไมโครกรัม/เม็ด จึงมีประโยชน์ในการช่วยบำรุงประสาท ทำให้ระบบประสาทแข็งแรงขึ้น ช่วยเพิ่มสมาธิ ความจำ และการทรงตัว ช่วยบรรเทาอาการหงุดหงิด ลดความเครียด ช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตและเพิ่มพลังงานให้แก่ร่างกาย ช่วยทำให้เด็กเจริญอาหาร ทำให้ร่างกายสามารถใช้ไขมัน โปรตีน และคาร์โบไฮเดรตได้อย่างเหมาะสม และที่สำคัญเมื่อรู้ว่าปากแห้ง ขาดวิตามินอะไรก็สามารถใช้ประโยชน์ของวิตามินบี 12 ในการรักษา
วิธีกิน : วันละ 1ครั้ง พร้อมอาหาร
ขนาดบรรจุ : 100 เม็ด/กล่อง
ราคาโดยประมาณ : 381 บาท
2. วิตามินซีสูตรผสม ของ Boom
ในผลิตภัณฑ์ของ BOOM นี้ไม่ได้มีแค่วิตามินซีธรรมชาติเท่านั้น ยังมีสารอาหารอื่นด้วย ทำให้ได้รับวิตามินครบ จบใน 1 เม็ด ได้แก่ อะเซโรล่า เชอร์รี่ (ดูดซึมผ่านลำไส้เล็กได้รวดเร็วกว่าวิตามินซีสังเคราะห์ถึง 63 เท่า) ซิตรัส ไบโอฟาลาเวอร์นอย แอลฟ่า-ไลโปอิก แอซิด สารสกัดจากเมล็ดองุ่น (อ่านเรื่องสายพันธ์ุองุ่นเพิ่มเติมได้เลย) สารสกัดจากซีบัคธอร์น (ต่อต้านอนุมูลอิสระได้ดีกว่าการกินส้ม 15 เท่า) วิตามินบี 1 วิตามินบี 6 วิตามินบี 12 และวิตามินดี 3 โดยวิตามินดีมีประโยชน์คือ มีสรรพคุณในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน สร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ชวยลดริ้วรอยก่อนวัย ผิวพรรณสดใส เปล่งปลั่ง ช่วยให้แผลจากสิวหายเร็วขึ้น และซ่อมแซมเนื่อเยื่อเสื่อมสภาพ โดยเฉพาะเมื่อรู้ว่าปากแห้ง ขาดวิตามินอะไร ก็ให้วิตามินนี้ช่วยให้ริมฝีปากกลับมาสวยเหมือนเดิม
วิธีกิน : วันละ 1 เม็ด พร้อมอาหาร
ขนาดบรรจุ : 30 เม็ด/กล่อง
ราคาโดยประมาณ : 139-290 บาท
3. วิตามินบีรวมผสมซิงค์ ของ 21st Century®
ใน 1 เม็ด นอกจากมีวิตามินบีรวม ยังมีวิตามินซี วิตามินอี แคลเซียม ซิงค์ และธาตุทองแดง โดยมีประโยชน์ช่วยให้สมองปลอดโปร่ง ฉับไว อารมณ์แจ่มใส ลดสาเหตุของโรคซึมเศร้า บรรเทาความเครียด บำรุงสมอง เสริมสร้างการเรียนรู้และการจดจำ ให้ความสดชื่น กระปรี้กระเปร่า ร่างกายตื่นตัว แก้อาการเหนื่อยล้า อ่อนเพลียเรื้อรัง ช่วยให้กล้ามเนื้อมีกำลังมากขึ้น เสริมสมรรถะภาพการทำงานของกล้ามเนื้อ และกับอาการปากแห้ง ขาดวิตามินอะไร ก็ให้วิตามินนี้ช่วยให้ริมฝีปากดูดีเหมือนเดิม
วิธีกิน : วันละ 1 เม็ด พร้อมอาหาร
ขนาดบรรจุ : 66 เม็ด/กล่อง
ราคาโดยประมาณ : 455 บาท
วิธีที่ดีที่สุดในการรักษาริมฝีปากแตก เลือดออกคือ ต้องการหลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณที่แตกเป็นขุย เพราะสามารถนำไปสู่การอักเสบ เลือดออก และการระคายเคืองมากขึ้น นอกจากนี้ ยังแนะนำให้งดการทาลิปกลอส ลิปสติกต่างๆ บนริมฝีปาก จนกว่าริมฝีปากจะหายแตก และการใช้ผลิตภัณฑ์วิตามินอาหารเสริมดังกล่าวมาข้างต้นสามารถทำให้อาการปากแห้งแตกบรรเทาลงได้
Featured Image Credit : freepik.com/rawpixel.com
ติดตามเราได้ที่ … เฟสบุ๊ค : เกร็ดสุขภาพ