“เพื่อสุขภาพ” ชุมชนสุขภาพ เรื่องราวตรงใจ ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย รุ่นไหนก็รัก ♡
Chia Seed คือ อะไร ? มีประโยชน์ขนาดไหน มารู้จักกันเถอะ !
มีใครรู้จัก Chia Seed หรือเมล็ดเจียกันบ้างไหมคะ ? Chia Seed คือ อะไร ? เมล็ดเจีย หรือเมล็ดเชีย เป็นธัญพืชชนิดหนึ่ง มีรูปร่างลักษณะคล้ายกับเมล็ดแมงลักแต่มีขนาดเล็กกว่า มีทั้งเมล็ดสีขาว สีดำ บางเมล็ดมีลายเป็นจุดสีน้ำตาล สีครีม สีขาว สีดำ สามารถกินได้เลยโดยที่ไม่ต้องผ่านกระบวนการแปรรูป และเป็นหนึ่งในอาหารเพื่อสุขภาพอีกด้วย ประโยชน์ของเมล็ดเจียมีอะไรบ้าง แล้วกินยังไง ? มารู้จักเมล็ดเจียให้มากขึ้นกันเลยค่ะ
Chia Seed คืออะไร ? ชวนรู้จักของดีเพื่อสุขภาพ
เมล็ดเจียหรือ Chia Seed คือ ธัญพืชตระกูลเดียวกับกะเพรา มีลักษณะคล้ายเมล็ดแมงลัก ถิ่นกำเนิดของเมล็ดเจียมาจากทางตอนใต้ของเม็กซิโก เชื่อกันว่าเป็นอาหารหลักของชาวแอชแท็กโบราณและชาวมายา เพราะให้พลังงานสูง จัดว่าเป็นหนึ่งใน Superfood อีกด้วย เมล็ดเจียมีคุณสมบัติที่พิเศษคือเมื่อโดนน้ำจะพองตัว สามารถกินได้เลยโดยไม่ต้องผ่านกระบวนการแปรรูปใดๆ รสชาติมันและมีรสอ่อนคล้ายถั่ว อุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น โปรตีน ไขมัน คาร์โบไฮเดรต ไฟเบอร์ กรดไขมันโอเมก้า 6 แคลเซียม เหล็ก แมกนีเซียม โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส สังกะสี วิตามินเอ วิตามินบี 1 บี 3 และบี 6 มีโฟเลต และสารต้านอนุมูลอิสระ ทั้งยังได้ชื่อว่าเป็นตัวช่วยในการลดน้ำหนักอีกด้วย
ประโยชน์ของ Chia Seed คืออะไรบ้าง มาดูกัน
1. ช่วยบรรเทาความเครียด
ไม่น่าเชื่อว่า Chia Seed คืออาหารที่ช่วยลดความเครียดได้ เพราะในเมล็ดเจียมีแมกนีเซียม ซึ่งจะช่วยรักษาระดับฮอร์โมนคอร์ติซอลให้ต่ำอยู่เสมอ ถ้าระดับแมกนีเซียมในร่างกายต่ำก็อาจทำให้ปวดศีรษะและเหนื่อยล้าได้ง่าย นอกจากนี้ เมล็ดเจียยังมีทริปโตเฟน ซึ่งเป็นกรดอะมิโนที่ช่วยให้ร่างกายผลิตสารเซโรโทนินที่ช่วยต้านความเครียดได้เป็นอย่างดี ทั้งยังช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายและหลับสบายอีกด้วย
2. ช่วยลดอาการบวม
ในเมล็ดเจียมีสารโพแทสเซียมที่ช่วยลดอาการบวมน้ำได้ และช่วยรักษาสมดุลน้ำในร่างกายได้เป็นอย่างดี เหมาะสำหรับการกินหลังมื้ออาหารรสเค็มหรืออาหารรสจัดที่มีโซเดียมสูงซึ่งจะทำให้ร่างกายบวมน้ำ เช่น ส้มตำ ยำ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ขนมกรุบกรอบ เป็นต้น เมล็ดเจีย วิธีกิน หากต้องการลดบวม จะนำมาแช่น้ำเปล่าแล้วดื่ม หรือผสมกับชาก็ได้ เพียงแค่ใส่เมล็ดเจีย 1 ช้อนโต๊ะ ลงในน้ำ 1 แก้ว รอให้พองตัวและดื่มได้เลย
3. ทำให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดี
Chia Seed คือ เมล็ดพืชที่มีใยอาหารสูง และเป็นเส้นใยในกลุ่มล้างสารพิษ ทั้งยังย่อยง่าย จึงมีส่วนช่วยในการขับถ่ายและช่วยดูดซึมสารพิษตกค้างในลำไส้ได้เป็นอย่างดี ทำให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีและช่วยป้องกันการท้องผูกอีกด้วย
4. ช่วยคุมระดับน้ำตาลในเลือด
มีผลการศึกษารายงานว่า การกินเมล็ดเจียช่วยคุมระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวานได้ดี นอกจากนี้ยังมีผลดีต่อสุขภาพหัวใจด้วย
5. มีส่วนช่วยในการลดน้ำหนัก
เรียกได้ว่าเป็นประโยชน์หลักๆ ของเมล็ดเจียเลยก็ว่าได้ เพราะ Chia Seed คือธัญพืชที่มีคุณสมบัติพองตัวเมื่อโดนน้ำ มันจึงทำให้อิ่มง่าย อิ่มเร็ว แถมยังมีไฟเบอร์และคุณค่าทางอาหารสูง ดีต่อระบบขับถ่ายและยังมีกรดอัลฟาลีโนเลนิก (Alpha-linolenic) ที่เชื่อว่ามีส่วนช่วยลดน้ำหนัก เมล็ดเจียจึงเป็นตัวช่วยสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักได้เป็นอย่างดี
6. ช่วยบำรุงสุขภาพและเพิ่มพละกำลัง
เมล็ดเจียมีกรดไขมันที่ดีต่อร่างกายอย่างกรดไขมันโอเมก้า 6 และยังมีไฟเบอร์รวมถึงคาร์โบไฮเดรตที่ดีต่อสุขภาพ การดื่มน้ำเมล็ดเจียก่อนออกกำลังกาย พบว่าช่วยให้การออกกำลังกายช่วง 90 นาทีแรกมีสมรรถภาพที่ดีขึ้นได้ นอกจากนี้ ในเมล็ดเจียยังมีโปรตีนและฟอสฟอรัสที่ช่วยบำรุงเซลล์เนื้อเยื่อต่างๆ และยังช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรออีกด้วย
7. ช่วยป้องกันโรคความดันโลหิตสูง
มีการศึกษาที่พบว่าผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงที่กินอาหารจากเมล็ดเจียนั้นมีความดันลดลงอย่างเห็นได้ชัด จึงเชื่อว่า Chia Seed คืออีกหนึ่งทางเลือกของการรักษาและบรรเทาอาการของโรคความดันโลหิตสูง รวมถึงลดความเสี่ยงในการเกิดลิ่มเลือดที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้
8. ป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด
เนื่องจากเมล็ดเจียอุดมไปด้วยโปรตีน กรดไขมันที่ดีต่อร่างกายและกรดอัลฟาลิโนเลอิก ทำให้มีส่วนช่วยต้านสารอนุมูลอิสระ ลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด นอกจากนี้ กรดไขมันโอเมก้า 3 และโอเมก้า 6 ที่มีอยู่ในเมล็ดเจียก็ช่วยปรับสมดุลของระบบไหลเวียนเลือดในร่างกาย ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอร์ไรด์ ทำให้เลือดไหลเวียนได้ดีและทำให้หัวใจแข็งแรง
เมล็ดเจีย วิธีกิน กินยังไงได้บ้าง ?
ตอนนี้เราก็รู้แล้วว่า Chia Seed คืออะไร และมีประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างไรบ้าง หลายๆ คนคงอยากจะลองกินเมล็ดเจียขึ้นมาบ้างแล้วใช่มั้ยคะ แล้วเมล็ดเจียกินยังไงได้บ้าง มาดูกันเลยค่ะ
- กินแบบแห้งโดยโรยบนสลัดหรือผสมในเบเกอรี่ต่างๆ
- นำไปโรยบนพิซซ่าหรือสปาเก็ตตี้เพื่อเพิ่มรสชาติ
- ผสมกับน้ำเปล่า สมูทตี้ น้ำเต้าหู้ หรือเครื่องดื่มอื่นๆ
- เอาไปผสมกับเนย เนยถั่ว เนยงาดำ เนยเมล็ดทานตะวัน ฯลฯ แล้วนำเอาไปทาบนขนมปัง
- กินแบบเจล คือนำเมล็ดเจียไปแช่น้ำจนพองเต็มที่แล้วนำไปราดลงบนไอศกรีม สลัดหรือโยเกิร์ต
- สำหรับผู้ใหญ่สามารถกินเมล็ดเจียได้ 2 ช้อนโต๊ะต่อวันหรือประมาณ 15 กรัม
- ผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือดควรกินเมล็ดเจียป่นในปริมาณ 30 กรัมทุก 3 เดือน
เกร็ดสุขภาพ : แม้ว่าเมล็ดเจียจะมีประโยชน์หลายอย่าง แต่ก็ไม่ได้เหมาะกับทุกคน ผู้มีปัญหาสุขภาพบางประการควรงดการกินเมล็ดเจีย ได้แก่ ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบกระเพาะอาหารและลำไส้ ผู้ที่มีปัญหาเรื่องระบบย่อยอาหาร ผู้ที่ต้องเข้ารับการศัลยกรรม ผ่าตัด หรือ หรือผู้ที่มีปัญหาภาวะเลือดแข็งตัวช้า ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตต่ำเพราะเมล็ดเจียมีส่วนช่วยลดความดันโลหิต หญิงที่อยู่ระหว่างตั้งครรภ์หรือช่วงให้นมบุตร รวมถึงผู้ที่มีภาวะแพ้ถั่วและธัญพืชไม่ควรกินเมล็ดเจียเด็ดขาดค่ะ
แชร์ไอเดีย 3 เมนูเมล็ดเจีย ทำง่าย ได้ประโยชน์
ถ้าใครยังคิดไม่ออกว่าจะเอาเมล็ดเจียไปทำเมนูอะไรดี เมล็ดเจีย วิธีกิน กินแบบไหนได้บ้าง เรามีเมนูที่ใช้เมล็ดเจียเป็นส่วนผสมมาฝากกันแล้วค่ะ วิธีการทำก็ไม่ยาก วัตถุดิบก็หาได้ทั่วไป จะมีเมนูอะไรบ้างนั้น ไปดูกันเลย
1. สลัดผักรวมกับเมล็ดเจีย
การใส่เมล็ดเจียลงในสลัดเป็นการกินเมล็ดเจียแบบแห้งโดยไม่นำไปแช่น้ำหรือผ่านการแปรรูป ช่วยเพิ่มเนื้อสัมผัสและเพิ่มรสชาติให้กับสลัดจานโปรดของเรา และยังช่วยเพิ่มพลังงาน กรดไขมันที่ดี โปรตีน คาร์โบไฮเดรต เกลือแร่ วิตามิน เพื่อให้ได้ประโยชน์แบบจัดเต็ม
วัตถุดิบ :
- ผักสลัดตามชอบ
- ผลไม้ตามชอบ
- ไข่ต้มหรือเนื้อสัตว์ตามต้องการ
- เมล็ดเจีย 1 ช้อนชา
- น้ำสลัดไขมันต่ำ
วิธีทำ :
- นำผักสลัดมิกซ์มาผสมกับผลไม้ที่เราชอบในชามสลัด ตามด้วยเนื้อสัตว์
- ราดน้ำสลัดไขมันต่ำ คลุกเคล้าให้เข้ากัน
- โรยหน้าด้วยเมล็ดเจีย พร้อมเสิร์ฟ
2. สมูทตี้เบอร์รี่กับเมล็ดเจีย
เมล็ดเจียสามารถนำไปผสมกับสมูทตี้ได้ทุกชนิด สำหรับแก้วนี้เป็นสมูทตี้มิกซ์เบอร์รี่สีสวย รสหวานอมเปรี้ยวให้ความสดชื่นและช่วยบำรุงผิวพรรณ อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ
วัตถุดิบ :
- สตรอเบอร์รี่แช่แข็ง
- บลูเบอร์รี่แช่แข็ง
- ราสพ์เบอร์รี่แช่แข็ง
- โยเกิร์ตรสธรรมชาติ
- เมล็ดเจีย 1 ช้อนชา
วิธีทำ :
- ผสมผลไม้และโยเกิร์ตลงในเครื่องปั่น ปั่นให้เนียนเข้ากัน
- เติมเมล็ดเจียลงไป กดปั่นอีกประมาณ 10 วินาที หากเนื้อสมูทตี้ข้นเกินไปสามารถเติมน้ำเปล่าหรือน้ำมะพร้าวเล็กน้อย
- เทใส่แก้วพร้อมเสิร์ฟ
3. ชาเมล็ดเจีย
ถ้าใครเบื่อการจิบชาธรรมดาๆ จะเปลี่ยนมาเป็นชาเมล็ดเจียก็ได้ ซึ่งจะทำให้เรากินเมล็ดเจียได้ง่ายขึ้นและไม่กินจุกจิกระหว่างวัน การจิบชาบ่อยๆ ยังช่วยให้เราดื่มน้ำมากขึ้นด้วยค่ะ
วัตถุดิบ :
- ชาไม่หวาน 1 ลิตร
- เมล็ดเจีย 40 กรัม
วิธีทำ :
- นำน้ำชาใส่ในกระบอกน้ำ จากนั้นใส่เมล็ดเจียลงไป
- ทิ้งไว้ 20 – 30 นาที
- จิบบ่อยๆ ระหว่างวัน สามารถเติมมะนาวหรือผลไม้หั่นชิ้นลงไปได้ตามใจชอบ
เกร็ดสุขภาพ : ควรกินเมล็ดเจียในปริมาณที่พอดี หากกินมากเกินไปก็อาจจะทำให้ท้องอืดได้ เพราะเมล็ดเจียมีคุณสมบัติคล้ายฟองน้ำที่ดูดซับน้ำ ดังนั้นหากกินเมล็ดเจียมากไปอาจทำให้ท้องอืดได้ วิธีป้องกันก็คือการดื่มน้ำตามมากๆ โดยเฉพาะน้ำเปล่า เพียงเท่านี้ก็ช่วยป้องกันอาการท้องอืดจากการกินเมล็ดเจียได้แล้วค่ะ
เมล็ดเจียหรือ Chia Seed นับว่าเป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพและมีประโยชน์มากมาย สามารถกินได้หลากหลายแบบ ทั้งเอาไปโรยในสลัดหรืออาหารจานอื่นๆ เอาไปผสมในสมูทตี้ เอาไปผสมในชา กาแฟ หรือน้ำเปล่า เป็นต้น ทั้งนี้ ในคนที่มีปัญหาทางสุขภาพบางอย่างควรงดกินเมล็ดเจีย เพราะอาจส่งผลเสียต่อร่างกายได้ คนทั่วไปควรกินเมล็ดเจียแต่พอดี หากกินมากเกินไปก็อาจจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้เช่นกันค่ะ
อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : pharmacy.mahidol.ac.th, healthline.com, medicalnewstoday.com, webmd.com
Featured Image Credit : freepik.com/devmaryna
ติดตามเราได้ที่ … เฟสบุ๊ค : เกร็ดสุขภาพ