“เพื่อสุขภาพ” ชุมชนสุขภาพ เรื่องราวตรงใจ ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย รุ่นไหนก็รัก ♡
Carnivore Diet คือ อะไร ? กินแต่เนื้อแล้วจะผอมได้จริงหรือ ? ชวนรู้จักอีกหนึ่งเทรนด์การกินเพื่อลดหุ่นกัน
ผู้ที่ต้องการจะลดน้ำหนักหรือกำลังศึกษาการกินเพื่อสุขภาพ ก็คงจะได้เห็นวิธีการกินเพื่อสุขภาพวิธีต่างๆ ผ่านตากันมามากมาย โดยส่วนใหญ่แล้ว รูปแบบการกินเพื่อสุขภาพก็จะเป็นการกินที่จำกัดปริมาณไขมัน คาร์โบไฮเดรต น้ำตาล และเลือกกินอาหารที่มีใยอาหารสูงเป็นหลัก เช่นผัก ผลไม้ไม่หวาน ธัญพืชต่างๆ รวมถึงกินโปรตีนในปริมาณที่เหมาะสม ทั้งนี้ มีวิธีการกินอีกแบบหนึ่งที่เชื่อกันว่าช่วยลดน้ำหนักและลดหุ่นได้จริง ซึ่งเป็นการกินที่เน้นการบริโภคเนื้อสัตว์เป็นหลัก และมีความแตกต่างจากการกินอาหารเพื่อสุขภาพทั่วๆ ไปคือ ห้ามกินผักและผลไม้เด็ดขาด มาถึงตรงนี้ หลายๆ คนก็คงจะสงสัยว่า เป็นการกินแบบใด แล้วดีต่อสุขภาพจริงหรือ ? การกินแบบนี้ เรียกว่าการกินแบบ Carnivore Diet คือ วิถีการกินที่เน้นโปรตีนเป็นหลัก และจำกัดการกินคาร์โบไฮเดรตอย่างเข้มงวด เรามารู้จักการกินแบบ Carnivore Diet กันให้มากขึ้น ผ่านบทความนี้ได้เลยค่ะ
Carnivore Diet คือ อะไร ? ชวนรู้จักวิธีการกินเพื่อลดน้ำหนักแบบ “เนื้อล้วน !”
การกินแบบ Carnivore Diet ถือเป็นการกินเพื่อสุขภาพอีกแบบหนึ่งที่เชื่อว่าเป็นวิธีลดหุ่นและลดน้ำหนักได้ แต่การกินแบบ Carnivore Diet จะมีความแตกต่างจากการกินอาหารเพื่อสุขภาพประเภทอื่นๆ คือ เป็นการเน้นการรับประทานเนื้อสัตว์เป็นหลัก และจำกัดปริมาณคาร์โบไฮเดรตในระดับที่เข้มข้นกว่าการกินแบบคีโตเจนิค (Ketogenic Diet) กล่าวคือ งดคาร์โบไฮเดรตในมื้ออาหารทุกมื้อ นอกจากจะต้องงดข้าว แป้ง น้ำตาลแล้ว วิถีการกินแบบ Carnivore Diet คือ ต้องงดผัก ผลไม้ ถั่ว ธัญพืช และเครื่องดื่มที่ทำจากพืช ผัก ผลไม้ทุกชนิด แต่เน้นการรับประทานเนื้อสัตว์ที่ไม่มีไขมันหรือมีไขมันต่ำ รวมถึงน้ำเปล่าหรือน้ำซุปกระดูกเพื่อให้ได้รับพลังงานในแต่ละวัน ถ้าใครสนใจวิธีการกินแบบนี้ ก็มาดูกันต่อค่ะว่า หลักการกินแบบ Carnivore Diet เป็นอย่างไร มีรายละเอียดยังไงบ้าง
หลักการกินแบบ Carnivore Diet คืออะไร ? อาหารแบบไหนบ้างที่กินได้/ กินไม่ได้
กล่าวกันไปในเบื้องต้นแล้วว่า การกินแบบ Carnivore Diet เป็นรูปแบบการกินที่เน้นเนื้อสัตว์เป็นหลัก และงดการรับประทานคาร์โบไฮเดรตอย่างเคร่งครัด สาเหตุที่ต้องงดการทานผักด้วยนั้น ก็เพราะว่าผักมีเซลลูโลส ซึ่งเป็นโครงสร้างหลักของผนังเซลล์พืช รวมถึงผักผลไม้ และเมล็ดธัญพืชต่างๆ ซึ่งเซลลูโลสก็ถูกจัดอยู่ในกลุ่มคาร์โบไฮเดรตชนิดหนึ่งด้วยเหมือนกัน มาดูกันดีกว่าว่า อาหารชนิดใดบ้างที่คนกินแบบ Carnivore Diet รับประทานได้และไม่ได้ ดังนี้
อาหารที่รับประทานได้
- เนื้อสัตว์ทุกชนิด
- อาหารทะเล
- เครื่องในสัตว์
- ไข่
- เนยแท้
- ชีส
- น้ำมันจากสัตว์ เช่น น้ำมันหมูสำหรับประกอบอาหาร
- กะปิแท้
- น้ำปลาแท้
- น้ำซุปกระดูก
- เครื่องเทศต่างๆ เช่น ขมิ้น พริกไทย
- เกลือ
- น้ำเปล่า
- น้ำแร่
- กาแฟดำ
- โซดา
อาหารที่รับประทานไม่ได้
- ผักและผลไม้ทุกชนิด
- ธัญพืชต่างๆ เช่น ถั่ว ถั่วเปลือกแข็งชนิดต่างๆ
- ข้าวทุกชนิด
- พืชประเภทหัว เช่น เผือก มันฝรั่ง
- ขนมปัง เค้ก คุ้กกี้ ลูกอม
- อาหารประเภทเส้น เช่น เส้นก๋วยเตี๋ยว เส้นพาสต้า วุ้นเส้น และอื่นๆ
- น้ำตาล รวมทั้งหญ้าหวาน สารให้ความหวานแทนน้ำตาล น้ำเชื่อม ไซรัป
- น้ำผัก น้ำผลไม้
- น้ำอัดลม
- นม เนื่องจากในนมมีน้ำตาลแลคโตสที่เป็นคาร์โบไฮเดรต
- ชา
- เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
เกร็ดสุขภาพ : การกินแบบ Carnivore Diet ไม่ได้จำกัดให้เราต้องกินอาหารวันละ 3 มื้อเหมือนหลักการกินทั่วไป และไม่เหมือนการทำฟาสติ้งที่จำกัดช่วงเวลาการกินและการอดอาหารแบบชัดเจน แต่ให้กินเฉพาะเวลาที่รู้สึกหิวเท่านั้น หากไม่รู้สึกถึงความหิว ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องกินอาหารมื้อนั้นๆ และไม่ได้จำกัดการนับแคลอรี่ แต่มีหลักการกินที่สำคัญคือ กินให้อิ่มแบบพอประมาณในแต่ละมื้อ โดยเน้นโปรตีนเป็นหลัก กินไขมันแต่พอดี และกินเมื่อรู้สึกหิวนั่นเองค่ะ
การกินแบบ Carnivore Diet ช่วยในการลดน้ำหนักได้อย่างไร ?
หลายๆ คนอาจจะสงสัยว่า การกินเนื้อสัตว์ล้วนๆ โดยปราศจากการกินผักจะเป็นวิธีลดหุ่นได้อย่างไร ? หลักการกินแบบ Carnivore Diet คือการกินที่เน้นโปรตีนเป็นหลัก เพื่อให้ร่างกายได้รับโปรตีนปริมาณสูงในทุกมื้อ ซึ่งโปรตีนอาจเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้เราลดน้ำหนักได้สำเร็จ เนื่องจากโปรตีนจะทำให้เราไม่หิวบ่อยและมีความอยากอาหารลดลง ส่งผลให้ร่างกายได้รับแคลอรี่น้อยลงตามไปด้วย อีกทั้งโปรตีนยังมีส่วนช่วยในการเผาผลาญพลังงาน ทำให้ร่างกายเผาผลาญแคลอรี่ได้มากขึ้น ส่งผลต่อการลดน้ำหนักของเราได้
ทั้งนี้ มีการศึกษาที่แสดงให้เห็นว่า การรับประทานอาหารที่มีโปรตีนสูงและการจำกัดปริมาณคาร์โบไฮเดรตสามารถช่วยในการลดน้ำหนักได้ การกินคาร์โบไฮเดรตน้อยลงจะทำให้ร่างกายไม่ได้รับพลังงานหลักที่มาจากคาร์โบไฮเดรต และดึงเอาไขมันที่สะสมไว้มาใช้เป็นพลังงานแทน ส่งผลทำให้ไขมันในร่างกายลดลง และน้ำหนักลดลงได้ ทั้งนี้ ยังมีการศึกษาว่า กลุ่มที่รับประทานโปรตีนในปริมาณมากกว่า ก็จะสามารถลดน้ำหนักได้มากกว่า เมื่อเทียบกับผู้ที่กินโปรตีนในปริมาณน้อยกว่ากลุ่มแรก
เกร็ดสุขภาพ : ผู้ที่มีวิธีการกินแบบ Carnivore Diet อาจเข้าสู่ภาวะคีโตซิสได้ เป็นภาวะที่ร่างกายดึงเอาไขมันที่สะสมไว้มาใช้เป็นพลังงานแทนคาร์โบไฮเดรต โดยร่างกายจะเผาผลาญไขมันไปเป็นสารคีโตน (Ketones) ทำให้น้ำหนักตัวลดลง มีความอยากอาหารลดลง แต่มีผลข้างเคียงที่ตามมาคือ อาจทำเกิดกลิ่นปาก ปวดศีรษะ คลื่นไส้ หรือมีอาการอ่อนแรงได้
ประโยชน์ของการกินแบบ Carnivore Diet คืออะไร ?
ผลพลอยได้ของการกินแบบ Carnivore Diet คือ ทำให้เราจำกัดปริมาณคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาลที่ไม่จำเป็นต่อร่างกายได้อย่างดี โดยเฉพาะอาหารจำพวกแป้งขัดขาวต่างๆ อย่างเค้ก คุ้กกี้ ลูกอม ขนมอบต่างๆ รวมถึงน้ำหวาน น้ำอัดลมที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ซึ่งเต็มไปด้วยไขมันและน้ำตาล ก่อให้เกิดโรคต่างๆ เช่น เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง โรคอ้วน เป็นต้น อย่างไรก็ตาม การกินอาหารแบบ Carnivore Diet โดยการจำกัดคาร์บและน้ำตาลนั้นไม่ใช่วิธีในการรักษาโรคเบาหวาน ผู้ที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานควรรับประทานอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนหรือพวกธัญพืชไม่ขัดสีที่มีใยอาหารสูง ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดีกว่าการงดคาร์โบไฮเดรตอย่างสิ้นเชิง
ข้อเสียของการกินแบบ Carnivore Diet
แม้การกินอาหารแบบ Carnivore Diet คือหนึ่งในวิธีลดหุ่นที่ได้ผล แต่ก็ส่งผลเสียและมีความเสี่ยงในด้านสุขภาพด้วยเช่นกัน หากใครที่ต้องการลดน้ำหนักด้วยการกินเนื้อสัตว์ล้วนๆ อาจจะต้องระวังผลเสียต่อสุขภาพ ดังนี้
1. ไขมันและคอเลสเตอรอลสูง
เนื้อสัตว์บางประเภทมีไขมันอิ่มตัวในปริมาณมาก โดยเฉพาะเนื้อวัว เนื้อแกะ และเนื้อหมู รวมถึงผลิตภัณฑ์จากสัตว์อย่างเนย ชีส หากรับประทานในปริมาณมากก็อาจส่งผลให้ระดับไขมัน LDL ในเลือดเพิ่มขึ้นได้ ซึ่งทำให้มีโอกาสที่จะเกิดโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดสมองเพิ่มขึ้นด้วย
2. กรดยูริกในเลือดสูง
การกินอาหารแบบ Carnivore Diet อาจทำให้เกิดภาวะกรดยูริกในเลือดสูงได้ เนื่องจากเนื้อแดงและอาหารทะเลมีสารพิวรีน ซึ่งเป็นสารเคมีในร่างกายที่ก่อให้เกิดกรดยูริกขึ้นมาเมื่อถูกย่อยสลาย และหากมีปริมาณกรดยูริกสูงก็เสี่ยงต่อการเกิดโรคเก๊าท์ได้ (อ่านเพิ่มเติม โรคเก๊าท์ห้ามกินอะไร)
3. ขาดใยอาหาร
เห็นได้ชัดว่าการกินอาหารแบบ Carnivore Diet เป็นการเน้นรับประทานเนื้อสัตว์เป็นหลัก แทบจะเรียกได้ว่าเป็นการกินเนื้อล้วนเลยก็ได้ ทำให้ร่างกายไม่ได้รับใยอาหารจากผัก ผลไม้ และธัญพืชอื่นๆ ซึ่งอาจส่งผลต่อระบบขับถ่ายของเรา ทำให้เกิดอาการท้องผูก ถ้าหากท้องผูกบ่อยๆ ก็อาจเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งลำไส้และโรคริดสีดวงได้
4. ขาดเกลือแร่ วิตามิน
การไม่กินผักผลไม้นั้นทำให้ขาดเกลือแร่ วิตามินต่างๆ ที่มักจะอยู่ในผักผลไม้ เช่น วิตามินซี วิตามินอี อาจทำให้ผิวพรรณไม่สดใส ทำให้ผิวแห้ง ผมขาดหลุดร่วง เล็บเปราะบาง รวมถึงมีอาการอ่อนเพลียได้ ที่สำคัญคือ ร่างกายจะไม่ได้รับสารต้านอนุมูลอิสระหลากชนิดที่มักจะมีอยู่ในผักผลไม้เป้นส่วนใหญ่ ทั้งนี้ สารต้านอนุมูลอิสระนั้น มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างมาก เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยต้านความเสื่อมและการอักเสบของร่างกาย ทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งต่างๆ ได้อีกด้วย
ใครที่กำลังสนใจวิธีการกินแบบ Carnivore Diet ก็คงจะได้ข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการกินแบบนี้กันมากขึ้น ซึ่งรูปแบบการกินที่เน้นการบริโภคเนื้อสัตว์เป็นหลักนั้น อาจไม่เหมาะสำหรับการลดน้ำหนักในระยะยาว เพราะจะทำให้ร่างกายขาดสารอาหารบางชนิดได้ ทั้งนี้ การรับประทานอาหารกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งที่มากเกินไป ก็ส่งผลเสียต่อร่างกายได้ทั้งสิ้น เพราะทำให้ขาดความสมดุลในด้านโภชนาการ หากใครต้องการควบคุมอาหารอย่างค่อยเป็นค่อยไปและมีความสมดุล วิธีการกินเพื่อสุขภาพแบบ Balanced Diet คืออีกวิธีหนึ่งที่ทำให้ร่างกายมีสุขภาพดีและมีน้ำหนักที่เหมาะสมได้ ทั้งนี้ จะเลือกวิธีการกินแบบใดในการลดน้ำหนัก ก็อย่าลืมคำนึงถึงสุขภาพโดยรวมของเราด้วยนะคะ
อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : healthline.com, everydayhealth.com, health.clevelandclinic.org
Featured Image Credit : unsplash.com/Eiliv Aceron
ติดตามเราได้ที่ … เฟสบุ๊ค : เกร็ดสุขภาพ