“เพื่อสุขภาพ” ชุมชนสุขภาพ เรื่องราวตรงใจ ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย รุ่นไหนก็รัก ♡
บุก คือ อะไร ? มีประโยชน์ยังไง ทำไมถึงเป็นที่นิยมในหมู่คนรักสุขภาพ
เชื่อว่าในหมู่คนรักสุขภาพจะต้องรู้จักบุกเป็นอย่างดี ทั้งเส้นบุก ลูกชิ้นบุก มุกบุกในชาไข่มุก และผลิตภัณฑ์บุกอื่นๆ บางคนก็ชอบรับประทานผลิตภัณฑ์บุกประเภทต่างๆ เพราะมีแคลอรี่ต่ำ ให้พลังงานต่ำ จึงเป็นที่นิยมในหมู่คนรักสุขภาพและผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก นอกจากจะให้พลังานต่ำแล้วยังอยู่ท้องอีกด้วย บางคนก็ชอบเพราะมีความเหนียวนุ่มเคี้ยวเพลิน เอาไปทำอาหารได้หลากหลายเมนู แต่เคยสงสัยกันไหมคะว่า บุก คือ อะไร ทำมาจากอะไรกันแน่ มีประโยชน์หรือมีโทษต่อร่างกายของเรายังไงบ้าง กินบุกเยอะๆ จะดีไหม ? มารู้จักบุกให้มากขึ้นกันค่ะ
บุก คือ อะไร ? ทำไมถึงนิยมในหมู่คนรักสุขภาพ มารู้จักบุกให้มากขึ้นกัน
ผลิตภัณฑ์บุกที่เราเห็นตามท้องตลาดนั้น เป็นบุกที่ผ่านการแปรรูปมาแล้ว เพราะจริงๆ แล้ว บุก (Konjac) เป็นพืชหัวชนิดหนึ่ง ซึ่งเป็นพืชล้มลุกตระกูลเดียวกับบอน และถูกค้นพบโดยนักพฤษศาสตร์ชาวอิตาลีที่ชื่อว่า Odoardo Beccari เมื่อประมาณ 100 กว่าปีมาแล้ว ที่ป่าแห่งหนึ่งในประเทศอินโดนีเซีย สายพันธ์ุบุกในโลกมีมากกว่า 90 ชนิด มีถิ่นกำเนิดในประเทศเอเชีย และพบมากที่สุดในแถบประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในประเทศไทยพบทุกภาคของประเทศโดยเฉพาะบริเวณป่าโปร่ง
บุกยังได้ชื่อว่าเป็น “ดอกไม้มหัศจจรย์” อีกด้วย เนื่องจากดอกมีความโดดเด่นและสังเกตเห็นได้ง่าย ดอกจะเป็นช่อทรงกระบอกใหญ่ มีสีม่วงแดงอมเขียว ผลจะมีลักษณะเรียวยาวติดกันเป็นช่อ และใต้ดินจะมีหัวบุกขนาดใหญ่ ซึ่งหัวบุกนี่เองค่ะที่เราเอาไปแปรรูปและนำมาบริโภคกัน หัวบุกจะมีผิวขรุขระ มีสีน้ำตาลเข้มเกือบดำ เนื้อด้านในจะมีสีชมพู เหลืองอมชมพู หรือขาวเหลือง หัวบุก 1 หัวสามารถหนักได้ถึง 20 กิโลกรัมเลยทีเดียว
บุกที่เรากิน มาจากไหน ?
ผลิตภัณฑ์บุกต่างๆ ที่เรากินนั้น มาจากหัวบุกนั่นเองค่ะ โดยจะนำเอาหัวบุกมาล้างทำความสะอาด และสกัดสารพิษต่างๆ ออก ในเนื้อบุกจะมีสารกลูโคแมนเนน (Glucomannan) อยู่ภายใน ซึ่งเป็นเส้นใยธรรมชาติที่มีคุณสมบัติเด่นๆ คือ สามารถดูดซึมน้ำในกระเพาะอาหารได้ กลูโคแมนแนนสามารถดูดน้ำและพองตัวได้ถึง 200 เท่าเลยทีเดียว ในบางอุตสาหกรรมก็เอาบุกมาสกัดเป็นผงเพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน การกินผลิตภัณฑ์บุกจึงทำให้เรารู้สึกอิ่มเร็ว แถมยังให้พลังงานต่ำ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนักหรือต้องการจำกัดการกิน นอกจากนี้ ยังช่วยยับยั้งการดูดซึมน้ำตาลกลูโคสในทางเดินอาหาร ช่วยดูดซับไขมัน กรดน้ำดี และขับถ่ายออกนอกร่างกาย จึงมีการเอาบุกไปทำเป็นวุ้น หรือเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวานด้วย ซึ่งใยอาหารกลูโคแมนแนนจากหัวบุกนั้น ได้ถูกยกย่องว่าเป็น King of fiber และพบมากถึง 90% ในหัวบุกเลยค่ะ
เกร็ดสุขภาพ : บุกเป็นพืชล้มลุกในตระกูล Amorphophallus และมีใยอาหารที่สำคัญในหัวบุกซึ่งเรียกว่า กลูโคแมนแนน (Glucomannan) ในทางการแพทย์และในทางอุตสาหกรรมจะนำมาใช้ในการผลิตเป็นอาหารเสริมเพื่อช่วยควบคุมน้ำหนัก ทั้งนี้ ความข้นหนืดของสารกลูโคแมนแนนทำให้เกิดเจล ซึ่งสามารถเอาไปทำผลิตภัณฑ์เยลลี่และแยมได้ด้วย
ชวนดูประโยชน์ของบุก สุดยอดอาาหารเพื่อสุขภาพ
ตอนนี้เราก็ทราบแล้วว่า บุก คืออะไร และทำมาจากอะไรกันแน่ ในหัวบุกไม่ได้มีแค่กลูโคแมนแนนเพียงเท่านั้น ในบุกยังมีโปรตีน วิตามินบี วิตามินซี และคาร์โบไฮเดรต มาดูกันดีกว่าว่า บุกมีประโยชน์อย่างไรบ้าง
1. ช่วยให้เราอิ่มนานขึ้น กินอาหารได้น้อยลง
สาเหตุที่บุก คือทางเลือกของผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก ก็เพราะว่าใยอาหารที่อยู่ในบุกนั้นจะไปดูดซึมน้ำในกระเพาะอาหารแล้วพองตัวขึ้น ทำให้เรารู้สึกอิ่มเร็ว ใครที่ต้องการควบคุมอาหารหรืออยากกินอาหารให้น้อยลงเพื่อลดน้ำหนัก บุก คือตัวเลือกที่ดีมากๆ ค่ะ แล้วก็ยังให้พลังงานต่ำอีกด้วย บุก 100 กรัม ให้พลังงานเพียง 10 กิโลแคลอรี่เท่านั้น ใครที่ต้องการงดแป้งก็อาจจะเอาบุกไปทำเมนูเส้นบุกคีโต เพราะอยู่ท้อง และมีแป้งน้อยมากๆ ค่ะ
2. ช่วยให้ขับถ่ายคล่องขึ้น
ประโยชน์ของบุกอีกอย่างหนึ่งก็คือ ดีต่อลำไส้ของเรา เนื่องจากกลูโคแมนแนนในบุกเป็นใยอาหาร จึงมีส่วนช่วยในการขับถ่าย ช่วยกระตุ้นลำไส้ให้ทำงานได้ดี โดยเฉพาะลำไส้ใหญ่ซึ่งจะบีบตัวขับของเสียออกมา ทำให้ขับถ่ายได้คล่องขึ้น ช่วยป้องกันอาการท้องผูก ริดสีดวงทวาร และโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่
3. ช่วยควบคุมน้ำตาลและไขมันในเลือด
อย่างที่กล่าวไปว่า บุกช่วยยับยั้งการดูดซึมน้ำตาลกลูโคสในทางเดินอาหาร ทำให้ร่างกายไม่ดูดซึมน้ำตาล เป็นผลทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดไม่สูงเกินไป จึงเหมาะกับผู้ที่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน และสารกลูโคแมนแนนในแป้งบุก ยังช่วยดูดซับไขมัน กรดน้ำดี แล้วขับถ่ายออกนอกร่างกาย จึงช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอร์ไรด์ในหลอดเลือด และช่วยควบคุมระดับไขมันในเลือดได้ด้วย
4. ช่วยรักษาแผลต่างๆ
นอกจากจะรับประทานได้แล้ว สรรพคุณอีกอย่างหนึ่งของบุก คือ สามารถใช้เป็นยารักษาแผลต่างๆ ได้ด้วย ถ้าเรานำเอาเนื้อแป้งบุกมาตำหรือฝนกับน้ำส้มสายชู หรือต้มเอาน้ำจากเนื้อแป้งบุก จะสามารถใช้ทาแผลต่างๆ ได้ เช่น แผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก แผลปวดบวม แผลฟกช้ำดำเขียว แผลฝีหนองต่างๆ เป็นต้น
5. ดีต่อสุขภาพผิวของเรา
ประโยชน์ของบุกที่เราอาจจะนึกไม่ถึงก็คือ บุกนั้นดีต่อผิวของเรา เนื่องจากมีกลูโคแมนแนในปริมาณมาก ซึ่งเป็นสารธรรมชาติที่ช่วยให้ผิวของเราชุ่มชื้น และในวุ้นบุกยังมีวิตามินแร่ธาตุที่ดีต่อผิว เช่น วิตามินเอ วิตามินอี สังกะสี ในการผลิตผลิตภัณฑ์บำรุงผิว อาจมีการใช้บุกเป็นผสมด้วย
ทั้งนี้ บุกยังเป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อผู้ที่เป็นมังสวิรัติ รวมถึงผู้ที่กินอาหารวีแกนด้วย เพราะทำมาจากพืช ไม่มีส่วนผสมจากสัตว์แต่อย่างใด อาหารบางอย่างที่ขายตามท้องตลาดนั้นอาจมีเจลาตินจากสัตว์ ประโยชน์ของบุกก็คือ ผู้ที่เป็นมังสวิรัติหรือเป็นวีแกนไม่สามารถกินได้ อาหารที่ทำมาจากบุกนั้น สามารถกินได้โดยที่ไม่ต้องกังวลใดๆ แถมยังหาซื้อได้ง่าย มีขายตามซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป ทั้งวุ้นบุก เส้นบุก ลูกชิ้นบุก ขนมบุก เส้นหมี่แป้งหัวบุก เครื่องดื่มบุกผง ฯลฯ จึงสะดวกสบายในการรับประทานมากๆ ค่ะ
เกร็ดสุขภาพ : ในเนื้อหัวบุกป่าจะมีผลึกของแคลเซียมออกซาเลท (Calcium Oxalate) เป็นจำนวนมาก ซึ่งทำให้เกิดอาการคันได้ ในส่วนของเหง้าและก้าน ถ้าหากปรุงไม่ดีแล้วรับประทานเข้าไป อาจทำให้ลิ้นพองและคันในปากได้ ถ้าไม่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในการเตรียมบุกก่อนเอามาทำอาหารมากพอ ก็อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้ ปัจจุบันจึงไม่ค่อยนิยมเอาต้นบุกในป่ามาปรุงอาหารกัน เพราะมีขั้นตอนเตรียมยุ่งยาก และไม่ควรเอามาทำอาหารกินเอง ในปัจจุบันจึงนิยมบริโภคเป็นผลิตภัณฑ์บุกที่ผ่านการแปรรูปมาเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ หากกินเข้าไปแล้วมีความผิดปกติใดๆ ควรไปพบแพทย์ทันที
บุก คืออะไร ทำมาจากอะไร ตอนนี้ก็ได้ทราบกันไปเรียบร้อยแล้วนะคะ แม้ว่าการรับประทานผลิตภัณฑ์จากบุกจะดีต่อสุขภาพ แต่ก็ควรกินในปริมาณที่เหมาะสม หากกินมากเกินไปหรือกินติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจทำให้ร่างกายดูดซึมวิตามินและเกลือแร่ลดลง จนทำให้อ่อนเพลียได้ และอาจทำให้ท้องอืด ท้องเสียได้ด้วย ควรกินแต่พอดี และกินอาหารอื่นๆ อย่างหลากหลายให้ครบ 5 หมู่ อย่างการกินอาหารแบบ Balanced Diet และออกกำลังกายเป็นประจำ ก็จะช่วยให้น้ำหนักสมดุลและมีสุขภาพดีได้ค่ะ
อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : seoulfulmag.com, sgethai.com, disthai.com, apps.phar.ubu.ac.th, medicalnewstoday.com, eatingwell.com
Featured Image Credit : vecteezy.com/TEVIT BOONYAG
ติดตามเราได้ที่ … เฟสบุ๊ค : เกร็ดสุขภาพ