“เพื่อสุขภาพ” ชุมชนสุขภาพ เรื่องราวตรงใจ ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย รุ่นไหนก็รัก ♡
เคราติน คืออะไร ? มีอยู่ในอาหารชนิดใดบ้าง ชวนรู้จักอาหารบำรุงผม ให้ผมแข็งแรงสวยสุขภาพดีกันเถอะ
ใครที่มีปัญหาผมขาดหลุดร่วงอยู่บ่อยๆ คงไม่ค่อยจะชอบใจนัก เพราะทำให้เส้นผมบนหนังศีรษะของเราเบาบางมากขึ้นทุกวันๆ บางคนก็ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผมเข้าช่วยทั้งแชมพู ครีมนวด และออยล์บำรุงผมต่างๆ ซึ่งนอกจากจะใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงภายนอกแล้ว การบำรุงภายในก็สำคัญด้วยเช่นกัน อย่างเช่นการรับประทานอาหารต่างๆ ที่ช่วยบำรุงเส้นผมให้แข็งแรงจากภายใน โดยเฉพาะการรับประทานอาหารที่ช่วยเสริมสร้างเคราตินให้กับร่างกาย เพราะการที่เส้นผมของเราไม่แข็งแรงนั้น ก็เนื่องจากขาดเคราตินในเส้นผมนั่นเอง แล้ว เคราติน คืออะไร ? มีความสำคัญต่อเส้นผมของเราอย่างไร ? แล้วเราจะเสริมเคราตินให้กับร่างกายเพื่อช่วยบำรุงเส้นผมให้แข็งแรงได้อย่างไร ไปอ่านกันค่ะ
เคราติน คืออะไร ? ดีต่อผมยังไง มาดูกัน !
เมื่อเห็นผลิตภัณฑ์บำรุงผมชนิดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแชมพู ครีมนวดผม หรือวิตามินบำรุงผม บางผลิตภัณฑ์นั้นก็จะมีเขียนกำกับไว้ว่า เป็นสูตรเคราตินที่ช่วยบำรุงและซ่อมแซมเส้นผมให้ผมกลับมาแข็งแรงสวยสุขภาพดี ซึ่งบางคนอาจจะยังไม่ทราบว่า เคราติน คืออะไร ทำไมถึงต้องมีอยู่ในผลิตภัณฑ์บำรุงผม ทั้งนี้ เคราติน เป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่ร่างกายสามารถสร้างขึ้นได้เอง และส่วนใหญ่จะพบในเส้นผม ผิวหนัง และเล็บของเรา ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งในการบำรุงรักษาผมและเล็บของเราให้แข็งแรง
ในเส้นผมของเรานั้น มีเคราตินอยู่ถึง 90% เลยทีเดียว หากซูมเส้นผมเข้าไปใกล้ๆ จะพบว่าเคราตินมีการเรียงตัวซ้อนกันคล้ายกับเกล็ดปลา ซึ่งถ้าหากมีการทำเคมีกับเส้นผมบ่อย เช่น ดัด ทำสี ยืด หรือใช้ความร้อนกับเส้นผมเป็นประจำ ก็จะทำให้มีการสูญเสียเคราตินในเส้นผม ทำให้เส้นผมเปราะบางแล้วก็ขาดหลุดร่วงได้ง่าย และถ้ามีเคราตินอย่างเพียงพอ เกล็ดผมก็จะปิดสนิท ทำให้เส้นผมแข็งแรง ไม่ขาดหลุดร่วงได้ง่ายนั่นเอง ซึ่งเราสามารถเสริมเคราตินให้กับร่างกายได้โดยการรับประทานอาหารที่ช่วยเสริมสร้างเคราตินให้กับร่างกาย และเพื่อให้ร่างกายสามารถนำเอาไปใช้ได้ แล้วอาหารชนิดใดบ้างที่มีเคราตินในปริมาณสูง ไปดูกันเลยค่ะ
เกร็ดสุขภาพ : โดยปกติแล้วร่างกายสามารถสร้างเคราตินขึ้นมาได้เองตามธรรมชาติ หากร่างกายมีเคราตินเพียงพอก็จะทำให้เส้นผมและเล็บแข็งแรง ไม่เปราะหักง่าย แต่ถ้าร่างกายขาดเคราติน ก็จะทำให้เส้นผมและหนังศีรษะแห้ง และทำให้ผมขาดหลุดร่วงได้ง่าย ทั้งยังทำให้ผิวหนังแห้งแตกเป็นขุย เล็บเปราะบางและแตกหักง่ายได้ด้วย เคราตินจึงมีความสำคัญต่อร่างกายของเราเป็นอย่างมาก ไม่ใช่เฉพาะแค่กับสุขภาพผมเท่านั้น แต่ยังรวมถึงสุขภาพเล็บและสุขภาพผิวของเราด้วยค่ะ
10 อาหารเพิ่ม เคราติน คืออะไรบ้าง ? กินอะไรแล้วผมสวยแข็งแรง มาดูกัน !
1. ไข่ไก่
ประโยชน์ของไข่ไก่นั้นมีมากมาย การกินไข่ไก่เป็นประจำก็จะช่วยเพิ่มเคราตินธรรมชาติให้กับร่างกายได้เป็นอย่างดี เพราะในไข่ไก่นั้นอุดมไปด้วยไบโอติน อันเป็นสารอาหารสำคัญที่จำเป็นต่อการสังเคราะห์เคราติน ในไข่ต้ม 1 ฟองมีไบโอติน 10 ไมโครกรัม คิดเป็น 33% ในปริมาณที่ร่างกายควรได้รับต่อวัน และโปรตีนในไข่เองก็ยังช่วยในการเสริมสร้างเคราตินด้วยเช่นกัน และในไข่ไก่ยังมีสารอาหารอื่นๆ หลายชนิดที่ดีต่อร่างกาย เช่น ซีลีเนียม ไรโบฟลาวีน วิตามินเอและวิตามินบี 12 เป็นต้น
2. หอมหัวใหญ่
แหล่งของเคราติน คืออะไรที่หาได้ง่ายและมีอยู่ในครัวของเราอย่างเช่นหอมหัวใหญ่ ในหอมหัวใหญ่มีสารที่เรียกว่า N – acetylcysteine สูงเป็นพิเศษ ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่จะเปลี่ยนเป็นกรดอะมิโนที่เรียกว่า L- cysteine ซึ่งเป็นส่วนประกอบของเคราตินนั่นเอง และในหัวหอมยังมีโฟเลตที่ดีต่อสุขภาพผิวของเราด้วยเช่นกัน
3. เมล็ดทานตะวัน
เมล็ดทานตะวันนั้นเป็นของว่างที่คุ้นเคยกันดี เมล็ดทานตะวัน ประโยชน์คือมีคุณค่าทางอาหารสูง นอกจากจะมีวิตามินอีสูงแล้ว ยังอุดมไปด้วยทองแดง ซีลีเนียม และกรดแพนโทธีนิก และที่สำคัญคือ เมล็ดทานตะวันเป็นแหล่งของไบโอตินที่เป็นสารตั้งต้นในการสังเคราะห์เคราติน การกินเมล็ดทานตะวันเป็นประจำจะช่วยทำให้ผมสวยสุขภาพดีมากขึ้นได้
4. มะม่วง
อาหารที่มีเคราติน คืออะไรอีกบ้าง ? หนึ่งในนั้นคือมะม่วงค่ะ ในมะม่วงสุกมีวิตามินเอสูง ซึ่งร่างกายจะเอาไปใช้สังเคราะห์เคราตินได้ นอกจากนี้ ในมะม่วงยังมีวิตามินซี มีโฟเลต มีเบต้าแคโรทีนสูง ซึ่งดีต่อสุขภาพผิวของเราด้วย แต่มะม่วงก็ถูกจัดว่าเป็นผลไม้น้ำตาลสูง ไม่ควรรับประทานมากเกินไป โดยเฉพาะผูที่มีโรคประจำตัวเป็นเบาหวาน เพราะอาจจะทำให้น้ำตาลในเลือดสูงมากเกินไปได้
5. ตับ
ตับ นอกจากจะเป็นอาหารที่มีธาตุเหล็ก บำรุงเลือดได้ดีแล้ว ตับยังเป็นแหล่งของไบโอตินด้วยเช่นกัน ซึ่งร่างกายก็จะเอาไปสังเคราะห์เป็นเคราตินได้ ในตับวัวปรุงสุกจำนวน 85 กรัมมีไบโอตินสูงถึง 31 ไมโครกรัม และเป็นปริมาณที่เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย และในตับวัว 85 กรัมยังมีโปรตีนสูงถึง 24.5 กรัมและยังเป็นแหล่งวิตามิน แร่ธาตุอื่นๆ ทั้งวิตามินบี 12 โฟเลต และไรโบฟลาวีน เป็นต้น ทั้งนี้ การบริโภคเครื่องในสัตว์ยังเป็นอีกวิธีหนึ่งในการช่วยลดโลกร้อนอีกด้วย เพราะเป็นการบริโภคทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและไม่ก่อให้เกิด food waste นั่นเองค่ะ
6. แครอท
นอกจากแครอทจะมีวิตามินเอสูงที่ช่วยบำรุงสายตาแล้ว แครอทยังถือว่าเป็นผักที่มีวิตามินซีสูงซึ่งช่วยในการสังเคราะห์คอลลาเจนในร่างกาย เพื่อเป็นการบำรุงสุขภาพเส้นผม ผิวหนัง และเล็บของเรา และวิตามินซียังมีฤทธิ์ช่วยสมาแผล บรรเทาอาการอักเสบ และช่วยปกป้องผิวของเราอีกด้วย ทั้งนี้ แครอทบังมีไบโอติน วิตามินบี 6 โพแทสเซียม และวิตามินเคในปริมาณมากอีกด้วย
7. พืชตระกูลถั่ว
ถั่วชนิดต่างๆ นั้น ทั้งถั่วแระญี่ปุ่น ถั่วบราซิล ถั่วเลนทิล ถั่วเหลือง ถั่ว 5 สี ประโยชน์ถือว่าเป็นแหล่งอาหารผมชั้นยอด เพราะเป็นแหล่งโปรตีนจากพืชที่ให้เคราตินในปริมาณสูง การรับประทานถั่วชนิดต่างๆ รวมถึงน้ำเต้าหู้เป็นประจำ ก็จะเป็นการบำรุงผมให้เงางามมีสุขภาพดีได้
8. นม
อาหารใกล้ตัวที่มีเคราติน คืออะไรบ้าง ? หนึ่งในนั้นคือนมนั่นเอง โปรตีนจากนมเป็นแหล่งที่ช่วยผลิตเคราตินให้กับร่างกาย การดื่มนมเป็นประจำจะช่วยเสริมเคราตินในร่างกายได้ ทั้งนี้ ในนมยังมีสารที่เรียกว่าซีสเทอีนที่จะช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับเคราตินได้ด้วย ทำให้เส้นผมของเรามีความแข็งแรง ไม่ขาดหรือเปราะง่ายค่ะ
9. มันเทศ
มันเทศถือว่าเป็นอาหารผมที่ดีมากๆ เพราะมีคุณค่าทางโภชนาการสูง มีวิตามินเอและแคโรทีนอยด์สูงมาก ในมันเทศขนาด 150 กรัม ให้วิตามินเอสูงถึง 100% ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน ทั้งนี้ วิตามินเอมีส่วนช่วยในการสังเคราะห์เคราตินซึ่งจำเป็นต่อสุขภาพผิวและผมของเราด้วย นอกจากนี้ มันเทศยังเป็นอาหารที่มีโพแทสเซียมสูง มีแมงกานิส มีวิตามินบี 6 และวิตามินซีสูงด้วยเช่นกัน ทั้งยังเป็นแหล่งคาร์โบรไฮเดรตเชิงซ้อนให้กับร่างกายอีกด้วย
10. แซลมอน
ใครที่ชอบกินปลาแซลมอนจะต้องยิ้มออก เพราะแซลมอนนั้นมีกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่จะช่วยเสริมสร้างให้ร่างกายสร้างเคราตินเพิ่มขึ้น ทั้งยังช่วยบำรุงเส้นผมให้มีสุขภาพดี ทำให้ผมยาวขึ้น หนามากขึ้นและมีน้ำหนักมากขึ้นด้วย และยังช่วยป้องกันเส้นผมขาดหลุดร่วง และเป็นแหล่งโปรตีนคุณภาพสูงที่ดีต่อสุขภาพโดยรวมของเราด้วยค่ะ
เกร็ดสุขภาพ : นอกจากปลาแซลมอนที่มีไขมันโอเมก้า 3 สูง ซึ่งเป็นอาหารผมชั้นเยี่ยมแล้วนั้น ปลาแมคเคอเรล ปลาเฮอริ่ง ปลาเทราต์ ปลาซาร์ดีน และปลาทูน่าก็เป็นแหล่งของไขมันโอเมก้า 3 ที่ช่วยให้ร่างกายเสริมสร้างเคราตินด้วยเช่นกัน ดังนั้น การกินปลาชนิดต่างๆ ที่กล่าวมานี้ จะช่วยบำรุงให้เส้นผมของเราแข็งแรงเงางามและมีสุขภาพดีได้
และนี่ก็เป็น 10 อาหารที่ช่วยเพิ่มเคราตินให้กับร่างกายของเรา ซึ่งเป็นสารอาหารสำคัญที่จะช่วยบำรุงทั้งเส้นผม เล็บ และผิวของเราให้แข็งแรงและมีสุขภาพดีขึ้นได้ ใครที่สงสัยว่ามีอาหารที่ช่วยเสริมคราติน คืออะไรบ้าง ? ตอนนี้ก็ได้รู้แล้ว และจะได้ไปหามารับประทานกันเพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับเส้นผมของเรา และยังเป็นอาหารที่หารับประทานได้ทั่วไป ถ้าใครต้องการบำรุงทั้งผม ผิว เล็บ ให้แข็งแรง ก็อย่าลืมรับประทานอาหารชนิดต่างๆ เหล่านี้กันด้วยนะคะ
อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : wikihow.com, healthifyme.com, healthline.com
Featured Image Credit : freepik.com/Lifestylememory
ติดตามเราได้ที่ … เฟสบุ๊ค : เกร็ดสุขภาพ
