“เพื่อสุขภาพ” ชุมชนสุขภาพ เรื่องราวตรงใจ ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย รุ่นไหนก็รัก ♡
คลอโรฟิลล์ คือ อะไร ? ช่วยอะไรกับสุขภาพของเราได้บ้าง ?
เชื่อว่าหลายๆ คนคงเคยเห็นผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับคลอโรฟิลล์กันมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นคลอโรฟิลล์รูปแบบสกัดเป็นผง เป็นแคปซูล หรือแม้แต่ในรูปแบบเครื่องดื่ม ซึ่งมีความเข้าใจกันว่า ผลิตภัณฑ์คลอโรฟิลล์เป็นอาหารเสริมเพื่อสุขภาพนั่นเอง แล้วทราบกันมั้ยคะว่า คลอโรฟิลล์ คือ อะไร และคลอโรฟิลล์ ช่วยอะไรได้บ้าง? เราจะพาไปคลายความสงสัยกันค่ะ
คลอโรฟิลล์ คือ อะไร ? กินแล้วดีต่อสุขภาพจริงหรือไม่ ?!
ก่อนที่จะพาไปรู้จักกับประโยชน์ของคลอโรฟิลล์ ช่วยอะไรได้บ้าง? เรามาทำความรู้จักกับคลอโรฟิลล์กันก่อนดีกว่าค่ะ อันที่จริงแล้ว คลอโรฟิลล์นั้นไม่ใช่สารสังเคราะห์ชนิดใหม่แต่อย่างใด เพราะคลอโรฟิลล์ คือสารที่พบได้ในพืชทั่วๆ ไปเกือบทุกชนิด เป็นสารที่มีสีในตัวเอง ทำหน้าที่จับพลังงานจากแสงแดดที่ส่องผ่านพืชมาใช้สังเคราะห์แสงเพื่อให้พืชดำรงชีวิตอยู่ได้ โดยกระบวนการนี้จะเกิดขึ้นในชั้นคลอโรพลาสต์ของใบพืช แต่หลายๆ คนอาจจะเข้าใจว่าคลอโรฟิลล์พบได้เฉพาะในพืชใบเขียวเท่านั้น ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว คลอโรฟิลล์สามารถพบได้ในหมู่พืชชั้นต่ำด้วย อาทิ สาหร่าย และคลอโรฟิลล์ยังมีสีอื่นๆ ที่แตกต่างกันออกไป โดยสามารถแบ่งออกได้เป็น 4 กลุ่ม ได้แก่
- คลอโรฟิลล์ a สามารถพบในพืชชั้นสูงทุกชนิดที่สังเคราะห์แสงได้ มีสีเขียวแกมน้ำเงิน
- คลอโรฟิลล์ b อยู่ในพืชชั้นสูงทุกชนิดรวมทั้งสาหร่ายสีเขียวด้วย มีสีเขียวแกมเหลือง
- คลอโรฟิลล์ c พบในสาหร่ายสีน้ำตาลและสาหร่ายสีทองเท่านั้น
- คลอโรฟิลล์ d พบเฉพาะสาหร่ายสีแดงเท่านั้น
เกร็ดสุขภาพ : ในเมื่อคลอโรฟิลล์พบได้ในพืชเกือบทุกชนิด แล้วเราสามารถกินสารสกัดคลอโรฟิลล์ทดแทนผักและผลไม้ได้หรือไม่ ? ตอบได้เลยค่ะว่าไม่สามารถกินเพื่อชดเชยการกินผักและผลไม้ได้ เนื่องจากขั้นตอนการสกัดคลอโรฟิลล์นั้นอาจสกัดใยอาหารและสารอาหารบางชนิดที่มีประโยชน์ออกไปด้วย ทำให้แร่ธาตุวิตามินต่างๆ ที่อยู่ในสารสกัดคลอโรฟิลล์มีไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย หากต้องการกินคลอโรฟิลล์เป็นอาหารเสริม ก็ควรกินร่วมกับอาหารหลากชนิดให้ครบห้าหมู่ รวมถึงไฟเบอร์ด้วย เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารอย่างเพียงพอนั่นเอง
ประโยชน์ของคลอโรฟิลล์ คืออะไร?
ปัจจุบันมีการศึกษาถึงประโยชน์ของคลอโรฟิลล์ในหลายๆ ด้าน ซึ่งพบว่าคลอโรฟิลล์ที่อยู่ในพืชนั้นประกอบไปด้วยสารอาหารหลากหลายชนิด ทั้งวิตามินและสารต้านอนุมูลอิสระ ทำให้คลอโรฟิลล์เป็นสารชนิดหนึ่งที่มีประโยชน์และส่งผลดีต่อสุขภาพ มาดูกันเลยค่ะว่าการกินคลอโรฟิลล์ ช่วยอะไรได้บ้าง
1. ลดกลิ่นตัวและลดกลิ่นปาก
จากการศึกษาสรรพคุณของคลอโรฟิลล์เพื่อใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ พบว่า คลอโรฟิลล์ คือสารที่ช่วยระงับกลิ่นตัวและกลิ่นปากตามธรรมชาติ ดังนั้นการกินคลอโรฟิลล์ในปริมาณที่พอเหมาะเป็นประจำจึงช่วยระงับกลิ่นตัวและกลิ่นปากได้ ใครมีปัญหากังวลใจในเรื่องนี้ต้องลองเลยค่ะ
2. ทำให้ระบบขับถ่ายทำงานดีขึ้น
ถึงแม้ว่าสารสกัดจากคลอโรฟิลล์จะเป็นสารที่แยกออกมาจากพืชและไม่มีกากใยอาหาร แต่คลอโรฟิลล์ก็มีประโยชน์ต่อการทำงานของระบบลำไส้และสุขภาพของลำไส้โดยตรงเลยค่ะ เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาในเรื่องระบบขับถ่าย รวมทั้งผู้ที่มีอาการท้องผูกเป็นประจำ นอกจากนี้ ยังมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งลำไส้ได้อีกด้วย เนื่องจากคลอโรฟิลล์ คือสารที่ช่วยดีท็อกซ์ลำไส้ จึงช่วยขับสารพิษที่ตกค้างในลำไส้ออกไปได้
3. ช่วยล้างพิษ
คุณสมบัติหลักของคลอโรฟิลล์ มีฤทธิ์ช่วยดีท็อกซ์ คือ ช่วยกำจัดสารพิษออกจากร่างกายได้เป็นอย่างดี โดยมีการศึกษาพบว่า คลอโรฟิลล์สามารถขับสารพิษก่อมะเร็งที่เกิดจากเชื้อราได้ถึง 55% เลยทีเดียว โดยเฉพาะสารก่อมะเร็งที่เติบโตได้ดีในถั่วเปลือกแข็ง ข้าว และเครื่องเทศ ซึ่งสารพิษก่อมะเร็งเหล่านี้มีชื่อเรียกอีกอย่างว่าสารพิษอะฟลาท็อกซิน (aflatoxin) ที่อาจสร้างความเสียหายต่อตับและทำให้ตับวายเฉียบพลันได้ นอกจากนี้ คลอโรฟิลล์ยังสามารถขับพิษโลหะหนักออกจากร่างกายได้ด้วย
4. ป้องกันโรคมะเร็ง
คลอโรฟิลล์ คือสารที่ประกอบไปด้วยวิตามินและสารต้านอนุมูลอิสระเป็นจำนวนมาก จึงมีคุณสมบัติในการช่วยชะลอและยับยั้งการเติบโตของเซลล์มะเร็งได้ เช่น มะเร็งตับหรือมะเร็งกระเพาะอาหาร เป็นต้น นอกจากนี้ สารต้านอนุมูลอิสระยังเป็นตัวช่วยในการสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรงขึ้นด้วย
5. ช่วยบำรุงสุขภาพผิว
มีการศึกษาพบว่า คลอโรฟิลล์ช่วยฟื้นฟูสุขภาพผิวที่ถูกทำลายโดยแสงแดด รวมถึงช่วยบำรุงผิวที่เป็นสิวและมีรูขุมขนกว้าง นอกจากนี้ ยังมีการศึกษาพบว่า คลอโรฟิลล์อาจลดการเจริญเติบโตของแบคทีเรียและลดการอักเสบในบาดแผลที่ผิวหนังได้ดี จึงมีส่วนช่วยทำให้แผลเป็นหายเร็วขึ้นและป้องกันการติดเชื้อได้ ที่สำคัญยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องเซลล์ผิวให้แข็งแรงขึ้นด้วย ทั้งยังช่วยต่อต้านริ้วรอยแห่งวัยได้เป็นอย่างดี การกินคลอโรฟิลล์จึงช่วยบำรุงผิวให้มีสุขภาพดีขึ้นได้
กินคลอโรฟิลล์ยังไงให้ได้ประโยชน์สูงสุด ?
การกินคลอโรฟิลล์ที่ได้ประโยชน์สูงสุด คือการบริโภคจากผักและผลไม้โดยตรง การกินผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการสกัดมาแล้วนั้น ประโยชน์ของคลอโรฟิลล์จะถูกเจือจางไปกับน้ำ การที่เราดื่มหรือกินในรูปแบบอาหารเสริม จะได้รับประโยชน์จากคลอโรฟิลล์น้อยกว่าการกินผักหรือผลไม้สด แต่ถ้าใครอยากกินแบบสารสกัดก็อาจจะต้องดูส่วนผสมอื่นและสารอาหารที่เป็นส่วนประกอบร่วมด้วย เพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพค่ะ
เกร็ดสุขภาพ : คลอโรฟิลล์ คือสารสกัดจากธรรมชาติ จึงมีความปลอดภัยในการบริโภค แต่ก็ไม่ควรกินสารสกัดคลอโรฟิลล์เกินวันละ 450 มิลลิลิตร ซึ่งทางองค์กรอาหารและยาได้มีคำเตือนออกมาว่า หากได้รับสารสกัดคลอโรฟิลล์เกินกว่านั้น ในบางรายอาจมีอาการแพ้ มีผดผื่น ท้องร่วง ท้องเสีย ลิ้นเป็นสีเหลือง หรืออาจจะมีส่วนทำให้ปัสสาวะและอุจจาระเป็นสีเขียวได้ นอกจากนี้ ควรเลี่ยงการใช้คลอโรฟิลล์ร่วมกับยาปฎิชีวนะบางชนิดด้วย เนื่องจากอาจทำให้โรคที่เป็นอยู่อาการแย่ลงได้ ผู้มีโรคประจำตัวควรปรึกษาแพทย์ก่อนกินอาหารเสริมคลอโรฟิลล์จะดีกว่าค่ะ
อาจกล่าวได้ว่า คลอโรฟิลล์ คือสารจากธรรมชาติชนิดหนึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกาย สามารถกินเป็นอาหารเสริมได้ แต่เพื่อให้มีสุขภาพแข็งแรงอย่างยั่งยืน ก็ควรกินอาหารอื่นๆ ให้ครบ 5 หมู่ตามปกติด้วย เนื่องจากในพืชผักทั่วไปก็มีคลอโรฟิลล์เป็นสารประกอบอยู่แล้ว โดยเฉพาะผักใบเขียว เช่น ผักกาดหอม กะหล่ำปลี สวิสชาร์ด สาหร่าย พาสลีย์ ผักคะน้าเม็กซิโก เป็นต้น อย่างไรก็ตาม หากต้องการกินคลอโรฟิลล์ในรูปแบบของสารสกัดก็ควรกินในปริมาณที่พอเหมาะและเลือกผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการตรวจสอบได้มาตรฐาน จะได้ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพค่ะ
อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : medthai.com, webmd.com, education.nationalgeographic.org, verywellhealth.com
Featured Image Credit : freepik.com
ติดตามเราได้ที่ … เฟสบุ๊ค : เกร็ดสุขภาพ