“เพื่อสุขภาพ” ชุมชนสุขภาพ เรื่องราวตรงใจ ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย รุ่นไหนก็รัก ♡
โทษของมะระ และประโยชน์น่ารู้ที่คนรักสุขภาพต้องยอมทนขม !
เราคงเคยได้ยินประโยคที่ว่า “หวานเป็นลม ขมเป็นยา” อาหารรสขมต่างๆ นั้นมีประโยชน์มากมาย รวมถึง มะระ ผักมากประโยชน์ มีวิตามินและแร่ธาตุหลากชนิด และยังมีใยอาหารสูง ดีต่อระบบย่อยอาหารของเรา สำหรับบางคนแล้ว มะระก็ถือเป็นของโปรดเลยทีเดียว ทั้งนี้ ทุกอย่างย่อมมีทั้งคุณและโทษ โทษของมะระ มีหรือเปล่า ? มีข้อควรระวังในการกินอย่างไรบ้าง ในบทความนี้ เพื่อสุขภาพเรามีข้อมูลมาฝากกันแล้วค่ะ
โทษของมะระ มีด้วยหรอ ? กินมะระยังไงให้ได้ประโยชน์ ไม่เกิดโทษกับร่างกาย ?
มะระ เป็นพืชที่เติบโตในส่วนของแอฟริกา เอเชีย แคริบเบียน และอเมริกาใต้ มีลักษณะเหมือนแตงกวาแต่มีผิวภายนอกที่ขรุขระกว่า มะระนั้นมีรสขม แต่ก็กลับมีประโยชน์มากมาย นิยมนำมาทำเป็นอาหารและยาแผนโบราณ ใช้ในการรักษาโรคต่างๆ และสารสกัดจากมะระยังมีอยู่ทั่วไปในรูปแบบผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอีกด้วย และแม้เราจะรู้กันดีกว่ามะระ ประโยชน์มากมาย ดีต่อสุขภาพ ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด หรือช่วยในการรักษาโรคเบาหวานได้ แต่ทั้งนี้ การกินมะระก็ต้องระมัดระวังเช่นกัน เพราะมีโทษที่แฝงอยู่ หากจะกินมะระให้ได้ประโยชน์สูงสุด ไม่ให้เป็นอันตรายต่อร่างกาย ก็ควรรู้ถึงโทษของมะระด้วยเช่นกัน จะมีอะไรบ้างนั้น ไปดูกันเลยค่ะ
เกร็ดสุขภาพ : มะระปรุงสุก 100 กรัม ให้พลังงาน 41 กิโลแคลอรี่ และมีสารอาหาร แร่ธาตุ วิตามินต่างๆ มากมาย มีคาร์โบเดรต 4.19 กรัม ไขมัน 3 กรัม โปรตีน 0.8 กรัม มีโพแทสเซียม โซเดียม ฟอสฟอรัส วิตามินซี แมกนีเซียม โคลีน แคลเซียม เบต้าแคโรทีน โฟเลต ธาตุเหล็ก สังกะสี ซีลีเนียม และยังมีวิตามินเอ วิตามินเค วิตามินบี วิตามินอีอีกด้วย
โทษของมะระ ที่ควรรู้ ก่อนที่จะเกิดโทษต่อร่างกาย
1. อาจทำให้ปวดท้อง
หากกินเป็นครั้งคราวและปริมาณน้อยอาจไม่เป็นอะไร แต่สำหรับบางคนที่กินมะระในปริมาณมาก และกินติดต่อกันเกิน 4 เดือน อาจจะเจอโทษของมะระที่ทำให้ปวดท้องได้ในบางคน รวมถึงอาจทำให้อาเจียน และปัญหาลำไส้อื่นๆ โดยเฉพาะหากกินในระยะยาว ก็อาจทำให้มีอาการปวดท้องได้นะคะ แม้ว่ามะระ ประโยชน์จะมีหลายอย่าง แต่ควรกินแต่พอดี และรับประทานผักชนิดอื่นๆ ที่หลากหลายสลับกันไปจะดีกว่าค่ะ
2. อาจทำให้เกิดอาการแพ้อย่างรุนแรงได้ในบางราย
สำหรับคนที่แพ้อาหารจำพวกแตง เช่น แตงไทย แคนตาลูป เมลอน ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานมะระด้วย เพราะอาจก่อให้เกิดการแพ้ได้ โดยจะมีอาการคือ คันตามผิวหนัง มีผื่นแดง หายใจถี่ และถ้าแพ้อย่างรุนแรงจนถึงขั้นหายใจไม่ออก หายใจติดขัด ควรรีบไปพบแพทย์ทันที
3. ทำให้ท้องร่วงได้
มะระ มีฤทธิ์เป็นยาระบาย หากรับประทานมากเกินไป อาจทำให้เกิดท้องร่วงหรือท้องเดินได้ นอกจากนี้ ในมะระยังยังมีสาร Saponin และสารประกอบ Cucurbitacins ซึ่งเป็นพิษต่อร่างกาย หากบริโภคน้ำมะระมากเกินไป อาจเป็นพิษต่อร่างกาย ทำให้อาเจียนและถ่ายท้องได้ค่ะ
4. ระดับน้ำตาลในเลือดอาจลดลงจนเป็นอันตราย
เนื่องจากมะระอาจส่งผลทำให้น้ำตาลในเลือดลดลง การใช้มะระร่วมกับยาที่ช่วยลดน้ำตาลในเลือดจึงอาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลงจนเป็นอันตรายได้ หากกำลังใช้ยาประเภทใดก็ตามที่ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด โดยเฉพาะผู้ป่วยเบาหวาน ให้ปรึกษาแพทย์ก่อนกินมะระหรืออาหารเสริมที่มีมะระเป็นส่วนผสม
5. ไม่เหมาะกับคนท้อง
แม้ว่ามะระ ประโยชน์จะมีมาก แต่โทษของมะระอย่างหนึ่งคือ หญิงตั้งครรภ์และอยู่ในช่วงให้นมบุตรไม่ควรกิน เพราะสารเคมีในผลหรือเมล็ดมะระอาจทำให้มีเลือดออกระหว่างตั้งครรภ์ได้ และอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้แท้งบุตร รวมถึงในระหว่างให้นมบุตรก็ไม่ควรกิน เพราะยังไม่มีข้อมูลที่เพียงพอว่าปลอดภัยสำหรับลูกน้อย
6. เป็นอันตรายกับคนที่กำลังจะผ่าตัด
ผู้ป่วยที่ต้องเข้ารับการผ่าตัด ควรหยุดกินมะระอย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนเข้ารับการผ่าตัด เพราะมะระ ประโยชน์ที่ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดนั้น อาจไปรบกวนการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดในระหว่างการผ่าตัดและหลังจากผ่าตัดได้ ซึ่งจะส่งผลอันตรายต่อระบบการทำงานของร่างกาย ดังนั้นแล้ว ถ้าต้องได้รับการผ่าตัด ควรงดการบริโภคมะระไปก่อนจะดีกว่าค่ะ
7. อาจทำให้เกิดโรคโลหิตจางในผู้ที่ขาด G6PD
ผู้ที่มีภาวะขาดเอนไซม์จีซิกพีดี ไม่ควรกินเมล็ดมะระ เพราะโทษของมะระอาจทำให้เกิดความเสี่ยงและผลข้างเคียงต่อสุขภาพได้ เช่น โลหิตจาง ปวดศีรษะ มีไข้ และอาจมีภาวะโคม่าได้ในบางรายอีกด้วย
8. มีผลกับประสิทธิภาพของยา
มะระอาจมีผลกับยาบางตัว เพราะทำให้เกิดปัญหาขึ้นจากการที่กินมะระร่วมกับยาในมื้ออาหาร แล้วมะระไปเปลี่ยนประสิทธิภาพของยานั้นๆ ทำให้เกิดโทษต่อร่างกายได้ เพราะฉะนั้น หากใครมีโรคประจำตัวที่ต้องกินยาเป็นประจำ ควรถามแพทย์ประจำตัวว่าสามารถกินยาเหล่านี้ร่วมกับการกินมะระได้หรือไม่ เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายต่อร่างกายค่ะ
9. ทำให้ใจสั่น หัวใจเต้นผิดจังหวะ
ผลมะระสุกนั้นมีพิษและเป็นโทษต่อร่างกาย และอาจส่งผลทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะด้วย และการกินมะระมากเกินไปนั้น นอกจากจะส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือด อาจทำให้เกิดอาการอ่อนเพลีย ใจสั่น กระสับกระส่ายได้เช่นกัน
10. ทำให้ปวดหัว
เมื่อกินมะระมากเกินไป อาจส่งผลต่อระบบประสาทส่วนกลางได้เช่นกัน ทำให้เกิดความรู้สึกมึนงง ปวดศีรษะ และง่วงซึมได้
เกร็ดสุขภาพ : ในประเทศไทย มีมะระอยู่ 2 สายพันธุ์ที่คุ้นเคยกันดี คือ มะระจีน มีผลขนาดใหญ่ สีเขียว ผิวขรุขระ อีกสายพันธุ์หนึ่งคือมะระขี้นก มีขนาดเล็กกว่ามะระจีน รสชาติขมกว่า แต่ก็ให้คุณประโยชน์ต่อร่างกายไม่ต่างกัน มะระสามารถนำมาทำเมนูได้หลากหลายและเข้ากันได้ดีกับอาหารหลายจานเพราะมีรสขมจัดจ้าน สามารถกินดิบหรือปรุงสุกได้ และนำมาผัด นึ่ง อบ หรือแม้แต่นำไปทำต้มจืดยัดไส้ วิธีทำมะระคือ เริ่มต้นด้วยการล้างแล้วหั่นตามยาว จากนั้นใช้ช้อนตักเมล็ดออกจากตรงกลางแล้วหั่นเป็นแว่น หรือเป็นชิ้นขนาดตามต้องการ
ประโยชน์ของมะระ มีอะไรบ้าง ? มาดูกัน !
พอเห็นว่ามะระมีโทษอะไรบ้าง ก็อย่าเพิ่งกังวลจนเลิกรับประทานมะระนะคะ เพราะว่ามีประโยชน์มากมายเช่นกัน หากรับประทานในปริมาณที่พอดี ระมัดระวังในการรับประทานโดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัว หรือต้องกินยาบางชนิด มะระก็เป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพอย่างหนึ่งค่ะ ว่าแต่จะมีประโยชน์มีอะไรบ้างนั้น ไปดูกันเลย
1. ดีต่อโรคเบาหวาน
สารประกอบที่พบในมะระอาจมีผลคล้ายกับอินซูลิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของเรา เนื่องจากคุณสมบัติที่คล้ายกับอินซูลินนี้ อาจช่วยป้องกันการดื้อต่ออินซูลินและป้องกันไม่ให้น้ำตาลในเลือดสูงขึ้น จึงทำให้มะระช่วยบรรเทาอาการของโรคเบาหวานได้
2. มีคุณสมบัติต้านมะเร็ง
จากการศึกษาหลายๆ ชิ้นแสดงให้เห็นว่า มะระมีสารประกอบบางชนิดที่มีคุณสมบัติในการต้านมะเร็ง และอาจมีผลกับเซลล์มะเร็งกระเพาะอาหาร ลำไส้ใหญ่ ปอด ช่องจมูก และมะเร็งเต้านม
3. ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล
หากมีระดับคอเลสเตอรอลในเลือดสูง อาจทำให้เกิดคราบพลัคในหลอดเลือด และทำให้หัวใจต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อสูบฉีดเลือดให้ไปเลี้ยงร่างกายได้อย่างทั่วถึง ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ และมะระนั้น มีสรรพคุณช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลได้ ทำให้สุขภาพหัวใจและสุขภาพโดยรวมของเราดีขึ้นด้วย
4. ช่วยลดน้ำหนัก
มะระเป็นอาหารเสริมที่ยอดเยี่ยมสำหรับการลดน้ำหนัก เนื่องจากมีแคลอรี่ต่ำ และมีไฟเบอร์สูง ซึ่งประโยชน์ของไฟเบอร์คือ ไฟเบอร์จะผ่านทางเดินอาหารได้ช้ามาก ช่วยให้เราอิ่มนานขึ้น ลดความหิวและความอยากอาหารได้ จึงช่วยในเรื่องของการลดน้ำหนัก และยังช่วยลดไขมันหน้าท้องอีกด้วย
5. ช่วยเพิ่มภูมิต้านทาน
ในมะระประกอบไปด้วยแร่ธาตุและวิตามินมากมายที่ดีต่อร่างกาย ในมะระ 1 ถ้วย มีวิตามินซีสูงถึง 93% ตามด้วยวิตามินเอ 44% และยังประกอบไปด้วยโฟเลต โพแทสเซียม สังกะสี และเหล็ก เป็นที่รู้กันดีกว่า วิตามินซีนั้นช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย และในมะระก็มีวิตามินซีสูงมาก จึงเป็นผักที่ช่วยเพิ่มภูมิต้านทานให้กับร่างกายได้ดี
6. ช่วยบำรุงสายตา
เพราะมะระมีวิตามินเอสูง ซึ่งวิตามินเอดีต่อสายตาของเรา และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการมองเห็นให้กับดวงตาของเราได้ และยังช่วยป้องกันการเกิดต้อกระจกด้วย ทั้งนี้ยังช่วยลดความหมองคล้ำบริเวณรอบดวงตาได้ด้วยค่ะ ถ้าอยากสายตาดี ต้องรับประทานมะระเป็นประจำนะคะ
7. ช่วยลดความเสื่อมของเซลล์ในร่างกาย
ในมะระมีสารต้านอนุมูลอิสระสูงมาก เพราะประกอบไปด้วยสารฟีนอลหลายชนิด เช่น กรดคาเฟอิก (Caffeic Acid) กรดแกลลิก (Gallic Acid) และคาเทซิน (Catechin) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันไม่ให้เซลล์เกิดความเสียหายจากการถูกทำลายโดยอนุมูลอิสระได้
8. ช่วยต้านการอักเสบในร่างกาย
นอกจากจะช่วยป้องกันความเสื่อมของเซลล์แล้ว ประโยชน์ของมะระ ยังมีฤทธิ์ช่วยต้านการอักเสบด้วย เพราะในมะระมีโพลีฟีนอลสูง ซึ่งเป็นสารประกอบที่มีคุณสมบัติช่วยต้านการอักเสบในร่างกายได้ดี ดังนั้น การกินมะระ จึงช่วยลดอาการอักเสบในร่างกายได้ค่ะ
9. ดีต่อผม และผิวของเรา
การกินมะระนั้นดีต่อผิวและผมของเราอีกด้วย เพราะอุดมไปด้วยวิตามินเอและซี ซึ่งเป็นอาหารผิวชั้นเยี่ยม มีคุณสมบัติช่วยชะลอริ้วรอย ช่วยชะลอวัย ช่วยลดเลือนจุดด่างดำ และยังช่วยในการรักษาโรคกลากเกลื้อน สะเก็ดเงิน และอาการคันต่างๆ นอกจากนี้ น้ำมะระยังช่วยทำให้เส้นผมเงางาม ลดผมขาดหลุดร่วง แก้ไขปัญหาผมแตกปลาย และยังช่วยขจัดรังแคอีกด้วยนะคะ
10. ช่วยดีท็อกซ์ตับ
มะระนั้นดีต่อตับในการช่วยล้างพิษในตับ ช่วยดีท็อกซ์ตับโดยการเพิ่มเอนไซม์ที่มีประโยชน์ในตับ และยังช่วยรักษาอาการเมาค้างได้ดีอีกด้วย เรื่องจากช่วยลดการสะสมของแอลกอฮอล์ในตับ และยังดีต่อลำไส้ด้วยเช่นกัน
ในตอนนี้ เราก็ได้รู้ทั้งประโยชน์และโทษของมะระกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โทษของมะระนั้นอาจเกี่ยวข้องกับผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์หากรับประทานมากเกินไป และมีโทษต่อคนกลุ่มเสี่ยงมากๆ ที่ไม่ควรกิน ได้แก่ สตรีมีครรภ์ ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพพื้นฐาน และผู้ที่กินยาลดน้ำตาลในเลือด สำหรับคนทั่วไปแล้ว มะระก็ยังนับว่ามีประโยชน์อย่างมาก ทั้งนี้ หากรับประทานแต่พอดี และกินผักอย่างหลากหลาย อย่างผัก 5 สี สลับๆ กันไป ก็ไม่ทำให้เกิดโทษต่อร่างกายแต่อย่างใดค่ะ
ติดตามเราได้ที่ … เฟสบุ๊ค : เกร็ดสุขภาพ