“เพื่อสุขภาพ” ชุมชนสุขภาพ เรื่องราวตรงใจ ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย รุ่นไหนก็รัก ♡
มารู้จัก เม็ดบัว สรรพคุณ มีอะไรบ้าง ? กินยังไงให้ดีต่อสุขภาพ ?!
บัวหนึ่งในพืชน้ำสารพัดประโยชน์ที่อยู่คู่กับวิถีชีวิตของชาวไทยมาช้านาน เพราะบัวนั้นสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ทั้งต้น ดอกบัวนำมาใช้ไหว้พระหรือจะนำมารับประทานเป็นเมี่ยงกลีบบัว ส่วนเกสรมีฤทธิ์เป็นยาบำรุงหัวใจนำมาตากแห้งชงเป็นชาได้ รากบัวก็สามารถนำมาทำอาหารและเครื่องดื่มสมุนไพร ใบของมันยังสามารถนำมาทำอาหารเป็นข้าวอบใบบัวกลิ่นหอมหวลชวนรับประทาน หรือแม้แต่สายบัวและไหลบัวก็ยังนำมาทำอาหารได้หลากหลายเมนู วันนี้เราจะมาแนะนำประโยชน์อีกส่วนหนึ่งของบัวนั่นก็คือ “เม็ดบัว” ซึ่งอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ หลาย ๆ คนอาจจะสงสัยขึ้นมาแล้วว่าเจ้า เม็ดบัว สรรพคุณ ของมันที่มีประโยชน์ต่อร่างกายนั้นเป็นยังไง เราลองมาหาคำตอบไปพร้อม ๆ กันในบทความนี้เลยดีกว่าค่ะ
สารอาหารในเม็ดบัว สรรพคุณทางยาที่ดีต่อสุขภาพ
เม็ดบัวถือว่าเป็นสุดยอดอาหารที่อุดมไปด้วยสารอาหารและวิตามินที่จำเป็นต่อร่างกายเช่นเดียวกับพืชน้ำอย่างสาหร่ายเกลียวทองไม่ว่าจะเป็นโปรตีน คาร์โบไฮเดรต โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส ไม่เพียงเท่านั้นยังมีวิตามินเอ วิตามินซี และวิตามินบีอีกหลายชนิด และยังมีสาร antioxidant หรือสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญอยู่อีกหลายชนิดในเม็ดบัว สรรพคุณของมันเมื่อเรารับประทานอย่างต่อเนื่องจึงจะช่วยเสริมสร้างการทำงานของร่างกายให้มีประสิทธิภาพและแข็งแรงยิ่งขึ้น มีสารอาหารในเยอะขนาดนี้เม็ดบัว สรรพคุณของมันก็คงจะไม่ธรรมดาจึงไม่แปลกใจเลยค่ะว่าทำไม่ตำราแพทย์โบราณทั้งแพทย์แผนไทยและแพทย์แผนจีนจึงจัดเอาเม็ดบัวเป็นหนึ่งตำรับยาบำรุงร่างกายและรักษาโรค
คุณประโยชน์ของเม็ดมัว สรรพคุณ 5 อย่างที่ควรรู้
รักษาอาการนอนไม่หลับ
ปัญหานอนไม่หลับหรือหลับยากที่มักเกิดกับผู้ใหญ่วัยสูงอายุนั้นสามารถบรรเทาให้ดีขึ้นได้ด้วยเม็ดบัว สรรพคุณของเม็ดบัวจะช่วยลดอาการกระสับกระส่าย ช่วยให้ระบบประสาทและสมองผ่อนคลาย เลือดไหลเวียนดี ทำให้ร่างกายรู้สึกสงบผ่อนคลาย ประโยชน์เม็ดบัวจึงช่วยลดความเครียดและความวิตกกังวลส่งผลทำให้หลับได้ง่ายขึ้น เช่นเดียวกับการรับประทานรังนกอุ่น ๆ สรรพคุณรังนกจะช่วยบำรุงระบบประสาทให้ร่างกายผ่อนคลาย
ป้องกันการอักเสบ
เนื่องจากมีสารต้านอนุมูลอิสระจำนวนมากในเม็ดบัว สรรพคุณของมันช่วยป้องกันและบรรเทาการอักเสบของร่างกาย ช่วยรักษาอาการร้อนแผลในช่องปากได้ แถมยังช่วยลดปัญหาเหงือกอักเสบได้อีกด้วยนะคะ
ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
ประโยชน์เม็ดบัวช่วยควบคุมและลดระดับน้ำตาลในเลือด เนื่องจากเม็ดบัวมีน้ำตาลและแคลอรี่ต่ำ แต่กลับมีไฟเบอร์หรือกากใยอาหารสูง ช่วยกระตุ้นการตอบสนองของอินซูลินให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ จึงช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม
เกร็ดสุขภาพ : เนื่องจากสรรพคุณของเม็ดบัวช่วยควบคุมและลดระดับน้ำตาลในเลือด แต่ก็ใช่ว่าผู้ป่วยโรคเบาหวานจะสามารถรับประทานได้อย่างตามใจ ยิ่งผู้ป่วยเบาหวานที่ต้องรับยาหรือฉีดอิซูลินร่วมด้วยการรับประทานเม็ดบัวมากเกินไปอาจจะทำให้น้ำตาลในเลือดต่ำกว่าปกติ เกิดเป็นภาวะน้ำตาลตก ซึ่งจะเป็นอันตรายทำให้เกิดอาการช็อกได้เลยนะคะ
บำรุงหัวใจ
เนื่องจากมีแมกนีเซียมในเม็ดบัว สรรพคุณจะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจ นอกจากนั้นยังช่วยลดระดับไขมันเลว ไตรกลีเซอรไรด์ และคลอเลสเตอรอลช่วยความเสี่ยงของโรคไขมันอุดตันในหลอดเลือด ป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตันและหัวใจขาดเลือดได้
- ดูแลระบบย่อยอาหาร
ในเม็ดบัวมีสรรพคุณช่วยดูแลระบบย่อยอาหารไม่ว่าจะช่วยบำรุงม้าม บำรุงตับและน้ำดีให้ทำงานอย่างสมดุล นอกจากนั้นยังช่วยบรรเทาอาการท้องเสียได้อีกด้วย
วิธีการรับประทานเม็ดบัวให้ได้ประโยชน์สูงสุด
วิธีการรับประทานเม็ดบัวนั้นก็มีหลากหลายรูปแบบ แต่ไม่ว่าจะเป็นแบบไหนก็ได้รับประโยชน์เม็ดบัวไม่แตกต่างกันจะแกะออกจากฝักมากินสด ๆ แบบไปซื้อฝักบัวสดเป็นกำ ๆ มาแกะรับประทานโดยไม่ปรุงแต่งใด ๆ หรือจะนำไปคัวไฟอ่อน ๆ ไม่ก็อบกรอบเอาไว้กินเป็นของว่างคล้ายถั่วต่าง ๆ กินเป็นสแนคระหว่างวันหรือจะใช้เป็นท็อปปิ้งในเมนูอื่น ๆ ใครที่ชอบของหวานอาจจะนำไปต้มเชื่อมกับน้ำตาลรับประทานเป็นขนมหวานก็ได้ ยังนำไปประกอบอาหารอื่น ๆ ได้อีก เช่น ข้าวผัดเม็ดบัว ข้าวอบเม็ดบัว แกงมัสมั่นใส่เม็ดบัว เนื้อสัตว์ตุ๋นใสเม็ดบัว เป็นต้น แต่ยังไงก็ตามการรับประทานเม็ดบัวสด ๆ จากฝักจะให้คุณค่าทางอาหารที่มากกว่าแน่นอนค่ะ เพราะจะไม่ถูกแปรรูปหรือผ่านความร้อน ก็จะช่วยคงคุณค่าของสารอาหารและวิตามินต่าง ๆ ได้ดีกว่าเม็ดบัวที่ผ่านความร้อน
เกร็ดสุขภาพ : แนะนำให้เลือกซื้อฝักบัวแก่ ๆ มารับประทาน เพราะจะได้เม็ดบัวที่เม็ดใหญ่โตเต็มที่ เวลาจะรับประทานไม่ควรเอาต้นอ่อนที่เราเห็นเป็นสีเขียว ๆ ภายในเม็ดบัวทิ้ง ซึ่งหลาย ๆ คนมักจะเอาออกเพราะมันมีรสชาติฝาดขม แต่รู้ไหมคะว่าตรงต้นอ่อนนี่แหละค่ะมีสรรพคุณทางยาช่วยบำรุงตับและถุงน้ำดี
ข้อควรระวังในการรับประทานเม็ดบัว
แม้ว่าการรับประทานเม็ดบัว สรรพคุณที่ร่างกายจะได้รับนั้นจะมากมายเพียงใด แต่หากรับประทานมากเกินไปอาจก่อให้เกิดโทษได้ ควรรับประทานเม็ดบัววันละประมาณ 3-6 กรัม เทียบเท่าเม็ดบัวสดประมาณ 1 ฝัก หรือเพียงแค่ 1 อุ้งมือ ซึ่งการรับประทานเม็ดบัวในปริมาณมากอาจจะทำให้เกิดอาการท้องอืดท้องเฟ้อตามมาได้นอกจากนั้นผู้ที่มีประวัติการแพ้ถั่วหรือธัญพืชอาจจะต้องระวังว่าอาจจะเสี่ยงที่จะแพ้เม็ดบัวตามไปด้วย
เม็ดบัวเขียว ๆ เม็ดเล็ก ๆ แต่กลับอุดมไปด้วยคุณประโยชน์ที่มหาศาล การรับประทานเม็ดบัว สรรพคุณจึงดีต่อร่างกาย และนอกจากเม็ดบัวแล้วอยากแนะนำให้รับประทานธัญพืชอื่น ๆ อย่างงาขี้ม่อนสุดยอดสมุนไพรที่มีประโยชน์ไม่แพ้กันไปหาคำตอบสรรพคุณงาขี้ม่อนคืออะไรได้ในบทความก่อนหน้าของเราเลยค่ะ
อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : healthbenefitstimes.com, healthline.com, starimaging.in
ติดตามเราได้ที่ … เฟสบุ๊ค : เกร็ดสุขภาพ