“เพื่อสุขภาพ” ชุมชนสุขภาพ เรื่องราวตรงใจ ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย รุ่นไหนก็รัก ♡
แนะนำวิธีลดอาการบวมน้ำแบบ step by step ต้องทำยังไง ?!
เคยไหมคะที่อยู่ ๆ ก็เกิดอาการบวมขึ้นมาเฉย ๆ ตามบริเวณส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นตรงขา แขน รวมไปถึงบริเวณใบหน้า ที่ทำเอาใครต่อใครต่างเป็นกังวลใจคิดว่าตัวเองอ้วนขึ้น แต่ครั้นไปชั่งน้ำหนักกลับเท่าเดิมไม่เพิ่มไม่ลด ใช่แล้วค่ะอาการที่ว่ามานั้นไม่ใช่ไขมันส่วนเกินที่ทำให้น้ำหนักขึ้น แต่เป็นลักษณะของ อาการบวมน้ำ ที่ร่างกายของเรามีปริมาณน้ำมากเกินความจำเป็น วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับอาการบวมน้ำให้มากขึ้น พร้อมแนะ วิธีลดอาการบวมน้ำ ที่ทำง่าย ๆ ได้ด้วยตนเอง
ทำความรู้จักกับการบวมน้ำ
อาการบวมน้ำ (Edema) เป็นภาวะหนึ่งที่ร่างกายเกิดการคั่งของน้ำและของเหลวมากเกินความจำเป็น โดยส่วนใหญ่มักจะเกินขึ้นบริเวณแขน ขา มือ ฝ่าเท้า เบ้าตา และใบหน้า ที่จะบวมกว่าส่วนอื่น ๆ ดูภายนอกผิวหนังบริเวณนั้น ๆ ก็จะตึงเป็นพิเศษแต่เมื่อลองเอามือกดจะบุ๋มยุบลงใบค่ะ ซึ่งจะส่งผลต่อการขยับตัว รู้สึกอึดอัน ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ไปจนถึงปวดหัวในลักษณะการปวดหัวแบบมีอาการตาพร่าร่วมด้วย ซึ่งเป็นลักษณะของความดันเลือดสูงขึ้นนั่นเองค่ะ เมื่อเราวัดความดันร่วมด้วยก็จะพบว่าค่าขึ้นสูงปี๊ดเลยทีเดียว ซึ่งวิธีลดอาการบวมน้ำก็มีอยู่หลายวิธีค่ะ แต่เราจะต้องเขาใจถึงสาเหตุของมันกันก่อนค่ะ
สาเหตุของการบวมน้ำ
อาการบวมน้ำนั้นเกิดขึ้นมาได้จากหลายหลายปัจจัยค่ะ ซึ่งเราจำเป็นจะต้องเข้าใจสาเหตุต่าง ๆ ที่ทำให้เกิดการบวมน้ำก่อนจึงจะสามารถมองหา วิธีลดอาการบวมน้ำ ได้อย่างตรงจุด โดยเราได้รวบรวมสาเหตุหลัก ๆ ของการบวมน้ำมาไว้ 5 ข้อด้วยกันค่ะ
โรคและความผิดปกติของร่างกาย
โรคบางโรคก็เป็นสาเหตุของการบวมน้ำ เช่น โรคหัวใจ โรคไตที่ไต วามดันโลหิตสูง โรคตับ รวมไปถึงหนึ่งในโรคขาดวิตามินซีอย่างเส้นเลือดเปราะขอดแข็งก็เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เกิดการคั่งค้างของเลือดและของเหลวจนทำให้เรามีอาการบวมน้ำได้เช่นกันนะคะ
ฮอร์โมนที่ผิดปกติ
สาเหตุประการถัดมาคือฮอร์โมนที่ผิดปกติค่ะ โดยเฉพาะในคุณผู้หญิงที่มักจะมีอาการบวมร่วมกับอาการปวดท้องในช่วงก่อนเป็นประจำเดือน รวมไปถึงคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์อยู่ที่ฮอร์โมนไม่คงที่ก็เสี่ยงที่จะบวมน้ำได้ค่ะ
การใช้ยา
ยาบางชนิดก็ส่งผลต่อการบวมน้ำได้ เช่น ยากลุ่มสเตียรอยด์ ยาต้านการอักเสบ ยาลดระดับน้ำตาล เป็นต้น ดังนั้น วิธีลดอาการบวมน้ำ จากยากลุ่มนี้ควรปรึกษาแพทย์เป็นการดีที่สุดค่ะ
ไม่ขยับเป็นเวลานาน
การที่เราอยู่นิ่งนาน ๆ ไม่ว่าจะเป็นยืนนาน นั่งนาน นอนนาน ๆ เหล่านี้ส่งผลให้เลือดคั่งค้างตามส่วนต่าง ๆ ได้ง่าย และจะทำให้เกิดการบวมน้ำขึ้นนั่นเองค่ะ
อาหารการกิน
การกินอาหารรสเค็มจัดซึ่งมีโซเดียมในปริมาณที่สูง ทำให้ร่างกายต้องหลั่งน้ำมาปรับสมดุลโซเดียมมากขึ้น ตัวเราก็จะบวมน้ำเพิ่มขึ้นมาค่ะ
- วิธีลดอาการบวมน้ำแบบ step by step ที่ทำตามได้ง่าย ๆ
ก่อนอื่นถ้าเรามั่นใจว่าไม่ได้มีโรคประจำตัวหรือใช้ยาที่เป็นสาเหตุให้เกิดการบวมน้ำก็สบายใจได้ค่ะว่าอาการบวมน้ำที่เป็นนั้นไม่ได้เกี่ยวเนื่องกับโรค ซึ่งอาจจะเกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตและอาหารการกินที่ไม่ได้อันตรายสามารถนำ วิธีลดอาการบวมน้ำ ที่เราจะแนะนำนี้ไปทำตามได้เลยค่ะ
อาหารการกิน
เป็นหนึ่งในวิธีลดอาการบวมน้ำที่อยากแนะนำมาก ๆ ค่ะ เพราะการที่เราออกกำลังกายเท่ากับว่าร่างกายขอเราได้ขยับส่วนต่าง ๆ ไปด้วย ส่งผลเลือดและของเหลวในร่างกายไหลเวียนได้ดีไม่คั่งค้างจนบวม และยังช่วยกระตุ้นการเผาผลาญให้ร่างกายขับโซเดียมและเกลือแร่ออกมาได้อย่างสมดุลยิ่งขึ้นค่ะ
ลดโซเดียมในอาหาร
การควบคุมปริมาณโซเดียมในอาหารถือเป็นวิธีลดอาการบวมน้ำที่ตรงจุดมาก ๆ เริ่มจากการลดกินอาหารที่มีรสเค็มจัด หรือมีผงชูรสเป็นส่วนประกอบ รวมไปถึงอาหารแปรรูปสำเร็จรูปทั้งหลายด้วย
เกร็ดสุขภาพ : องค์การอนามัยโลก หรือ WHO แนะนำให้ไม่ควรกินโซเดียมเกินวันละ 1,500 – 2,000 มิลลิกรัม เทียบเท่าเกลือ 1 ช้อนชา หรือน้ำปลา 4 ช้อนชา ถ้าเราสามารถปรุงอาหารกินเองและควบคุมความเค็มและปริมาณโซเดียมให้ได้ตามเกณฑ์นี้ก็จะหายห่วงเรื่องการบวมน้ำลงได้ค่ะ
ดูแลปกป้องให้ความชุ่มชื้น
หมั่นทาครีมมอยเจอร์ไรเซอร์ให้ความชุ่มชื้นกับบริเวณที่บวมน้ำ ระวังอย่าให้เกิดผิวแห้ง รอยขีดข่วน เพราะอาจจะทำให้ติดเชื้อเป็นอันตรายได้ค่ะ แนะนำให้สวมถุงมือ ถุงเท้า หรือถุงหน่องป้องกันไว้จะดีกว่าค่ะ
เปลี่ยนอิริยาบถ
เป็นวิธีลดอาการบวมน้ำ ที่ทำง่ายได้ทุกเวลา เมื่อเราต้องนั่งหรือนอนนาน ๆ ให้ขยับยืดเส้นยืดสาย ยกบริเวณที่เสี่ยงต่อการบวมน้ำอย่างฝ่าเท้า ขา และข้อมือให้สูงเหนือระดับของหัวใจจะช่วยให้เลือดไหลเวียดไม่คั่งค้างจนบวมน้ำ
เกร็ดสุขภาพ : การนั่งหรือยืนนาน ๆ นอกจากจะทำให้เกิดอาการบวมน้ำแล้วอาจเสี่ยงต่อการเกิดลิ่มเลือดอุดตันบริเวณขาได้ เนื่องจากไม่มีการขยับ แนะนำให้คนที่นั่งหรือยื่นนาน ๆ รวมไปถึงคุณแม่ตั้งครรภ์ที่มีปัญหาแข้งขาบวมใช้วิธีลดอาการบวมน้ำ ด้วยการนอนยกขาให้สูงขึ้นอย่างน้อยวันละครั้งจะช่วยให้อาการบวมน้ำบรรเทาลง หรืออาจจะแช่เท้าด้วยน้ำอุ่นก็จะยิ่งเพิ่มการไหลเวียนของเลือดได้ดียิ่งขึ้นค่ะ
นวดผ่อนคลาย
เน้นนวดผ่อนคลายบริเวณที่มักเกิดอาการบวมน้ำเบา ๆ แนะนำให้ลูบคล้ำช้า ๆ ให้รู้สึกผ่อนคลาย กระตุ้นให้เลือดไหลเวียนแต่ไม่ควรบีบแรง ๆ จนเป็นจ้ำนะคะไม่เช่นนั้นจะเกิดกล้ามเนื้ออักเสบอาการอาจแย่ลงกว่าเดิมได้
มาถึงบรรทัดนี้หวังว่าทุกคนคงพอเข้าใจถึงภาวะบวมน้ำและ วิธีลดอาการบวมน้ำ ด้วยตนเองกันแล้วนะคะ ยังไงก็ลองนำไปปรับใช้ตามกันดูได้ เพื่อที่เราจะไม่ได้ต้องกลุ้มกังวลกับการบวมน้ำอีกต่อไป
อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : mayoclinic.org, healthline.com
ติดตามเราได้ที่ … เฟสบุ๊ค : เกร็ดสุขภาพ
