“เพื่อสุขภาพ” ชุมชนสุขภาพ เรื่องราวตรงใจ ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย รุ่นไหนก็รัก ♡
วัคซีนมีกี่ประเภท? ควรรู้ก่อนจะเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด 19
โรคโควิด-19 ที่กำลังแพร่ระบาดอย่างมากในประเทศไทยในตอนนี้รวมถึงทุกประเทศทั่วโลก สิ่งที่จะช่วยป้องกันไวรัสได้ดีที่สุดนอกไปจากการดูแลตัวเองแล้วนั้น คือการได้รับวัคซีน เราจะเห็นได้ในหลายๆ ประเทศในแถบยุโรปที่ตอนนี้เริ่มกลับมาใช้ชีวิตกันเป็นปกติแล้ว เพราะประชาชนได้รับวัคซีนกันทั่วถึงเกินกว่าครึ่งประเทศ ส่วนในประเทศไทยนั้นก็กำลังเร่งการให้วัคซีนแก่ประชาชนทุกกลุ่ม เพื่อลดการติดเชื้อและแพร่ระบาดโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้ ประเภทของวัคซีนโควิด-19 ที่มีใช้กันอยู่ทั่วโลกในขณะนี้ก็มีหลายชนิดด้วยกัน และแต่ละชนิดก็ให้ผลที่แตกต่างกันออกไป รวมถึงเหมาะกับบุคคลที่แตกต่างกันด้วย และเพื่อการเตรียมตัวฉีดวัคซีน เราจะมาแนะนำกันว่าวัคซีนมีกี่ประเภท และแต่ละประเภทเหมาะกับใครบ้าง
เกร็ดสุขภาพ : ผลการศึกษาทางการแพทย์จำนวนมากได้พิสูจน์แล้วว่าวัคซีนป้องกันโควิด-19 นั้นมีประสิทธิภาพในการป้องกันผู้คนจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ และวัคซีนไม่เพียงแต่ลดโอกาสการติดเชื้อเท่านั้น แต่ยังช่วยลดความรุนแรงของโรคได้อีกด้วย แต่แม้ว่าวัคซีนจะเป็นที่ยอมรับทั่วโลกเนื่องจากประสิทธิภาพ แต่หลังจากที่ได้วัคซีนป้องกันโควิด-19 ครบถ้วนแล้ว ก็ยังคงต้องใช้มาตรการป้องกันในที่สาธารณะเหมือนเดิม ไม่ว่าจะเป็น การสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่างทางสังคม ล้างมือบ่อยๆ หลีกเลี่ยงที่ฝูงชน และบริเวณที่อากาศถ่ายเทไม่ดี เพื่อความปลอดภัยและสุขภาพที่ดี ส่วนวัคซีนมีกี่ประเภทนั้น ตามไปอ่านกันเลยค่ะ
วัคซีนมีกี่ประเภท มารู้จักชนิดของวัคซีนโควิด-19 ให้ดีก่อนฉีด
เพื่อความรู้ความเข้าใจก่อนทำการเข้ารับวัคซีน เราจึงควรรู้ถึงข้อมูลสำคัญของวัคซีนก่อนว่าวัคซีนมีกี่ประเภท และวัคซีนตัวไหนเหมาะกับใครบ้าง รวมไปถึงการเตรียมตัวก่อนเข้ารับการฉีดวัคซีนด้วยค่ะ
mRNA
ใครที่กำลังอยากรู้ว่าวัคซีนมีกี่ประเภทนั้น ประเภทแรกที่เราจะพูดถึงคือ mRNA เป็นวัคซีนที่ใช้เทคโนโลยีในการผลิตแบบ mRNA ซึ่งมีประสิทธิภาพในการป้องกันไวรัสโควิด-19 ได้มากที่สุด มีความปลอดภัยสูง เพราะไม่มีเชื้อไวรัสที่มีชีวิตหลงเหลือ แต่ต้องเก็บรักษาอย่างดีเพื่อคงประสิทธิภาพของวัคซีน โดยจะมี 3 ยี่ห้อด้วยกันคือ Pfizer, BioNTech และ Moderna โดยวัคซีน BioNTech จะเป็นของเยอรมนี ส่วน Pfizer และ Moderna จะเป็นของสหรัฐอเมริกา
- วัคซีน Pfizer และ วัคซีน BioNTech เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไป มีประสิทธิภาพในการป้องกันสูงสุด 95% และควรฉีด 2 โดส ในเวลาห่างกัน 3 สัปดาห์ หรือ 21 วัน วัคซีน Pfizer เป็นหนึ่งในวัคซีนที่ทางรัฐบาลไทยจะนำเข้ามาเพื่อฉีดให้กับ 4 กลุ่มเป้าหมายฟรี ในขณะที่ วัคซีน BioNTech กำลังอยู่ในระหว่างการเจรจานำเข้ามา จากกลุ่มเครือโรงพยาบาลธนบุรี คาดว่าจะนำเข้ามาได้ภายในสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้
- วัคซีน Moderna ให้ประสิทธิภาพในการป้องกันถึง 86% แต่สามารถจัดส่งและเก็บไว้ในการจัดเก็บระยะยาวในอุณหภูมิช่องแช่แข็งมาตรฐาน และเก็บไว้ได้นานถึง 30 วันโดยใช้ตู้เย็นปกติได้ ทำให้ง่ายต่อการแจกจ่ายและจัดเก็บมากกว่า Pfizer เหมาะใช้ในผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป โดยควรฉีด 2 โดส และใช้เวลาห่างกัน 4 สัปดาห์ หรือ 28 วัน เป็นวัคซีนทางเลือกที่โรงพยาบาลเอกชนเป็นผู้จัดซื้อผ่านองค์การเภสัช โดยเปิดให้ทำการจองและจ่ายเงินเพื่อรอรับวัคซีนในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีนี้
ราคาเฉลี่ยต่อโดส (ไม่รวมค่านำเข้า) : Pfizer 570-607 บาท, BioNTech ยังไม่ทราบราคา
ราคาเฉลี่ยต่อโดสรวมค่านำเข้า : Moderna 1,650 บาท
Virus Vector
วัคซีนมีกี่ประเภทนั้น วัคซีนที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบ Virus Vector คือหนึ่งในประเภทวัคซีนที่มีประสิทธิภาพ เป็นการผลิตโดยการนำเชื้อไวรัสที่อ่อนแอมาตัดต่อพันธุกรรมหนามโปรตีนไวรัสโควิด-19 และนำมาฉีดเข้าร่างกายเพื่อกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันและกำจัดไวรัสได้ในที่สุด เป็นวัคซีนที่จัดเก็บได้ง่ายในอุณหภูมิตู้เย็น สามารถจัดเก็บ ขนส่ง และจัดการในตู้เย็นปกติได้อย่างน้อยหกเดือน มี 3 ยี่ห้อ คือ Johnson & Johnson, AstraZeneca และ Sputnik V โดยวัคซีน Johnson & Johnson จะเป็นของสหรัฐอเมริกา ส่วนวัคซีน AstraZeneca เป็นของผู้ผลิตจากสวีเดน-อังกฤษ และสุดท้ายกับวัคซีน Sputnik V จะเป็นของรัสเซียค่ะ
- Johnson & Johnson ให้ประสิทธิภาพโดยรวม 72% และต้องใช้เพียง 1 โดสเท่านั้น ซึ่งทำให้แจกจ่ายและจัดการได้ง่ายขึ้น เหมาะสำหรับผู้ใหญ่ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป และจะมีการนำเข้ามาในไทยประมาณไตรมาสที่ 4 โดยจะเข้ามาเป็นวัคซีนทางเลือก
- AstraZeneca คือหนึ่งในประเภทของวัคซีนที่ทางรัฐบาลไทยจัดหามาให้ฉีดฟรี เหมาะสำหรับผู้ใหญ่อายุ 18 ปีขึ้นไปเช่นกัน และควรได้รับ 2 โดส โดยห่างกัน 10-12 สัปดาห์ มีประสิทธิภาพโดยรวม 76% โดยทางภาครัฐจะนำมาฉีดให้ฟรีกับประชาชน 3 กลุ่มเป็นหลัก ทั้งนี้ในปัจจุบันได้มีการนำมาฉีดเพิ่มให้กับประชาชนทั่วไปด้วย
- Sputnik V ที่เป็นหนึ่งในวัคซีนมีกี่ประเภทที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบ Virus Vector โดยมีความปลอดภัยและประสิทธิภาพของวัคซีน 91.6% เหมาะสำหรับผู้ใหญ่อายุ 18 ปีขึ้นไป และควรได้รับ 2 โดส ห่างกัน 3 สัปดาห์ หรือ 21 วัน ซึ่งตอนนี้รัฐบาลไทยได้ทำการสั่งซื้อและกำลังดำเนินการ คาดว่าจะเข้ามาในไทยภายในปีนี้ ส่วนจะฉีดฟรีหรือต้องเสียเงินนั้น ยังไม่เป็นที่แน่ชัด
ราคาเฉลี่ยต่อโดส (ไม่รวมค่านำเข้า) : Johnson & Johnson300-314 บาท, AstraZeneca 125 บาท, Sputnik V 311-405 บาท
Recombinant Protein
ใครอยากกินเมนูผักตำลึงแบบผัดง่ายๆ กับน้ำมัน กินกับข้าวสวยร้อนๆ ลองเมนูนี้รับรองตอบโจทย์ แถมยังรักษาคุณค่าและความอร่อยของผักตำลึงเอาไว้ได้อย่างครบถ้วนด้วย
วัคซีนมีกี่ประเภท นอกเหนือไปจากสองแระเภทที่กล่าวไป อีกประเภทหนึ่งคือ เทคโนโลยี Recombinant Protein ซึ่งแตกต่างจาก mRNA และ Virus Vector ซึ่งจะประกอบด้วยโปรตีนขัดขวางของโคโรนาไวรัสเอง แต่มีสูตรเป็นอนุภาคนาโนซึ่งไม่สามารถทำให้เกิดโรคได้ เมื่อฉีดวัคซีนจะไปกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้ผลิตแอนติบอดี้และการตอบสนองภูมิคุ้มกัน ตอนนี้มีเพียงยี่ห้อ Novawax ของสหรัฐอเมริกา ที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตนี้
- Novawax มีประสิทธิภาพ 90% เหมาะสำหรับอายุ 18 ปีขึ้นไป และควรได้รับวัคซีน 2 โดส ห่างกัน 3 สัปดาห์ หรือ 21 วัน ในส่วนของวัคซีนชนิดนี้กลุ่มเครือโรงพยาบาลธนบุรี กำลังทำการเจรจานำเข้ามาให้บริการกับประชาชนและลูกค้าของเครือโรงพยาบาลธนบุรี คาดว่าจะนำเข้ามาได้ภายในสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้
ราคาเฉลี่ยต่อโดส (ไม่รวมค่านำเข้า) : 480-498 บาท
เกร็ดสุขภาพ : การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการฉีดวัคซีน มีดังนี้
1. งดออกกำลังกายหนักก่อนและหลังการฉีดวัคซีนสองวัน
2. นอนพักผ่อนให้เพียงพอ
3. ในวันที่ฉีดควรดื่มน้ำอย่างน้อย 3-5 แก้ว งดชา กาแฟ เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
4. ควรฉีดวัคซีนแขนข้างที่เราไม่ถนัด และหลังจากฉีดวัคซีนแล้ว 2 วัน อย่าใช้แขนนั้นยกของหนัก
และหากหลังจากฉีด 30 นาที มีอาการเป็นไข้ หรือปวดเมื่อย ให้กินยาพาราเซตามอล 500 มิลลิกรัม 1-2 เม็ด แล้วนอนพักผ่อนมากๆ ดื่มน้ำระหว่างวันเยอะๆ แต่หากว่าขึ้นผื่นคันตามตัวให้รีบแจ้งแพทย์หรือไปพบแพทย์โดยเร็ว
Inactivated Virus
เป็นประเภทของวัคซีนวัคซีนที่ใช้เทคโนโลยี Inactivated Virus หรือวัคซีนเชื้อตาย โดยใช้เทคโนโลยีการผลิตด้วยการนำไวรัสโควิด-19 ที่อ่อนแอลงหรือตายแล้วมากระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน มี 2 ยี่ห้อด้วยกันคือ วัคซีน Sinopharm และ Sinovac ของประเทศจีน
- Sinopharm ให้ประสิทธิภาพโดยรวม 78% เหมาะกับผู้ที่มีอายุ 18-60 ปี ควรได้รับจำนวน 2 โดส และห่างกัน 3-4 สัปดาห์ หรือ 21-28 วัน ซึ่งในตอนนี้ได้มีการนำเข้าวัคซีนชนิดนี้เข้ามาฉีดให้คนไทยแล้ว โดยแบ่งกลุ่มฉีดฟรีให้กับผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ที่มีรายได้น้อย รวมถึงเป็นวัคซีนทางเลือกสำหรับประชาชนทั่วไปด้วย โดยต้องทำการจองผ่านหน่วยงานภาครัฐหรือเอกชน
- Sinovac แนะนำในผู้ที่มีอายุระหว่าง 18-60 ปี ซึ่งจัดว่าเป็นวัคซีนที่มีประสิทธิภาพต่ำที่สุด มีประสิทธิภาพโดยรวม 51% และควรได้รับ 2 โดส ห่างกัน 2 สัปดาห์ หรือ 14 วัน แต่เนื่องจากมีป้องกันการติดเชื้อได้ต่ำ จึงได้มีการอนุมัติให้ฉีดวัคซีนโควิด-19 สลับชนิด โดยเข็มที่ 1 เป็นวัคซีนซิโนแวค และเข็มที่ 2 เป็นวัควีนแอสตราเซนเนกา โดยให้ระยะห่างกัน 3-4 สัปดาห์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันเชื้อกลายพันธุ์เดลตาในปัจจุบัน วัคซีนชนิดนี้เป็นวัคซีนที่ภาครัฐจัดหามาให้ประชาชนได้ฉีดฟรี
ราคาเฉลี่ยต่อโดสรวมค่านำเข้า : Sinopharm 888 บาท
ราคาเฉลี่ยต่อโดส (ไม่รวมค่านำเข้า) : Sinovac 427-934 บาท
ก็ได้รู้จักกันไปครบแล้วนะคะว่าวัคซีนมีกี่ประเภท และมีวัคซีนประเภทไหนบ้างที่เป็นวัคซีนทางเลือก ซึ่งวัคซีนแต่ละชนิดก็เหมาะกับวัยที่แตกต่างกันออกไป แต่อย่างไรก็ตามการเข้ารับวัคซีนโควิด-19 จะช่วยป้องกันการติดเชื้อ การแพร่เชื้อ และการป่วยหนักได้ แต่จะมีประสิทธิภาพมากน้อยแค่ไหนนั้นขึ้นอยู่กับชนิดของวัคซีนดังที่กล่าวไปค่ะ และก่อนเข้ารับการฉีดวัคซีนหากกังวลใจ ไม่มั่นใจว่าจะเกิดอาการแพ้รุนแรงหรือไม่ จะซื้อประกันโควิด-19 หรือประกันสุขภาพต่างๆ ไว้ก่อนก็ดีนะคะ และประกันสุขภาพอันไหนดี เราได้รวบรวมมาแนะนำเอาไว้แล้วในบทความของเราในเว็บไซต์นี้ค่ะ สามารถไปอ่านกันได้เลย
อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : yalemedicine.org, cdc.gov, bangkokhospital.com, praram9.com
ติดตามเราได้ที่ … เฟสบุ๊ค : เกร็ดสุขภาพ