“เพื่อสุขภาพ” ชุมชนสุขภาพ เรื่องราวตรงใจ ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย รุ่นไหนก็รัก ♡
ชวนรู้จัก ความหมายของแอโรบิก คืออะไร แล้วมีประโยชน์ยังไง ?!
การออกกำลังกายมีหลายรูปแบบแต่หนึ่งในการออกกำลังกายที่หลายคนเข้าใจผิดมากที่สุดก็คือ “แอโรบิก” เพราะเมื่อพูดถึงแอโรบิกขึ้นมาเมื่อไรหลายคนคงคิดถึงการเต้นออกกำลังตามสวนสาธารณะหรือแม้แต่การเต้นตามคลิป YouTube แต่คุณรู้หรือเปล่าว่าความหมายของแอโรบิกจริงๆ แล้วคืออะไร มีประโยชน์อย่างไรต่อร่างกายของเรา และมีท่าออกกำลังท่าไหนจัดเป็นแอโรบิกบ้าง วันนี้เราขอชวนคุณมาทำความรู้จักกับแอโรบิกให้มากขึ้นกันค่ะ
- ชวนมาดู ความหมายของแอโรบิก
การออกกำลังกายแบบแอโรบิค คือ ชื่อเรียกการออกกำลังกายรูปแบบหนึ่ง คำว่าแอโรบิก (Aerobic) มาจากรากศัพท์ภาษาละตินหมายถึงอากาศ (Air) ผู้ที่ให้กำเนิดคำว่าการออกกำลังกายแบบแอโรบิกก็คือนายแพทย์เคนเนธ คูเปอร์ โดยหนังสือเกี่ยวกับการออกกำลังกายที่เขาตีพิมพ์ในปี 1968 ชื่อ Aerobics นั้นได้รับการพิมพ์ซ้ำถึง 11 ครั้งในปีแรกที่วางจำหน่าย
จากนิยามความหมายที่นายแพทย์คูเปอร์ได้กล่าวไว้ ความหมายของแอโรบิกก็คือการออกกำลังที่ร่างกายต้องใช้ออกซิเจนจำนวนมากรวมถึงเป็นกิจกรรมที่ต้องทำติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน ส่งผลให้หัวใจ ปอด หลอดเลือด และระบบการไหลเวียนเลือดแข็งแรงขึ้น ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของระบบดังกล่าวอย่างเห็นได้ชัด เพราะจุดมุ่งหมายของการออกกำลังกายแบบแอโรบิกก็คือทำให้ร่างกายของเราใช้ออกซิเจนมากที่สุดในเวลาที่กำหนดนั่นเอง
เกร็ดสุขภาพ : จากนิยามที่เราได้รู้กันไปแล้วว่าแอโรบิค คืออะไร ทำให้การออกกำลังกายแบบแอโรบิกไม่ได้หมายถึงการเต้นอย่างเดียวเท่านั้น แต่การเริ่มเล่นสเก็ตบอร์ด (เมื่อฝึกอย่างต่อเนื่องจนร่างกายต้องใช้แรงหรือใช้ออกซิเจนมากๆ) การวิ่ง การเดิน หรือการออกกำลังกายแบบ HIIT ที่มีความเข้มข้นหนักสลับเบาก็ถือเป็นแอโรบิกเช่นกัน
- ประโยชน์ของการออกกำลังกายแบบแอโรบิก
ได้รู้จักความหมายของแอโรบิกกันไปแล้ว คราวนี้เราลองมาดูกันสักนิดว่าการออกกำลังกายรูปแบบนี้มีประโยชน์ต่อร่างกายของเราอย่างไรบ้าง
- ทำให้ระบบหัวใจและหลอดเลือดแข็งแรงขึ้น
- ลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจ
- ลดความเสี่ยงการเกิดความดันโลหิตสูง
- เพิ่มปริมาณ HDL ซึ่งเป็นคอเลสเตอรอลชนิดดีต่อร่างกาย
- ช่วยคุมระดับน้ำตาลในเลือด
- ช่วยคุมน้ำหนักและมีส่วนช่วยลดน้ำหนัก
- ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของปอด
- ลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะหัวใจเต้นผิดปกติ
- ออกกำลังกายแบบแอโรบิกง่ายๆ ทำแบบไหนได้บ้าง ?
- กระโดดเชือก
การกระโดดเชือกเป็นหนึ่งในวิธีออกกำลังกายแบบแอโรบิกที่ง่ายที่สุดเพราะไม่ต้องใช้พื้นที่เยอะ ไม่มีสนามหรือลานกว้างก็ทำได้ ส่วนอุปกรณ์ขอแค่มีเชือกกระโดด 1 เส้นและรองเท้าที่ช่วยซัพพอร์ทเข่าดีๆ สักคู่ก็เริ่มต้นกระโดดเชือกได้แล้ว ในระยะเริ่มต้นสำหรับมือใหม่ ให้เริ่มจากการกระโดดช้าๆ ต่อเนื่องกัน 5 นาที แล้วค่อยๆ เพิ่มเวลาขึ้น แต่การกระโดดเชือกอาจไม่เหมาะกับผู้ที่มีน้ำหนักตัวเยอะนะคะ เพราะอาจส่งผลให้เจ็บเข้าและข้อเท้าได้ หากคุณมีน้ำหนักตัวเยอะ ลองใช้วิธีอื่นก่อนแล้วค่อยมากระโดดเชือกเมื่อร่างกายแข็งแรงพอก็ไม่สายค่ะ
- วิ่งหรือจ็อกกิ้ง
การวิ่งและจ็อกกิ้งนี่แหละคืออีกหนึ่งการออกกำลังกายแบบแอโรบิกที่ดีที่สุด ประหยัด แถมยังทำเมื่อไรก็ได้ขอแค่มีรองเท้าวิ่งดีๆ สักคู่ การวิ่งที่ดีควรเริ่มจากการอบอุ่นร่างกาย จากนั้นจึงวิ่งเหยาะๆ ต่อเนื่องกันเป็นเวลา 20 – 30 นาทีขึ้นไป ระดับความเหนื่อยของการวิ่งควรอยู่ในโซน 2 หรือระดับที่เราเริ่มหายใจหอบ ทั้งนี้ก็เพื่อให้การวิ่งได้ผลดีมากที่สุดค่ะ การวิ่งจัดเป็นแอโรบิกเช่นกัน เพราะจากนิยามแล้วแอโรบิค คือการออกกำลังกายที่เราต้องใช้ออกซิเจนจำนวนมากเพื่อทำให้ปอด หัวใจ และระบบไหลเวียนเลือดทำงานเต็มประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งการวิ่งก็ตอบโจทย์ตรงนี้ได้ดีที่สุดเลยหล่ะ
- การเดิน
หลายคนอาจสงสัยว่าการเดินก็จัดเป็นแอโรบิกด้วยหรือในเมื่อเวลาเราเดินเรารู้สึกสบายๆ ไม่รู้สึกเหนื่อย? คำตอบก็คือการเดินเพื่อออกกำลังกายนั้นมีเทคนิคเพิ่มความเข้มข้นจนเข้าสู่ระดับที่เป็นแอโรบิกอยู่ค่ะ นั่นก็คือการเดินเร็วและเดินให้ต่อเนื่องอย่างน้อยครั้งละ 150 นาที หรือจะแบ่งเป็นเดินเร็ว 30 นาที ห้าครั้งต่อสัปดาห์ก็ได้ เพราะความหมายของแอโรบิกนอกจากการใช้ออกซิเจนแล้วยังต้องเป็นการออกกำลังกายที่เราทำต่อเนื่องเป็นเวลานานด้วย การเดินจึงเป็นทางเลือกหนึ่งของคนที่มีน้ำหนักตัวเยอะ ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีข้อเข่าไม่แข็งแรงแต่อยากออกกำลังกายแบบแอโรบิก เราก็ใช้วิธีเดินเร็วควบคู่กับการเดินครั้งละนานๆ เพื่อให้ร่างกายได้ใช้ออกซิเจนค่ะ
เกร็ดสุขภาพ : จากความหมายของแอโรบิกกันที่เราแนะนำไป หลายคนอาจคิดว่าเป็นการออกกำลังกายที่เหมาะกับคนอายุน้อยเท่านั้นแต่ความจริงแล้วไม่ใช่เลยค่ะ เพราะไม่ว่าใครก็ออกกำลังกายแบบแอโรบิกได้ ขอแค่เลือกวิธีการและความหนักให้เหมาะสมกับสภาพร่างกายของตัวเอง เช่น หากเป็นผู้สูงอายุก็เลือกใช้ท่าออกกำลังกายสำหรับผู้สูงอายุที่ปลอดภัยและเหมาะกับสรีระผู้สูงอายุมากกว่า แต่เพิ่มความนานและความต่อเนื่องเข้าไปก็ได้ ส่วนคนที่ยังร่างกายแข็งแรง เราสามารถเดิน วิ่ง ว่ายน้ำ กระโดดเชือก หรือจะเต้นแอโรบิกก็ได้ ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของเราเลยค่ะ
ได้รู้จักความหมายของแอโรบิกกันไปแล้ว คราวนี้เราคงเข้าใจมากขึ้นว่า แอโรบิก ไม่ได้หมายถึงการเต้นเท่านั้น นอกจากนี้ยังเป็นการออกกำลังกายที่มีประโยชน์หลายด้าน ใครอยากลดน้ำหนัก เพิ่มความแข็งแรงให้ปอดและหัวใจ รวมถึงลดความเสี่ยงการเกิดโรคร้ายต่างๆ อย่าลืมมาออกกำลังแบบแอโรบิกอย่างน้อย 3 ครั้งต่อสัปดาห์นะคะ ดีต่อสุขภาพแน่นอน
อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : wikipedia.org, healthline.com, my.clevelandclinic.org
ติดตามเราได้ที่ … เฟสบุ๊ค : เกร็ดสุขภาพ