“เพื่อสุขภาพ” ชุมชนสุขภาพ เรื่องราวตรงใจ ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย รุ่นไหนก็รัก ♡
สาเหตุของ กระดูกหลังคด คืออะไร ? ชวนรู้จักพร้อมแนะนำวิธีรักษา
โรคกระดูกสันหลังคด (Scoliosis) คืออาการของกระดูกสันหลังที่โค้งผิดปกติ ที่ทำให้กระดูกสันหลังโค้งไปด้านใดด้านหนึ่ง ความโค้งสามารถอยู่ในส่วนใดก็ได้ของกระดูกสันหลัง แต่บริเวณที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือกระดูกสันหลังส่วนบนและส่วนล่าง พบได้บ่อยที่สุดในช่วงของวัยเด็กหรือวัยรุ่นตอนต้น และพบได้มากในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย ซึ่งอาการของโรคกระดูกสันหลังคดมักเกิดขึ้นในช่วงเด็กกำลังเติบโตก่อนเข้าวัยรุ่น และเพื่อให้ทุกคนเข้าใจถึงโรคนี้ได้มากขึ้น เราจะมาแนะนำว่า กระดูกหลังคด นั้นสาเหตุเกิดจากอะไร สามารถรักษาได้อย่างไรบ้าง รวมถึงกระดูกสันหลังคดหายได้ไหม ? เรามาหาคำตอบกัน
- กระดูกหลังคดคืออะไร ? แล้วกระดูกสันหลังคดหายได้ไหม ?
โดยทั่วไปแล้วกระดูกสันหลังของคนเราจะมีลักษณะตรง แต่สำหรับคนที่เป็นโรคกระดูกหลังคด กระดูกสันหลังจะมีลักษณะเป็นแนวกระดูกที่โค้งเป็นรูปตัว “C” หรือรูปตัว “S” โดยกระดูกจะคดไปทางด้านซ้ายหรือด้านขวาก็ได้ และการวินิจฉัยคือการวัดความโค้งต้องมีอย่างน้อย 10 องศา ถึงจะสามารถระบุได้ว่าเป็นโรคกระดูกสันหลังคด อาการมักจะปรากฏขึ้นครั้งแรกเมื่อยังเป็นเด็กหรือวัยรุ่น โรคกระดูกสันหลังคดไม่ได้สังเกตได้ชัดเจนเสมอไป แต่ผู้ที่มีอาการนี้กระดูกอาจเอนไปข้างใดข้างหนึ่ง หรือมีไหล่หรือสะโพกไม่เท่ากันเนื่องจากความโค้งของกระดูกสันหลัง
- สาเหตุกระดูกหลังคดเกิดจากอะไร เหมือนหมอนรองกระดูกทับเส้นหรือไม่ ?
โรคกระดูกหลังคดจะแตกต่างจากหมอนรองกระดูกทับเส้น เพราะสามารถปรากฏได้ทุกเพศทุกวัย แต่มักเกิดขึ้นระหว่างอายุ 10 ถึง 12 ปี หรือในช่วงวัยรุ่น ในขณะที่หมอนรองกระดูกทับเส้นจะเกิดจากการที่หมอนรองกระดูกสึกหรอตามอายุ และแม้ว่าโรคกระดูกสันหลังคดนี้จะพบได้ยากในทารก แต่โรคกระดูกสันหลังคดในวัยแรกเกิดก็สามารถส่งผลกระทบต่อเด็กก่อนอายุ 3 ปีได้ ในกรณีส่วนใหญ่ที่พบมักไม่ทราบสาเหตุ ส่วนในกรณีอื่นนั้นอาจเกิดจากสาเหตุดังต่อไปนี้
- ภาวะประสาทและกล้ามเนื้อ
ภาวะเหล่านี้ส่งผลต่อเส้นประสาทและกล้ามเนื้อ ได้แก่ อัมพาตสมอง โปลิโอไมเอลิติส และกล้ามเนื้อเสื่อม
- กระดูกสันหลังคดแต่กำเนิด
ความผิดปกติแต่กำเนิด หมายความว่ามีอาการตั้งแต่แรกเกิด แม้ว่าจะเกิดขึ้นได้ยากแต่อาจเกิดขึ้นได้หากกระดูกในกระดูกสันหลังพัฒนาอย่างผิดปกติเมื่อทารกในครรภ์เติบโต
- โรคกระดูกพรุน
โรคกระดูกพรุนอาจทำให้เกิดกระดูกหลังคดแบบทุติยภูมิ เนื่องจากการเสื่อมสภาพของกระดูกได้ และอาจพบในวัยทองผู้ชายและผู้หญิง
- สาเหตุอื่น ๆ
เกิดจากท่าทางที่ไม่ดี การสะพายเป้หรือกระเป๋าเป้สะพายหลัง ความผิดปกติของเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน และการบาดเจ็บบางอย่างที่อาจทำให้กระดูกสันหลังคดได้
- อาการแสดงของกระดูกสันหลังคด
กระดูกสันหลังคดมักจะปรากฏชัดตั้งแต่วัยทารกหรือวัยรุ่น อาการจะแตกต่างกันไปตามอายุของบุคคล และรูปแบบที่พบบ่อยที่สุดของกระดูกสันหลังคดที่ปรากฏในวัยรุ่นจะไม่ทราบสาเหตุ และสามารถส่งผลกระทบต่อช่วงอายุระหว่าง 10-18 ปี ซึ่งอาการต่าง ๆ ที่สังเกตเห็นและพบได้ มีดังนี้
- ศีรษะอาจดูเบี้ยวเล็กน้อย
- ซี่โครงแต่ละข้างอาจมีความสูงต่างกันเล็กน้อย
- สะโพกข้างหนึ่งสูงกว่าอีกข้างหนึ่ง
- เสื้อผ้าที่สวมใส่อาจห้อยไม่เท่ากัน
- ไหล่ข้างหนึ่งอาจยกสูงกว่าอีกข้างหนึ่ง
- มีลักษณะลำตัวเอนไปข้างใดข้างหนึ่ง
นอกจากนี้สำหรับกรณีส่วนใหญ่ กระดูกสันหลังจะหมุนหรือบิดนอกเหนือจากการโค้งจากด้านหนึ่งไปอีกด้านหนึ่ง ทำให้ซี่โครงหรือกล้ามเนื้อด้านใดด้านหนึ่งของร่างกายยื่นออกไปมากกว่าอีกด้านหนึ่ง และกระดูกสันหลังคดบางชนิดอาจทำให้เกิดอาการปวดหลังได้ แต่โดยทั่วไปจะไม่เจ็บปวดมาก อาการนี้พบได้บ่อยในผู้สูงอายุ
เกร็ดสุขภาพ : การออกกำลังกายแบบต่างๆ อาจช่วยเรื่องกระดูกหลังคดได้ เพราะจะช่วยปรับกระดูกสันหลัง ซี่โครง ไหล่ และเชิงกรานให้อยู่ในท่าปกติ และเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว แต่จะเหมาะสำหรับกรณีที่มีกระดูกสันหลังคดระดับปานกลางหรือน้อย โดยออกกำลังกายด้วยท่าทางบริหารที่ถูกต้อง นอกจากนี้อีกวิธีที่ดีก็คือ การทำกายภาพบำบัด เหมาะสำหรับกรณีที่กระดูกสันหลังคดไม่มาก และมักมีสาเหตุจากพฤติกรรมที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งสามารถทำกายภาพบำบัดด้วยตัวเองง่าย ๆ ที่บ้าน เริ่มจากการปรับท่านั่ง ท่ายืน และการออกกำลังกายในเบื้องต้น
- การรักษากระดูกหลังคด
กระดูกสันหลังคดหายได้ไหม ? หลายคนคงอยากรู้ ซึ่งในกรณีส่วนใหญ่โรคกระดูกสันหลังคดในวัยเด็กและวัยรุ่นนั้นไม่รุนแรงและไม่ต้องการการรักษา ซึ่งอาการและการรักษาแบ่งได้ดังนี้
- กระดูกสันหลังคดที่มีเส้นโค้งของกระดูก 10 ถึง 25 องศา เด็กที่เป็นโรคกระดูกสันหลังคดไม่รุนแรงนี้จะได้รับการตรวจสอบอย่างใกล้ชิดทุก 3, 6 หรือ 12 เดือน โดยปกติแล้วจะทำการเอ็กซ์เรย์เพื่อดูว่าส่วนโค้งนั้นแย่ลงหรือไม่ และสภาพของกระดูกมีการเปลี่ยนแปลง หรือกระดูกสันหลังคดกลับมาตรงได้หรือไม่ ซึ่งในหลายกรณีไม่จำเป็นต้องรักษา
- กระดูกสันหลังคดที่มีเส้นโค้ง 25 ถึง 40 องศา แพทย์อาจแนะนำให้ใช้การค้ำยัน เด็กบางคนจะต้องสวมเหล็กค้ำยันเพื่อป้องกันไม่ให้ส่วนโค้งแย่ลง และต้องสวมเหล็กตลอดเวลาแม้ในเวลากลางคืน ประสิทธิภาพมีแนวโน้มที่จะสัมพันธ์กับจำนวนชั่วโมงต่อวันที่สวมเหล็ก
- กระดูกสันหลังคดที่มีส่วนโค้งมากและโครงกระดูกยังไม่โต แพทย์อาจแนะนำให้ทำการผ่าตัดเพื่อยืดส่วนโค้งที่รุนแรงนั้นให้กระดูกสันหลังคดกลับมาตรง โดยใส่ชิ้นส่วนของกระดูกหรือวัสดุที่คล้ายกันระหว่างกระดูกในกระดูกสันหลังเพื่อยึดกระดูกไว้กับที่ จนกว่ากระดูกจะเติบโตไปด้วยกันหรือหลอมรวมกัน ซึ่งการผ่าตัดนี้สามารถลดความโค้งของกระดูกสันหลังได้ รวมทั้งป้องกันไม่ให้อาการแย่ลงได้ด้วย
นอกจากนี้ ส่วนใหญ่โรคกระดูกสันหลังคดนั้นไม่รุนแรง แต่ส่วนโค้งบางส่วนจะแย่ลงเมื่อเด็กโตขึ้น และหากในบางรายที่อาการของโรครุนแรง กระดูกสันหลังส่วนโค้งที่รุนแรงเป็นพิเศษนั้นสามารถลดพื้นที่ภายในหน้าอกได้ ทำให้ปอดทำงานได้ยาก
เกร็ดสุขภาพ : อีกหนึ่งวิธีในการรักษาแบบทางเลือกคือ “ไคโรแพรคติก” หรือการนวดจัดกระดูก เป็นศาสตร์การบำบัดกล้ามเนื้อ กระดูก และข้อต่อ ผู้เชี่ยวชาญจะทำการจัดกระดูกสันหลังและให้การรักษาแบบทางเลือก ซึ่งการปรับกระดูกสันหลังใหม่จะส่งเสริมการรักษาและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและช่วยปรับปรุงคุณภาพชีวิต แต่ไม่สามารถแก้ไขความโค้งของกระดูกสันหลังหรือทำให้กระดูกสันหลังคดกลับมาตรงได้ หากต้องการบำบัดอาการเจ็บป่วยของโรคกระดูกสันหลังคดด้วยแพทย์ทางเลือก ให้เลือกผู้ที่เชี่ยวชาญด้านนี้โดยตรง เพราะการได้รับการรักษาด้วยไคโรแพรคติกจากผู้ที่ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญอาจทำให้อาการแย่ลงได้
กระดูกหลังคดมักเกิดขึ้นในวัยเด็กหรือวัยรุ่น และมักไม่ทราบสาเหตุ รวมถึงสามารถใช้การรักษา เช่น การพยุงหลังและการผ่าตัด มักจะช่วยรักษาอาการต่างๆ ได้ แม้ว่าโรคนี้จะไม่ได้สร้างความเจ็บปวดทางร่างกายมากนัก แต่ก็ส่งผลต่อการใช้ชีวิตและเรื่องของบุคลิกภาพ ดังนั้น หากสงสัยว่าตนเองหรือลูกหลานจะเป็นโรคกระดูกสันหลังคด ควรเข้ารับการรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ จะช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อนในอนาคตได้ และที่สำคัญสามารถเลือกทำสูตรอาหารบำรุงกระดูกกินเป็นประจำด้วยก็จะดีค่ะ
อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : medicalnewstoday.com, mayoclinic.org, webmd.com, hdmall.co.th, bumrungrad.com, phyathai3hospital.com
ติดตามเราได้ที่ … เฟสบุ๊ค : เกร็ดสุขภาพ