“เพื่อสุขภาพ” ชุมชนสุขภาพ เรื่องราวตรงใจ ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย รุ่นไหนก็รัก ♡
How to เตรียมตัวฉีดวัคซีนยังไง ?! ฉีดแล้วต้องดูแลตัวเองยังไงบ้าง
ประเด็นที่ร้อนแรงที่สุดช่วงนี้คงหนีไม่พ้นการ เตรียมตัวฉีดวัคซีน เพราะหลายคนได้จองวัคซีนกับทางรัฐไปแล้ว ส่วนบางคนก็ได้ฉีดฟรีเพราะเป็นข้าราชการ กลุ่มเสี่ยง หรือพนักงานของรัฐ แต่เราจะมีแนวทางเตรียมตัวก่อนไปฉีดวัคซีนอย่างไร และเมื่อฉีดเรียบร้อยแล้วหลังฉีดวัคซีนต้องดูแลตัวเองอย่างไร สังเกตอาการตัวเองแบบไหนบ้างเรามีคำตอบมาฝากแล้วค่ะ
เตรียมตัวฉีดวัคซีน ก่อนฉีดต้องเตรียมพร้อมอย่างไร
ก่อนไปฉีดวัคซีน ลองมาดูแนวทางการเตรียมตัวฉีดวัคซีนกันก่อนว่าต้องเตรียมร่างกายและจิตใจให้พร้อมอย่างไรบ้าง
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 6 – 8 ชั่วโมงและไม่ควรนอนดึกเพื่อป้องกันร่างกายอ่อนเพลีย
- ทำใจให้สบาย ไม่เครียด ไม่กังวล เพราะอาจส่งผลต่อความดันจนทำให้ไม่สามารถฉีดวัคซีนได้
- งดออกกำลังกายหนักๆ เช่น การวิ่ง ว่ายน้ำ คาร์ดิโอลดความอ้วน หรือยกน้ำหนัก
- สำหรับคนที่มีโรคประจำตัวหรือมียาที่ต้องกินประจำต้องปรึกษาคุณหมอประจำตัวก่อนฉีดวัคซีนอย่างน้อย 2 วัน
- หากมียาประจำตัวสามารถกินได้ตามปกติ ยกเว้นยาประเภทละลายลิ่มเลือดหรือยาต้านเกล็ดเลือด ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ที่จุดลงทะเบียนด้วย
- หากใครป่วยก่อนเข้ารับการฉีดวัคซีนให้เลื่อนกำหนดการฉีดออกไปอย่างน้อย 2 สัปดาห์
- ก่อนไปฉีดวัคซีนใครสงสัยว่าต้องดื่มน้ำวันละกี่ลิตร ควรดื่มน้ำมากๆ อย่างน้อย 3 – 5 แก้วก่อนฉีดวัคซีน และที่สำคัญต้องงดเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนอย่างชา กาแฟ น้ำอัดลม และงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- กินอาหารอ่อนๆ ไขมันต่ำและย่อยง่าย สามารถกินอาหารตามมื้อประจำวันได้ปกติ ไม่ต้องงดอาหาร
- การเตรียมตัวฉีดวัคซีนสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ที่อายุครรภ์น้อยกว่า 12 สัปดาห์คือต้องแจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อของดรับวัคซีน ส่วนคุณแม่ที่อายุครรภ์ตั้งแต่ 12 สัปดาห์ขึ้นไปควรปรึกษาคุณหมออีกครั้ง
เกร็ดสุขภาพ : การเตรียมตัวฉีดวัคซีนมีกลุ่มที่ต้องให้ความสำคัญกับการแจ้งข้อมูลต่อแพทย์มากเป็นพิเศษ นั่นคือกลุ่มผู้ที่มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรค คือ โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคหลอดเลือดสมอง โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง โรคอ้วน โรคไตวายเรื้อรัง โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน ผู้ที่มีอาการป่วยเหล่านี้ ให้ปรึกษาแพทย์ประจำตัวก่อนฉีดวัคซีน ไม่ควรตัดสินใจฉีดเองนะคะ
- แนวปฏิบัติหลังฉีดวัคซีน รู้ไว้ก่อน สบายใจกว่า
หลังจากฉีดวัคซีนแล้วบางรายอาจโชคดีไม่มีอาการข้างเคียง มีเพียงอาการปวดหรือชาแขนข้างที่ฉีดเท่านั้น แต่ไม่ว่าเราจะมีหรือไม่มีอาการในช่วงแรก ก็ต้องรู้แนวทางปฏิบัติหลังฉีดเพื่อให้สามารถสังเกตอาการและดูแลตัวเองได้ โดยหลังจากการฉีดวัคซีนแล้วมีแนวปฏิบัติดังนี้
- พักรอดูอาการที่จุดฉีดวัคซีนอย่างน้อย 30 นาที หากพบว่ามีอาการผิดปกต้องพบแพทย์ทันที
- เมื่อพักรอดูอาการครบ 30 นาทีแล้วอย่าลืมไปวัดความดันก่อนกลับอีกครั้งด้วย
- สังเกตอาการตัวเองต่ออีกประมาณ 48 – 72 ชั่วโมง หากพบอาการผิดปกติ เช่น ชาครึ่งซีก แขนขาอ่อนแรง หรือมีอาการปากเบี้ยว ให้รีบไปพบแพทย์ทันที
- งดเกร็งแขนและใช้แขนยกของหนักประมาณ 2 วัน
- ถ้ามีไข้หรือปวดเมื่อยมาก สามารถกินยาพาราเซตามอลขนาด 500 มิลลิกรัม ได้ 1 เม็ด และกินซ้ำทุก 6 ชั่วโมง แต่งดกินยา Brufen, Arcoxia และ Celebrex โดยเด็ดขาด
เกร็ดสุขภาพ : รู้วิธีการเตรียมตัวฉีดวัคซีนกันแล้วอย่าลืมมารู้จักอาการข้างเคียงหลังฉีดวัคซีนกันด้วย โดยอาการชนิดไม่รุนแรงก็คืออาการทั่วไป มีไข้ ปวดศีรษะ คล้ายเป็นหวัดน้ำมูกไหล คลื่นไส้ ปวดเมื่อยตามร่างกาย อาการเหล่านี้จะหายได้เองภายใน 2 – 3 วัน ส่วนอาการผิดปกติรุนแรงที่หากพบว่าตัวเองเป็นต้องรีบไปพบแพทย์ก็คือ อาการชาเฉพาะที่ มีก้อนบริเวณที่ฉีดยา เวียนศีรษะ มึนงง ปวดท้อง ใจสั่น กล้ามเนื้ออ่อนแรง ความดันตก หลอดลมตีบ หายใจลำบาก มีผื่นขึ้นตามตัว หรือปากเบี้ยว หากพบว่ามีอาการเหล่านี้ต้องไปพบแพทย์ทันที
การฉีดวัคซีนมีจุดประสงค์เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันไวรัสชนิดนี้ขึ้นมา ดังนั้นไม่ว่าจะได้รับวัคซีนยี่ห้ออะไร เราก็ต้องเรียนรู้ที่จะเตรียมตัวก่อนฉีดวัคซีนให้พร้อม รู้จักแนวทางสังเกตอาการตัวเองหลังฉีด และยังต้องใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังเสมอจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น เมื่อพร้อมแล้ว คราวนี้ก็จะสามารถไปฉีดวัคซีนได้อย่างมั่นใจขึ้นแล้วค่ะ
อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : ram-hosp.co.th, praram9.com
ติดตามเราได้ที่ … เฟสบุ๊ค : เกร็ดสุขภาพ