“เพื่อสุขภาพ” ชุมชนสุขภาพ เรื่องราวตรงใจ ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย รุ่นไหนก็รัก ♡
สาเหตุหน้ามันคืออะไร ?! รู้จักและรับมือกับความมันบนใบหน้ากัน !
ผิวของเราต้องการน้ำมันเพื่อให้ความชุ่มชื้นและรักษาความชุ่มชื้นนั้นไว้ จึงทำให้เกิดมีสภาพผิวที่มันได้ในบางคน คนที่มีผิวมันมักจะมีริ้วรอยน้อยลง แต่ข้อเสียของผิวมันคือทำให้เกิดสิวได้ง่าย และเพื่อรู้ถึงวิธีจัดการกับผิวมันให้ถูกต้องเรามารู้ถึง สาเหตุหน้ามัน และวิธีแก้หน้ามันที่เราทำได้กันเลยค่ะ
สาเหตุหน้ามัน เกิดจากอะไร ? รู้ก่อนแก้ได้ก่อน ปัญหาหน้ามันจัดการได้ !
ก่อนที่เราจะไปรู้ถึงวิธีแก้หน้ามัน เรามารู้ถึงสาเหตุหน้ามันกันก่อนเลยดีกว่าค่ะ ผิวหน้ามันเกิดขึ้นเมื่อต่อมไขมันในผิวหนังสร้างไขมันมากเกินไป ในความเป็นจริงแล้วทุกคนมีน้ำมันอยู่ในผิว ใต้รูขุมขนแต่ละข้างมีต่อมไขมันที่ผลิตน้ำมันตามธรรมชาติที่เรียกว่าซีบัม ซีบัมเป็นสารคล้ายขี้ผึ้งที่ช่วยปกป้องและให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว ซึ่งซีบัมมีความสำคัญต่อการดูแลผิวให้แข็งแรง แต่ความมันที่มากเกินไปอาจทำให้ผิวมัน รูขุมขนอุดตัน และเกิดสิวได้
และจะรู้ได้อย่างไรว่าใครมีผิวมัน ? หากผิวของคุณดูเหมือนมีน้ำมันเคลือบอยู่บนผิวตลอดเวลา และนั่นทำให้คุณต้องใช้กระดาษซับมันหลายแผ่นต่อวัน รวมถึงรู้สึกได้ถึงความมันภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังทำความสะอาด นั่นแปลว่าคุณกำลังมีผิวมันแล้วหล่ะค่ะ และสาเหตุหน้ามัน ได้แก่ ปัจจัยทางพันธุกรรม สิ่งแวดล้อม และไลฟ์สไตล์ เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งรายละเอียดของสาเหตุหน้ามันนั้น มีดังนี้
- พันธุกรรม
สาเหตุหน้ามันอย่างแรกเลยคือ พันธุกรรม ผิวมันมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นในครอบครัว หากพ่อแม่คนใดคนหนึ่งของคุณมีผิวมัน คุณก็มีแนวโน้มที่จะมีต่อมไขมันที่ผลิตน้ำมันมากเช่นกัน
- ภูมิประเทศที่อยู่อาศัย และภูมิอากาศ
แม้ว่าพันธุกรรมและอายุจะเป็นตัวขับเคลื่อนสาเหตุสำคัญของผิวมัน แต่สถานที่ที่คุณอยู่และภูมิอากาศก็สามารถสร้างความแตกต่างของผิวหน้าได้เช่นกัน เพราะคนเรามักจะมีผิวมันมากกว่าในสภาพอากาศที่ร้อนและชื้น ทำให้คุณมีแนวโน้มที่จะมีน้ำมันบนผิวมากกว่าในช่วงฤดูร้อน
- รูขุมขนกว้าง
บางครั้งรูขุมขนของเราก็สามารถขยายออกได้เนื่องจากอายุ น้ำหนักที่ผันผวน การเกิดสิวครั้งก่อน หรือการมีผิวเปลือกส้ม และรูขุมขนกว้างมีแนวโน้มที่จะผลิตน้ำมันมากขึ้น คุณไม่สามารถลดขนาดรูขุมขนได้ แต่คุณสามารถดูแลเป็นพิเศษเพื่อซับบริเวณใบหน้าที่มีรูขุมขนกว้างตลอดทั้งวัน เพื่อให้หน้าไม่มันได้ค่ะ
- ใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวผิดประเภท
หนึ่งในสาเหตุหน้ามันคือการใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ไม่ถูกต้องตามประเภทผิวของคุณ บางคนเข้าใจผิดว่าตนเองมีผิวผสม จึงอาจใช้ครีมบำรุงผิวหน้าที่หนักเกินไป แนะนำให้บำรุงผิวหน้าด้วยมอยส์เจอไรเซอร์เนื้อบางเบา หรือเนื้อเจล แทนการใช้เนื้อครีมที่หนาและหนัก เพราะการใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ถูกต้องสามารถช่วยป้องกันหน้ามันได้
- ดูแลผิวมากเกินไป
เพราะการล้างหน้าหรือขัดผิวบ่อยเกินไปอาจทำให้ผิวของคุณมันเยิ้มได้เช่นกัน ผิวหน้าของคุณจะดึงน้ำมันออกจากผิวมากเกินไป และทำให้ต่อมไขมันเข้าสู่โหมดฉุกเฉิน มันจะผลิตน้ำมันมากขึ้นเพื่อชดเชยการสูญเสียน้ำมัน เพราะฉะนั้น ควรล้างหน้าวันละสองครั้งเท่านั้นเพื่อไม่ให้น้ำมันส่วนเกินหลุดออกไป
เกร็ดสุขภาพ : ผิวของเราจะผลิตซีบัมน้อยลงเมื่ออายุมากขึ้น ผิวที่แก่ก่อนวัยจะสูญเสียโปรตีน เช่น คอลลาเจน และต่อมไขมันทำงานช้าลง นี่คือเหตุผลที่หลายคนที่มีผิวที่แก่ก่อนวัยก็มีผิวแห้งเช่นกัน เป็นช่วงเวลาที่ริ้วรอยและรอยเหี่ยวย่นจะสังเกตเห็นได้ชัดเจนขึ้นเนื่องจากขาดคอลลาเจนและความมัน และประโยชน์อย่างหนึ่งของผิวมันก็คือ ผิวหน้าของคุณจะไม่สามารถแสดงสัญญาณแห่งวัยได้เร็วเท่ากับผิวแห้ง
แก้ปัญหาหน้ามันทำอย่างไร ?
การหาสมดุลที่เหมาะสมของสภาพผิวหน้า ต้องอาศัยความเข้าใจในสาเหตุและการรักษาผิวมัน เพราะน้ำมันส่วนเกินอาจเกิดจากปัจจัยหลายอย่าง เช่น ฮอร์โมน พันธุกรรม ความเครียด และแม้แต่สภาพอากาศ แต่ก็มีวิธีจัดการง่ายๆ ที่ทุกคนสามารถนำไปใช้เพื่อแก้หน้ามันได้อย่างเห็นผล และสามารถลดอาการของผิวมันได้โดยไม่ต้องใช้ยาแรงๆ ตามใบสั่งแพทย์ มาดูกันว่าเราจะทำอย่างไรกันได้บ้าง
- ล้างหน้าเป็นประจำ
การล้างหน้าเป็นประจำสามารถลดปริมาณน้ำมันบนผิวหนังได้ แนะนำให้ใช้วิธีการต่อไปนี้สำหรับการล้างผิวมัน
- ล้างหน้าด้วยสบู่ล้างหน้าหรือเจลล้างหน้าที่อ่อนโยน และตามด้วยน้ำอุ่น
- หลีกเลี่ยงสบู่ที่มีกลิ่นหอม เพิ่มมอยส์เจอไรเซอร์ หรือมีสารเคมีรุนแรง ซึ่งอาจทำให้ระคายเคืองหรือทำให้ผิวแห้งได้ และผิวจะตอบสนองด้วยการสร้างความมันมากขึ้น
- หลีกเลี่ยงการใช้ผ้าหยาบซับหน้า เนื่องจากการเสียดสีอาจกระตุ้นให้ผิวสร้างน้ำมันมากขึ้น
- ใช้โทนเนอร์
โทนเนอร์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์จะทำให้ผิวแห้ง ควรเลือกที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ ซึ่งโทนเนอร์สามารถทำให้รูขุมขนที่กว้างดูเล็กลง และขจัดผลิตภัณฑ์หรือเครื่องสำอางที่อาจอุดตันรูขุมขนออกได้
- มาส์กหน้า
มาสก์หน้าบางชนิดอาจเป็นประโยชน์สำหรับการรักษาผิวมัน แนะนำให้เลือกที่มีส่วนผสม ดังนี้
- โคลน เพราะสามารถดูดซับน้ำมันและลดความมันเงาของผิวได้โดยไม่ระคายเคืองผิว ให้ใช้เป็นครั้งคราวเพื่อป้องกันผิวแห้ง และทามอยส์เจอไรเซอร์หลังใช้
- น้ำผึ้ง น้ำผึ้งดิบจากธรรมชาติมีคุณสมบัติในการต้านเชื้อแบคทีเรียและน้ำยาฆ่าเชื้อ มาส์กหน้าน้ำผึ้ง 10 นาทีอาจลดสิวและผิวมันได้ ในขณะที่ยังทำให้ผิวนุ่ม
- ข้าวโอ๊ต มาสก์ที่มีข้าวโอ๊ตจะช่วยทำความสะอาดผิวได้ เพราะข้าวโอ๊ตประกอบด้วยซาโปนินจึงช่วยทำความสะอาดที่อ่อนโยน และยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ และสารต้านการอักเสบที่สามารถบรรเทาผิวที่ระคายเคืองได้
- ทามอยเจอร์ไรเซอร์
ในขณะที่หลายคนที่มีผิวมันมักจะหลีกเลี่ยงมอยส์เจอไรเซอร์เพราะกลัวว่าผิวจะดูมันเยิ้มยิ่งขึ้น แต่การใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ที่เหมาะสมจะเป็นประโยชน์ต่อผิวมันอย่างมาก สำหรับผู้ที่มีผิวมันมาก มอยส์เจอไรเซอร์ที่ปราศจากน้ำมันจะช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและได้รับการปกป้องโดยไม่รู้สึกมันเยิ้ม เช่น ว่านหางจระเข้ ว่านหางจระเข้ช่วยอะไร ? มันทำหน้าที่เป็นมอยส์เจอไรเซอร์ที่ดีในการรักษาสิวและผิวมันได้ค่ะ
เกร็ดสุขภาพ : การไม่ทาครีมกันแดดอาจทำให้ผิวแห้งได้เช่นกัน ซึ่งนำไปสู่การผลิตไขมันส่วนเกินและเป็นสาเหตุหน้ามัน อย่าลืมทาครีมกันแดดทุกวัน และเลือกมอยส์เจอไรเซอร์ รองพื้น และครีมกันแดด ที่มีความมันน้อย เพื่อให้ผิวหน้าไม่มันมากไปกว่าเดิมด้วยค่ะ
สาเหตุหน้ามันสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ และอาจมีมากกว่าหนึ่งสาเหตุสำหรับคุณ และเมื่อคุณสังเกตเห็นว่าตนเองมีผิวมัน ก็สามารถจัดการกับสาเหตุของน้ำมันส่วนเกินเพื่อช่วยให้ผิวสะอาดและกระจ่างใสขึ้นได้ แต่อาจต้องใช้เวลาหนึ่งหรือสองเดือนจนกว่าจะเห็นการเปลี่ยนแปลง ส่วนใครที่มีหน้ามันและมีปัญหาเรื่องสิวแล้วด้วยนั้น แนะนำให้กินมะเขือเทศเป็นประจำ เพราะมะเขือเทศสรรพคุณผิวมีมากมายทั้งยังช่วยจัดการปัญหาสิวด้วยค่ะ
อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : healthline.com, medicalnewstoday.com
ติดตามเราได้ที่ … เฟสบุ๊ค : เกร็ดสุขภาพ