“เพื่อสุขภาพ” ชุมชนสุขภาพ เรื่องราวตรงใจ ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย รุ่นไหนก็รัก ♡
มีประจำเดือนห้ามกินอะไรบ้าง ? กินน้ำมะพร้าวได้ไหม เรามีคำตอบ
ในช่วงที่สาวๆ กำลังจะมีประจำเดือน ปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ว่า อาการอยากหยิบทุกอย่างเข้าปากนั้นมันรุนแรงเหลือเกิน ซึ่งอาการเหล่านี้คือหนึ่งในอาการของ PMS ที่จะทำให้เรารู้สึกหิวมากกว่าปกติ และกินได้ทุกอย่างที่ขวางหน้า เรื่องแบบนี้สาวๆ ทุกคนรู้ดี แต่ก็ใช่ว่ามีประจำเดือนแล้วจะกินได้ทุกอย่างนะคะ เพราะบางอย่างอาจทำอันตรายทั้งภายในและภายนอกได้มากมาย เช่น อาจส่งผลให้ปวดประจำเดือนมากขึ้นได้ ซึ่งเป็นประจำเดือนห้ามกินผลไม้อะไร เป็นเมนส์ห้ามกินน้ำมะพร้าวจริงรึเปล่า ในบทความนี้ได้รวบรวมทั้งสิ่งที่กินได้เมื่อมีประจำเดือนและ มีประจำเดือนห้ามกิน อะไรบ้างมาฝากสาวๆ กันค่ะ
มีประจำเดือนห้ามกินอะไร อาหารต้องห้ามมีอะไรบ้าง ?
แม้ว่าช่วงมีประจำเดือนฮอร์โมนจะแปรปรวนง่ายและส่งผลต่อการกิน แต่ใช่ว่าเราจะสามารถกินได้ทุกอย่าง เพราะบางอย่างก็ส่งผลต่ออาการปวดท้องมากขึ้นได้ รวมถึงยังทำให้ท้องอืดอีกด้วย มีประจำเดือนห้ามกิน อะไรบ้างมาดูกันเลย
เครื่องดื่มอัดลม และคาเฟอีน
มีประจำเดือนห้ามกินอะไรนั้น ให้ระวังจำพวกเครื่องดื่มอัดลมต่างๆ และเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนอย่างกาแฟค่ะ เพราะน้ำอัดลมที่มีน้ำตาลมักจะผสมโซดา และคาร์บอเนตจะทำให้ท้องอืด แนะนำให้ดื่มน้ำเปล่าแทน เพราะการเพิ่มปริมาณน้ำจะช่วยลดการกักเก็บน้ำและแก้อาการท้องอืดได้ อย่าลืมศึกษาเรื่องดื่มน้ำวันละกี่ลิตรที่เหมาะสมกับร่างกายเราด้วยนะคะ ส่วนคาเฟอีนจะเป็นตัวกระตุ้นที่นำไปสู่ความผันผวนของฮอร์โมน และไปเพิ่มความดันโลหิตและอัตราการเต้นของหัวใจทำให้เกิดความตึงเครียดและความวิตกกังวล รวมถึงทำให้อาการ PMS แย่ลงด้วยค่ะ
เกร็ดสุขภาพ : นอกจากการดื่มน้ำเปล่าทดแทนเครื่องดื่มต่างๆ แล้ว การดื่มน้ำมะเขือเทศ น้ำแครอท หรือน้ำลูกยอ ในช่วงที่มีประจำเดือน จะช่วยหลีกเลี่ยงการเป็นตะคริวได้ด้วยค่ะ นอกจากนี้สรรพคุณลูกยอยังช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกัน เพราะมีวิตามินซีสูงเช่นเดียวกับน้ำมะเขือเทศ รวมถึงเป็นประจำเดือนห้ามกินผลไม้อะไร แนะนำให้งดผลไม้อย่างสับปะรด เพราะมีสารที่กระตุ้นฮอร์โมนที่ทำให้ประจำเดือนมาเป็นปกติ หากใครที่มักจะปวดท้องเวลามีประจำเดือนเพราะมามาก ไม่ควรกินสับปะรดในช่วงวันแรกๆ เพราะจะไปทำให้ประจำเดือนมามากขึ้น ส่งผลให้ปวดท้องมากขึ้นได้ค่ะ
อาหารแปรรูป
นอกจากเครื่องดื่มอัดลมที่ทำให้ท้องอืดแล้วนั้น ผู้ร้ายอีกคนก็คืออาหารโซเดียมสูง เป็นประจำเดือนห้ามกินอะไรบ้างก็ต้องบอกว่าอาหารแปรรูปนี่หล่ะค่ะ เพราะเป็นแหล่งโซเดียมที่ใหญ่ที่สุดในอาหาร ควรงดหรือหลีกเลี่ยงเพื่อลดปริมาณเกลือในร่างกาย ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของอาการท้องอืดและการกักเก็บน้ำ เช่น อาหารแช่แข็ง อาหารจานด่วน เบคอน ผักดอง ซุปกระป๋อง ฯลฯ เพราะมาพร้อมกับส่วนผสมและสารกันบูดที่สามารถรบกวนฮอร์โมนและเพิ่มความรู้สึกไม่สบายตัวในช่วง PMS ควรหลีกเลี่ยงในระหว่างและ 2-3 วันก่อนมีประจำเดือน
อาหารทอด และอาหารที่มีไขมันสูง
มีประจำเดือนห้ามกินอะไรบ้างนั้น แนะนำให้ลดอาหารที่มีไขมันทรานส์ซึ่งจะเพิ่มการอักเสบ และเพื่อลดความเจ็บปวดในช่วงเวลาที่มีประจำเดือน ซึ่งอาหารทอดส่วนใหญ่ เช่น ไก่ทอด มันฝรั่งทอด ของขบเคี้ยว ฯลฯ มักจะมีไขมันทรานส์หรือน้ำมันพืชเติมไฮโดรเจน สิ่งเหล่านี้สามารถเพิ่มระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนและอาจทำให้อารมณ์แปรปรวนแย่ลงได้ นอกจากนี้ อาหารทอดยังทำให้ปัญหาสิวและการอักเสบของผิวหนังในผู้หญิงแย่ลง จึงเป็นเหตุผลที่ควรหลีกเลี่ยง
ธัญพืชขัดสี
ธัญพืชที่ผ่านการขัดสี เช่นเดียวกับอาหารแปรรูปอื่นๆ คือจะสูญเสียสารอาหารและคุณค่าทางโภชนาการไปมาก ทำให้รบกวนระดับน้ำตาลในเลือดและการควบคุมความอยากอาหารเป็นประจำ จึงกลายเป็นอาหารที่คนมีประจำเดือนห้ามกินอะไรบ้างนั่นเอง แนะนำให้เลือกธัญพืชไม่ขัดสีแทนขนมปังขาว พาสต้า ซีเรียล ข้าว แครกเกอร์ เค้ก และคุกกี้ เพราะอาหารเหล่านี้จะทำให้ท้องอืดและท้องผูกได้
อาหารที่มีประจำเดือนแล้วกินได้
นอกจากมีประจำเดือนห้ามกินอะไรแล้วนั้น เรามาดูกันว่าแล้วอาหารอะไรที่เมื่อคุณมีประจำเดือนสามารถกินได้และดีต่อร่างกายค่ะ
ผักใบเขียว
เมื่อเวลาที่สาวๆ มีประจำเดือนระดับธาตุเหล็กของเราสามารถลดลงได้ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ความอยากอาหารที่มีธาตุเหล็กสูงในช่วงเวลานี้เป็นเรื่องปกติ แต่แทนที่จะกินชีสเบอร์เกอร์ ให้เลือกเป็นผักใบเขียว เช่น ผักโขม คะน้า กระหล่ำปลี เพื่อเติมธาตุเหล็กในร่างกายของเราแทน นอกจากนี้ผักอย่างบร็อคโคลีก็มีสารอาหารทั้งหมดที่มีบทบาทในการบรรเทาอาการ PMS ด้วย เช่น แมกนีเซียม โพแทสเซียม แคลเซียม และวิตามิน A, C, B6 ช่วยเพิ่มอารมณ์และต่อสู้กับความเหนื่อยล้าของร่างกาย
ส้ม
หลายคนคงอยากรู้ว่าเป็นประจำเดือนห้ามกินผลไม้อะไร อย่างที่กล่าวไปข้างต้นก็คือ สับปะรด ส่วนผลไม้ที่ดีต่อสุขภาพในช่วงระหว่างมีประจำเดือนที่เราจะแนะนำนั้นก็คือส้ม เนื่องจากในส้มมีทั้งวิตามินซี วิตามินดี และแคลเซียม ซึ่งแคลเซียมจะช่วยลดความรู้สึกหดหู่และวิตกกังวล ส่วนวิตามินดีควบคุมเอ็นไซม์ที่เปลี่ยนทริปโตเฟนเป็นเซโรโทนิน ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่ช่วยควบคุมอารมณ์ นอกจากนี้เมื่อแคลเซียมและวิตามินดีอยู่ร่วมกัน จะช่วยป้องกันอาการ PMS ได้ และช่วยลดอาการปวดประจำเดือน ปวดเมื่อยตามร่างกายได้อีกด้วยค่ะ
แซลมอน
ปลาแซลมอนคือคำตอบที่ดีของอาการปวดประจำเดือนทั้งหมด ถ้าถามว่ามีประจำเดือนห้ามกินอะไร ต้องไม่ใช่ปลาแซลมอนอย่างแน่นอน เพราะปลาแซลมอนมีกรดไขมันโอเมก้า 3 จำนวนมาก ซึ่งเป็นสารที่ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อในร่างกาย เป็นสารที่ช่วยลดอาการตะคริวได้ แต่หากคุณเป็นมังสวิรัติหรือไม่ชอบปลา อาหารอื่นๆ ที่มีโอเมก้า 3 เป็นจำนวนมากก็คือ เมล็ดแฟลกซ์ และถั่วเหลือง
ดาร์กช็อกโกแลต
หลายคนอาจเข้าใจว่าของหวานอย่างช็อกโกแลตจะเป็นหนึ่งในอาหารที่เมื่อมีประจำเดือนห้ามกินอะไร แต่หากเราเลือกดาร์กช็อกโกแลตที่มีโกโก้ 60% ขึ้นไป จะกลายเป็นแหล่งแมกนีเซียมที่ดี ไม่ทำให้อารมณ์แปรปรวน และยังเพิ่มเซโรโทนิน ฮอร์โมนแห่งความสุขอีกด้วย ทั้งยังมีน้ำตาลในระดับต่ำ ที่สาวๆ เลือกกินได้โดยไม่ต้องกลัวอ้วนอีกด้วยนะคะ
เกร็ดสุขภาพ : เป็นเมนส์ห้ามกินน้ำมะพร้าวจริงหรือ ? หลายคนคงมีคำถามและข้อสงสัยในเรื่องนี้ จริงๆ แล้วน้ำมะพร้าวอ่อนเป็นอาหารเสริมจากธรรมชาติอีกชนิดหนึ่งที่มีฮอร์โมนเอสโตรเจนสูง ตามความรู้ดั้งเดิมของคนไทยเชื่อว่าการดื่มน้ำมะพร้าวอ่อนขณะมีประจำเดือนจะทำให้ประจำเดือนหยุด ประจำเดือนมากระปริบกระปรอย หรือทำให้รอบของการมีประจำเดือนรอบต่อไปช้าลง แต่ในปัจจุบันได้มีการศึกษาออกมาแล้วว่า ไฟโตเอสโตรเจนในน้ำมะพร้าวไม่ได้เปลี่ยนรอบวงจรของประจำเดือน แต่ถ้าเราได้รับไฟโตเอสโตรเจน (ออกฤทธิ์คล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจน) มากเกินไป จะทำให้มดลูกบีบตัวมากขึ้น มีเลือดไปเลี้ยงมดลูกมากขึ้น และเจ็บเต้านมได้มากขึ้น โดยไม่มีผลต่อการเลื่อนของประจำเดือนแต่อย่างใดค่ะ
อ่านมาถึงตรงนี้สาวๆ คงหายข้องใจแล้วนะคะว่ามีประจำเดือนห้ามกินอะไรบ้าง และเป็นเมนส์ห้ามกินน้ำมะพร้าวนั้นก็ไม่จริง เพราะฉะนั้น หากต้องการบรรเทาอาการปวดประจำเดือนและเสริมสุขภาพให้ดียิ่งขึ้น ควรเลือกกินอาหารที่ดีต่อร่างกาย และงดหรือหลีกเลี่ยงอาหารที่เป็นประจำเดือนห้ามกินอะไรบ้างดังที่แนะนำไปนะคะ แต่หากใครยังมีอาการปวดท้องประจำเดือนอยู่นั้นอาจเลือกกินอาหารเสริมที่มีสารสกัดจากถั่วเหลือง หรือน้ำมันอิฟนิ่งพรีมโรส เพื่อช่วยบรรเทาอาการได้ค่ะ และก่อนจะกินอาหารเสริมใดๆ นั้น อย่าลืมพิจารณาก่อนด้วยว่าอาหารเสริมกินตอนไหน เพราะอาหารเสริมแต่ละชนิดจะมีวิธีการกินและช่วงเวลาที่แตกต่างกันออกไปด้วยค่ะ
อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : bebeautiful.in, byrdie.com, stkc.go.th
ติดตามเราได้ที่ … เฟสบุ๊ค : เกร็ดสุขภาพ