“เพื่อสุขภาพ” ชุมชนสุขภาพ เรื่องราวตรงใจ ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย รุ่นไหนก็รัก ♡
แชร์ไอเดีย พริกหยวก เมนู อร่อย 10 อย่าง ! ทำง่าย กินง่าย ใครๆ ก็ต้องชอบ
ถ้าพูดถึงพริก หลายๆ คนก็คงจะนึกถึงรสชาติเผ็ดร้อน เป็นวัตถุดิบที่เอาไว้ทำอาหารรสจัด แต่ความจริงแล้ว พริกเองก็มีหลายชนิด และมีชนิดที่ไม่เผ็ดหรือเผ็ดน้อยมากๆ ด้วย แม้จะเรียกว่าพริกก็ตาม หนึ่งในนั้นก็คือพริกหยวกนั่นเองค่ะ พริกหยวกนิยมนำมาปรุงอาหารเพราะมีรสชาติที่รับประทานง่าย มีรสหวาน กลิ่นไม่แรง เด็กๆ ก็สามารถรับประทานได้ นำมาทำกับข้าวได้หลากหลายเมนู กินได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ใครที่ยังคิดไม่ออกว่าจะเอาพริกหยวกไปทำอะไรดี พริกหยวก เมนู อะไรบ้างที่ทำอร่อย กินได้ทั้งครอบครัว เรามีมาฝากกันแล้วค่ะ
10 ไอเดีย พริกหยวก เมนู อร่อย ทำง่าย ดีต่อสุขภาพ
ก่อนจะไปดูเมนูจากพริกหยวก เรามาทำความรู้จักพริกชนิดนี้ให้มากขึ้นกันก่อนค่ะ พริกหยวกมีแหล่งกำเนิดดั้งเดิมอยู่ในทวีปอเมริกากลาง แถบประเทศเม็กซิโกและบริเวณใกล้เคียง และได้กระจายไปยังทวีปเอเชีย แอฟริกา สำหรับประเทศไทยพบเห็นพริกหยวกได้มากในแถบภาคเหนือ ซึ่งนิยมนำเอาไปประกอบอาหารหลายๆ เมนู พริกหยวกจะมีอยู่หลายสีด้วยกัน ทั้งสีเขียว สีเหลือง สีแดง สีส้ม เห็นแบบนี้ พริกหยวก ประโยชน์มีมากมายเช่นกัน ในพริกหยวก 100 กรัม มีใยอาหาร 3.2 กรัม มีวิตามินเอและวิตามินซีสูง ทั้งยังมีแคลเซียม แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม เบต้าแคโรทีน และมีสารต้านอนุมูลอิสระอยู่หลายนิด ด้วยรสเผ็ดน้อยๆ ของพริกหยวกจึงช่วยกระตุ้นน้ำย่อยและช่วยเจริญอาหารได้เป็นอย่างดี มาดูกันเลยว่า พริกหยวก เมนูอร่อย ทำง่าย มีอะไรบ้าง
1. ไข่เจียวพริกหยวกหมูสับ
มาเริ่มกันที่เมนูง่ายๆ เบสิกๆ แต่อร่อยอย่างเมนูไข่เจียวพริกหยวก ถ้าใครเบื่อไข่เจียวหมูสับธรรมดาๆ ลองเติมพริกหยวกลงไปสิคะ จะได้ไข่เจียวรสชาติแปลกใหม่ที่อร่อย กินง่าย ยิ่งกินกับซอสพริกยิ่งเข้ากันสุดๆ
วัตถุดิบ :
- ไข่ไก่ 2 ฟอง
- พริกหยวก 1 เม็ด
- หมูสับ 2 ช้อนโต๊ะ
- ซีอิ๊วขาวหรือน้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
- ซอสพริก ตามชอบ
- น้ำมันสำหรับทอดไข่
วิธีทำ :
- ล้างพริกหยวกให้สะอาด นำมาหั่นแฉลบบางๆ
- ตอกไข่ใส่ในชามผสม ใส่หมูสับลงไป ตีให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาวหรือน้ำปลา จากนั้นใส่พริกหยวกลงไป ตีให้เข้ากัน
- ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันลงไป รอจนน้ำมันร้อน จากนั้นเทไข่ลงไปทอดให้สุกเหลืองน่ารับประทานทั้ง 2 ด้าน
- เสิร์ฟคู่กับซอสพริก
2. พริกหยวกย่างน้ำมันมะกอก
พริกหยวก เมนูนี้ เป็นเมนูของว่างจากประเทศสเปน วัตถุดิบมีเพียง 3 อย่างเท่านั้น ซึ่งก็คือพริกหยวก น้ำมันมะกอก และก็เกลือ เป็นเมนูทำง่ายแต่ได้ประโยชน์มากๆ เพราะจะได้รับคุณค่าทางสารอาหารจากพริกหยวกไปเต็มๆ อีกทั้งน้ำมันมะกอกก็เป็นไขมันที่มีคุณภาพดี มีประโยชน์ต่อร่างกาย แล้วก็เป็นเมนูอาหารวีแกนอีกด้วย จะเอาพริกหยวกย่างมาใส่ในสลัด หรือรับประทานเป็นเครื่องเคียงเมนูสเต็กก็ได้ค่ะ
วัตถุดิบ :
- พริกหยวก 10 เม็ด
- น้ำมันมะกอกสำหรับทำอาหาร 2 ช้อนโต๊ะ
- เกลือทะเลเล็กน้อย
วิธีทำ :
- ล้างพริกหยวกให้สะอาด เตรียมไว้
- ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันมะกอกลงไป รอให้น้ำมันร้อน
- นำพริกหยวกลงไปย่างในกระทะ พลิกกลับไปมาให้สุกทั่วกัน ระวังอย่าให้ไหม้จนเกินไป
- โรยเกลือเล็กน้อย เมื่อสุกดีแล้วปิดไฟ จัดใส่จานพร้อมเสิร์ฟ
3. พริกหยวกยัดไส้หมูสับทอด
เมนูพริกหยวกรับประทานง่ายๆ รสชาติดีที่หลายๆ คนจะต้องชอบอย่างเมนูพริกหยวกยัดไส้หมูสับทอด ให้รสสัมผัสกรอบนอก นุ่มใน จะทำเป็นกับข้าวหรือทำเป็นเมนูของว่างเรียกน้ำย่อยก็ได้ รับรองว่ากินเพลินจนลืมอิ่มไปเลยค่ะ
วัตถุดิบ :
- พริกหยวก 6 – 7 เม็ด
- หมูบด 300 กรัม
- รากผักชีหั่น 2 – 3 ราก
- พริกไทยดำเหล็กน้อย
- กระเทียม 4 กลีบใหญ่
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
- ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ
- ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
- แป้งข้าวเจ้า 2 ช้อนโต๊ะ
- เกล็ดขนมปัง 150 กรัม
- แป้งทอดกรอบ 100 กรัม
- ผงปรุงรส 1 ช้อนชา
- น้ำเปล่าเย็นจัด 200 มิลลิลิตร
- น้ำมันสำหรับทอด
วิธีทำ :
- ผ่าพริกหยวกตรงกลางและเอาเม็ดออก
- โขลกพริกไทยดำ รากผักชี และกระเทียมให้ละเอียด
- เตรียมภาชนะผสม จากนั้นผสมหมูบดและเครื่องที่โขลกไว้ให้เข้ากัน ตามด้วยซีอิ๊วขาว ซอสหอยนางรม และน้ำตาลทราย คลุกเค้าให้เข้ากัน
- นำหมูบดที่ได้มายัดไส้พริกหยวก พักไว้
- เตรียมแป้งทอดกรอบด้วยการนำแป้งข้าวเจ้า แป้งทอดกรอบ ผงปรุงรสมาผสมให้เข้ากัน และใส่น้ำเย็นจัดลงไป
- นำพริกหยวกยัดไส้ที่เตรียมไว้มาชุปกับแป้ง และเกล็ดขนมปังเตรียมไว้
- ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันลงไป รอจนน้ำมันร้อน และนำพริกหยวกลงไปทอดให้สุกเหลืองดี
- จัดใส่จาน รับประทานคู่กับจ้ำจิ้มไก่หรือซอสหวาน ซอสมะเขือเทศตามชอบ
4. เครื่องในไก่ผัดพริกหยวก
มาเสริมธาตุเหล็กกันด้วยเมนูพริกหยวกจานนี้เลยค่ะ เครื่องในไก่นั้น เป็นอาหารที่มีธาตุเหล็ก บำรุงเลือดได้ดี เหมาะมากสำหรับคุณผู้หญิง และเครื่องในไก่นั้นก็เข้ากันได้ดีกับรสชาติของพริกหยวก รับประทานกับข้าวสวยร้อนๆ อร่อยถูกใจ
วัตถุดิบ :
- พริกหยวก 50 กรัม
- เครื่องในไก่ 250 กรัม
- หอมหัวใหญ่ 50 กรัม
- กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
- ต้นหอมซอย 3 ต้น
- ซอสหอยนางรม 2 ช้อนโต๊ะ
- ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
- พริกไทย ½ ช้อนชา
- น้ำมันสำหรับทำอาหาร
วิธีทำ :
- ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันลงไป พอน้ำร้อน นำกระเทียมลงไปผัดให้หอม
- นำเครื่องในไก่ลงไปผัดตามให้สุกดี
- ใส่พริกหยวกและหอมใหญ่ลงไปผัดตาม
- ปรุงรสด้วยซอสหอยนางรม ซีอิ๊วขาว และน้ำตาลทราย ผัดให้เข้ากัน เติมน้ำเปล่าเล็กน้อย
- ปิดท้ายด้วยการโรยพริกไทยลงไป ปิดไฟ ตักใส่จานพร้อมเสิร์ฟ
5. พริกหยวกผัดลูกชิ้นเห็ดหอม
เมนูพริกหยวก เมนูนี้ เอาใจคนรักสุขภาพที่ไม่รับประทานเนื้อสัตว์ เพราะเราจะใช้ลูกชิ้นเห็ดเป็นโปรตีนแทนค่ะ คนที่เป็นมังสวิรัติหรือเป็นวีแกนก็สามารถรับประทานได้ ถ้าอยากให้อิ่มท้องก็สามารถรับประทานคู่กับข้าว กข 43 ข้าวสวยน้ำตาลต่ำ กินแล้วดีต่อสุขภาพ
วัตถุดิบ :
- พริกหยวก 4 เม็ด
- ลูกชิ้นเห็ดหอม 300 กรัม
- โหระพา 1 ถ้วย
- พริกจินดาแดง 10 เม็ด
- กระเทียม 5 กลีบ
- ซีอิ๊วขาว 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
- ซีอิ๊วดำ ½ ช้อนชา
- น้ำมันพืชสำหรับผัด
วิธีทำ :
- โขลกกระเทียม พริกจินดาแดงให้พอหยาบ พักไว้
- ล้างพริกหยวกให้สะอาดแล้วหั่นแฉลบเป็นชิ้นๆ จากนั้นหั่นลูกชิ้นเห็ดแบ่งครึ่ง พักไว้
- ตั้งกระทะ ใส่น้ำมัน เมื่อน้ำมันร้อน ให้นำพริกกระเทียมที่โขลกไว้ลงไปผัด ผัดให้มีกลิ่นหอม
- ใส่ลูกชิ้นเห็ดลงไปผัดตาม ตามด้วยพริกหยวก
- ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย และซีอิ๊วดำ ผัดให้เข้ากัน
- ใส่ใบโหระพาลงไป ผัดให้เข้ากันอีกครั้ง ชิมรสและปรุงให้ได้รสตามต้องการ
- ตักใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ รับประทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆ
6. ผัดพริกหยวกกุ้ง
พริกหยวก เมนูอร่อยที่ทำง่ายๆ แถมยังได้รสสัมผัสของเนื้อกุ้งเด้งๆ อุดมไปด้วยวิตามินและโปรตีนจากกุ้ง มีเคล็ดลับคือ เลือกใช้กุ้งสดและผัดให้สุกพอดี ไม่ให้กุ้งสุกหรือเละเกินไป จะได้กินอร่อยค่ะ
วัตถุดิบ :
- พริกหยวก 3 – 4 เม็ด
- กุ้งขาว ปริมาณตามต้องการ
- หอมใหญ่ 1 หัว
- น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาล ½ ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา ½ ช้อนโต๊ะ
- กระเทียมสับ 1 ช้อนชา
- น้ำมันพืชเล็กน้อย
วิธีทำ :
- แกะเปลือกกุ้ง ผ่าหลังนำเส้นดำออก ล้างให้สะอาด พักไว้
- ล้างพริกหยวกแล้วหั่นตามขวาง ส่วนหอมใหญ่ล้างและหั่นตามยาว พักไว้
- ตั้งกระทะไฟกลาง ใส่น้ำมันลงไป ตามด้วยกระเทียม ผัดให้หอม
- ใส่พริกหยวกและหัวหอมลงไปผัด ปรุงรสด้วย น้ำมันหอย น้ำปลา และน้ำตาลเล็กน้อยพอให้รสกลมกล่อม
- ผัดพริกหยวกให้สุกดี เติมกุ้งลงไปผัดเร็วๆ เนื้อกุ้งจะสุก เด้ง ไม่แข็ง จากนั้นเติมน้ำเปล่าเล็กน้อย
- ปิดไฟ ตักใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ
7. หมึกผัดพริกหยวก
พริกหยวก เมนูนี้ ได้คุณค่าทางโภชนาการทั้งเกลือแร่ วิตามินอี และกรดโอเมก้า 3 จากเนื้อปลาหมึก แถมยังเข้ากันได้ดีกับรสหวานของพริกหยวก ใครที่ไม่อยากกินกุ้ง จะเปลี่ยนจากเนื้อกุ้งมาเป็นเนื้อปลาหมึกก็ได้เหมือนกันนะคะ
วัตถุดิบ :
- ปลาหมึกกล้วยหั่นลวกน้ำร้อน 600 กรัม
- น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
- ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
- ซอสเห็ดหอม 2 ช้อนโต๊ะ
- กระเทียมสับ 4 หัว
- น้ำตาลทราย เล็กน้อย
- พริกหยวกหั่น 2 เม็ด
วิธีทำ :
- ตั้งกระทะใส่น้ำมันเล็กน้อย พอน้ำมันร้อนใส่กระเทียมลงไปผัดให้หอม
- ใส่พริกหยวกลงไป ตามด้วยปลาหมึก จากนั้นผัดเร็วๆ และเติมเครื่องปรุงทั้งหมดลงไป
- เติมน้ำเปล่าเล็กน้อย ผัดให้เข้ากันและชิมรสตามชอบ อย่าผัดนานเกินไปเพราะเนื้อปลาหมึกจะเหนียว
- ปิดไฟ ตักใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ
เกร็ดสุขภาพ : พริกหยวก ประโยชน์มีอยู่หลายอย่างด้วยกัน สาร Capsaicin ในผลพริกหยวกมีส่วนช่วยทำให้น้ำตาลในเลือดลดลง จึงช่วยในเรื่องเบาหวาน นอกจากนี้ ยังช่วยบรรเทาอาการไข้หวัด อาการไอ ช่วยลดน้ำมูก และพริกหยวกยังมีสรรพคุณช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ ช่วยขับลม แก้อาการท้องอืดท้องเฟ้อ นอกจากนี้ การบริโภคพริกเป็นประจำสามารถช่วยลดอัตราเสี่ยงในการอุดตันของเส้นเลือดที่เป็นสาเหตุสำคัญของโรคหัวใจล้มเหลวได้
8. ไก่ผัดพริกหยวกสูตรคีโต
ใครกำลังตามหาพริกหยวก เมนูที่เหมาะกับสายคีโตต้องลองเมนูนี้ เพราะได้โปรตีนจากเนื้อไก่ไปเต็มๆ แถมยังใช้น้ำมันสำหรับผัดเป็นน้ำมันมะกอกซึ่งเป็นไขมันที่ดีต่อสุขาพ ใครที่เป็นสายเฮล์ทตี้จะต้องถูกใจเมนูนี้อย่างแน่นอน
วัตถุดิบ :
- น้ำมันมะกอกสำหรับทำอาหาร 2 ช้อนโต๊ะ
- กระเทียม 1 ช้อนชา
- สะโพกไก่ 100 กรัม
- หอมหัวใหญ่ 50 กรัม
- พริกหยวก 100 กรัม
- น้ำมันหอยสูตรคีโต 1 ช้อนโต๊ะ
- ซอสปรุงรสคิกโคเมน 1 ช้อนชา
- น้ำปลาดี 1/2 ช้อนชา
- ผงปรุงรสไก่คีโต 1 ช้อนชา
- น้ำตาลคีโต 1 ช้อนชา
- น้ำสะอาด เล็กน้อย
วิธีทำ :
- ล้างทำความสะอาดหอมหัวใหญ่และพริกหยวก จากนั้นซอยเป็นแว่นๆ พักไว้
- ตั้งกระทะใส่น้ำมันพอร้อน ผัดกระเทียมให้หอม จากนั้นนำเนื้อไก่ลงไปผัดให้พอสุก
- ใส่หอมหัวใหญ่และพริกหยวกลงไป ผัดจนหอมหัวใหญ่เริ่มใส
- ปรุงรสด้วยเครื่องปรุงทั้งหมด ชิมรสตามชอบ
- ตักใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ
9. พริกหยวกยัดไส้หมูสับ
พูดถึงพริกหยวก เมนูทำง่ายทั้งทีต้องมีพริกหยวกยัดไส้ แถมเมนูนี้เราจะใช้หม้อทอดไร้น้ำมันในการทำ ดีต่อสุขภาพและมีไขมันต่ำ ส่วนใครไม่มีหม้อทอดไร้น้ำมันสามารถใช้หม้ออบลมร้อนหรือไมโครเวฟแทนได้ แต่ถ้าไม่มีอุปกรณ์จริงๆ จะย่างในกระทะก็ได้นะคะ
วัตถุดิบ :
- หมูสับไม่ติดมัน 100 กรัม
- กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาล เล็กน้อย
- ซอสปรุงรส เล็กน้อย
- พริกหยวก 3 – 5 เม็ด
- น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ :
- หมักหมูสับด้วยน้ำมันหอย ซอสปรุงรส น้ำตาล และกระเทียม ทิ้งไว้ 30 นาที
- ล้างพริกหยวก จากนั้นผ่ากลางและนำไส้ออก
- ตักหมูสับที่หมักไว้ใส่ลงไปเป็นไส้ อย่าใส่เยอะเพราะจะทำให้เปลือกพริกหยวกแตกและดูไม่สวยงาม
- นำเข้าเครื่องทอดไร้น้ำมัน ทอดที่อุณหภูมิ 160 องศา เป็นเวลา 15 นาที คอยเช็กเรื่อยๆ ว่าสุกดีหรือยัง หากสุกดีแล้วให้นำออกมาใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ
เกร็ดสุขภาพ : พริกหยวกเป็นหนึ่งในอาหารที่ช่วยบำรุงสายตาและป้องกันโรคเกี่ยวกับดวงตา เพราะในพริกหยวกอุดมไปด้วยวิตามินเอและยังมีลูทีนสูงมาก ซึ่งลูทีนเป็นสารที่ช่วยปกป้องดวงตาจากแสงสีฟ้า อีกทั้งยังช่วยป้องกันโรคต้อและโรคร้ายแรงที่เกี่ยวกับดวงตาด้วย ใครที่อยากบำรุงดวงตาให้สดใสมีสุขภาพดีอยู่เสมอ ก็อย่าลืมรับประทานพริกหยวกเป็นประจำนะคะ
10. ผัดพริกหยวกใส่ไข่
ปิดท้ายกันที่เมนูผัดพริกหยวกใส่ไข่ สามารถทำได้ง่ายๆ เป็นอาหารเย็นเบาๆ ที่รับประทานได้ทั้งครอบครัว แถมยังได้โปรตีนจากไข่ อุดมไปด้วยวิตามิน เกลือแร่ ได้ประโยชน์ทั้งจากไข่และพริกหยวกเลยค่ะ
วัตถุดิบ :
- ไข่ไก่ 5 ฟอง
- พริกหยวกล้างสะอาดและซอยเป็นเส้น 10 เม็ด
- กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ 1 ช้อนชา
- น้ำตาลทราย เล็กน้อย
- น้ำมันสำหรับผัด 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ :
- ตอกไข่ใส่ชามจากนั้นตีพอให้ไข่แตก
- ตั้งกระทะใส่น้ำมัน เปิดไฟแรง รอจนน้ำมันร้อนจัด
- ใส่พริกหยวก เกลือ และกระเทียมลงผัดให้หอม จากนั้นใส่ไข่ลงไป ผัดคั่วให้เข้ากันดี
- ปิดเตา ตักใส่จานพร้อมเสิร์ฟ
และนี่ก็เป็นเมนูพริกหยวกทั้ง 10 เมนู หวังว่าจะได้ไอเดียการนำเอาพริกหยวกไปประกอบอาหารแล้วนะคะ ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ก็สามารถรับประทานได้ เพราะนอกจากจะมีรสเผ็ดไม่มากแล้ว พริกหยวก ประโยชน์ก็มีมากมาย อุดมไปด้วยใยอาหาร แร่ธาตุวิตามินและสารต้านอนุมูลอิสระ หากรับประทานเป็นประจำ จะช่วยบำรุงสุขภาพได้อย่างแน่นอนค่ะ
อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : disthai.com, cookpad.com, thehappyfoodie.co.uk, webmd.com, food.ndtv.com
Featured Image Credit : freepik.com
ติดตามเราได้ที่ … เฟสบุ๊ค : เกร็ดสุขภาพ