“เพื่อสุขภาพ” ชุมชนสุขภาพ เรื่องราวตรงใจ ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย รุ่นไหนก็รัก ♡
10 ประโยชน์ของพริกขี้หนู เห็นเม็ดเล็กๆ แบบนี้ไม่ได้มีดีแค่แซ่บ !
พริกขี้หนูคือหนึ่งในสมุนไพรก้นครัวที่คนไทยรู้จักดี เพราะอาหารไทยหลายเมนูมักขาดสีสันและความจัดจ้านจากพริกขี้หนูไปไม่ได้ แต่รู้ไหมคะว่าพริก ประโยชน์ของมันมีมากกว่าใช้ปรุงแต่งรสชาติอาหาร วันนี้ทีมเพื่อสุขภาพจึงขอชวนคุณมาดูกันว่าประโยชน์ของพริกขี้หนูคืออะไร ดีต่อสุขภาพของเราอย่างไร แล้วจะรู้ว่าประโยชน์ของมันมีเยอะจนสมฉายา “เล็ก พริกขี้หนู” จริงๆ ค่ะ !
- 10 ประโยชน์ของพริกขี้หนู ของดีที่มีคุณค่ามากกว่าความเผ็ด
- บรรเทาอาการไมเกรน
ประโยชน์ของพริกขี้หนูคือมีสารให้ความเผ็ดที่เรียกว่าสารแคปไซซินซึ่งช่วยบรรเทาอาการปวดศีรษะและไมเกรนได้ดี นอกจากนี้การศึกษาของ American Academy of Neurology Annual Meeting ในรัฐฟิลาเดลเฟียยังพบว่า ผู้ป่วย 18 รายที่มีอาการปวดศีรษะมีอาการทุเลาลงหลังได้รับยาที่มีส่วนผสมของสารแคปไซซิน
- เสริมสร้างการทำงานของระบบเผาผลาญและระบบย่อยอาหาร
สารแคปไซซินในพริก ประโยชน์ของมันคือมีส่วนช่วยเสริมสร้างการทำงานของระบบเผาผลาญในร่างกาย ช่วยเพิ่มระดับเมตาบอลิซึ่ม มีส่วนช่วยในการลดน้ำหนัก นอกจากนี้ยังช่วยทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้นคล้ายผักโขม สรรพคุณที่มีส่วนช่วยในเรื่องการย่อยอาหาร
- ลดความเสี่ยงการเกิดมะเร็ง
พริกขี้หนูคือสมุนไพรธรรมชาติที่มีส่วนช่วยต้านมะเร็ง จากข้อมูลของ American Association for Cancer Research พบว่า พริก ประโยชน์ของมันคือมีสารแคปไซซินและสารต้านอนุมูลอิสระซึ่งมีส่วนช่วยฆ่าเซลล์มะเร็งเม็ดเลือดขาวและมะเร็งต่อมลูกหมาก นอกจากนี้สารต้านอนุมูลอิสระและสรรพคุณต้านการอักเสบในพริกขี้หนูยังช่วยต้านมะเร็งชนิดอื่นได้อีกด้วย
- ต้านอาการหวัด
พริกขี้หนูสีแดงอุดมไปด้วยเบต้าแคโรทีนและวิตามินเอซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการบำรุงสุขภาพเกี่ยวกับทางเดินหายใจและระบบปัสสาวะ ที่สำคัญยังช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง นอกจากนี้วิตามินเอและวิตามินซีในพริกขี้หนูยังช่วยต้านหวัดได้ดี แถมการกินอาหารที่มีส่วนผสมของพริกขี้หนูยังช่วยให้คอและจมูกโล่งขึ้น ช่วยขับเมือกในคอและเสมหะระหว่างที่เราเป็นหวัดด้วย
เกร็ดสุขภาพ : การเลือกซื้อพริกขี้หนูต้องเลือกที่เมล็ดเขียวหรือแงดสด เปลือกสดเต่งตึง มีเนื้อหนา จากนั้นนำมาเด็ดขั้วก่อนล้างให้สะอาด เท่านี้ก็พร้อมปรุงอาหารแล้วค่ะ ส่วนใครอยากสบายใจกว่าก็สามารถปลูกพริกขี้หนูเองได้แค่ใช้วิธีเพาะเมล็ดในดินร่วนที่ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก รดน้ำให้ชุ่มทุกวัน จากนั้นก็รอเก็บเกี่ยวพริกขี้หนูปลอดสารของเราภายใน 90 – 100 วันได้เลย
- บรรเทาอาการปวดข้อ
นอกจากมีสรรพคุณบรรเทาอาการปวดศีรษะและไมเกรนแล้ว พริกขี้หนูยังมีส่วนช่วยบรรเทาอาการปวดข้ออีกด้วย เพราะในพริกขี้หนูมีคุณสมบัติช่วยลดสารที่ชื่อว่า P. Chemical ซึ่งเป็นสารประกอบที่ทำหน้าที่ส่งความเจ็บปวดไปยังสมอง แคปไซซินจะกระตุ้นให้เรารู้สึกแสบร้อน ขณะเดียวกันก็ทำให้ชาและลดความเจ็บปวดได้ ทำให้มันกลายเป็นยาบรรเทาอาการปวดตามธรรมชาติ ปัจจุบันมีภูมิปัญญาชาวบ้านในการผลิตน้ำมันพริกแก้ปวด ยาครีมพริก หรือเจลพริก สามารถหาซื้อได้จากร้านขายสินค้าสมุนไพรทั่วไป
- ช่วยต้านอาการอักเสบ
อย่างที่เรากล่าวไปแล้วว่าพริกขี้หนูมีสรรพคุณช่วยต้านอาการอักเสบเพราะมีสารแคปไซซินอยู่สูง ดังนั้นประโยชน์ของพริกขี้หนูจึงช่วยลดการอักเสบที่เกิดขึ้นในร่างกาย ลดอาการปวดและยังช่วยลดอาการติดเชื้อซึ่งคล้ายกับประโยชน์แมคคาเดเมียอีกด้วย
- บำรุงสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด
ในพริกขี้หนูมีโพแทสเซียมสูงทำให้ดีต่อสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด เช่นเดียวกับการกินเห็ด ประโยชน์ที่เห็ดมีก็ดีต่อสุขภาพหัวใจเช่นเดียวกัน
- ลดความเสี่ยงการเกิดเบาหวานประเภทที่ 2
พริกขี้หนูมีส่วนช่วยลดการเกิดอินซูลินในเลือดสูงซึ่งเป็นภาวะเสี่ยงที่ทำให้เกิดเบาหวานประเภทที่ 2
- บำรุงสมอง
ประโยชน์ของพริกขี้หนูที่หลายคนอาจไม่รู้มาก่อนก็คือมีส่วนช่วยในการบำรุงสมองเพราะในพริกขี้หนูมีธาตุเหล็กที่ช่วยให้การหมุนเวียนของเลือดในสมองมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยปรับปรุงการรับรู้ของระบบประสาทและสมองรวมถึงช่วยลดความเสี่ยงการเกิดอัลไซเมอร์ด้วย
- เสริมสร้างการเจริญเติบโตของเม็ดเลือดแดง
เนื่องจากพริกขี้หนูอุดมไปด้วยทองแดงและธาตุเหล็ก ประโยชน์ของพริกขี้หนูจึงช่วยลดความเหนื่อยล้า อ่อนเพลียของร่างกาย ทำให้รู้สึกสดชื่น และช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของเม็ดเลือดแดงในร่างกายได้ดี
เกร็ดสุขภาพ : ความอดทดต่อความเผ็ดของแต่ละคนไม่เท่ากัน ใครที่กินพริกขี้หนูหรือพริกอื่นๆ แล้วรู้สึกเผ็ดจนทนไม่ไหว ลองใช้วิธีกินนมจืดดูสิคะ เพราะในนมมีโปรตีนที่ชื่อคาเซอิน (Casein) ที่จะช่วยลดระดับแคปไซซินในร่างกายเรา จึงมีส่วนช่วยกำจัดความเผ็ดออกไปอย่างได้ผล นอกจากนี้นมสดยังช่วยป้องกันไม่ให้กระเพาะอาหารระคายเคืองจากการกินเผ็ดอีกด้วยนะ
เห็นไหมคะว่าประโยชน์ของพริกขี้หนูนั้นมีมากมายยิ่งกว่าที่เราคิด หลายๆ ข้อก็เป็นประโยชน์ดีๆ ต่อสุขภาพที่เราอาจนึกไม่ถึง รู้แบบนี้แล้วลองมาเพิ่มความจัดจ้านให้มื้ออาหารด้วยพริกขี้หนูกันเถอะ แต่อย่าลืมว่าเราไม่ควรกินเผ็ดมากเกินไป ไม่ควรกินเผ็ดตอนท้องว่าง และหากรู้สึกเผ็ดขึ้นมาไม่ควรกินน้ำอัดลมแก้เผ็ดนะคะเพราะนอกจากจะมีน้ำตาลสูงแล้ว การดื่มน้ำอัดลมยังทำให้รู้สึกเผ็ดมากขึ้นด้วย ทางที่ดีใช้วิธีกินนมตามที่เราแนะนำไปจะดีที่สุด เท่านี้ก็กินเผ็ดได้สบายใจแถมดีต่อสุขภาพแล้วค่ะ
อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : conserve-energy-future.com, nourishmagazine.com.au
ติดตามเราได้ที่ … เฟสบุ๊ค : เกร็ดสุขภาพ