“เพื่อสุขภาพ” ชุมชนสุขภาพ เรื่องราวตรงใจ ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย รุ่นไหนก็รัก ♡
7 เป็นประจำเดือน ท้องเสีย คลื่นไส้ อาการนี้ปกติหรือไม่ ?
เมื่อถึงเวลาที่ผู้หญิงมีประจำเดือน นอกจากอาการ PMS อาการที่มาก่อนประจำเดือนที่ต้องเจอกันอยู่เป็นประจำแล้วนั้น ยังมีอาการต่างๆ ในขณะที่มีประจำเดือนอีกด้วย เช่น เป็นประจำเดือนแล้วปวดหัว เวียนหัว ส่งผลให้เกิดผลกระทบทั้งทางร่างกายและทางอารมณ์ และอาจทำให้รู้สึกหมดแรง อ่อนเพลีย จนทำให้เวลามีประจำเดือนออกกำลังกายไม่ได้เหมือนที่เคย เรามาดูกันว่าทำไมการมีประจำเดือนจึงทำให้เกิดอาการท้องร่วงและปัญหาทางเดินอาหารอื่นๆเป็น ประจำเดือน ท้องเสีย คลื่นไส้ ปวดหัว เกิดจากอะไร เป็นเรื่องปกติหรือไม่ ? รวมถึงเคล็ดลับในการบรรเทาอาการเจ็บปวด และสังเกตตนเองว่าเมื่อใดควรไปพบแพทย์ เรามาอ่านบทความนี้จากทีมงานเพื่อสุขภาพกันเลยค่ะ
เกร็ดสุขภาพ : PMS หรือกลุ่มอาการก่อนมีประจำเดือน เป็นชื่ออาการที่ผู้หญิงอาจพบได้ในช่วงหลายสัปดาห์ก่อนมีประจำเดือน และอาการของผู้หญิงแต่ละคนแตกต่างกันและสามารถแตกต่างกันไปในแต่ละเดือนได้เช่นกัน อาการที่พบบ่อยที่สุดของ PMS ได้แก่ อารมณ์แปรปรวน รู้สึกหงุดหงิด วิตกกังวล เหนื่อยหรือนอนไม่หลับ ท้องอืดหรือปวดท้อง รู้สึกคัดเต้านม ปวดหัว ผิวหมองคล้ำ ผมมันเยิ้ม มีความอยากอาหารเปลี่ยนไป และมีแรงขับทางเพศ
เป็น ประจำเดือน ท้องเสีย คลื่นไส้ อาการนี้ผิดปกติหรือไม่ ?
เมื่อเวลาที่เราเป็นประจำเดือน ท้องเสีย คลื่นไส้ หรือแม้แต่อาการปวดหัวมักจะเกิดขึ้น ซึ่งอาการท้องเสียก่อนและระหว่างมีประจำเดือนนั้นถือว่าเป็นเรื่องปกติ เช่นเดียวกับประจำเดือนเป็นสีดำ เพราะการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนแบบเดียวกันที่ทำให้มดลูกของคุณหดตัวและหลั่งเยื่อบุอาจส่งผลต่อทางเดินอาหารของคุณด้วย และอาการปวดท้องและท้องเสียแบบนี้เป็นอาการทางเดินอาหารที่เกี่ยวข้องกับประจำเดือนที่พบบ่อยที่สุด
ส่วนอาการเป็นประจำเดือนแล้วปวดหัว เวียนหัว ซึ่งเป็นอาการปวดศีรษะจากฮอร์โมนนั้น จะเริ่มก่อนหรือระหว่างการมีประจำเดือน และสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเดือนค่ะ อาการทั่วไป ได้แก่ ปวดศีรษะแบบสั่นเทา หรือปวดศีรษะแบบเต้นเป็นจังหวะอย่างรุนแรง มีอาการไวต่อแสง คลื่นไส้ เหนื่อยล้า เวียนศีรษะ และอื่นๆ ซึ่งจะคล้ายๆ กับอาการปวดศีรษะไมเกรน จึงมีชื่อเรียกว่า ไมเกรนประจำเดือน
อาการท้องเสียและคลื่นไส้มีวิธีการรักษาหรือไม่ ?
สำหรับอาการเป็นประจำเดือน ท้องเสีย คลื่นไส้นั้น เราสามารถรักษาอาการท้องเสียที่เกี่ยวข้องกับประจำเดือนได้เช่นเดียวกับการรักษาอาการท้องเสียอื่นๆ อันดับแรก ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณดื่มน้ำมากพอเพื่อป้องกันการสูญเสียของเหลวจากอาการท้องเสีย นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้อาการท้องเสียแย่ลง รวมถึง สารให้ความหวานเทียม คาเฟอีน ผลิตภัณฑ์นม
อาหารรสเผ็ด อาหารรสหวานมาก และในบางกรณี หากอาการไม่ดีขึ้นและส่งผลให้อ่อนเพลีย อาจจำเป็นต้องกินยาต้านอาการท้องเสีย เช่น โลเพอราไมด์ หรือใช้ยาแก้ปวดที่ซื้อเองได้ เช่น ไอบูโพรเฟน เพื่อช่วยในการลดอาการปวดท้องเกร็งได้
นอกจากคำแนะนำข้างต้นแล้ว คุณควรทำตามขั้นตอนต่างๆ เพื่อลดความเครียดด้วย เพราะความเครียดและความวิตกกังวลที่มากเกินไปอาจทำให้เป็นประจำเดือน ท้องเสีย คลื่นไส้ รวมทั้งเป็นตะคริวที่ท้องแย่ลงอีกด้วย ซึ่งมีเคล็ดลับที่คุณสามารถทำได้ เช่น นั่งสมาธิวันละ 10 นาที หยุดตอบอีเมลหรือดูโทรทัศน์ในช่วงเวลาจะเข้านอน สิ่งนี้สามารถช่วยให้คุณสงบสติอารมณ์และลดความเครียดได้ นอกจากนี้การออกกำลังกายก็ช่วยคลายความเครียดได้เช่นกัน แม้ว่าจะใช้เวลาเดินเพียง 15 นาทีก็ตาม ลองทำตามวิธีเหล่านี้ดูเพื่อลดอาการเครียดที่จะส่งผลต่ออาการต่างๆ ในระหว่างมีประจำเดือนได้ค่ะ
เกร็ดสุขภาพ : มีวิธีในการป้องกันอาการเป็นประจำเดือน ท้องเสีย คลื่นไส้ ที่คุณสามารถทำได้คือ 2-3 วันก่อนมีประจำเดือน ให้เริ่มกินไฟเบอร์มากขึ้น เพราะไฟเบอร์จะช่วยเพิ่มเนื้ออุจจาระและทำให้อุจจาระแข็งขึ้น เช่น ขนมปังโฮลเกรน ผลไม้และผักที่มีเปลือกหุ้มอยู่ เนื่องจากมีใยอาหารเป็นส่วนประกอบส่วนใหญ่ นอกจากนี้ อาจลองเพิ่มอาหารโปรไบโอติกบางชนิดในอาหารของคุณ เช่น มิโซะ กะหล่ำปลีดอง กิมจิ หรือโยเกิร์ต สิ่งเหล่านี้จะเพิ่มปริมาณแบคทีเรียที่มีสุขภาพดีในลำไส้ ซึ่งอาจช่วยลดอาการท้องเสียได้ แต่ควรระวังอาหารที่กินด้วยว่ามีประจำเดือนห้ามกินอะไร เพื่อจะได้ไม่ไปกระตุ้นให้เกิดอาการค่ะ
อาการปวดหัวไมเกรนประจำเดือนรักษาอย่างไร ?
อาการไมเกรนเมื่อมีประจำเดือน หรือเป็นประจำเดือนแล้วปวดหัว เวียนหัวนั้น มักจะรักษาด้วยยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) และยาที่มักใช้สำหรับไมเกรนประจำเดือน ได้แก่ คีโตโพรเฟน ไอบูโพรเฟน แคลเซียมเฟโนโพรเฟน
นาพรอกเซน และนาบูเมโทน ซึ่งการรักษาด้วยยากลุ่ม NSAID นั้น ควรเริ่มกินก่อนเริ่มมีประจำเดือนสองถึงสามวัน และกินต่อไปจนประจำเดือนมา และเนื่องจากใช้ยาในช่วงเวลาสั้นๆ เท่านั้น จึงมีความเสี่ยงของผลข้างเคียงทางเดินอาหารน้อย นอกจากนี้แล้ว เนื่องจากการกักเก็บของเหลวในร่างกายมักจะเกิดขึ้นพร้อมกับประจำเดือน ยาขับปัสสาวะจึงถูกนำมาใช้เพื่อป้องกันไมเกรนประจำเดือน แพทย์บางรายอาจแนะนำให้คุณกินอาหารที่มีโซเดียมและเกลือต่ำก่อนประจำเดือนมา
นอกจากยาที่ช่วยบรรเทาอาการไมเกรนประจำเดือนแล้วนั้น ลองหาสาเหตุที่ทำให้อาการปวดหัวของฮอร์โมนดีขึ้นหรือแย่ลง ตัวอย่างเช่น หากแสงทำให้เกิดความเจ็บปวดและรู้สึกร้อนเกินไป ให้อยู่ในห้องที่เย็นและมืด รวมถึงมีเคล็ดลับในการดูแลตนเองเพิ่มเติมคือ รักษาระดับน้ำตาลในเลือดด้วยการกินของว่างเล็กๆ น้อยๆ บ่อยๆ และห้ามอดอาหาร รู้จักการผ่อนคลาย
หลีกเลี่ยงการนอนน้อยเกินไปหรือมากเกินไป และรักษารูปแบบการนอนให้เป็นปกติ หลีกเลี่ยงความเครียดและเรียนรู้วิธีจัดการกับมัน
อาการเวลาเป็นประจำเดือนเหล่านี้ ต้องไปพบแพทย์หรือไม่ ?
สำหรับอาการเวลาเป็นประจำเดือน ท้องเสีย คลื่นไส้นั้น ถ้ามีอาการเป็นครั้งคราวก่อนหรือระหว่างช่วงมีประจำเดือน ถือว่าเป็นเรื่องปกติ แต่หากมีอาการมากจนเริ่มเป็นอุปสรรคต่อกิจวัตรประจำวันของคุณ นั่นอาจมีอย่างอื่นเกิดขึ้นกับร่างกาย หากมีอาการท้องร่วงหรืออาการทางเดินอาหารอื่นๆ เกินสองวัน มีอาการปวดหรือเป็นตะคริวในกระเพาะอาหารหรือเชิงกรานที่ไม่หายด้วยการใช้ยา หรืออุจจาระมีเมือก ให้ไปพบแพทย์เพื่อช่วยคุณระบุสาเหตุและให้ทางเลือกในการรักษาแก่คุณได้ค่ะ
ในขณะที่อาการปวดหัวไมเกรนประจำเดือนนั้น หากมีความรุนแรงของอาการเพิ่มขึ้น หรือรูปแบบการปวดหัวของคุณเปลี่ยนไป และยาไม่สามารถช่วยบรรเทาอาการได้ ให้ไปพบแพทย์ทันทีเมื่ออาการปวดหัวของคุณมาอย่างกะทันหัน หรือรู้สึกว่าคุณกำลังมีอาการทางระบบประสาทที่ไม่เคยเป็นมาก่อน รวมทั้งมีปัญหาในการพูด ปัญหาการทรงตัว ปัญหาการมองเห็น ความสับสนทางจิต อาการชัก หรือความรู้สึกมึนงง รู้สึกเสียวซ่า เพื่อให้แพทย์พิจารณาอาการและทำการรักษาต่อไปค่ะ
อาการเป็นประจำเดือน ท้องเสีย คลื่นไส้ รวมถึงอาการปวดศีรษะนั้น ถือว่าเป็นอาการปกติที่พบได้ในผู้หญิงทุกคนเมื่อเวลามีประจำเดือนค่ะ เพราะฉะนั้น หากอาการของคุณไม่ร้ายแรงก็ไม่ต้องกังวลไป สามารถใช้วิธีการบรรเทาอาการต่างๆ ที่เราแนะนำไปใช้ได้เลยค่ะ
อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : medicalnewstoday.com, nhs.uk
ติดตามเราได้ที่ … เฟสบุ๊ค : เกร็ดสุขภาพ