“เพื่อสุขภาพ” ชุมชนสุขภาพ เรื่องราวตรงใจ ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย รุ่นไหนก็รัก ♡
คอลลาเจนจากธรรมชาติ มาจากการกินอาหารแบบไหนบ้าง ?
คอลลาเจน ชื่อนี้คงคุ้นหูเราดีอยู่แล้วใช่ไหมหล่ะคะ แต่รู้ไหมว่านอกจากคอลลาเจนจะมีประโยชน์ด้านความสวยความงามเพราะช่วยให้ผิวกระชับและตเต่งตึงแล้ว คอลลาเจนยังช่วยให้ข้อต่อมีความยืดหยุ่น ลดแรงเสียดสี ทำให้เคลื่อนไหวร่างกายได้เป็นปกติ แต่เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้นคอลลาเจนในร่างกายก็ยิ่งลดลง เพราะฉะนั้นลองมาดูแหล่งคอลลาเจนสำหรับผู้สูงอายุและคนทุกช่วงวัย กินอะไรจึงจะเป็นตัวช่วยให้เราได้รับคอลลาเจนจากธรรมชาติบ้าง มาดูกันค่ะ
- 7 แหล่ง คอลลาเจนจากธรรมชาติ กินแล้วได้ประโยชน์ ดีต่อสุขภาพ
- ถั่วเหลือง
ถั่วเหลืองมีกรดเจนิสติน (Genistein) ที่มีสรรพคุณช่วยลดเลือนริ้วรอย ทำให้ผิวกระชับ เต่งตึง แลดูอ่อนกว่าวัย อีกทั้งยังมีโปรตีนซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการสร้างเนื้อเยื่อคอลลาเจน การดื่มนมถั่วเหลืองเป็นประจำจึงช่วยให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนได้ดีขึ้น
- ถั่ว
ถั่วต่างๆ เช่น ถั่วลิสง ถั่วเหลือง ถั่วลันเตา ถั่วพิชตาชิโอ หรืออัลมอนด์ มีกรดที่ชื่อว่าไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) ที่มีส่วนช่วยลดริ้วรอย ทำให้ผิวใสและสุขภาพดี นอกจากนี้ยังมีกรดไขมันที่ดีต่อร่างกาย มีโปรตีนสูง ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว
เกร็ดสุขภาพ : สรรพคุณของกล้วยน้ำว้าเองก็ดีต่อผิวพรรณและการสร้างคอลลาเจน เพราะในกล้วยน้ำว้าอุดมไปด้วยวิตามินอีซึ่งเป็นวิตามินที่ดีต่อผิว ช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวี และยังกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน จึงช่วยต้านริ้วรอยและช่วยให้ผิวกระชับ ดูสุขภาพดีอีกด้วย
- ผลไม้สีแดง
ผลไม้สีแดงมีไลโคปีนสูง ซึ่งไลโคปีนนี่เองที่ช่วยสร้างคอลลาเจนอย่างได้ผล แถมยังอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวี ทำให้ป้องกันไม่ให้คอลลาเจนสูญเสียไปจากการถูกทำร้ายโดยแสงแดด แหล่งอาหารที่อุดมไปด้วยไลโคปีนและคอลลาเจนในผลไม้สีแดงก็คือ มะเขือเทศสรรพคุณผิวดีๆ ฟักข้าว แครอท มะละกอ เป็นต้น
- สาหร่ายทะเลทุกชนิด
สาหร่ายทะเลอุดมไปด้วยคอลลาเจนจากธรรมชาติ มีองค์ประกอบที่สำคัญสำหรับการสร้างคอลลาเจนอย่างไฮยาลูโรนิก ทำให้การกินสาหร่ายทะเลเป็นประจำช่วยให้ผิวกระชับ เพราะช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนในร่างกายและยังกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนอีกด้วย
- อาหารที่มีวิตามินซี
หลายคนอาจสงสัยว่าวิตามินซีเกี่ยวอะไรกับคอลลาเจน จริงๆ แล้ววิตามินซีมีส่วนสำคัญอย่างมากในการกระตุ้นร่างกายให้สร้างคอลลาเจน ดังนั้นเราจึงควรกินอาหารที่มีวิตามินซีเป็นประจำเพื่อให้ร่างกายสร้างคอลลาเจน โดยแหล่งอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินซีที่มีส่วนสำคัญในการสร้างคอลลาเจนก็อย่างเช่น ส้มโอพันธุ์ไหนอร่อย ส้ม มะนาว ฝรั่ง เป็นต้น
เกร็ดสุขภาพ : รู้หรือเปล่าว่าร่างกายของเราสามารถผลิตคอลลาเจนได้ตามธรรมชาติ แต่เมื่ออายุเข้าสู่ช่วงวัย 25 ปีเป็นต้นไป ประสิทธิภาพในการผลิตคอลลาเจนก็จะลดลง ริ้วรอยแห่งวัยเริ่มปรากฎ และเริ่มมีสีญญาณของโรคไขข้อต่างๆ เราจึงต้องมองหาแหล่งกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนจากธรรมชาติ เพื่อให้ร่างกายผลิตคอลลาเจนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยเติมคอลลาเจนเข้าสู่ร่างกายด้วย
- อะโวคาโด
แหล่งคอลลาเจนจากธรรมชาติที่ดีที่สุดอีกอย่างหนึ่งก็คืออะโวคาโดซึ่งเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินอี มีส่วนสำคัญในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและปกป้องผิวจากแสงแดด นอกจากนี้น้ำมันอะโวคาโดยังมีส่วนช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนอีกด้วย ใครที่มีปัญหาเรื่องผิวไม่กระชับ หย่อนคล้อย หรือมีปัญหาเรื่องข้อเสื่อม อาจกินอะโวคาโดวันละ 1 ลูกก็จะช่วยกระตุ้นการสร้างอคลลาเจนเพื่อมาช่วยแก้ปัญหาเหล่านั้นได้ค่ะ
- น้ำซุปกระดูกและปลาแซลมอน
ปิดท้ายกันที่แหล่งคอลลาเจนจากธรรมชาติอย่างน้ำซุปกระดูกและปลาแซลมอน หลายคนอาจเคยได้ยินว่าตีนไก่เป็นแหล่งคอลลาเจน แต่ความจริงแล้วไม่ใช่แค่ตีนไก่เท่านั้นนะคะ แต่กระดูกสัตว์อย่างหมูหรือวัวเองก็มีคอลลาเจนเช่นกัน ดังนั้นการกินน้ำซุปกระดูกเหล่านี้ จึงเป็นการรับเอาคอลลาเจนเข้าสู่ร่างกายของเราโดยตรง ควรกินน้ำซุปให้ได้อย่างน้อยวันละ 170 – 340 กรัมเพื่อบำรุงผิวและป้องกันปัญหาโรคข้อ ส่วนปลาแซลมอนอุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 ซิงค์ และแร่ธาตุอื่นๆ ที่ดีต่อการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิว ถือเป็นแหล่งคอลลาเจนสำหรับผู้สูงอายุที่ดีที่สุด เพราะทั้งน้ำซุปและปลาแซลมอนล้วนเป็นอาหารที่กินง่าย เป็นแหล่งโปรตีนคุณภาพดี และยังช่วยเติมคอลลาเจนให้ร่างกายของเรา
ใครที่กำลังตามหาแหล่งคอลลาเจนจากธรรมชาติอยู่หล่ะก็ ลองนำลิสต์อาหารทั้ง 7 อย่างนี้ไปช้อปปิ้งวัตถุดิบมาทำเป็นเมนูประจำวันได้เลย อย่าลืมนะคะว่าคอลลาเจนสำหรับผู้สูงอายุและคนทุกช่วงวัยนั้นมีความสำคัญมาก เพราะไม่ใช่แค่เรื่องความสวยความงาม แต่ยังมีส่วนเกี่ยวข้องกับสุขภาพโดยรวมของเรา โดยเฉพาะเรื่องโรคไขข้อต่างๆ ดังนั้นการมองหาแหล่งคอลลาเจนธรรมชาติโดยไม่กินอาหารเสริมจึงเป็นทางออกที่มี เพราะเราสามารถกินได้ทุกวันโดยไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดการสะสมหรือตกค้างในร่างกายเหมือนการกินอาหารเสริม นอกจากนี้อาหารแต่ละชนิดยังมีปรธดยชน์ในด้านอื่นอีกด้วย
อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : healthline.com, eatthis.com
ติดตามเราได้ที่ … เฟสบุ๊ค : เกร็ดสุขภาพ