“เพื่อสุขภาพ” ชุมชนสุขภาพ เรื่องราวตรงใจ ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย รุ่นไหนก็รัก ♡
แจก สูตรน้ำเต้าหู้ ทำตามกันได้ง่ายๆ พร้อมเคล็ดลับการทำน้ำเต้าหู้ให้อร่อยถูกปาก รสชาติถูกใจ !
น้ำเต้าหู้เป็นเครื่องดื่มแก้วโปรดของใครหลายๆ คน และใครๆ ก็ดื่มได้ โดยเฉพาะผู้ที่แพ้อาหารประเภทนมวัว นมถั่วเหลืองหรือน้ำเต้าหู้ก็เป็นนมทางเลือกอีกประเภทหนึ่งที่หาซื้อได้ง่าย มีราคาย่อมเยา ดื่มได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ โดยเฉพาะสตรีวัยหมดประจำเดือน การดื่มน้ำเต้าหู้เป็นประจำจะช่วยบำรุงร่างกายให้แข็งแรงและมีสุขภาพดีมากขึ้น แล้วเราก็สามารถทำน้ำเต้าหู้เอาไว้ดื่มเองได้ด้วย ถ้าใครอยากลองทำน้ำเต้าหู้ดื่มเอง เรามี สูตรน้ำเต้าหู้ แบบโฮมเมดมาฝากกันแล้วค่ะ จะทำยากมั้ย ทำได้อย่างไร ต้องเตรียมอะไรบ้าง ไปดูพร้อมๆ กันเลยค่ะ
5 สูตรน้ำเต้าหู้ แบบโฮมเมด ทำเองได้ที่บ้าน อร่อยได้ไม่ยาก
น้ำเต้าหู้ถือว่าเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ เพราะอุดมไปด้วยแร่ธาตุวิตามินหลายชนิดที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย มีโปรตีนสูง มีใยอาหารที่ช่วยในเรื่องขับถ่าย ทั้งยังมีสารไพโตเอสโตรเจนที่ทำหน้าที่คล้ายกับฮอร์โมนเอสโตรเจน ซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศหญิง ในสตรีวัยหมดประจำเดือน ฮอร์โมนชนิดนี้จะผลิตได้น้อยลง ทำให้เกิดความเสื่อมของร่างกาย เช่น ผมร่วง ผิวพรรณแห้งกร้าน การดื่มน้ำเต้าหู้เป็นประจำจะช่วยปรับสมดุลร่างกายและบำรุงสุขภาพได้ อย่างไรก็ตาม ควรดื่มในปริมาณที่เหมาะสม วันละ 1 – 2 แก้ว หากรับประทานมากเกินไปก็อาจส่งผลทำให้เกิดความผิดปกติบางอย่างได้ เช่น มีภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนต่ำ หากดื่มในปริมาณที่พอดี ก็จะได้รับประโยชน์ไปเต็มๆ เลยค่ะ สำหรับใครที่อยากทำน้ำเต้าหู้ดื่มเอง เราก็มีวิธีทำน้ำเต้าหู้มาฝากแล้วค่ะ
เกร็ดสุขภาพ : น้ำเต้าหู้มีประโยชน์มากมาย ทั้งช่วยลดคอเลสเตอรอล บรรเทาอาการวัยทองในผู้หญิง ลดความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็ง โรคหัวใจ และโรคกระดูกพรุน อุดมไปด้วยคาร์โบไฮเดรต โปรตีน แคลเซียม โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส วิตามิน A, B, B1, B2, B6, B12, C, D และไอโซฟลาโวน แถมยังมีเลซิตินที่เป็นสารสำคัญในการบำรุงประสาทและสมองด้วย เหมาะกับสุขภาพคนทุกเพศทุกวัยเลยค่ะ
1. น้ำเต้าหู้สูตรธรรมชาติ
มากันที่สูตรน้ำเต้าหู้สูตรแรก เป็นสูตรรสธรรมชาติ เหมาะสำหรับผู้ที่อยากลองทำน้ำเต้าหู้กินเอง มีรสชาติไม่หวานมาก หอมกลิ่นใบเตย และยังมีเคล็ดลับที่ทำให้น้ำเต้าหู้ของเราไม่มีกลิ่นเหม็นเขียว ซึ่งก็คือการใส่ถั่วลิสงคั่วลงไปด้วยนั่นเองค่ะ เหมาะสำหรับมือใหม่ที่อยากลองทำน้ำเต้าหู้ดื่มเองค่ะ
วัตถุดิบ :
- ถั่วเหลืองกะเทาะเปลือก 500 กรัม
- ถั่วลิสงคั่ว 250 กรัม (ใครที่แพ้ถั่วลิสง ไม่ต้องใส่นะคะ)
- น้ำดื่มสะอาด 4 ลิตร
- ใบเตย 2 ใบ
- น้ำตาลทราย 50 กรัม
- เกลือป่น ½ ช้อนชา
วิธีทำ :
- ล้างถั่วเหลืองให้สะอาดโดยการล้างสิ่งแปลกปลอมและเมล็ดเสียออกให้หมด
- นำถั่วเหลืองไปแช่ในน้ำสะอาด ประมาณ 5 – 10 ชั่วโมง
- เมื่อครบเวลาแล้ว นำถั่วเหลืองมาล้างอีกครั้ง จากนั้นพักให้สะเด็ดน้ำ
- เมื่อสะเด็ดน้ำดีแล้ว ให้นำถั่วเหลืองและถั่วลิสงคั่วปั่นรวมกันในเครื่องปั่นจนเนียนละเอียด
- เทใส่ผ้าขาวบาง และคั้นเอาแต่น้ำใส่หม้อ
- นำเอานมถั่วเหลืองที่ได้ไปต้ม ใส่ใบเตยลงไปเพื่อเพิ่มความหอม ทั้งนี้ ไม่ควรใช้ไฟแรงเกินไป เพราะจะทำให้เสียรสชาติ คนไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเริ่มเดือด
- ใส่น้ำตาลทรายลงไป ตามด้วยเกลือ คนให้น้ำตาลละลายและชิมรสอีกครั้ง หากรู้สึกว่าจืดไปก้สามารถใส่น้ำตาลเพิ่มได้ตามต้องการ
- เมื่อเริ่มเดือด ให้ปิดไฟ พักทิ้งไว้ให้อุ่นแล้วจึงตักใส่แก้วเสิร์ฟ เพียงเท่านี้ก็ได้น้ำเต้าหู้ฝีมือตัวเองแล้วค่ะ
2. น้ำเต้าหู้งาดำ
มาเสริมความอร่อยและเพิ่มแคลเซียมให้กับน้ำเต้าหู้ธรรมดาๆ ด้วยการเพิ่มงาดำเข้าไป เป็นสูตรน้ำเต้าหู้งาดำที่มีกลิ่นหอมของงา มีรสชาติเข้มข้นกลมกล่อม ได้ประโยชน์จากงาดำทั้งแคลเซียมและวิตามินอี ดื่มแล้วดีต่อสุขภาพมากๆ ค่ะ
วัตถุดิบ :
- ถั่วเหลืองกะเทาะเปลือก 500 กรัม
- งำดำ 1 – 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำสะอาด
- น้ำตาลทราย ปริมาณตามชอบ
วิธีทำ :
- ล้างถั่วเหลืองให้สะอาด เลือกเม็ดเสียและสิ่งแปลกปลอมทิ้งไป นำมาพักให้สะเด็ดน้ำ
- นำไปคั่วในกระทะจนแห้งและมีกลิ่นหอม จากนั้นนำไปแช่ในน้ำสะอาด ทิ้งไว้อย่างน้อย 3 ชั่วโมง หรือจนกว่าถั่วเหลืองจะนิ่ม
- ล้างงาดำให้สะอาด ตักขึ้นมาสะเด็ดน้ำแล้วนำไปคั่วจนมีกลิ่นหอม พักไว้
- เมื่อครบเวลา ให้นำถั่วเหลืองขึ้นมาพักสะเด็ดน้ำ จากนั้นเอาไปใส่ในเครื่องปั่น ตามด้วยงาคั่ว เติมน้ำอุ่นลงไปให้ท่วมส่วนผสม และปั่นจนละเอียด
- เอามากรองด้วยผ้าขาวบาง และคั้นเอาเฉพาะน้ำ
- เทน้ำเต้าหู้ที่ได้ใส่ลงในหม้อ เอาไปตั้งไฟต้มจนเดือด หมั่นคนบ่อยๆ เพื่อไม่ให้ไหม้ เมื่อเดือดแล้วใส่น้ำตาลทรายลงไป ชิมจนได้รสหวานตามต้องการ
- เมื่อเดือดอีกครั้งให้ปิดไฟ ยกลงจากเตา พักไว้ให้หายร้อน และตักใส่แก้วเสิร์ฟ
3. น้ำเต้าหู้แครอท
มาเพิ่มสีสันและรสชาติให้กับน้ำเต้าหู้กันค่ะ เป็นสูตรน้ำเต้าหู้แครอทที่มีส้มนวลน่ารับประทานมากๆ ในแครอทมีเบต้าแคโรทีนสูง อุสมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอความเสื่อมของร่างกาย ถูกใจคุณสาวๆ แน่นอน
วัตถุดิบ :
- ถั่วเหลืองซีก 500 กรัม
- น้ำเปล่าสะอาด
- น้ำแครอทคั้นเข้มข้น 1 ถ้วย
- น้ำตาลทรายปริมาณตามความหวานที่ต้องการ
- เกลือป่น ¼ ช้อนชา
วิธีทำ :
- ล้างถั่วเหลืองให้สะอาด แช่น้ำทิ้งไว้อย่างน้อย 3 ชั่วโมง จากนั้นเอาขึ้นมาพักให้สะเด็ดน้ำ
- ใส่ถั่วเหลืองลงไปในเครื่องปั่น ตามด้วยน้ำเปล่า โดยใส่ให้ท่วมถั่วเหลืองและปั่นจนละเอียด
- นำเอามากรองด้วยผ้าขาวบาง คั้นเอาเฉพาะน้ำ
- ผสมน้ำเต้าหู้ที่ได้กับน้ำแครอทในหม้อ และเอาไปตั้งไฟปานกลาง หมั่นคนเพื่อไม่ให้ก้นหม้อไหม้
- เมื่อน้ำเต้าหู้เดือดให้ลดไฟลงเป็นไฟอ่อน จากนั้นใส่น้ำตาลทรายและเกลือป่นลงไป คนให้เข้ากัน ชิมรสและเติมน้ำตาลจนกว่าจะได้ความหวานตามต้องการ ปิดไฟ พักให้หายร้อน และตักใส่แก้วเสิร์ฟ
4. น้ำเต้าหู้ฟักทอง
สูตรน้ำเต้าหู้ฟักทอง เหมาะมากสำหรับการดื่มร้อนๆ ให้ช่วงเข้าเริ่มหน้าหนาว โรยผงซินนาม่อนเล็กน้อยให้ได้กลิ่นอายของฤดูใบไม้ร่วง รสชาติหวานมันของน้ำเต้าหู้ฟักทอง เข้ากันได้ดีกับอากาศเย็นๆ มากๆ ค่ะ แถมยังได้ประโยชน์จากฟักทองอย่างวิตามินเอและเบต้าแคโรทีนอีกด้วย
วัตถุดิบ :
- ถั่วเหลืองกะเทาะเปลือก 500 กรัม
- ฟักทองปอกเปลือก 2 ถ้วย
- น้ำสะอาด 4 ลิตร
- น้ำตาลทราย ปริมาณตามต้องการ
- ผงซินนาม่อนเล็กน้อย
วิธีทำ :
- ล้างถั่วเหลืองให้สะอาด คัดเม็ดเสียและสิ่งสกปรกออกไป และนำถั่วเหลืองมาแช่น้ำอย่างน้อย 5 ชั่วโมง
- เมื่อครบเวลา เอาถั่วเหลืองไปล้างในน้ำสะอาดอีกครั้ง จากนั้นพักให้สะเด็ดน้ำ
- ต้มฟักทองให้สุกและนุ่ม จากนั้นเอาเหลืองและฟักทองใส่ลงไปในโถปั่น ปั่นจนเนียนละเอียด
- นำมากรองด้วยผ้าขาวบาง คั้นเอาแต่น้ำ
- เอาน้ำเต้าหู้ที่ได้มาต้มในหม้อจนเดือด เติมน้ำตาลทรายจนกว่าจะได้ความหวานตามต้องการ เมื่อเดือดอีกครั้ง ปิดไฟ
- ตักใส่แก้ว โรยผงซินนาม่อนเล็กน้อย พร้อมเสิร์ฟ
5. น้ำเต้าหู้มัทฉะ
สูตรน้ำเต้าหู้สูตรนี้ เอาใจคนรักชาเขียวมัทฉะ ประโยชน์ชาเขียวมัทฉะนั้นมีมากมาย ทั้งช่วยต้านมะเร็ง บำรุงหัวใจ ช่วยทำให้ตื่นตัว และกลิ่นชาเขียวมัทฉะหอมๆ ก็ทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายได้ด้วย เมื่อเอามาผสมกับน้ำเต้าหู้แบบโฮมเมดก็ได้ประโยชน์คูณสองไปเลยค่ะ
วัตถุดิบ :
- ถั่วเหลืองกะเทาเปลือก 500 กรัม
- ผงมัทฉะ 1 ช้อนชา
- น้ำสะอาด 4 ลิตร
- น้ำตาลทรายปริมาณตามต้องการ
วิธีทำ :
- ล้างถั่วเหลืองให้สะอาด และเอาถั่วเหลืองมาแช่น้ำ 5 – 10 ชั่วโมง
- เมื่อครบเวลาแล้วให้เอาถั่วเหลืองมาล้างน้ำสะอาดอีกครั้ง และพักให้สะเด็ดน้ำ
- นำเอาถั่วเหลืองใส่ลงเครื่องปั่น ปั่นให้เนียนเป็นเนื้อเดียวกัน
- กรองด้วยผ้าขาวบาง คั้นเอาแต่น้ำ
- นำเอาน้ำเต้าหู้ที่ได้มาต้มให้เดือด จากนั้นเติมผงมัทฉะลงไป คนให้เข้ากัน เติมน้ำตาลทรายตามต้องการ ชิมรสจนพอใจ และปิดไฟ
- พักให้หายร้อนสักครู่ ตักใส่แก้วเสิร์ฟ
รวมเคล็ดลับ วิธีทำน้ำเต้าหู้ให้อร่อยถูกใจ
1. ใช้น้ำกรองหรือน้ำสะอาด
เคล็ดลับข้อแรกก็คือ ใช้น้ำกรองหรือน้ำสะอาดในการต้มถั่วเหลืองเท่านั้น ไม่ควรใช้น้ำประปาหรือน้ำกระด้างเด็ดขาด ทั้งนี้ก็เพื่อป้องกันน้ำเต้าหู้แตกตัวหรือเป็นไขจนดูไม่น่ากินนั่นเอง
2. ใบเตย วัตถุดิบเพิ่มความหอม
สำหรับใครที่ชอบกลิ่นใบเตย สามารถใส่ใบเตยลงไปในสูตรน้ำเต้าหู้ทุกสูตรได้เลย นอกจากจะช่วยให้น้ำเต้าหู้มีกลิ่นหอมมากขึ้นแล้ว ยังช่วยลดกลิ่นเหม็นเขียวของถั่วอีกด้วย วิธีการก็แค่นำใบเตยล้างสะอาดประมาณ 1-2 ใบมามัดแล้วต้มระหว่างที่เราเคี่ยวน้ำเต้าหู้ เท่านี้ก็ช่วยเพิ่มความหอมอร่อยได้แล้วค่ะ
3. ต้มแล้วคน ช่วยลดกลิ่นไหม้
ในขั้นตอนการต้มน้ำเต้าหู้นั้น ให้เราต้มโดยใช้ไฟอ่อนจากนั้นค่อยๆ เคี่ยวอย่างใจเย็น หมั่นคนเพื่อป้องกันกลิ่นไหม้ ส่วนใครกลัวน้ำเต้าหู้จับตัวเป็นก้อนก็ไม่จำเป็นต้องเติมเกลือลงไปค่ะ
4. ใส่นมสดเพิ่มความหอมมัน
วิธีทำน้ำเต้าหู้สูตรเข้มข้นที่ไม่ควรพลาดก็คือ การเติมนมสดลงในน้ำเต้าหู้ สำหรับคนรักสุขภาพอย่างเราให้ใช้นมสดไขมันต่ำหรือนมพร่องมันเนยแทนก็อร่อย หอมมันไม่แพ้กัน
5. เติมความอร่อยด้วยธัญพืช
ใครอยากกินน้ำเต้าหู้ให้อยู่ท้อง การใส่ลูกเดือย เม็ดแมงลัก หรือธัญพืชเครื่องเคียงอื่นๆ ลงไปตามความชอบก็ช่วยให้อิ่มท้องมากขึ้น แถมยังมีประโยชน์เพิ่มขึ้นด้วย
เกร็ดสุขภาพ : การทำน้ำเต้าหู้ จะทำให้เกิดกากถั่วเหลืองเหลือใช้ ซึ่งถ้าหากทำน้ำเต้าหู้สูตรธรรมดา ก็สามารถเอากากถั่วเหลืองไปทำเป็นเมนูกากถั่วเหลืองได้ โดยสามารถทำได้หลากหลายเมนูทั้งคาวหวาน และกากถั่วเหลืองเองก็ยังมีคุณค่าทางอาหาร กากถั่วเหลืองมีใยอาหารมากถึง 50% มีโปรตีน 20% และไขมัน 10% จึงเป็นแหล่งของไฟเบอร์ และยังมีแคลเซียม โพแทสเซียม วิตามินบี มีแร่ธาตุอื่นๆ อีกหลายชนิด เป็นวัตถุดิบที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ และเอาไปทำอาหารได้หลากหลายเลยทีเดียวค่ะ
และนี่ก็เป็นสูตรน้ำเต้าหู้ทั้ง 5 สูตร ใครชอบสูตรไหน ก็ลองเอาไปทำกันได้เลยนะคะ พร้อมกับบอกเคล็ดลับดีๆ ที่จะช่วยให้น้ำเต้าหู้ของเราอร่อยถูกใจมากขึ้นด้วย ทั้งนี้ ควรเลือกซื้อถั่วเหลืองที่สะอาด สดใหม่ ปราศจากราและกลิ่นเหม็นหืน เพราะถ้าบริโภคเข้าไป ก็ทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพได้ และน้ำเต้าหู้โฮมเมดที่เราทำเอง จะเก็บในตู้เย็นได้นาน 3 – 5 วัน ควรรีบดื่มให้หมดโดยเร็ว เพื่อป้องกันการบูดเสียค่ะ
อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : sgethai.com, culturesforhealth.com, bbcgoodfood.com
Featured Image Credit : vecteezy.com/Olena Rudo
ติดตามเราได้ที่ … เฟสบุ๊ค : เกร็ดสุขภาพ