“เพื่อสุขภาพ” ชุมชนสุขภาพ เรื่องราวตรงใจ ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย รุ่นไหนก็รัก ♡
สาหร่ายวากาเมะ เมนู น่าสนใจ มีอะไรบ้าง ? ชวนเข้าครัวเตรียมเมนูง่ายๆ แต่อร่อยกัน !
สาหร่ายวากาเมะ เป็นสาหร่ายทะเลชนิดหนึ่งที่รับประทานได้ มีถิ่นกำเนิดในประเทศญี่ปุ่นและเกาหลี นิยมใช้ในอาหารเอเชีย โดยเฉพาะในซุป สลัด และเป็นเครื่องเคียงอาหารทะเล สาหร่ายวากาเมะมีสีเขียวเข้ม บางครั้งเรียกว่า “มัสตาร์ดทะเล” มีจำหน่ายในสองรูปแบบ ได้แก่ แบบแห้งและแบบเค็ม เมื่อนำกลับมาแช่น้ำ สาหร่ายวากาเมะจะมีเนื้อสัมผัสที่ค่อนข้างเหนียว ลื่น และมีรสชาติเค็มเล็กน้อย มีกลิ่นสาหร่ายทะเลและรสอูมามิ พร้อมกลิ่นหวานเล็กน้อย นอกจากนี้ยังมีไอโอดีนสูง ซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพ นอกจากนี้ สาหร่ายวากาเมะยังเป็นแหล่งของกรดไขมัน แร่ธาตุ และวิตามินที่ดี และยังเกี่ยวข้องกับประโยชน์ต่อสุขภาพต่างๆ รวมถึงช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล และความดันโลหิตได้อีกด้วย
สาหร่ายวากาเมะ เมนู อร่อย ทำง่ายๆ ทำตามได้จริง ได้ประโยชน์เต็มๆ
สำหรับคนที่สงสัยว่า สาหร่ายวากาเมะ กี่แคลฯ เราตอบให้ว่า สาหร่ายวากาเมะดิบ 1 ถ้วย มีแคลอรี่ประมาณ 36 แคลอรี่ ซึ่งในบทความนี้เพื่อสุขภาพจะขอนำเสนอไอเดีย สาหร่ายวากาเมะ เมนู ให้ผู้อ่านได้นำไปลองทำตามกัน สำหรับใครที่อยากจะรู้ว่า สาหร่ายวากาเมะมีประโยชน์ยังไงบ้าง อ่านเพิ่มเติมในเว็บไซต์ของเรากันได้เลยนะคะ
1. สาหร่ายวากาเมะทอดกรอบ
เมนูแรกที่อยากแนะนำเป็นสาหร่ายวากาเมะทอดกรอบค่ะ ทำไว้กินเป็นของว่างได้ กินเพลินๆ ถูกใจทั้งเด็ก และผู้ใหญ่
วัตถุดิบ :
- สาหร่ายวากาเมะแห้ง 1 ถ้วย
- น้ำเย็น 2 ถ้วย
- แป้งทอดกรอบ 1 ถ้วย
- น้ำเปล่า 1/2 ถ้วย
- เกลือ 1/2 ช้อนชา
- พริกไทยดำป่น 1/4 ช้อนชา
- น้ำมันสำหรับทอด
วิธีทำ :
- แช่สาหร่ายวากาเมะแห้งในน้ำเย็นเป็นเวลา 10 นาที หรือจนกว่าจะนิ่ม
- ล้างสาหร่ายวากาเมะด้วยน้ำสะอาด แล้วสะเด็ดน้ำให้แห้ง
- ผสมแป้งทอดกรอบ น้ำเปล่า เกลือ และพริกไทยดำเข้าด้วยกัน
- หยิบสาหร่ายวากาเมะลงในชาม แล้วคลุกเคล้าให้ทั่วจนสาหร่ายเคลือบด้วยแป้ง
- ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชบนไฟกลาง รอจนน้ำมันร้อน
- ใส่สาหร่ายวากาเมะที่คลุกแป้งแล้วลงทอดเป็นเวลา 2-3 นาที หรือจนกว่าจะกรอบเป็นสีเหลืองทอง
- ตักสาหร่ายวากาเมะทอดกรอบขึ้นจากกระทะ แล้วสะเด็ดน้ำมัน
- เสิร์ฟสาหร่ายวากาเมะทอดกรอบพร้อมกับซอสจิ้มตามชอบ
2. ซุปมิโซะกับสาหร่ายวากาเมะ
สาหร่ายวากาเมะ เมนูที่ 2 ที่เราอยากแนะนำเป็นเมนูยอดฮิตที่ทุกคนเริ่มรู้จักวากาเมะก็จากเมนูนี้นั่นแหละค่ะ ซุปมิโซะมีประโยชน์มากมาย แถมช่วยชะลอวัย ซึ่งเป็นหนึ่งในเมนูที่ชาวญี่ปุ่นทำไว้ติดบ้านเลยหล่ะค่ะ ลองมาดูวิธีทำกันนะคะ
วัตถุดิบ :
- น้ำซุปดาชิ 8 ถ้วย (สามารถใช้ผงดาชิสำเร็จรูปได้)
- เต้าเจี้ยวมิโซะ 1/2 ถ้วย
- สาหร่ายวากาเมะ 1/2 ถ้วย (แช่น้ำจนนิ่ม)
- ต้นหอม 1 ต้น (หั่นเป็นท่อน)
- เต้าหู้แข็ง 1/2 ก้อน (หั่นเป็นก้อน)
วิธีทำ :
- นำน้ำซุปดาชิใส่หม้อ นำไปตั้งไฟจนเดือด
- ลดไฟลงเป็นไฟอ่อน ใส่เต้าเจี้ยวมิโซะลงไป คนให้ละลายเข้ากับน้ำซุป
- ใส่สาหร่ายวากาเมะ ต้นหอม และเต้าหู้ลงไป ต้มต่ออีกประมาณ 5 นาที หรือจนกว่าเต้าหู้สุก
- ปิดไฟ ตักใส่ถ้วยพร้อมเสิร์ฟ
เคล็ด (ไม่) ลับ ที่ “เพื่อสุขภาพ” แนะนำ :
– สามารถเพิ่มผักอื่นๆ ลงไปในซุปได้ เช่น แครอท เห็ดหอม หรือผักโขม
– หากต้องการรสชาติที่เข้มข้นขึ้น ให้เพิ่มเต้าเจี้ยวมิโซะลงไปอีก
– หากต้องการซุปที่ใสขึ้น ให้กรองน้ำซุปก่อนนำไปต้ม• สำหรับสายเกาหลี ลองดูสูตรทำซุปสาหร่ายเกาหลีเพิ่มเติมได้อีกนะคะ
3. ข้าวหน้าสาหร่ายวากาเมะ
เมนูนี้ทำง่ายค่ะ เหมือนกินข้าวราดแกงบ้านเรา ที่ญี่ปุ่นจะเรียกว่าเมนูด้ง ซึ่งหากใครไม่อยากราดแค่สาหร่ายวากาเมะเฉยๆ ก็สามารถทอดเทมปุระกุ้ง หมึก หอย หรือว่าผักต่างๆ มากินร่วมกันได้อร่อยเลยค่ะ
วัตถุดิบ :
- สาหร่ายวากาเมะแห้ง 40 กรัม
- มิโซะ 1 ช้อนโต๊ะ
- งาขาวคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ
- เต้าหู้ขาว 1 ก้อน หรือตามชอบใจ
- ซอสถั่วเหลือง 1 ช้อนโต๊ะ
- มิริน 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ (จากมะนาว 1 ลูก)
- น้ำมันงาคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำส้มสายชูข้าว 2 ช้อนโต๊ะ
- พริกแดง 1 เม็ด (สับละเอียด)
- ข้าวซูชิ
- ท็อปปิ้งเพิ่มเติมตามชอบ (เช่น อะโวคาโด แตงกวา หรือถั่วแระญี่ปุ่น)
วิธีทำ :
- แช่สาหร่ายแห้งในน้ำเย็นในชาม ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที (เช็กความนิ่มหลังจากผ่านไป 10 นาที และเติมน้ำเพิ่มเติมหากน้ำเหือด)
- หุงข้าวเตรียมไว้
- ขณะที่แช่สาหร่าย เตรียมน้ำสลัดโดยผสมมิโซะ งา ซอสถั่วเหลือง มิริน น้ำมะนาว น้ำมันงา และน้ำส้มสายชูข้าวในชาม สับพริกแดงให้ละเอียดแล้วใส่ลงในส่วนผสม ผสมให้เข้ากัน
- หลังจาก 20 นาที นำสาหร่ายใส่กระชอนแล้วบีบน้ำออกให้หมด หั่นสาหร่ายเป็นชิ้นเล็กๆ เพื่อให้กินง่าย
- ลวกเต้าหู้ขาวเตรียมไว้ แล้วราดน้ำสลัดลงบนสาหร่ายแล้วคลุกเคล้าให้เข้ากันจนน้ำสลัดเคลือบตัวสาหร่ายอย่างทั่วถึง และเทเต้าหู้ขาวที่ลวกแล้วลงไปคลุกเคล้าผสมกันอย่างเบามือ
- ตักข้าวใส่ชามแล้วราดด้วยสาหร่ายที่ปรุงรสแล้ว เพิ่มท็อปปิ้งเพิ่มเติมตามชอบ เช่น อะโวคาโด แตงกวา หรือถั่วแระญี่ปุ่น
- โรยงาขาวด้านบนเพื่อเเติมความสวยงาม
- เสิร์ฟข้าวหน้าสาหร่ายวากาเมะ พร้อมซอสถั่วเหลืองเพิ่มเติมสำหรับจิ้มตามความชอบ
เกร็ดสุขภาพ : สาหร่ายวากาเมะเป็นแหล่งของวิตามิน และแร่ธาตุมากมาย รวมถึงวิตามิน A, C, E, K และแคลเซียม เหล็ก และแมกนีเซียม แถมยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหาย และมีเส้นใยสูง จึงช่วยให้รู้สึกอิ่มและช่วยเรื่องสุขภาพของลำไส้อีกด้วย
4. อูด้งสาหร่ายวากาเมะ
เมนูแนะนำจาก สาหร่ายวากาเมะ เมนูนี้ คืออูด้งแสนอร่อยนั่นเองค่ะ อูด้งเป็นเมนูเส้นที่ทำง่าย ไม่ยุ่งยาก และเช่นกัน หากใครไม่อยากใส่แค่สาหร่ายวากาเมะเฉยๆ ก็เติมเทมปุระ หรือเนื้อสัตว์ต่างๆ ประกอบได้เลยค่ะ
วัตถุดิบ :
- เส้นอูด้ง 1 ห่อ (200 กรัม)
- สาหร่ายวากาเมะแห้ง 1/2 ถ้วย
- น้ำซุปดาชิ 4 ถ้วย
- ซอสถั่วเหลือง 1/4 ถ้วย
- สาเก 1/4 ถ้วย
- มิริน 1/4 ถ้วย
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
- ต้นหอมซอย 1/4 ถ้วย
- งาขาวคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ :
- แช่สาหร่ายวากาเมะแห้งในน้ำเย็นประมาณ 10 นาที หรือจนนุ่ม
- ต้มน้ำในหม้อใบใหญ่ ใส่เส้นอูด้งลงไปต้มตามเวลาที่ระบุบนห่อ
- ในขณะที่เส้นอูด้งกำลังต้ม ให้เตรียมน้ำซุปโดยผสมน้ำซุปดาชิ ซอสถั่วเหลือง สาเก มิริน และน้ำตาลทรายในหม้ออีกใบ นำไปตั้งไฟอ่อน คนจนน้ำตาลละลาย
- เมื่อเส้นอูด้งสุกแล้ว ตักขึ้นใส่ชาม
- เทน้ำซุปที่เตรียมไว้ลงในชามอูด้ง
- ใส่สาหร่ายวากาเมะที่แช่น้ำแล้วลงไป
- โรยต้นหอมซอยและงาขาวคั่วลงไป
- พร้อมเสิร์ฟแบบร้อนๆ
เคล็ด (ไม่) ลับ ที่ “เพื่อสุขภาพ” แนะนำ :
– หากไม่มีน้ำซุปดาชิ สามารถใช้น้ำซุปก้อนรสไก่หรือรสปลาทดแทนได้
– สามารถเพิ่มผักอื่นๆ ลงไปได้ เช่น แครอท เห็ดหอม หรือผักโขม
– หากต้องการรสชาติที่เข้มข้นขึ้น ให้เพิ่มปริมาณซอสถั่วเหลืองหรือสาเก
5. สลัดสาหร่ายวากาเมะ
เมนูนี้เป็นเมนูสาหร่ายวากาเมะ เมนูที่เหมาะกับสายไดเอ็ท ไม่ต้องกังวลว่าต้องมานั่งคำนวณว่าสาหร่ายวากาเมะ กี่แคล บอกเลยว่าเฮลท์ตี้มากค่ะ ใครอยากได้มื้อเย็นเบาๆ หรืออยากได้เป็นของว่างเบาๆ ในช่วงบ่ายๆ รับรองว่าเหมาะ ตามมาดูวิธีทำกันค่ะ
วัตถุดิบ :
- สาหร่ายวากาเมะแห้ง 50 กรัม
- ซอสถั่วเหลืองลดโซเดียม 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำส้มสายชูข้าว 1 ช้อนโต๊ะ
- มิริน 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาล 1 ช้อนชา
- ขิงขูด 1 ช้อนชา
- กระเทียมขูด ½ ช้อนชา
- น้ำมันงาคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ
- พริกป่นแดง ¼ ช้อนชา
- แตงกวาอ่อน 1 ลูก (ไม่ต้องปอกเปลือก) หั่นบางๆ
- อุปกรณ์เสริม: งาขาวคั่ว งาดำ
วิธีทำ :
- แช่สาหร่ายในชามขนาดกลางที่มีน้ำเป็นเวลา 10 นาที หรือจนกว่าจะคืนตัว
- ขณะที่ สาหร่ายแช่อยู่ ให้เตรียมน้ำสลัดโดยผสมซอสถั่วเหลือง น้ำส้มสายชูข้าว มิริน น้ำตาล ขิง กระเทียม น้ำมันงา และพริกป่นแดงในชามขนาดกลางอีกใบ คนให้เข้ากัน
- สะเด็ดน้ำสาหร่ายแล้วล้างออกให้สะอาดเพื่อขจัดความชื้นส่วนเกิน
- ใส่สาหร่าย แตงกวาหั่นบางๆ และงาที่เตรียมไว้ลงในน้ำสลัดแล้วคลุกเคล้าให้เข้ากัน
- ปิดฝา และแช่เย็นในตู้เย็นเป็นเวลา 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมงก่อนเสิร์ฟ
6. โรลสาหร่ายวากาเมะ
ถึงเม้ว่า สาหร่ายวากาเมะ เมนูนี้จะมีวัตถุดิบที่ต้องเตรียมอยู่เยอะไปหมด แต่รับรองว่าทำออกมาแล้วแฮปปี้ และเฮลท์ตี้ได้แน่นอน จะทำกินเองก็ได้ ทำปาร์ตี้กับเพื่อนก็ได้ ลองทำดูนะคะ
วัตถุดิบสำหรับข้าวซูชิ :
- ข้าวญี่ปุ่น 1 ถ้วย
- น้ำ 1 1/4 ถ้วย
- น้ำส้มสายชูข้าว 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ 1/2 ช้อนชา
วัตถุดิบสำหรับไส้โรล :
- สาหร่ายวากาเมะแห้ง 1/4 ถ้วย
- แครอท 1/2 ถ้วย (หั่นเป็นเส้น)
- แตงกวา 1/2 ถ้วย (หั่นเป็นเส้น)
- อะโวคาโด 1 ลูก (หั่นเป็นเส้น)
- ปูอัด 1/2 ถ้วย (หั่นเป็นเส้น)
- ไข่เจียวบางๆ 1 แผ่น (หั่นเป็นเส้น)
วัตถุดิบสำหรับห่อโรล :
- สาหร่ายแผ่น 1 แผ่น
- เสื่อม้วนซูชิ
วิธีทำข้าวซูชิ :
- ล้างข้าวญี่ปุ่นให้สะอาด
- หุงข้าวตามปกติ
- เมื่อข้าวสุกแล้ว ย้ายข้าวลงในชามขนาดใหญ่
- ผสมน้ำส้มสายชูข้าว น้ำตาลทราย และเกลือในชามเล็ก
- ราดส่วนผสมน้ำส้มสายชูข้าวลงบนข้าว แล้วคลุกเคล้าให้เข้ากัน
วิธีเตรียมไส้โรล :
- แช่สาหร่ายวากาเมะแห้งในน้ำเย็นจนนิ่ม
- สะเด็ดน้ำสาหร่ายวากาเมะแล้วหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ
- หั่นแครอท แตงกวา อะโวคาโด ปูอัด และไข่เจียวเป็นเส้นๆ
วิธีห่อโรล :
- วางสาหร่ายแผ่นบนเสื่อม้วนซูชิ
- ตักข้าวซูชิลงบนสาหร่ายแผ่น แล้วเกลี่ยให้ทั่ว
- จัดเรียงไส้โรลไว้ที่ด้านล่างของข้าวซูชิ
- ม้วนสาหร่ายแผ่นขึ้นโดยใช้เสื่อม้วนซูชิ ช่วย
- หั่นโรลเป็นชิ้นๆ แล้วเสิร์ฟพร้อมโชยุ วาซาบิ และขิงดอง
เคล็ด (ไม่) ลับ ที่ “เพื่อสุขภาพ” แนะนำ :
– สามารถโรยงา หรือเติมยำสาหร่ายเพื่อเพิ่มรสชาติให้กับซูชิได้เช่นกัน
7. ข้าวผัดสาหร่ายวากาเมะ
ปิดท้ายเมนูสาหร่ายวากาเมะสำหรับบทความนี้กันด้วยเมนูไม่ยุ่งยาก แถมอิ่ม และกินได้ทั้งครอบครัวกับเมนูข้าวผัดค่ะ และเช่นเคยหากคุณไม่อยากที่จะกินสาหร่ายวากาเมะเฉยๆ ก็สามารถเติมเนื้อสัตว์เข้าไปเพิ่มเติมได้เลยนะคะ
วัตถุดิบ :
- ข้าวสวย 2 ถ้วย
- สาหร่ายวากาเมะแห้ง 1/4 ถ้วย
- ไข่ไก่ 2 ฟอง
- แครอท 1/2 ถ้วย (หั่นเป็นลูกเต๋า)
- ถั่วลันเตา 1/2 ถ้วย (แช่แข็งหรือสด)
- หอมหัวใหญ่ 1/2 หัว (หั่นเป็นลูกเต๋า)
- ซอสถั่วเหลือง 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันงา 1 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ พริกไทย ตามชอบ
วิธีทำ :
- แช่สาหร่ายวากาเมะในน้ำเย็นจนนิ่ม ประมาณ 10 นาที
- สะเด็ดน้ำสาหร่ายวากาเมะแล้วหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ
- ตีไข่ในชาม
- ตั้งกระทะบนไฟกลาง ใส่น้ำมันงาลงไป
- เทไข่ลงในกระทะแล้วคนให้สุก
- ใส่แครอท ถั่วลันเตา หอมหัวใหญ่ และสาหร่ายวากาเมะลงในกระทะ ผัดจนผักสุก
- ใส่ข้าวสวยลงในกระทะ ผัดให้เข้ากัน
- ปรุงรสด้วยซอสถั่วเหลือง เกลือ และพริกไทย ผัดจนเข้ากัน
- ตักใส่จานแล้วเสิร์ฟ
เกร็ดสุขภาพ : การเลือกซื้อสาหร่ายวากาเมะนั้น ให้มองหาสาหร่ายที่มีสีเขียวสดใสและมีกลิ่นทะเลเล็กน้อย นอกจากนั้นหากเก็บไว้ในภาชนะปิดแล้วใส่แช่ไว้ในตู้เย็นก็จะสามารถเก็บสาหร่ายวากาเมะได้นานถึง 2 สัปดาห์ เลยทีเดียว
สาหร่ายวากาเมะมีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์และสามารถใช้ในอาหารหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น สลัด ซุป และของว่าง แต่ก็มีข้อควรระวังอยู่เหมือนกัน ได้แก่
- ผู้ที่แพ้อาหารทะเลควรหลีกเลี่ยงการกินสาหร่ายวากาเมะ
- สาหร่ายวากาเมะมีไอโอดีนสูง ดังนั้นผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับต่อมไทรอยด์ควรปรึกษาแพทย์ก่อนกินสาหร่ายวากาเมะ
- สาหร่ายวากาเมะอาจมีสารหนูในปริมาณเล็กน้อย ดังนั้นจึงไม่ควรกินสาหร่ายวากาเมะในปริมาณมากเป็นเวลานาน
- สตรีมีครรภ์และสตรีให้นมบุตรควรปรึกษาแพทย์ก่อนกินสาหร่ายวากาเมะ
- หากคุณมีข้อกังวลใดๆ เกี่ยวกับการกินสาหร่ายวากาเมะ ลองปรึกษาแพทย์ประจำของคุณก่อนรับประทานค่ะ
เป็นยังไงบ้างคะสำหรับสาหร่ายวากาเมะ เมนู ที่เรานำมาฝากกันในบทความนี้ หวังว่าจะเป็นไอเดียที่สนุกให้กับการทำอาหารเพื่อสุขภาพให้กับคุณและครอบครัวนะคะ ส่วนใครที่สงสัยว่าสาหร่ายวากาเมะ กี่แคล ก็คงได้คำตอบกันไปแล้ว สำหรับสายเลิฟสาหร่าย สามารถอ่านประโยชน์ และโทษของสาหร่ายเพิ่มเติมกันได้เลยค่ะ
ติดตามเราได้ที่ … เฟสบุ๊ค : เกร็ดสุขภาพ