“เพื่อสุขภาพ” ชุมชนสุขภาพ เรื่องราวตรงใจ ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย รุ่นไหนก็รัก ♡
กากถั่วเหลือง ทำอะไรได้บ้าง ? รวม 8 เมนูอร่อยทั้งคาว-หวาน มากประโยชน์จากกากถั่วเหลือง
กากถั่วเหลือง หรือ Okara คือ กากถั่วเหลืองคือส่วนที่เหลือของถั่วเหลืองหลังจากที่ได้มีการสกัดน้ำมันและโปรตีนออกไปแล้ว มีลักษณะเป็นผงหรือเกล็ดสีน้ำตาลอ่อน มีปริมาณโปรตีนและไขมันต่ำ แต่มีปริมาณเส้นใยอาหารสูง หลายคนที่ชอบทำนมถั่วเหลืองดื่มเองเพราะประโยชน์นมถั่วเหลือง นั้นมีมากมาย แต่ก็มักจะเจอกับปัญหาที่ว่า เมื่อทำนมถั่วเหลืองเสร็จแล้ว ก็ไม่รู้ว่าจะเอากากถั่วเหลืองไปทำอะไรได้บ้าง บางคนก็เอาไปทิ้งอย่างน่าเสียดาย ความจริงแล้ว กากถั่วเหลืองมีประโยชน์มากมาย และมีคุณค่าทางโภชนาการอย่างดีเยี่ยม และง่ายต่อการนำมารังสรรค์เมนูต่างๆ ทั้งของคาวของหวาน ในบทความนี้ เพื่อสุขภาพ จึงอยากพาไปดูว่าทำอะไรได้บ้าง ตามมาดูกันค่ะ
กากถั่วเหลือง ทำอะไรได้บ้าง ? ทำน้ำเต้าหู้บ่อยอย่าเพิ่งทิ้ง เอามาทำประโยชน์กัน !
รู้หรือไม่ว่า กากถั่วเหลืองนั้นประกอบด้วยใยอาหารมากถึง 50% มีโปรตีน 20% และไขมัน 10% จึงเป็นแหล่งของไฟเบอร์ และยังมีแคลเซียม โพแทสเซียม วิตามินบี มีแร่ธาตุอื่นๆ อีกหลายชนิด มีการนำเอากากถั่วเหลืองไปทำเป็นผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อป้องกันโรคเบาหวาน โรคอ้วน โรคไขมันในเลือดสูงอีกด้วย แต่กากถั่วเหลืองสดนั้นจะเน่าเสียได้ง่าย จึงควรทำให้แห้งก่อน หรือนำเอาไปประกอบอาหารเป็นเมนูต่างๆ กากถั่วเหลืองนั้นมีรสชาติอ่อนมาก จนบางคนบอกว่าจืดชืด กากที่ได้จากการทำนมถั่วเหลืองที่ยังสดใหม่นั้นจะเปียกและอาจจะเป็นครีมเล็กน้อย ส่วนเนื้อสัมผัสก็เป็นเม็ดเล็กๆ ร่วนๆ และชุ่มชื้นเหมือนแป้งนุ่มๆ ทั้งนี้ กากถั่วเหลือง ราคานั้นก็อาจจะถูกมากหรือขอได้ฟรีจากร้านขายน้ำเต้าหู้ ถ้าใครมีกากถั่วเหลืองอยู่แล้ว ลองมาดูกันว่า ทำอะไรได้บ้างค่ะ
กากถั่วเหลืองอุดมไปด้วยสารอาหารต่างๆ เช่น
- เส้นใยอาหาร : กากถั่วเหลืองเป็นแหล่งของเส้นใยอาหารที่ไม่ละลายน้ำ ซึ่งช่วยเพิ่มปริมาณกากในอุจจาระ ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้น
- โปรตีน : แม้ว่ากากถั่วเหลืองจะมีปริมาณโปรตีนต่ำกว่าถั่วเหลือง แต่ก็ยังมีโปรตีนมากกว่าอาหารประเภทอื่นๆ บางประเภท
- วิตามินและแร่ธาตุ : กากถั่วเหลืองมีวิตามินและแร่ธาตุบางชนิด เช่น เหล็ก แมกนีเซียม และโพแทสเซียม
กากถั่วเหลือง ประโยชน์ ดีๆ ต่อสุขภาพมีหลายอย่าง เช่น
- ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล : เส้นใยอาหารในกากถั่วเหลืองช่วยลดการดูดซึมคอเลสเตอรอลในลำไส้
- ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด : เส้นใยอาหารในกากถั่วเหลืองช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาลในเลือด ซึ่งช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่
- ช่วยลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรัง : กากถั่วเหลืองมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหาย ซึ่งอาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังบางชนิด เช่น โรคหัวใจ และโรคมะเร็ง
- ช่วยให้อิ่มนาน : กากถั่วเหลืองมีเส้นใยอาหารสูง ซึ่งช่วยให้อิ่มนานขึ้นและช่วยลดความอยากอาหาร
แจกไอเดียกว้างๆ กากถั่วเหลือง ทำอะไรได้บ้าง ?
อาหารสัตว์ : กากถั่วเหลืองเป็นอาหารสัตว์ที่มีโปรตีนสูง โดยทั่วไปแล้วจะใช้เป็นส่วนผสมในอาหารสัตว์ปีก อาหารหมู และอาหารสัตว์เคี้ยวเอื้อง
ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง : กากถั่วเหลืองสามารถใช้เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง เช่น เต้าหู้ เทมเป้ และมิโซะ
การทำปุ๋ยหมัก : กากถั่วเหลืองสามารถนำไปทำปุ๋ยหมักเพื่อปรับปรุงโครงสร้างและความอุดมสมบูรณ์ของดิน
การผลิตกระดาษ : กากถั่วเหลืองสามารถใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตกระดาษ เนื่องจากมีเส้นใยเซลลูโลสจำนวนมาก
การผลิตพลาสติกชีวภาพ : กากถั่วเหลืองสามารถใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตพลาสติกชีวภาพ ซึ่งเป็นพลาสติกที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพ
การผลิตวัสดุก่อสร้าง : กากถั่วเหลืองสามารถใช้เป็นส่วนผสมในวัสดุก่อสร้าง เช่น อิฐและคอนกรีต เพื่อเพิ่มความแข็งแรงและความทนทาน
การผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพ : กากถั่วเหลืองสามารถใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพ เช่น เอทานอลและไบโอดีเซล
การวิจัยทางการแพทย์ : กากถั่วเหลืองมีสารต้านอนุมูลอิสระและสารพฤกษเคมีที่อาจมีประโยชน์ต่อสุขภาพ จึงมีการศึกษาเพื่อประเมินศักยภาพในการรักษาโรคต่างๆ
นอกจากความน่าสนใจที่กล่าวไปแล้วข้างต้นนั้น กากถั่วเหลืองยังสามารถรับประทานได้โดยการผสมลงในอาหารต่างๆ เช่น โยเกิร์ต ซีเรียล หรือสลัด นอกจากนี้ยังสามารถใช้เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์อาหารต่างๆ เช่น ขนมปัง พาสต้า และคุกกี้ ได้อีกด้วย และนี่คือไอเดียสำหรับ 8 เมนูน่าสนใจจากกากถั่วเหลือง ทำอะไรได้บ้าง ที่เราเลือกมาแนะนำกันค่ะ
1. Meetball กากถั่วเหลืองซอสบาร์บีคิว
เมนูนี้ เป็นได้ทั้งเมนูของว่าง หรือจะเอาไปรับประทานคู่กับสปาเก็ตตี้ผัดก็ได้ หรือจะกินคู่กับสลัดเพื่อเป็นการเพิ่มโปรตีนก็ได้เช่นกัน เป็นเมนู Meetball ที่ใช้กากถั่วเหลืองแทนเนื้อสัตว์ คลุกด้วยซอสบาร์บีคิว มีรสชาติออกไปทางตะวันตก รับประทานคู่กับอาหารเมนูอื่นๆ ได้หลากหลาย
วัตถุดิบ :
- หอมหัวใหญ่สับ 135 กรัม
- กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
- ซอสมะเขือเทศ 1 ½ ช้อนโต๊ะ
- กากถั่วเหลืองสด 200 กรัม
- ผักชีฝรั่งสด 1 ต้น สับละเอียด
- เกลือ ¼ ช้อนชา
- พริกไทย ¼ ช้อนชา
- แป้งวีทกลูเต็น 160 กรัม
- น้ำมันสำหรับทอด
วัตถุดิบซอสบาร์บีคิว :
- น้ำมันมะกอก 1 ช้อนโต๊ะ
- กระเทียมสับละเอียด 1 ช้อนชา
- ซอสมะเขือเทศเข้มข้น 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำส้มสายชูหมักจากองุ่นแดง (red wine vinegar) 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทรายแดง 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ :
- นำหอมหัวใหญ่สับ กระเทียมสับ ผักชีฝรั่งสับ และซอสมะเขือเทศปั่นให้เข้ากัน จากนั้นเทใส่ชามผสม ใส่กากถั่วเหลืองสดลงไป คนให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทย และเติมแป้งวีทกลูเต็นลงไป จากนั้นนวดให้เข้ากันอีกครั้งจนกว่าส่วนผสมจะเป็นเนื้อเดียวกัน
- ปั้นส่วนผสมเป็นก้อนกลม นำเอาไปนึ่งเป็นเวลา 30 นาที และพักไว้ให้เย็น จากนั้นนำไปแช่ในตู้เย็นประมาณ 2 – 3 ชั่วโมง
- เตรียมซอสบาร์บีคิวโดยการตั้งกระทะ เติมน้ำมันมะกอกลงไป นำกระเทียมลงไปผัด ขากนั้นเติมซอสมะเขือเทศ น้ำส้มสายชู และน้ำตาลทรายแดง ผัดให้เข้ากัน ปิดไฟ
- ตั้งกระทะอีกหนึ่งเตา ใช้ไฟกลาง ใส่น้ำมันลงไปประมาณ 1 – 2 ช้อนโต๊ะ แล้วนำ Meetball ที่เตรียมไว้ลงไปทอดจนกลายเป็นสีน้ำตาล และนำเอาไปคลุกกับซอสบาร์บีคิวที่เตรียมไว้ จัดเสิร์ฟ
2. แกงกากถั่วเหลืองแบบเกาหลี
แกงกากถั่วเหลืองแบบเกาหลี หรือ Kongbiji jjigae เป็นเมนูกากถั่วเหลืองที่ใช้ของเหลือ 2 อย่างซึ่งมักจะถูกมองข้ามอย่างน่าเสียดาย ได้แก่ กิมจิที่ค้างอยู่ในตู้เย็น กับกากถั่วเหลืองที่เหลือจากการทำนมถั่วเหลืองนั่นเอง ใครที่เบื่อเมนูแกงกิมจิแบบเดิมๆ เรามาทำแกงกิมจิกากถั่วเหลืองกันค่ะ
วัตถุดิบ :
- น้ำมันงา 2 ช้อนชา
- หัวหอมสับหยาบ ½ ถ้วยตวง
- กระเทียมสับ 2 ช้อนชา
- ขิงสับ 1 ช้อนชา
- กิมจิ 125 กรัม
- ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
- พริกป่นเกาหลี 2 ช้อนชา
- น้ำสต๊อก 2 ½ ถ้วย
- กากถั่วเหลืองสด 300 กรัม
- ต้นหอมซอยหนึ่งกำมือ
- เกลือ ใช้เพื่อปรุงรส
วิธีทำ :
- ใส่น้ำมันงาลงในกระทะขนาดกลาง เปิดไฟปานกลาง ใส่หอมใหญ่ กระเทียม และขิง ผัดเป็นเวลา 1 นาทีจนหอม
- ใส่กิมจิ ซีอิ๊ว และพริกป่น ผัดเป็นเวลา 5 นาที
- เติมน้ำสต๊อกแล้วใส่กากถั่วเหลืองลงไป ต้มเป็นเวลา 15 นาที ปรุงรสด้วยเกลือ เมื่อเดือดแล้ว จึงตักใส่ชามและโรยด้วยต้นหอม
3. ปลาเทียมจากกากถั่วเหลือง
หลายๆ ประเทศในเอเชียทำเนื้อสัตว์เทียมมารับประทาน รวมถึงปลาเทียมจากกากถั่วเหลืองนี้ โดยใช้กลูเตนจากข้าวสาลีเพื่อเพิ่มเนื้อสัมผัสที่แน่นขึ้นให้กับเนื้อปลาเทียม ซึ่งเมนูกากถั่วเหลืองนี้สามารถนำไปทอดและตุ๋นได้ เหมาะสำหรับซุปและแกง รับรองว่าได้ประโยชน์จากถั่วเหลืองแบบเต็มๆ
วัตถุดิบ :
- แผ่นสาหร่ายโนริ 1 แผ่น
- น้ำสะอาด 30 มิลลิลิตร
- กลูเตนข้าวสาลี ¼ ถ้วยตวง
- กากถั่วเหลือง 1 ถ้วยตวง
- นมพร่องมันเนย 60 มิลลิลิตร
- แป้งข้าวเจ้า ¼ ถ้วยตวง
- แป้งมันสำปะหลัง 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมัน 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ :
- นำกากถั่วเหลือง นมพร่องมันเนย แป้งข้าวเจ้า แป้งมันสำปะหลัง และน้ำมัน มาผสมให้ทุกอย่างเข้ากันดี
- เติมกลูเตนข้าวสาลีและนวดลงในส่วนผสม เติมน้ำ 30 มิลลิลิตร ช้าๆ เพื่อให้แป้งนุ่ม
- ปั้นแป้งที่ได้เป็นรูปทรงตามใจชอบ แล้วห่อด้วยแผ่นสาหร่ายโนริ
- นำแป้งมาห่อด้วยกระดาษฟอยล์และนึ่งเป็นเวลา 20 นาที ก่อนยกลงมาพักให้เย็น จากนั้นนำไปแช่แข็งทั้งชิ้น
- การนำปลาเทียมมาใช้นั้น สามารถหั่นเป็นชิ้นเพื่อเป็นวัตถุดิบในอาหารต่างๆ ตัวอย่างเช่น ใส่ในบะหมี่น้ำ ก็นำปลาเทียมจากกากถั่วเหลืองมาคลุกกับแป้งข้าวโพด แล้วนำไปทอดในน้ำมันจนกระทั่งเหลือง พักให้สะเด็ดน้ำมันแล้วก็นำไปใส่ในบะหมี่น้ำได้แล้ว นี่จึงเป็นการเพิ่มราคากากถั่วเหลืองได้เป็นอย่างดี
เกร็ดสุขภาพ : กากถั่วเหลืองเป็นส่วนที่ไม่ละลายน้ำของถั่วเหลือง ส่วนใหญ่มีสารอาหารคงอยู่มาก กากถั่วเหลืองเป็นแหล่งของแมงกานีส ฟอสฟอรัส เหล็ก แมกนีเซียม โพแทสเซียม กรดไขมันโอเมก้า3 ใยอาหาร วิตามินบี2 และวิตามินเค เมื่อเทียบกับอาหารจากพืชชนิดอื่นๆ กากถั่วเหลืองมีโปรตีนค่อนข้างสูง จึงเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับทำเมนูกากถั่วเหลืองเพื่อผู้รับประทานอาหารมังสวิรัติและอาหารคลีน เนื้อกากถั่วเหลือง 1 ถ้วยตวง ให้พลังงานประมาณ 90 แคลอรี และมีโปรตีนประมาณ 4 กรัม ซึ่งมีประโยชน์ไม่แพ้ประโยชน์ถั่วลูกไก่เลย อีกทั้งกากถั่วเหลือง ราคาก็ไม่สูง หาซื้อได้ง่ายอีกด้วย
4. ทอดมันกากถั่วเหลือง
กากถั่วเหลืองที่เหลือจากทำน้ำเต้าหู้นำมาทำเมนูกากถั่วเหลืองเป็นทอดมันได้ กรอบอร่อย ประหยัด และได้คุณค่าทางโภชนาการ
วัตถุดิบ :
- กากถั่วเหลือง 200 กรัม
- ไข่ไก่ 2 ฟอง
- พริกแกง 2 ช้อนโต๊ะ
- แป้งสาลี 6 ช้อนโต๊ะ
- ซอสหอยนางรม 2 ช้อนโต๊ะ
- ซอสปรุงรสฝาเขียว 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทรายแดง 1 ช้อนโต๊ะ
- ถั่วฝักยาว 2 กำ หั่นซอยเป็นชิ้นเล็กๆ
- ใบมะกรูดซอย 5 ใบ
- นำมันพืชสำหรับทอด
วิธีทำ :
- นำสวนผสมทุกอย่างใส่รวมกันในกะละมัง แล้วคลุกเคล้าให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียว
- นำกระทะตั้งไฟ ใส่น้ำมันพืช รอจนร้อน
- ใช้ช้อนตักส่วนผสมมา แล้วกดให้แบน และนำไปทอดในกระทะ
- รอจนสุกทั่วกันดี จึงยกขึ้นออกมาพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน พร้อมรับประทาน
5. ลูกชิ้นปราศจากเนื้อสัตว์จากกากถั่วเหลือง
ลูกชิ้นเป็นอาหารว่างมื้อโปรดของเพื่อนหลายคน คงดีไม่น้อยถ้าทำเมนูกากถั่วเหลืองเป็นลูกชิ้นมารับประทานและแบ่งปันให้คนอื่นๆ ด้วย
วัตถุดิบ :
- แป้งข้าวสาลี ¼ ถ้วยตวง
- แป้งข้าวสาลีโฮลวีท ¼ ถ้วยตวง
- ยี่หร่า 1/8 ช้อนชา
- ปาปริก้า 1/8 ช้อนชา
- พริกไทยป่น 1/8 ช้อนชา
- พริกป่น 1/8 ช้อนชา
- เกลือ ¼ ช้อนชา
- ออริกาโนแห้ง ¼ ช้อนชา
- กากถั่วเหลือง ½ ถ้วยตวง
- กระเทียมและหัวหอม
- มัสตาร์ดดิจอง ¼ ช้อนชา
- น้ำผึ้ง ½ ช้อนชา
- ซอสมะเขือเทศ 1 ช้อนโต๊ะ
วัตถุดิบทำซอส :
- มะเขือเทศสับ 2 ½ ถ้วยตวง
- หอมหัวใหญ่สับ ½ ถ้วยตวง
- ซอสมะเขือเทศ ½ ช้อนชา
- ออริกาโนแห้ง ¼ ช้อนชา
- เกลือ พริกไทย สำหรับปรุงรส
- น้ำเปล่า ½ ถ้วยตวง
วิธีทำ :
- สำหรับลูกชิ้น ให้ผสมส่วนผสมแห้งคือ แป้งข้าวสาลี แป้งข้าวสาลีโฮลวีท ยี่หร่า ปาปริก้า พริกไทยป่น พริกป่น เกลือ และออริกาโนแห้ง ให้เข้ากันดี ในขณะที่ส่วนผสมเปียกคือ กากถั่วเหลือง กระเทียม หัวหอม มัสตาร์ดดิจอง น้ำผึ้ง และซอสมะเขือเทศ ให้ใส่ลงเครื่องบดผสมอาหาร แล้วปั่นบดให้เข้ากันดี จากนั้นใส่ส่วนผสมแห้งที่เตรียมไว้ แล้วผสมจนเข้ากัน เสร็จแล้วให้นำมาปั้นเป็นลูกชิ้น
- เตรียมกระทะตั้งไฟ แล้วใส่น้ำมันมะกอกเล็กน้อย ก่อนนำลูกชิ้นกากถั่วเหลืองมาทอดในกระทะ ประมาณ 4 – 5 นาที จึงนำลงมาพักไว้
- สำหรับซอส ให้เทน้ำมันมะกอกลงในกระทะที่ตั้งไฟร้อนปานกลาง ใส่หอมหัวใหญ่สับลงไปผัด พอหอมแล้วจึงใส่มะเขือเทศ ซอสมะเขือเทศ ออริกาโน่ แล้วปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทย ผัด 2-3 นาที
- เติมน้ำ ¼ – ½ ถ้วย เคี่ยวสักพักแล้วใส่ลูกชิ้นที่ทอดไว้ ลดความร้อนให้ต่ำและเคี่ยวประมาณ 20 – 30 นาที คนเป็นครั้งคราว อาจจะเติมน้ำเพิ่มเล็กน้อยเพื่อป้องกันการแห้งและการไหม้ เสร็จแล้วจึงนำออก
- เสิร์ฟลูกชิ้นกากถั่วเหลืองพร้อมผักกาดหอม
6. น้ำพริกกากถั่วเหลือง
เวลาทำน้ำเต้าหู้แล้วจะเหลือกากถั่วเหลืองทิ้งไว้ หากไม่อยากทิ้ง ลองเอากากถั่วเหลืองมาทำเป็นน้ำพริกกากถั่วเหลืองที่ให้กลิ่นคล้ายน้ำพริกกากหมู นำมากินกับข้าวสวยร้อนๆ เพื่อเพิ่มรสชาติให้กับมื้ออาหารนั้นๆ ก็อร่อยเยี่ยมค่ะ
วัตถุดิบ :
- กากถั่วเหลือง 500 กรัม
- กระเทียมสับ 2 หัวใหญ่
- หอมหัวใหญ่สับ 2 หัว
- พริกป่น 4 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลาโซเดียมต่ำ 2 – 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ :
- กากถั่วเหลืองที่ใช้นั้นต้องแห้ง ซึ่งจะใช้วิธีตากแดดให้แห้งก็ได้ ใช้เวลาประมาณ 2 – 3 วัน หรือใช้การรวนบนกระทะร้อนก็ได้ แต่อาจจะต้องใช้เวลานานสักนิด เพราะต้องรวนให้แห้ง ทั้งนี้ การตากและการรวนจะทำให้กากถั่วเหลืองมีสีเข้มขึ้น
- เจียวหอมและกระเทียม แล้วซับน้ำมันออก พักไว้
- ผัดกากถั่วเหลืองที่แห้งแล้วกับพริกป่น เมื่อเข้ากันดีแล้ว ใส่หอมเจียว กระเทียมเจียวลงไปผัดถาม ปรุงรสตามชอบด้วยน้ำปลา น้ำตาลปี๊บ
- คั่วต่อจนกระทั่งแห้ง แต่ระวังไหม้ จึงนำขึ้นจากกระทะ พักไว้จนเย็น สามารถตักใส่ภาชนะมีฝาปิด เพื่อเก็บไว้รับประทานได้
เกร็ดสุขภาพ : กากถั่วเหลืองเป็นอาหารที่มีไฟเบอร์สูง โดยกากถั่วเหลือง 100 กรัม มีใยอาหาร 11.5 กรัม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเซลลูโลสที่ไม่ละลายน้ำ เส้นใยเซลลูโลสนี้ช่วยการทำงานของลำไส้ ช่วยบรรเทาอาการท้องผูกได้อย่างชัดเจน จึงมีส่วนช่วยในการป้องกันมะเร็งลำไส้ได้ นอกจากนี้ ในกากถั่วเหลืองยังอุดมไปด้วยคาร์โบไฮเดรตโดยเฉพาะโอลิโกแซกคาไรด์ที่ส่งผลดีต่อลำไส้ ด้วยการช่วยเพิ่มแบคทีเรียชนิดดีที่เป็นมิตรในลำไส้
7. ขนมหม้อแกงกากถั่วเหลือง
ขนมหม้อแกงกากถั่วเหลือง เป็นการนำเอากากถั่วเหลืองมาทำขนมแบบไทยๆ ทั้งยังได้โปรตีนจากถั่วเหลืองและไข่ไก่ไปเต็มๆ หอมกลิ่นกะทิและหอมเจียว เป็นเมนูของหวานที่หวานกำลังพอดี กินได้อร่อยทั้งครอบครัว
วัตถุดิบ :
- กากถั่วเหลือนึ่งสุก 200 กรัม
- ไข่ไก่ 6 ฟอง
- กะทิ 400 กรัม
- น้ำตาลมะพร้าว 200 กรัม
- หอมแดง 50 กรัม
- น้ำมันสำหรับเจียวหอมแดง
- ใบเตย 4 – 5 ใบ
วิธีทำ :
- เจียวหอมแดงให้สุกเหลืองกรอบ พักไว้
- ตอกไข่ไก่ลงในชามผสม นวดไข่ไก่ด้วยใบเตย วิธีการคือ นำใบเตยลงไปขยำรวมกับไข่ไก่และนวดให้ไข่ไก่แตกเข้ากัน ใบเตยจะทำให้ไข่ไก่มีกลิ่นหอมมากขึ้น ซึ่งขั้นตอนนี้ต้องล้างมือให้สะอาดและเช็ดให้แห้งก่อนนำใบเตยลงไปขยำ
- เติมน้ำตาลมะพร้าวลงไป นวดจนกระทั่งน้ำตาลละลายและเข้ากันกับไข่ไก่
- เติมกะทิลงไป นวดให้เข้ากันอีกครั้ง
- นำส่วนผสมที่ได้มากรองด้วยกระชอน เพื่อให้ได้เนื้อขนมที่นุ่มเนียนมากขึ้น
- นำกากถั่วเหลืองมาผสมให้เข้ากัน คนให้เข้ากันจนเป็นเนื้อเนียน
- นำส่วนผสมที่ได้ไปตั้งไฟ เปิดไฟอ่อนและกวนพอให้ขนมมีความข้นขึ้น เพื่อที่จะนำไปอบแล้วขนมจะไม่แยกชั้น
- เทลงในพิมพ์ถาดสี่เหลี่ยมที่ทาน้ำมันเตรียมเอาไว้เรียบร้อยแล้ว อบด้วยไฟบน – ล่าง อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ประมาณ 40 – 45 นาที
- เมื่อขนมสุก พักให้เย็น นำมาตัดเป็นชิ้นสี่เหลี่ยม โรยหน้าด้วยหอมเจียวแล้วจัดเสิร์ฟ
8. โดนัทกากถั่วเหลือง
มากันที่เมนูขนมอีกหนึ่งเมนู ซึ่งก็คือ โดนัทกากถั่วเหลืองนั่นเอง เหมาะมากๆ สำหรับทำเป็นของว่างให้เด็กๆ ในบ้านรับประทาน นอกจากจะไม่ต้องทิ้งกากถั่วเหลืองไปแล้ว ยังเอามาทำเป็นขนมอร่อยๆ ที่มีใยอาหารและมีโปรตีนจากกากถั่วเหลืองอีกด้วย จะมีวิธีทำยังไง ไปดูกันเลยค่ะ
วัตถุดิบ :
- แป้งสาลีอเนกประสงค์ 150 กรัม
- ไข่ไก่ 1 ฟอง
- กากถั่วเหลือง 100 กรัม
- นมถั่วเหลือง 150 มิลลิลิตร
- น้ำตาลทราย ½ ถ้วยตวง
- เนยละลาย 20 กรัม
- ผงฟู 2 ช้อนชา
- น้ำมะนาว 1 ช้อนชา
- เกลือ ¼ ช้อนชา
- น้ำมัรรำข้าวสำหรับทอด
- น้ำตาลสำหรับคลุกโดนัท ¼ ถ้วยตวง
- อบเชยป่น ¼ ช้อนชา
วิธีทำ :
- ตีไข่ไก่ น้ำตาลทราย เกลือ เนยละลาย นมถั่วเหลือง และน้ำมะนาวให้เข้ากันดี จากนั้นร่อนแป้งและผงฟูตามลงไป คนให้พอเข้ากัน
- ใส่กากถั่วเหลืองลงไป คนให้เข้ากันอีกครั้ง
- นำส่วนผสมใส่กระบอกหยอดโดนัท หรือจะใช้ช้อนตักหยอดลงกระทะก็ได้เช่นกัน
- ตั้งน้ำมันให้ร้อน หยอดเนื้อขนมลงไปทอด พอสุกดีแล้วกลับด้าน ทอดให้สุกทั้งสองด้าน จากนั้นตักขึ้นมาพักไว้
- ผสมน้ำตาลทรายกับอบเชยป่นให้เข้ากัน คลุกโดนัทที่ทอดเสร็จใหม่ๆ ให้น้ำตาลติดดี พักให้เย็นลง จากนั้นค่อยจัดเสิร์ฟ
และนี่ก็เป็นไอเดียเมนู กากถั่วเหลือง ทำอะไรได้บ้าง ทั้ง 8 เมนูที่เราเลือกมานำเสนอ ซึ่งมีทั้งเมนูคาวหวาน สามารถเอาไปลองทำได้ตามใจชอบ แม้ว่ากากถั่วเหลืองจะเป็นผลพลอยได้จากการผลิตน้ำเต้าหู้หรือนมถั่วเหลือง แต่ก็ได้รับความสนใจอย่างมากในหมู่คนรักอาหารเพื่อสุขภาพเนื่องจากมีใยอาหารสูงและมีแคลเซียมสูงด้วย อีกทั้งยังอุดมไปด้วยโปรตีนและคาร์โบไฮเดรต ที่สำคัญคือ กากถั่วเหลือง ราคาถูกมาก สามารถนำมาลองทำเมนูต่างๆ ทั้งเป็นกับข้าว หรืออาหารว่างสำหรับทานเล่นก็น่าสนใจ หวังว่าจะอิ่มอร่อย และได้ประโยชน์จากกากถั่วเหลืองกันนะคะ สำหรับใครที่มีข้อมูลอื่นเกี่ยวกับ กากถั่วเหลือง ทำอะไรได้บ้าง สามารถคอมเมนต์มาแชร์ให้ผู้อ่านคนอื่นๆ ได้ประโยชน์กันได้เลยนะคะ
อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : messyvegancook.com, cookpad.com, pholfoodmafia.com, tandfonline.com, healthbenefitstimes.com
Featured Image Credit : freepik.com/jcomp
ติดตามเราได้ที่ … เฟสบุ๊ค : เกร็ดสุขภาพ