“เพื่อสุขภาพ” ชุมชนสุขภาพ เรื่องราวตรงใจ ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย รุ่นไหนก็รัก ♡
รวมไอเดีย “ปลานึ่งขิงขึ้นฉ่าย” ทำตามง่าย และไม่เหม็นคาว กินแล้วดีกับสุขภาพ
วัฒนธรรมการกินปลาของชาวจีนนั้นมีมาตั้งแต่โบราณ สะท้อนผ่านพิธีกรรมและความเชื่อต่างๆ ในวิถีชีวิต ตลอดจนอาหารการกิน เพราะชาวจีนเชื่อว่า ปลาเป็นสัญลักษณ์ความมีชีวิตชีวา กระฉับกระเฉง ทำให้ชาวจีนถือปฏิบัติกันโดยทั่วไปในเรื่องการกินปลา เพื่อช่วยให้ฉลาดเฉลียว และมีไหวพริบดี ซึ่งวิธีปรุงอาหารจานปลาให้ได้ประโยชน์ต่อร่างกายมากที่สุดก็คือ การนึ่ง โดยเฉพาะ ปลานึ่งขิงขึ้นฉ่าย จะทำให้ได้สารอาหารจากเนื้อปลาล้วนๆ
ปลานึ่งขิงขึ้นฉ่าย กินแบบไหนได้บ้าง ? รวมไอเดียกินปลานึ่งขิงให้อร่อย และ ดีกับสุขภาพ
การนึ่งปลาให้ประโยชน์ต่อสุขภาพหลายประการเมื่อเปรียบเทียบกับวิธีการปรุงอาหารอื่นๆ และนี่คือข้อดีบางประการของการกินปลานึ่งค่ะ
- สารอาหารยังอยู่มากกว่า : การนึ่งปลาช่วยรักษาสารอาหารได้มากกว่าวิธีการปรุงอาหารอื่นๆ เช่น การทอดหรือการอบ เพราะใช้ความร้อนต่ำและไม่ต้องใช้น้ำมัน ดังนั้นสารอาหารที่สำคัญ เช่น โปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุ จะคงอยู่ในปลาที่นึ่งได้ดีกว่า
- ไขมันต่ำ : ปลานึ่งมีไขมันต่ำกว่าเมื่อเทียบกับวิธีการปรุงอาหารอื่นๆ เช่น การทอดหรือการผัด ซึ่งช่วยลดการบริโภคแคลอรีโดยรวมและทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักหรือรักษาน้ำหนัก
- ย่อยง่าย : ปลานึ่งย่อยง่ายกว่าปลาที่ปรุงด้วยวิธีอื่นๆ เช่น การทอดหรือการอบ ทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่มีปัญหาในการย่อยอาหาร
- รสชาติอร่อย : ปลานึ่งมีรสชาติที่ละเอียดอ่อนและเป็นธรรมชาติ ซึ่งช่วยให้คุณเพลิดเพลินกับรสชาติของปลาโดยไม่ต้องปรุงแต่งด้วยเครื่องปรุงรสหรือซอสมากเกินไป
- เตรียมง่าย : การนึ่งปลาเป็นวิธีการปรุงอาหารที่ง่ายและสะดวก คุณสามารถนึ่งปลาได้ในหม้อนึ่ง เตาอบ หรือไมโครเวฟ โดยใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที
ปลานึ่งขิงขึ้นฉ่าย รวมหลากหลายเมนู ทำตามง่าย
บางคนไม่ชอบรับประทานเมนูปลานึ่ง ด้วยเหตุที่ว่าเคยรับประทานแล้วเหม็นคาว จึงเลือกไปรับประทานปลาทอดที่กรอบอร่อย แต่เต็มไปด้วยน้ำมัน ซึ่งไม่ดีต่อสุขภาพร่างกาย ดังนั้นเรามาเรียนรู้วิธีทำปลานึ่งขิงขึ้นฉ่ายไปพร้อมกับเคล็ดลับดับคาวปลาไปด้วยกัน
ปลาจาระเม็ดนึ่งขิงขึ้นฉ่าย
ปลาจาระเม็ดที่จะนำมาทำ ปลานึ่งขิงขึ้นฉ่าย จะต้องเป็นปลาที่สดใหม่ โดยดูจากตาปลา เปิดโตเต็มที่ ใส ไม่ลึกโบ๋หรือขุ่นเป็นสีเทา เกล็ด สีสดใสเป็นมันเงา แบนราบเสมอกัน ไม่แห้งหรือหลุดลอก เหงือก ต้องมีสีแดงสด ไม่เขียวคล้ำ ครีบปิดสนิท และเนื้อปลาไม่แข็งทื่อ เมื่อกดจะยืดหยุ่น ไม่บุ๋มตามรอยนิ้วมือ
วัตถุดิบ :
- ปลาจาระเม็ด 1 ตัว
- ขิง(หั่นเป็นเส้น) 1 หยิบมือ
- แครอท (หั่นเป็นเส้น) 1 หยิบมือ
- ขึ้นฉ่าย 1 หยิบมือ
- ต้นหอม
- ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำต้มสุก 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา
วิธีทำ :
- ล้างปลาให้สะอาด แล้วนำไปนึ่งจนสุก
- ทำน้ำราดปลา โดยใช้ซีอิ๊ว น้ำตาลทราย น้ำต้มสุก ผสมเข้าด้วยกัน
- พอปลาที่นึ่งไว้สุก ให้เทน้ำที่ออกมาจากตัวปลาออก (จะได้ไม่มีกลิ่นคาว) แล้วเอาน้ำราดที่ผสมไว้ ราดบนตัวปลา จากนั้นจึงวางขิง แครอท ขึ้นฉ่าย ต้นหอม ไว้บนตัวปลา นึ่งต่ออีกสัก 20 นาที แล้วยกลง พร้อมรับประทานได้ ซึ่งปลาจาระเม็ดนึ่งขิงขึ้นฉ่ายนี้สามารถใช้เป็นเมนูอาหารผู้สูงอายุได้ด้วย
- ปลากะพงหั่นชิ้นนึ่งขิงขึ้นฉ่าย
หากนำน้ำมะนาวและเกลือมาทาเนื้อปลากะพงก่อนนึ่งเป็นปลานึ่งขิงขึ้นฉ่าย ก็จะช่วยกำจัดกลิ่นคาวปลาได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ น้ำมะนาวที่ผสมรวมกับเกลือ จะช่วยรัดให้เนื้อปลาคงรูป ไม่แตก ไม่เละง่าย ซึ่งทำให้เนื้อปลานึ่งน่ารับประทานมากยิ่งขึ้นด้วย
วัตถุดิบ :
- ปลากะพง 1 ตัว
- ขิงซอย 1 หัว
- ขึ้นฉ่าย ทุบและฉีก ประมาณ 2-3 ต้น
- ต้นหอม หั่นยาว 3 ต้น
- ซีอิ๊วขาว 3 ช้อนโต๊ะ
- ซีอิ๊วดำ 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันหอย 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมัน 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำเปล่า 200 มิลลิลิตร
วิธีทำ :
- ล้างปลาให้สะอาด จัดใส่จาน และนึ่งประมาณ 10-12 นาที หากนึ่งนาน เนื้อปลาจะยุ่ยเกินไป หลังจากครบตามเวลา นำปลาออกมาพักไว้
- ตั้งกระทะ ใช้ไฟแรง ใส่น้ำมัน 1 ช้อนโต๊ะ ลงในกระทะ รอจนน้ำมันเดือดจัด ใส่ขิงซอย ต้นหอมหั่นยาว ขึ้นฉ่ายทุบและฉีก ใส่ลงไปผัดกับน้ำมันให้พอหอมและสุกเล็กน้อย
- นำผักที่ผัดเสร็จวางบนตัวปลา จัดให้สวยงาม
- เตรียมน้ำซีอิ๊วราด โดยตั้งกระทะ ใช้ไฟอ่อน ใส่ซีอิ๊วขาว น้ำมันหอย ซีอิ๊วดำ น้ำตาล และน้ำเปล่า ตามสัดส่วน เคี่ยวจนกว่าจะเข้ากัน และเริ่มเหนียว จึงใช้ได้
- นำน้ำซีอิ๊วมาราดลงบนผัก และตัวปลา เท่านี้ก็พร้อมเสิร์ฟแล้ว
เกร็ดสุขภาพ : ปลาเป็นหนึ่งในอาหารเพื่อสุขภาพ ด้วยสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย โดยเฉพาะโปรตีน ซึ่งมีส่วนช่วยสร้างเสริมกล้ามเนื้อและดูแลเซลล์ต่างๆ แต่ประโยชน์ของการรับประทานปลายังมีมากกว่านั้น คือ ลดโอกาสเสียชีวิตจากโรคหลอดเลือดหัวใจ ลดโอกาสหัวใจล้มเหลว ช่วยลดโอกาสเป็นอัมพาตโดยเฉพาะในผู้หญิง และลดโอกาสเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก
หัวปลาแซลมอนนึ่งขิงฉ่าย
ปลาแซลมอนนำมาทำอาหารได้หลานอย่าง หากนำมาทำปลานึ่งขิงขึ้นฉ่าย ก็จะได้รสชาติอร่อยไม่แพ้เมนูแซลมอนคลีนเมนูอื่นๆ
วัตถุดิบ :
- หัวปลาแซลมอน 2 หัว
- หมูสับ ½ ก.ก.
- ขิงแก่ใหญ่ 2 หัว ซอย
- มันฝรั่ง 3 ลูก หั่นแว่นหนา
- ต้นขึ้นฉ่าย 3 ต้น หั่นท่อน
- ต้นหอม 5 ต้น หั่นท่อน
- แครอท 1 หัว หั่นแว่นบาง
- เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ
- ซีอิ๊วหวาน 1 ช้อนโต๊ะ
- หัวหอมใหญ่ 1 หัว ซอย
- ใบเตย 5 ใบ
วิธีทำ :
- ตั้งกระทะ ใช้ไฟปานกลาง ใส่ขิงลงก่อน ตามด้วยหัวปลา มันฝรั่ง หัวหอม ใบเตย เติมน้ำ ประมาณ 1 ถ้วยตวง แต่อย่าเติมน้ำมากไป จากนั้นปิดฝาไว้ก่อน โดยไฟปานกลาง ซัก 20 นาที
- หลัง 20 นาที เปิดออกดู ถ้าน้ำเริ่มแห้ง ให้เติมลงไปอีก 1 ถ้วยตวง แล้วปิดฝา ตุ๋นต่ออีก 10 นาที
- หลังจาก 10 นาที เปิดฝา ใส่ขึ้นฉ่ายกับต้นหอม แล้วปิดฝา อบไว้ 5 นาที ตักขึ้นเรียงใส่จาน พร้อมรับประทานทานเมนูปลานึ่ง
ปลาช่อนนึ่งขิงขึ้นฉ่าย
หากอยากรับประทานเมนูปลาเนื้อเด้ง อร่อยเต็มคำ ก็ต้องปลาช่อนนึ่งขิงขึ้นฉ่าย ด้วยวัตถุดิบเพียงไม่กี่อย่าง ก็พร้อมสร้างอร่อยได้แล้วกับปลานึ่งขิงขึ้นฉ่าย
วัตถุดิบ :
- ปลาช่อนหั่นแว่น 500 กรัม
- ขึ้นฉ่าย 3 ต้น
- ขิงหั่นแว่น 1 หัว
- ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ
- ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
- พริกชี้ฟ้าแดงซอย 1 เม็ด
วิธีทำ :
- ทำน้ำปรุงสำหรับราดปลา โดยใส่ซอสปรุงรสลงไปในถ้วย ตามด้วยน้ำตาลทราย และซอสหอยนางรม คนจนน้ำตาลทรายละลาย แล้วพักไว้
- นำขึ้นฉ่ายจัดลงบนจานให้เต็ม วางปลาช่อนหั่นแว่น ราดน้ำปรุงรสที่ทำไว้ โรยขิงหั่นแว่น และพริกชี้ฟ้าแดงซอย จากนั้นนำไปนึ่ง 20 นาที สำหรับเคล็ดลับอีกอย่างของการนึ่งปลาไม่ให้คาวคือ ต้องแน่ใจว่าน้ำเดือดจัดก่อนจะใส่ปลาลงไปนึ่ง ขณะนึ่งก็ต้องใช้ไฟแรงให้น้ำเดือดจัดเช่นกัน เนื่องจากไอน้ำที่ร้อนจากน้ำเดือดจะช่วยกำจัดกลิ่นคาวไม่ให้หลงเหลือในเนื้อปลาได้ และในระหว่างนึ่งก็ควรเปิดฝาหม้อให้ไอน้ำออกบ่อยๆ เพราะไอน้ำจะพากลิ่นคาวของปลาออกไปได้
- ตกแต่งด้วยขึ้นฉ่าย และพริกชี้ฟ้าแดงซอยแดงซอย พร้อมเสิร์ฟเมนูปลานึ่งให้กับคุณแล้ว
ปลานึ่งขิงขึ้นฉ่ายแบบจีน
ปลานึ่งทั้งตัวเนื้อนุ่ม ปรุงรสด้วยน้ำราดแสนอร่อย ปลานึ่งแบบจีนต้องใช้ทักษะการทำอาหารเพียงเล็กน้อย แต่กลับให้รสชาติปลานึ่งขิงขึ้นฉ่ายที่เหลือเชื่อ
วัตถุดิบ :
- ปลา (ปลากะรัง ปลาเฉา หรือปลาเก๋า) 1 ตัว
- ต้นหอม 2 ต้น หั่นฝอย
- ขิงหั่นเต๋าเล็ก 1 หัว
- น้ำมันปรุงอาหาร 1½ ช้อนโต๊ะ
- พริกแห้ง 1 เม็ด
- พริกไทยเสฉวนทั้งเม็ด 1 หยิบมือ
- ซีอิ๊วขาว 3 ช้อนโต๊ะ
- ไวน์ข้าว 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาล ½ ช้อนชา
- พริกไทยขาวป่น 1 หยิบมือ
วิธีทำ :
- ล้างปลาให้สะอาดแล้วซับให้แห้งด้วยกระดาษซับ ตัดปลาเป็นมุม 45 องศา หลายๆ ครั้งในแต่ละด้าน แล้วนำปลาวางบนจานที่พอดีกับหม้อสำหรับนึ่ง
- ใส่ต้นหอมและขิงประมาณ 1 ใน 3 ส่วนลงในช่องตัวปลา แล้ววางส่วนที่เหลือใต้และเหนือตัวปลา
- เติมน้ำลงในหม้อนึ่ง แล้วต้มให้เดือด จากนั้นวางจานปลาในหม้อ ปิดฝาหม้อ. นึ่งด้วยความร้อนสูงเป็นเวลา 8 นาที (เพิ่มอีก 2 นาที หากปลานั้นตัวใหญ่) เมื่อได้เวลาจึงนำจานออกมาพักไว้
- ตั้งกระทะ ใช้ไฟอ่อน ใส่น้ำมัน พริกแห้ง และพริก แล้วคั่ว ทันทีที่น้ำมันเริ่มมีควัน ให้นำมาเทลงบนตัวปลา
- ในกระทะใบเดิม ให้ใส่ซีอิ๊วขาว ไวน์ข้าว น้ำตาล และพริกไทยขาว ลงไป แล้วผัดจนเป็นฟอง ก่อนนำมาเทลงบนปลา เท่านี้ก็พร้อมเสิร์ฟกับข้าวเปล่า
ปลานึ่งขิงขึ้นฉ่ายสไตล์กวางตุ้ง
ปลานึ่งขิงขึ้นฉ่ายสไตล์กวางตุ้งเป็นอาหารแบบดั้งเดิมที่เรียบง่ายซึ่งมักเสิร์ฟเป็นจานสุดท้ายในงานเลี้ยงแต่งงานแบบจีน
วัตถุดิบ :
- เนื้อปลาสีขาวเนื้อละเอียด 10 ออนซ์ (เช่น ปลากะพง ปลาลิ้นหมา ปลานิล)
- หัวหอมใหญ่ 2 หัว
- ขิง 2 หัว
- ขึ้นฉ่าย 2 ต้น
- ซีอิ๊วขาว 1 ½ ช้อนโต๊ะ
- เกลือป่น 1/8 ช้อนชา
- น้ำตาล 1/8 ช้อนชา
- น้ำร้อน 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ :
- หั่นหัวหอมเป็นริ้ว หั่นขึ้นฉ่ายเป็นท่อน หั่นขิงเป็นแว่นบางๆ
- ผสมซีอิ๊วขาว เกลือ น้ำตาล และน้ำร้อนในชามขนาดเล็ก ผสมจนน้ำตาลและเกลือละลาย แล้วพักไว้
- นำเนื้อปลาวางบนจานทนความร้อน ก่อนนำไปไว้ในหม้อนึ่งที่ตั้งไฟจนน้ำเดือด เสร็จแล้วให้ปรับความร้อนเป็นไฟปานกลาง น้ำควรเดือดช้าๆ ซึ่งจะสร้างไอน้ำได้ในปริมาณที่ดี แต่ไม่สูงจนน้ำระเหยเร็วเกินไป ปิดฝาและนึ่งเป็นเวลา 7-10 นาที ขึ้นอยู่กับขนาดและความหนาของเนื้อปลา
- หลังจากเนื้อปลาสุกได้ที่ ให้นำหัวหอม ขิง และขึ้นฉ่าย ประมาณ 1 ใน 3 บนปลานึ่ง
- ทำซอส โดยตั้งกระทะหรือกระทะขนาดเล็กให้ร้อนปานกลาง แล้วเติมน้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ ใส่ขิงที่เหลือลงไปผัด 1 นาที ใส่หัวหอมและเคี่ยวเป็นเวลา 30 วินาที จากนั้นใส่ขึ้นฉ่าย เติมส่วนผสมของซีอิ๊ว แล้วเคี่ยวจนเป็นฟอง ก่อนเทส่วนผสมนี้ลงบนตัวปลา
ปลาเก๋านึ่งซีอิ้ว
ปลาเก๋านึ่งซีอิ้วเป็นหนึ่งในเมนูปลานึ่งขิงขึ้นฉ่าย ซึ่งการดับกลิ่นคาวของปลาสามารถใช้สมุนไพรช่วย โดยสมุนไพรที่แนะนำ ก็คือ ตะไคร้และหอมแดง ลองใส่สองสิ่งนี้ลงไปขณะนึ่งปลา สมุนไพรจะช่วยดับกลิ่นคาวปลาได้เป็นอย่างดี
วัตถุดิบ :
- ปลาเก๋า 1 ตัว
- ขึ้นฉ่าย 2 ต้น หั่นท่อน
- ขิงซอย ½ ถ้วย
- ต้นหอม 2 ต้น หั่นท่อน
- ซีอิ้วขาว 1 ½ ช้อนโต๊ะ
- ซีอิ้วดำ ½ ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาล ½ ช้อนชา
- น้ำจากปลานึ่ง
วิธีทำ :
- ตั้งหม้อนึ่ง ใส่น้ำ ต้มด้วยไฟแรง จนน้ำเดือด จึงวางปลาไว้ในหม้อนึ่ง นึ่งด้วยไฟแรง 30 นาที
- เตรียมเครื่องปรุงโดยนำ ซีอิ้วขาว ซีอิ้วดำ น้ำจากปลานึ่ง และน้ำตาล มาผสมกัน ชิมให้พอดี ไม่เค็มไม่หวาน
- พอปลาสุก ปิดไฟหม้อนึ่ง ยกปลาออกมา แล้วเอาขิงซอย ขึ้นฉ่ายท่อน ต้นหอมท่อน ไว้บนตัวปลา จากนั้นเอาน้ำซีอิ้วที่ปรุงไว้ราดที่ตัวปลา
- ขั้นตอนสำคัญอันสุดท้าย เอากระทะตั้งน้ำมัน รอให้น้ำมันร้อนจัดๆ แล้วเอาน้ำมันนั้นราดไปบนขิง ขึ้นฉ่าย และต้นหอมให้ทั่ว เรียกว่าเป็นการฉ่าให้กลิ่นขิง ขึ้นฉ่าย และต้นหอมออก เท่านี้ก็จะได้ปลานึ่งซีอิ้วทานที่บ้านแล้ว
เกร็ดสุขภาพ : ปลาเป็นแหล่งสำคัญของกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่ช่วยให้หัวใจและสมองแข็งแรง กรดไขมันโอเมก้า 3 สองชนิดที่พบในปลา ได้แก่ EPA (กรด eicosapentaenoic) และ DHA (กรด docosahexaenoic) ร่างกายไม่สามารถผลิตกรดไขมันโอเมก้า 3 ดังนั้นจึงต้องได้รับจากอาหาร ซึ่งกรดไขมันโอเมก้า 3 พบได้ในปลาทุกชนิด โดยเฉพาะปลาที่มีไขมันสูง ได้แก่ ปลาแซลมอน ปลาเทราท์ ปลาซาร์ดีน ปลาเฮอริ่ง ปลาทูน่าซึ่งมีเมนูทูน่าลดความอ้วนไว้ทดลองทำกันด้วย
แจกทิปส์นึ่งปลายังไง ไม่ให้เหม็นคาว ?
วิธีนึ่งปลาให้ไม่มีกลิ่นคาว ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้:
- ใช้ปลาสด : ควรใช้ปลาที่สดที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะว่า “ไตรเมทิลามีนออกไซด์” สารเคมีที่พบในปลาซึ่งทำให้เกิดกลิ่นคาว จะเริ่มสลายตัวเมื่อปลาถูกจับและสัมผัสกับอากาศ ดังนั้น ปลาที่สดกว่าก็จะยิ่งมีกลิ่นคาวน้อยลง
- ห่อปลา : การห่อปลาด้วยกระดาษไขหรือฟอยล์อลูมิเนียมจะช่วยกักไอน้ำและป้องกันไม่ให้กลิ่นคาวกระจายไปทั่วห้องครัว
- ใส่เครื่องเทศ : ใส่เครื่องเทศที่มีกลิ่นฉุน เช่น กระเทียม หัวหอม หรือน้ำส้มสายชูเติมลงในอาหารของคุณเพื่อกลบกลิ่นคาว
- แช่ในนม : การแช่ปลาในนมเป็นเวลา 20 นาทีก่อนปรุงอาหารจะช่วยลดกลิ่นคาวได้
- ใช้น้ำส้มสายชูหรือน้ำมะนาว : การใส่น้ำส้มสายชูหรือน้ำมะนาวลงในน้ำปรุงอาหารจะช่วยลดกลิ่นคาวได้
เป็นยังไงบ้างคะกับเมนูปลานึ่งขิงขึ้นฉ่ายทั้ง 7 เมนูนี้ สามารถนำไปทำโดยใช้วัตถุดิบที่มีในอยู่ครัว ซึ่งวิธีการก็ไม่ยาก แต่ได้ทั้งความอร่อยและประโยชน์ต่อสุขภาพร่วมกัน
อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : thaihealth.or.th, doh.wa.gov
Featured Image Credit : vecteezy.com/Natthapon Ngamnithiporn
ติดตามเราได้ที่ … เฟสบุ๊ค : เกร็ดสุขภาพ