“เพื่อสุขภาพ” ชุมชนสุขภาพ เรื่องราวตรงใจ ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย รุ่นไหนก็รัก ♡
รวมเมนู อาหารผู้สูงอายุ ไม่มีฟัน รวมไอเดียเมนูอร่อย แฮปปี้ กินง่าย ไม่จำเจ !
เมื่ออายุมากขึ้น ก็เป็นเรื่องปกติของร่างกายที่จะเสื่อมถอยไป ทั้งร่างกายภายใน อวัยวะต่างๆ และภายนอก อย่างเช่น ฟันที่ใช้บดเคี้ยวอาหารนั่นเอง ในบทความนี้เพื่อสุขภาพจะพาผู้อ่านไปดูเมนู อาหารผู้สูงอายุ ไม่มีฟัน เพื่อให้เราดูแลผู้สูงอายุได้อย่างดี และมีความสุขมากขึ้นค่ะ
แนะนำเมนูอาหารผู้สูงอายุ ไม่มีฟัน ทำตามง่าย ได้ความอร่อย แฮปปี้สุดๆ
เมื่อร่างกายเริ่มเสื่อมถอย เรายิ่งต้องดูแลอาหารการกินให้ดีค่ะ เพราะอาหารการกินเป็นส่วนสำคัญในการดูแลสุขภาพ ไม่ว่าคุณจะเป็นวัยเด็ก หนุ่มสาว หรือโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้สูงอายุ สำหรับผู้สูงอายุที่ไม่มีฟัน อยากกินแค่ก็กินได้ไม่อร่อยเหมือนเดิม ทำให้หลายท่านพาลไม่อยากอาหาร และทำให้เกิดอาการเจ็บปวด ในบทความนี้เราจึงอยากแนะนำเมนูอาหารนิ่มๆ กินง่าย เรียกว่าเป็น อาหารผู้สูงอายุ ไม่มีฟัน ให้ครอบครัว ผู้ดูแลผู้สูงอายุ ได้ลองนำไปทำอาหารให้ผู้สูงอายุรับประทานกันค่ะ
สาเหตุหลักที่ทำให้ผู้สูงอายุไม่มีฟันมีอะไรบ้าง ?
ก่อนจะไปดูลิสต์เมนูอาหารผู้สูงอายุ ไม่มีฟัน เราขอพามาดูสาเหตุหลักๆ ที่ทำให้ผู้สูงอายุเสียฟันกันก่อนนะคะ
- ภาวะฟันผุ ซึ่งเกิดจากการดูแลสุขภาพช่องปากที่ไม่ดี ประกอบกับการสะสมแบคทีเรียจากคราบหินปูน ทำให้เนื้อฟันถูกทำลายจนต้องถอนฟัน
- โรคปริทันต์ หรือโรคเหงือกอักเสบ เกิดจากการสะสมคราบจุลินทรีย์และคราบหินปูน ทำให้เหงือกบวม อักเสบ และฟันหลุดร่วงในที่สุด
- ภาวะแท็กซ์ทดแทนไม่เหมาะสม หลังจากฟันผุหรือฟันหักหลุดออกไป แต่ไม่ได้รับการรักษาด้วยการใส่ฟันปลอมหรือฟันเทียมทดแทน อาจทำให้ฟันข้างเคียงเอียงไปจนหลุดหมด
- การบาดเจ็บหรืออุบัติเหตุบริเวณใบหน้าและฟัน ที่ทำให้ฟันหักหรือแตกหรือถูกกระแทกแรงจนต้องถอนออกทั้งซี่
- ผลข้างเคียงจากยารักษาโรค เช่น ยารักษามะเร็งบางชนิดอาจทำให้เยื่อบุช่องปากอักเสบและฟันหลุดร่วง
- โรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ภูมิคุ้มกันบกพร่อง อาจทำให้เกิดการติดเชื้อในช่องปากและสูญเสียฟันได้ง่าย
การสูญเสียฟันในผู้สูงอายุอาจเกิดจากหลายปัจจัย ดังนั้นการดูแลสุขภาพช่องปากและฟันตั้งแต่วัยเด็กและวัยผู้ใหญ่จึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อลดความเสี่ยงและรักษาฟันไว้ได้นานที่สุด
เกร็ดสุขภาพ :
สำหรับผู้สูงอายุที่ไม่อยากรับประทานอาหาร ก็ให้บองปรับเปลี่ยนรูปแบบอาหารให้น่ารับประทาน เช่น อาหารนุ่ม อาหารครึ่งเหลว จัดจานอาหารให้สวยงาม มีหลากหลายรสชาติ ให้รับประทานอาหารเป็นมื้อเล็กๆ แต่บ่อยครั้ง จัดบรรยากาศรับประทานให้สบาย ผ่อนคลาย ให้ออกกำลังกายเบาๆ ก่อนรับประทาน หรือ พาไปรับบรรยากาศใหม่ๆ ไปกินข้าวนอกบ้าน เพราะการสร้างแรงจูงใจและเอาใจใส่ผู้สูงอายุ มีส่วนสำคัญในการกระตุ้นให้อยากอาหาร ซึ่งส่งผลดีต่อสุขภาพโดยรวม
เมนูอาหารผู้สูงอายุ ไม่มีฟัน มีอะไรบ้าง ?
1. โจ๊กหรือข้าวต้มนุ่มผสมผักรวมและไข่ตุ๋น
เมนูแรกบอกเลยว่าทำง่าย และนุ่มกลืนง่าย นอกจากจะอร่อย นุ่มกลืนง่ายแล้ว ยังให้คุณค่าทางโภชนาการที่ครบถ้วน ทั้งโปรตีน วิตามิน แร่ธาตุ เส้นใยอาหารจากข้าวและผัก เหมาะสำหรับผู้สูงอายุมาก ลองมาดูวิธีทำกันค่ะ
วัตถุดิบ :
- ข้าวสวย 1 ถ้วยตวง
- น้ำพอประมาณ
- ผักต่างๆ เช่น บร็อกโคลี คะน้า กระหล่ำปลี ผักกาดขาว รวมกันประมาณ 1-2 ถ้วย
- ไข่ไก่ 2-3 ฟอง
- เกลือป่น พริกไทยป่นเล็กน้อย
วิธีทำ :
- ล้างข้าวให้สะอาด ใส่ลงหม้อหุงข้าว เติมน้ำตามปริมาณที่กำหนด ปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทยเล็กน้อย
- สับหรือหั่นผักทุกชนิดเป็นชิ้นเล็กๆ
- เมื่อข้าวสุกแล้วให้ใส่ผักลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน
- ตีไข่ไก่ให้เข้ากันในชาม แล้วเทลงบนข้าวผักที่ผสมไว้ จากนั้นให้พลิกกลับด้านให้ไข่สุกทั่วถึง
- ปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทยอีกนิดตามรสชาติที่ชอบ เสิร์ฟโดยคลุกเคล้าให้เข้ากันก่อนรับประทาน อาจเสริมด้วยน้ำพริก หรือปรุงรสด้วย น้ำมันงาได้
2. ซุปเนื้อนุ่ม
นี่คือสูตรซุปเนื้อ สำหรับเมนูอาหารผู้สูงอายุ ไม่มีฟัน ซุปหนึ่งชามเพียงพอสำหรับอาหารหนึ่งมื้อของผู้สูงอายุ มีโปรตีน วิตามิน และเส้นใยจากเนื้อสัตว์และผัก รสชาติกลมกล่อม สามารถกลืนกินได้ง่าย
วัตถุดิบ :
- เนื้อวัวสันนอกหั่นชิ้นบาง 300 กรัม
- หัวหอมใหญ่ 1 หัว
- กระเทียมสับ 3 หัวพอง
- มันฝรั่งหั่นชิ้นเล็ก 2 หัว
- แครอท หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ 2 หัว
- เกลือ พริกไทยป่น ตามชอบรส
วิธีทำ :
- ใส่เนื้อ หัวหอม กระเทียม ลงในหม้อ เติมน้ำให้ท่วมส่วนผสม ต้มจนเดือดแล้วลดไฟเคี่ยวต่อประมาณ 1-2 ชม. จนเนื้อนิ่ม
- ใส่มันฝรั่ง แครอท ลงต้มต่อจนผักสุกนุ่ม ปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทย
- ตักเฉพาะน้ำซุปใส่โถปั่นพร้อมเนื้อและผัก ปั่นให้ละเอียดนุ่ม เสิร์ฟร้อนๆ
3. ซุปไก่นุ่ม
สำหรับคนไม่กินเนื้อ ก็สามารถใช้วัตถุดิบอย่างไก่มาทำซุปได้เช่นกันค่ะ เนื้อไก่ย่อยง่าย กินง่าย ให้พลังงาน เรียกว่าทำให้ผู้สูงอายุกินได้แบบไม่เบื่อเลยค่ะ
วัตถุดิบ :
- สะโพกไก่สับชิ้นพอคำ 300 กรัม
- หอมแดง 1 หัว
- มะเขือเปราะ เห็ดฟาง เมล็ดผักชี อย่างละ 1/2 ถ้วย
- เกลือ พริกไทยป่น ตามชอบรส
วิธีทำ :
- ใส่สะโพกไก่ หอมแดง ลงต้มในน้ำพอท่วม พอเดือดลดไฟเคี่ยว 1-2 ชม. จนเนื้อไก่นิ่มมาก
- ใส่มะเขือเปราะ เห็ดฟาง ต้มต่อประมาณ 10 นาที จนผักสุก ปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทย
- ตักเฉพาะน้ำซุปใส่โถปั่นพร้อมเนื้อไก่และผัก ปั่นให้ละเอียดนุ่ม โรยด้วยเมล็ดผักชี เสิร์ฟร้อน
4. ข้าวต้มนุ่มคลุกไข่ขาวผัดกับปลาทูน่าบด และผักโขมปั่น
แค่อ่านชื่อก็น่าสนใจแล้วใช่มั้ยคะ นี่คือข้าวคลุกไข่ขาวปลาทูน่าและผักโขม นุ่มละมุนลิ้น เหมาะสำหรับผู้สูงอายุ กลืนง่าย เรียกว่าเป็นเมนูอาหารผู้สูงอายุ ไม่มีฟัน ที่แปลกใหม่น่าสนใจ
วัตถุดิบ :
- ข้าวสวย 1 ถ้วยตวง
- น้ำสะอาด 2 ถ้วย
- ไข่ไก่ 2 ฟอง
- กระป๋องปลาทูน่าบด 1 กระป๋อง
- ผักโขมสด 1 กำ
- น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
- พริกไทยป่น 1/4 ช้อนชา
- เกลือ ตามชอบรส
วิธีทำ :
- ล้างข้าวให้สะอาด ใส่ในหม้อต้ม รินน้ำพอท่วมข้าว ปิดฝาพักไว้ประมาณ 30 นาที
- ตั้งไฟอ่อน ๆ หุงข้าวจนข้าวสุกนุ่ม ใช้ไม้พายคนเบาๆ เป็นระยะ
- สำหรับผักโขม ให้นำมาล้างให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ใส่ในปั่น เติมน้ำเล็กน้อย ปั่นให้ละเอียดเป็นผงหยาบ
- แยกไข่แดงออกจากไข่ขาว ตอกไข่แดงไว้ พักไว้
- นำไข่ขาวใส่กระทะ ผัดพอสุกด้วยไฟอ่อน ใส่ปลาทูน่า พริกไทย เกลือ ผัดให้เข้ากัน
- เมื่อข้าวสุกนุ่มแล้ว ใส่ไข่ขาวผัดปลาทูน่า และผงผักโขม คนให้เข้ากันดี รสชาติตามชอบ
ไข่แดงที่แยกไว้นั้น สามารถนำมาประกอบเป็นส่วนเสริมในจานได้ โดยมีวิธีการดังนี้
- นำไข่แดงที่แยกไว้มาทอดหรืออบให้สุก เพื่อให้ได้ไข่แดงสุกนุ่มนิดๆ
- หั่นหรือบีบไข่แดงสุกให้เป็นชิ้นเล็กๆ หรือเม็ดเล็กๆ
- เมื่อจะรับประทานข้าวต้มนุ่มคลุกไข่ผัดปลาทูน่าและผักโขม ให้โรยไข่แดงชิ้นหรือเม็ดเล็กๆ ลงไปด้วย
- ไข่แดงจะเพิ่มรสชาติ ให้โปรตีน และเนื้อสัมผัสที่นุ่มนวลกว่าให้กับเมนูนี้
เกร็ดสุขภาพ : สำหรับผู้สูงอายุที่ไม่มีฟัน ควรหลีกเลี่ยงอาหารแข็งและมีเนื้อแน่น เช่น เนื้อสัตว์ชิ้นใหญ่ ไก่ย่างกรอบ ถั่วแข็ง เป็นต้น เพราะยากต่อการเคี้ยวและอาจติดคอ ผักหรือผลไม้ที่มีเส้นใยหยาบ เช่น แตงกวา มะระ หัวไชเท้า เนื่องจากยากต่อการย่อยและเคี้ยว อาหารแข็งกรอบ เช่น ขนมปังกรอบ ขนมขบเคี้ยว อาจทำให้เยื่อบุช่องปากบาดเจ็บหรือฉีกขาดได้ และอาหารพวกเส้นหนา เช่น บะหมี่ เส้นก๋วยเตี๋ยว เนื่องจากเป็นเนื้อแน่นและเคี้ยวยาก อาจลื่นติดคอได้ แนะนำให้เลือกอาหารนุ่มๆ โจ๊ก ผัก ผลไม้สุก เนื้อสัตว์บดละเอียด ไข่ต้ม นม และผลิตภัณฑ์จากนม ที่เคี้ยวและกลืนง่าย มีประโยชน์ต่อสุขภาพ
5. สูตรพุดดิ้งมันฝรั่ง และผักปั่นละเอียด
พุดดิ้งมันฝรั่งและผักปั่นนี้มีเนื้อสัมผัสละเอียดนุ่มนวล เหมาะจะเป็นอาหารผู้สูงอายุ ไม่มีฟัน สามารถกลืนกินได้ง่าย พร้อมทั้งให้คุณค่าทางโภชนาการจากผัก มันฝรั่ง และนม
วัตถุดิบ :
- มันฝรั่ง 300 กรัม
- บล็อกโคลี 1/2 กำ
- คะน้าฝรั่ง 1/2 กำ
- นม 1/2 ถ้วย
- ไข่ไก่ 2 ฟอง
- เนยสด 2 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ 1/2 ช้อนชา
- พริกไทยป่น 1/4 ช้อนชา
วิธีทำ :
- ปอกเปลือกมันฝรั่ง หั่นเป็นชิ้น นำไปต้มในน้ำเดือดพอสุก จนสามารถปักไม้เข้าไปได้ง่าย
- ล้างบล็อกโคลีและคะน้าฝรั่งให้สะอาด หั่นออกเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วนำไปนึ่งให้สุก
- เมื่อผักสุกแล้ว นำไปปั่นพร้อมกับมันฝรั่ง ใส่นม ไข่ไก่ เนยสด เกลือ และพริกไทยลงไปปั่นด้วย ปั่นจนได้ส่วนผสมเนื้อละเอียดเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน
- เทส่วนผสมลงในพิมพ์พุดดิ้งที่ทาเนยไว้แล้ว
- นำพิมพ์วางลงในหม้อนึ่งที่เตรียมไว้ นึ่งประมาณ 30-40 นาทีจนพุดดิ้งสุกเนื้อแน่น
- นำพุดดิ้งออกจากหม้อนึ่ง พักให้เย็น แล้วค่อยหลุดออกจากพิมพ์ จัดจานเสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียงตามต้องการ เช่น ซอสมันฝรั่ง
6. โจ๊กมะเขือเทศคลุกไข่สุกหรือเนื้อสัตว์บด
เมนูนี้อุดมไปด้วยวิตามิน ใยอาหาร และโปรตีนจากเนื้อสัตว์หรือไข่ เหมาะที่จะเป็นเมนุอาหารผู้สูงอายุ ไม่มีฟัน กินง่าย ย่อยดี ให้พลังงานและสารอาหารที่จำเป็น
วัตถุดิบ :
- มะเขือเทศ 4-5 ลูก
- ไข่สุก 2 ฟอง (หรือเนื้อปลาหรือเนื้อสัตว์บด 1/2 ถ้วยตวง)
- กระเทียมสด 3 กลีบ บีบหรือซอยหยาบ
- น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ 1/4 ช้อนชา
- พริกไทยป่น 1/4 ช้อนชา
วิธีทำ :
- ล้างมะเขือเทศให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นพอคำ นำไปต้มหรืออบจนสุกนุ่ม
- ใช้ที่บีบมะเขือเทศให้เป็นเนื้อเดียวกัน หรือนำไปป่นให้ละเอียด
- ผ่าไข่สุก หรือเนื้อสัตว์บดลงไปในโจ๊กมะเขือเทศ คนให้เข้ากัน
- เตรียมกระเทียมเจียว โดยนำกระเทียมสดเจียวในน้ำมันพืชจนหอม เติมโจ๊กมะเขือเทศลงผัด
- ปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทยป่น คนให้เข้ากัน รสชาติเผ็ดนิดๆตามชอบ
- ผัดจนส่วนผสมเข้ากัน โจ๊กมีความนุ่มเคี้ยวง่าย จัดใส่จานรับประทานได้
7. ซุปผักรวม
ด้วยวัตถุดิบง่ายๆ แต่คุณค่าทางโภชนาการสูง ซุปผักรวมจึงเป็นอาหารผู้สูงอายุ ไม่มีฟันที่เหมาะมาก
วัตถุดิบ :
- ผักกาดขาวหั่นซอยเล็กๆ 1/2 หัว
- เห็ดหอมหั่นซอยเล็กๆ 1/2 ถ้วย
- แครอทหั่นจิ๋ว 1/2 หัว
- หัวหอมใหญ่หั่นซอยบาง 1/2 หัว
- ต้นกระเทียมซอยเล็กๆ 1 ต้น
- เนื้อปลาหรือเนื้อสัตว์บดละเอียด 1/2 ถ้วย (อาจไม่ใส่ก็ได้หากไม่ต้องการ)
- น้ำเปล่า 4 ถ้วย
- เกลือ 1/2 ช้อนชา
- พริกไทยป่น 1/4 ช้อนชา (หรือปรับตามชอบ)
วิธีทำ :
- ล้างผักทุกชนิดให้สะอาด หั่นจิ๋วๆ เล็กๆ
- นำน้ำใส่หม้อ พอเดือด ใส่ผักทุกชนิดลงต้ม
- ปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทยป่น คนให้เข้ากัน
- หากต้องการเสริมโปรตีน ให้ใส่เนื้อปลาหรือเนื้อสัตว์บดลงไปด้วย
- พอสุกนุ่มแล้ว ยกลงจากเตา ปรุงรสชาติตามชอบ
- เสิร์ฟซุปผักรวมในชามที่เหมาะกับผู้สูงอายุดื่มและเคี้ยวง่าย
เกร็ดน่ารู้และข้อควรระวังในการทำอาหารผู้สูงอายุ ไม่มีฟัน
- เน้นเลือกวัตถุดิบที่นุ่มและเนื้อละเอียด ง่ายต่อการเคี้ยวและกลืน เช่น ผัก ผลไม้สุก โจ๊ก เนื้อสัตว์บดละเอียด
- หลีกเลี่ยงวัตถุดิบที่เป็นเส้นใย หนัง กระดูก หรือมีเมล็ดแข็ง เพราะจะยากต่อการเคี้ยวและอาจทำให้ส่วนแข็งติดคอได้
- หั่นหรือป่นวัตถุดิบให้มีขนาดพอคำก่อนปรุง จะช่วยให้เคี้ยวกลืนได้ง่ายขึ้น
- เพิ่มความนุ่มให้กับอาหารโดยการต้ม นึ่ง อบ หรือผสมน้ำซุปหรือน้ำพริกเผ็ดนิดๆ
- ตั้งใจปรุงแต่งรสชาติให้อร่อยและกลมกล่อม ด้วยเครื่องปรุงต่างๆ เช่น เกลือ พริก น้ำมันเจียว เป็นต้น เพื่อกระตุ้นรสชาติและกระตุ้นการรับประทานอาหาร
- เสิร์ฟอาหารในภาชนะที่ลื่นไม่มีรอยบุ๋ม เพื่อป้องกันอาหารติดค้าง และสะดวกต่อการกินด้วยช้อนหรือดื่มด้วยหลอด
- ควรแบ่งจานเป็นมื้อเล็กๆ และบ่อยครั้งขึ้น เพื่อให้ผู้สูงอายุกินได้ทันและไม่อึดอัดคอ
- สังเกตสุขภาพร่างกายตลอดเวลา หากมีอาการแปลกใหม่หลังการรับประทาน ควรรีบปรึกษาแพทย์
การคำนึงถึงสภาพร่างกายและการปรุงอาหารที่ถูกสุขลักษณะ จะช่วยให้ผู้สูงอายุได้รับประทานอาหารที่เหมาะสมและมีคุณค่าทางโภชนาการอย่างเต็มที่
ผู้สูงอายุ ไม่มีฟันแล้ว ดูแลความสะอาดในช่องปากยังไง ?
สำหรับผู้สูงอายุที่ไม่มีฟันแล้ว การดูแลช่องปากก็ยังมีความสำคัญ ซึ่งมีข้อแนะนำดังนี้
- ทำความสะอาดเหงือกและลิ้นด้วยแปรงสีฟันขนนุ่มหรือก้อนสำลีชุบน้ำสะอาดทุกวัน เพื่อกำจัดคราบจุลินทรีย์และเศษอาหารตกค้าง
- บ้วนปากด้วยน้ำยาบ้วนปากสมุนไพรหลังแปรงฟันเพื่อฆ่าเชื้อโรค ลดกลิ่นปาก และรักษาสมดุลของแบคทีเรียในปาก
- ทาวาสลีนหรือครีมบำรุงริมฝีปากบริเวณเหงือกและริมฝีปากที่แห้งเพื่อป้องกันการแตกและแผลในช่องปาก
- ผู้สูงอายุที่สวมฟันปลอม ต้องถอดฟันปลอมออกทำความสะอาดทุกวันโดยแช่ในน้ำยาทำความสะอาดฟันปลอมตามคำแนะนำ
- เมื่อไม่ได้ใส่ฟันปลอม ให้ใช้นิ้วสะอาดคลึงเบาๆ บริเวณเหงือกและกระพุ้งแก้มด้านในเพื่อกระตุ้นการไหลเวียนเลือด
- พบทันตแพทย์เป็นประจำอย่างน้อยปีละครั้ง เพื่อตรวจสุขภาพช่องปากและได้รับคำแนะนำเพิ่มเติม
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพช่องปาก เช่น ผลไม้สด ผัก เนื้อสัตว์ นมและผลิตภัณฑ์จากนม
แม้จะไม่มีฟันแล้ว แต่การดูแลช่องปากที่ดีจะช่วยป้องกันโรคปริทันต์ กลิ่นปาก และปัญหาสุขภาพอื่นๆ ให้ผู้สูงอายุมีความมั่นใจและคุณภาพชีวิตที่ดีต่อไป สำหรับใครที่สนใจลองดูวิธีดูแลผู้สูงอายุเพิ่มเติมได้อีกนะคะ
Featured Image Credit : vecteezy.com
ติดตามเราได้ที่ … เฟสบุ๊ค : เกร็ดสุขภาพ