“เพื่อสุขภาพ” ชุมชนสุขภาพ เรื่องราวตรงใจ ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย รุ่นไหนก็รัก ♡
ข้าวฟ่าง สรรพคุณ มีมากมาย มารู้จักข้าวฟ่างให้มากขึ้นกัน !
เชื่อว่าหลายๆ คนคงจะเคยได้ยินชื่อของข้าวฟ่างกันมาบ้าง และทราบกันว่าข้าวฟ่าง เป็นธัญพืชชนิดหนึ่งที่สามารถรับประทานได้ แต่สำหรับบางคนอาจจะยังไม่แน่ใจว่า ข้าวฟ่างสามารถนำมาบริโภคได้อย่างไรบ้าง เชื่อหรือไม่ว่า ข้าวฟ่าง สรรพคุณ ดีๆ นั้นมีมากมาย เป็นธัญพืชชนิดหนึ่งที่มีประโยชน์ต่อร่างกายของเรามากเลยทีเดียว มารู้จักข้าวฟ่างให้มากขึ้นกันค่ะ
ข้าวฟ่าง สรรคุณ มีมากกว่าที่คิด มารู้จักข้าวฟ่างให้มากขึ้นกันเถอะ !
ข้าวฟ่าง คือพืชตระกูลหญ้าเช่นเดียวกับข้าวโพด มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Sorghum/Millet เป็นพืชที่ปลูกง่าย โตเร็ว ลักษณะลำต้นตั้งตรงมีข้อที่เห็นได้ชัดเจนและมีช่อดอกอยู่ส่วนปลาย เมล็ดของข้าวฟ่างมีเนื้อแข็งและขาวขุ่นนอกจากนี้ข้าวฟ่างยังมีหลายชนิด บางชนิดนิยมนำมาทำอาหารสัตว์มากกว่า ส่วนบางชนิดนิยมนำมาทำอาหารสำหรับมนุษย์เราและยังสามารถนำไปทำน้ำตาลได้ด้วย ส่วนในประเทศไทยนั้นนิยมปลูกข้าวฟ่างแบบเมล็ดโดยปลูกกันทั่วทุกภูมิภาคยกเว้นในภาคใต้
ข้าวฟ่าง เป็นพืชที่มีสารอาหารสำคัญหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นแมกนีเซียม โพแทสเซียม สังกะสี เหล็ก วิตามินบี และใยอาหาร ทั้งยังจัดเป็นธัญพืชที่ปราศจากกลูเต็น ผู้ที่แพ้อาหารอย่างกลูเต็น (อ่านเพิ่มเติม แพ้อาหาร มีอะไรบ้าง) ก็สามารถรับประทานได้ ข้าวฟ่างสามารถเอามาทำเมนูได้หลากหลายทั้งคาวหวาน เช่น เปียกข้าวฟ่างน้ำกะทิ (คล้ายข้าวเหนียวเปียก) ทำเป็นโจ๊กข้าวฟ่าง ยำข้าวฟ่าง เอามาต้มแล้วใส่ในสลัด หรือเอามาทำเป็นแป้งบะหมี่ แป้งขนมปัง และแป้งเค้กสำหรับผู้ที่แพ้แป้งสาลี เป็นต้น
นอกจากนี้ ข้าวฟ่างยังถูกใช้ในอุตสาหกรรมอีกหลายชนิด เช่น ใช้ในอุตสาหกรรมทำไม้อัด ทำกาว ทำกระดาษ ทำผ้า เป็นต้น ข้าวฟ่างบางสายพันธ์ุมีรสขมฝาด ก็สามารถนำมาหมักทำเบียร์ได้ด้วย และประเทศจีน ก็มีการนำเมล็ดข้าวฟ่างบางชนิดไปทำเหล้าได้เช่นกัน ตอนนี้ก็ได้รู้จักข้าวฟ่างกันมากขึ้นแล้ว มาดูกันเลยค่ะว่า ข้าวฟ่าง สรพพคุณดีๆ ต่อร่างกาย มีอะไรบ้าง
เกร็ดสุขภาพ : ข้าวฟ่างที่นิยมปลูกในประเทศไทยมีหลายชนิด ได้แก่ ข้าวฟ่างเมล็ดนิยมนำมาทำอาหาร, ข้าวฟ่างหญ้านิยมปลูกเป็นทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์, ข้าวฟ่างหวานนิยมปลูกเพื่อทำน้ำตาลหรือเป็นอาหารสัตว์, ข้าวฟ่างไม้กวาดนิยมปลูกเพื่อนำมาทำไม้กวาดโดยเฉพาะ และข้าวฟ่างคั่วนิยมปลูกเพื่อนำไปทำอาหาร เป็นต้น
ข้าวฟ่าง สรรพคุณดีๆ ที่สายรักสุขภาพจะต้องถูกใจ
1. อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ
ข้าวฟ่างเป็นธัญพืชที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เพราะมีสารโพลีฟีนอล การกินข้าวฟ่างจึงดีต่อผิวพรรณ ช่วยป้องกันความเสื่อมของเซลล์ นอกจากนี้ยังช่วยลดการอักเสบในร่างกาย ซึ่งเป็นสาเหตุในการเกิดโรคร้ายแรงชนิดต่างๆ จำพวกกลุ่มโรค NCDs คือ โรคมะเร็ง เบาหวาน ความดันโลหิตสูง เป็นต้น
2. มีส่วนช่วยคุมโรคเบาหวาน
ใครที่กำลังอยากคุมระดับน้ำตาลหรือใครที่เป็นเบาหวานต้องลองรับประทานข้าวฟ่าง สรรพคุณดีๆ ข้อนี้ เนื่องจากข้าวฟ่างมีดัชนีน้ำตาลต่ำอีกทั้งยังอุดมไปด้วยไฟเบอร์ การกินข้าวฟ่างจึงช่วยให้อิ่มเร็วและช่วยให้ร่างกายคุมระดับน้ำตาลได้ดีขึ้น เหมาะสำหรับคนลดน้ำหนักและผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 นอกจากนี้ ในข้าวฟ่างยังมีแมกนีเซียมที่ช่วยให้อินซูลินในร่างกายทำงานได้ดีขึ้นและช่วยลดความเสี่ยงการเกิดเบาหวานถึง 30%
3. บำรุงและดีต่อหัวใจ
ข้าวฟ่าง สรรพคุณของธัญพืชชนิดนี้คือ อุดมไปด้วยแมกนีเซียมที่ช่วยลดความดันโลหิต ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจล้มเหลวจากการสะสมไขมันที่เส้นเลือด นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งโพแทสเซียมที่ดีต่อการทำงานของหัวใจ อีกทั้งยังช่วยให้คอเลสเตอรอลชนิดดีเพิ่มขึ้นด้วย
4. ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง
เนื่องจากในข้าวฟ่างอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและโพลีฟีนอลจึงมีส่วนช่วยป้องกันโรคมะเร็งได้หลายชนิด เช่น มะเร็งเต้านมและมะเร็งลำไส้ โดยช่วยป้องกันได้ทั้งระยะเริ่มต้นและลุกลาม นอกจากนี้ ในข้าวฟ่างยังมีสารชื่อว่า Anti-tumorigenic ซึ่งมีส่วนช่วยต้านโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวที่พบได้ยากอีกด้วย
5. ช่วยบำรุงกระดูกให้แข็งแรง
ข้าวฟ่าง คือธัญพืชที่อุดมไปด้วยแคลเซียมและแมกนีเซียม การกินข้าวฟ่างจึงช่วยเสริมสร้างและบำรุงกระดูกให้แข็งแรง ป้องกันการเกิดโรคกระดูกพรุนและป้องกันไม่ให้กระดูกของเราเปราะหรือหักง่ายอีกด้วย
6. ดีต่อระบบขับถ่าย
ข้าวฟ่างทำให้ระบบขับถ่ายของเราทำงานได้ดีขึ้น เพราะข้าวฟ่างมีใยอาหารทั้งแบบละลายน้ำและไม่ละลายน้ำ ทำให้ลำไส้ของเราทำงานได้ดีขึ้น ส่งผลทำให้ขับถ่ายได้ง่ายขึ้นนั่นเอง ทั้งนี้ เมื่อรับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์สูง ควรดื่มน้ำเยอะๆ ด้วยนะคะ เพราะถ้าดื่มน้ำน้อย ก็อาจทำให้ท้องผูกได้เหมือนกันค่ะ
7. ป้องกันโรคนิ่วในไต
ข้าวฟ่าง สรรพคุณดีๆ อีกหนึ่งอย่างที่ขาดไม่ได้ก็คืออุดมไปด้วยไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำได้ จึงมีส่วนช่วยลดกระบวนการหลั่งของน้ำกรดน้ำดีซึ่งช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดนิ่วในไตได้
8. ช่วยควบคุมน้ำหนัก
หากถามว่าธัญพืชชนิดไหนดีต่อร่างกายและยังช่วยคุมน้ำหนัก ข้าวฟ่างก็ต้องติดโผด้วย เพราะการกินข้าวฟ่างช่วยให้อิ่มเร็ว เนื่องจากมีไฟเบอร์สูงแต่ดัชนีน้ำตาลหรือค่า GI ต่ำ เหมาะสำหรับคนคุมน้ำหนักและกำลังลดความอ้วน สามารถกินสลับกับข้าวสวยในแต่ละมื้อได้
เกร็ดสุขภาพ : ค่าดัชนีน้ำตาล (Glycemic index – GI) คือ การจัดลำดับอาหารจากคาร์โบไฮเดรตว่าส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดมากน้อยแค่ไหน โดยจะวัดหลังกินอาหารชนิดนั้นประมาณ 2 ชั่วโมง อาหารที่มี GI สูงจะถูกดูดซึมได้เร็วกว่า ซึ่งเป็นเหตุให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าการกินอาหารที่มี GI ต่ำ ดังนั้นหากใครต้องการคุมระดับน้ำตาลในร่างกายก็ควรเลือกกินอาหารที่มีค่า GI ต่ำจึงจะดีต่อสุขภาพของเรามากที่สุด
9. มีธาตุเหล็กสูง ช่วยบำรุงเลือดได้ดี
ข้าวฟ่าง คือหนึ่งในอาหารที่มีธาตุเหล็ก บำรุงเลือดได้ดี ข้าวฟ่าง ¼ ถ้วยตวงมีธาตุเหล็กสูงถึง 12% ของปริมาณที่ร่างกายควรได้รับต่อวัน ในผู้ที่ไม่กินเนื้อสัตว์ สามารถกินข้าวฟ่างเพื่อเพิมธาตุเหล็กให้กับร่างกายได้ จะได้ไม่เสี่ยงเป็นโรคโลหิตจางนะคะ
ข้อควรระวังในการรับประทานข้าวฟ่าง
ข้าวฟ่าง สรรพคุณดีๆ มีมากมายก็จริง แต่เมื่อมีประโยชน์ก็ต้องมีโทษตามมาหากกินไม่ถูกวิธีหรือไม่เหมาะสม ลองมาดูกันว่าคนกลุ่มไหนควรระวังเรื่องการกินข้าวฟ่าง และถ้าอยากกินข้าวฟ่างต้องระวังอะไรบ้าง
- ในเมล็ดข้าวฟ่างมีเชื้อราที่มีสารอะฟลาทอกซินซึ่งเป็นพิษต่อร่างกาย หากกินเข้าไปแล้วอาจทำให้เกิดอาการชา ตะคริว กระหายน้ำ และปัสสาวะมาก ดังนั้นจึงควรเลือกซื้อข้าวฟ่างที่สดใหม่ ไม่เก่าเก็บ และล้างให้ดีก่อนนำมาปรุงอาหารเสมอ
- หญิงที่อยู่ระหว่างตั้งครรภ์ไม่ควรกินข้าวฟ่างเพราะอาจเกิดอันตรายต่อทารกในครรภ์ได้
- ผู้ที่มีปัญหาทางสุขภาพบางระการ เช่น ผู้ป่วยไทรอยด์ต่ำหรือมีภาวะไฮโปไทรอยด์ เนื่องจากข้าวฟ่างอาจมีสารบางชนิดที่รบกวนการทำงานของต่อมไทรอยด์ได้
ข้าวฟ่าง สรรคุณดีๆ มีมากมายเลยทีเดียว ข้าวฟ่างเป็นธัญพืชที่มีประโยชน์ต่อร่างกายเป็นอย่างมาก มีสารอาหารสูง ดีต่อผู้ที่กำลังควบคุมน้ำหนัก ผู้ที่จำกัดการรับประทานแป้งก็สามารถบริโภคข้าวฟ่างได้เพราะเป็นอาหารประเภทคาร์บที่มีไฟเบอร์สูง ดีต่อสุขภาพ ทั้งนี้ การบริโภคข้าวฟ่างก็ควรกินในปริมาณที่เหมาะสม และเลือกซื้อข้าวฟ่างที่สะอาด สดใหม่ เพื่อที่จะปราศจากเชื้อราซึ่งทำให้เป้นอันตรายต่อร่างกายได้นะคะ
อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : saranukromthai.or.th, healthifyme.com, healthline.com, webmd.com
Featured Image Credit : freepik.com/evening_tao
ติดตามเราได้ที่ … เฟสบุ๊ค : เกร็ดสุขภาพ
