“เพื่อสุขภาพ” ชุมชนสุขภาพ เรื่องราวตรงใจ ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย รุ่นไหนก็รัก ♡
แนะนำ 10 ผลไม้ลดความดันโลหิตสูง กินเพื่อสุขภาพ ช่วยลดความดันได้ดี
โรคความดันโลหิตสูงเป็นโรคที่มีโอกาสเป็นได้เกือบทุกคน เมื่อมีอายุมากขึ้น ก็มีโอกาสที่ความดันจะสูงขึ้นด้วย ทั้งนี้ ในคนที่เป็นเบาหวาน มีไขมันในเลือดสูง หรือมีภาวะเลือดข้น (อ่านเพิ่มเติม เลือดข้นกินอะไรดี) ก็มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคความดันโลหิตสูงได้เช่นกัน จึงต้องดูแลตัวเองดีๆ ด้วยการออกกำลังกายและควบคุมอาหาร เลือกรับประทานอาหารที่มีสรรพคุณช่วยลดความดันได้ แม้กระทั่ง ผลไม้ลดความดันโลหิตสูง ก็มีให้เลือกรับประทาน ว่าแล้วก็มาดูกันดีกว่าว่า ผลไม้ช่วยลดความดัน มีอะไรบ้าง จะได้เป็นทางเลือกเพื่อสุขภาพค่ะ
10 ผลไม้ลดความดันโลหิตสูง เป็นโรคความดัน กินผลไม้อะไรถึงจะเหมาะ ?!
คนที่เป็นโรคความดันโลหิตสูงสามารถดูแลตัวเองได้ด้วยการออกกำลังกายเป็นประจำ งดการสูบบุหรี่ งดดื่มแอลกอฮอล์ ที่สำคัญคือ การใส่ใจในเรื่องอาหารการกิน โดยเฉพาะการเลือกกินอาหารที่มีประโยชน์และดีต่อสุขภาพ เน้นการกินพืชผักและโปรตีนเป็นหลัก หลีกเลี่ยงการกินอาหารที่มีไขมันสูง หรืออาจใช้สมุนไพรลดความดันโลหิตสูงเป็นตัวช่วย นอกจากนี้ ก็มีผลไม้ลดความดันโลหิตสูงที่ดีต่อผู้ที่เป็นโรคความดัน นอกจากจะช่วยลดความดันได้แล้ว ยังดีต่อสุขภาพอีกด้วยค่ะ จะมีอะไรบ้างนั้น ไปดูกันเลยค่ะ
1. แอปเปิ้ล
ใครที่ต้องการลดน้ำหนัก แอปเปิ้ลนั้นเหมาะมากๆ ค่ะ และก็เป็นผลไม้ลดความดันโลหิตสูงด้วย เพราะในแอปเปิ้ลมีใยอาหารสูง ทั้งใยอาหารที่ละลายน้ำได้และไม่ละลายน้ำ มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง โดยเฉพาะที่เปลือก ซึ่งใยอาหารในแอปเปิ้ลจะช่วยลดการดูดซึมคอเลสเตอรอล ช่วยป้องกันโรคที่เกี่ยวกับคอเลสเตอรอล โดยเฉพาะหลอดเลือดอุดตันซึ่งเสี่ยงที่จะทำให้เกิดความดันสูงได้ ควรกินแอปเปิ้ลทั้งเปลือกเพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด และอย่าลืมล้างให้สะอาด จะได้ไม่มีสารเคมีตกค้างนะคะ
2. มะม่วง
มะม่วงก็เป็นผลไม้ที่ช่วยลดความดันโลหิตได้ ในมะม่วงมีโพแทสเซียมที่สำคัญต่อระบบไหลเวียนเลือดของเรา และถ้าเป็นมะม่วงสุกก็มีสารต้านอนุมูลอิสระอย่างเบต้าแคโรทีนในปริมาณสูง ซึ่งเบต้าแคโรทีนนั้น มีส่วนช่วยในการควบคุมความดันโลหิตด้วยค่ะ แต่ก็ควรกินในปริมาณที่พอเหมาะ เพราะมะม่วงสุกเป็นผลไม้ที่มีน้ำตาลสูง หากกินมากเกินไปก็ส่งผลเสียต่อสุขภาพได้เหมือนกัน
3. อะโวคาโด
อะโวคาโดถูกจัดว่าเป็น Superfood ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพของเรามากๆ ทั้งช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ มีวิตามินอีสูง ดีต่อผิวพรรณและเส้นผมของเรา ที่สำคัญคือ มีกรดโอเลอิกซึ่งเป็นกรดที่ช่วยในการควบคุมความดันโลหิต และในอะโวคาโดก็ยังมีโพแทสเซียม โฟเลต วิตามินซี มีใยอาหาร และสารอาหารอื่นๆ ที่ดีต่อระบบหมุนเวียนเลือดของเรา และก็มีกรดไขมันดีที่ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือดได้ ทำให้เลือดไหลเวียนดีและความดันเลือดอยู่ในระดับปกตินั่นเองค่ะ เรียกว่าเป็นผลไม้ลดความดันโลหิตสูงที่ประโยชน์รอบด้านทีเดียว
4. ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่
ผลไม้ลดความดันที่หลายคนอาจคิดไม่ถึงก็คือผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ เช่น บลูเบอร์รี่และสตรอเบอร์รี่ เพราะเบอร์รี่อุดมไปด้วยสารแอนโทไซยานินซึ่งมีส่วนช่วยลดระดับความดันโลหิตในร่างกายของเรา ที่สำคัญยังมีสารฟลาโวนอยด์ที่ดีต่อร่างกายด้วย จากการศึกษากับกลุ่มตัวอย่าง 34,000 คน พบว่า กลุ่มที่กินผลไม้ตระกูลเบอร์รี่เป็นประจำทุกวันมีความเสี่ยงโรคความดันโลหิตสูงลดลงถึง 8 เปอร์เซ็นต์ เราสามารถกินผลไม้ตระกูลเบอร์รี่สดๆ หรือจะกินคู่กับโยเกิร์ต เอามาปั่นเป็นสมูทตี้ก็ได้เช่นกัน
5. กล้วย
กล้วยเป็นผลไม้ลดความดันโลหิตสูงได้ดีเพราะอุดมไปด้วยโพแทสเซียม การกินกล้วยขนาดกลาง 1 ผลทำให้ร่างกายได้รับโพแทสเซียมมากกว่า 422 มิลลิกรัม และจากการศึกษาของ American Heart Association ยังกล่าวว่า โพแทสเซียมในกล้วยมีส่วนช่วยลดปริมาณโซเดียมในร่างกาย ลดความดันโลหิต และยังทำให้ผนังหลอดเลือดแข็งแรงขึ้นด้วย
เกร็ดสุขภาพ : กล้วยเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์สูง นอกจากจะอุดมไปด้วยโพแทสเซียมแล้ว ยังมีใยอาหารสูงอีกด้วย และให้พลังงานอย่างเหมาะสม การกินกล้วย 1 ลูกก่อนไปออกกำลังกายจะช่วยเพิ่มพลังงานได้ดี ทั้งนี้ ไม่ควรกินกล้วยที่สุกเกินไปเพราะมีน้ำตาลสูง หากกินมากก็ทำให้ร่างกายได้รับปริมาณน้ำตาลสูงเกินไปได้ และไม่ควรกินในปริมาณมาก ครั้งละ 1 – 2 ลูกก็เพียงพอค่ะ
6. กีวี
ผลไม้รสเปรี้ยวอย่างกีวีก็ถือเป็นหนึ่งในผลไม้ลดความดันเช่นกัน เพราะกีวีมีวิตามินซีสูงอีกทั้งยังมีแร่ธาตุอื่นๆ ที่ช่วยลดความดันโลหิต จากการศึกษาพบว่ากลุ่มตัวอย่างที่กินกีวีวันละ 3 ลูกติดต่อกัน 8 สัปดาห์มีระดับความดันโลหิตลดลงอย่างเห็นได้ชัด ถือเป็นอีกหนึ่งประโยชน์ดีๆ ที่ไม่ควรพลาด แต่ใครไม่ชอบกินกีวีสดก็สามารถนำมาทำสลัดผลไม้ กินกับโยเกิร์ต หรือจะนำมาทำสมูทตี้ก็ช่วยให้กินได้ง่ายขึ้นค่ะ
7. แตงโม
แตงโมอุดมไปด้วยกรดอะมิโนที่ชื่อ ซิทรูไลน์ (Citrulline) ซึ่งมีส่วนช่วยลดความดันโลหิต นอกจากนี้ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ร่างกายของเราสร้างกรดที่ชื่อไนตริกออกไซด์ (Nitric oxide) ซึ่งช่วยบรรเทาอาการของโรคความดันโลหิตสูงด้วย แตงโมเป็นผลไม้ที่หากินได้ง่าย รสหวานฉ่ำสดชื่น นำมาทำเมนูแตงโมได้หลากหลาย ถือเป็นผลไม้ลดความดันที่สามารถกินได้ทุกวันเลยหล่ะ
8. ผลไม้ตระกูลส้ม
ผลไม้ตระกูลส้มอย่างเกรปฟุต ส้ม หรือมะนาวเองก็เป็นผลไม้ลดความดันโลหิตสูงเช่นกัน เพราะผลไม้เหล่านี้อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่ช่วยลดความดันโลหิต อีกทั้งยังดีต่อสุขภาพหัวใจของเราเพราะช่วยลดความเสี่ยงต่างๆ ในการเกิดโรคหัวใจด้วย
9. มะพร้าว
ผลไม้ที่หากินได้ง่ายทุกฤดูของไทยอย่างมะพร้าวก็เป็นผลไม้ลดความดันโลหิตสูงเช่นกัน เพราะในน้ำและเนื้อมะพร้าวมีวิตามินซี แมกนีเซียม และโพแทสเซียมสูงมาก การกินมะพร้าวจึงช่วยลดความดันโลหิตได้ดี อีกทั้งยังมีการศึกษาที่พบว่าน้ำมะพร้าวมีส่วนช่วยลดความดันโลหิตได้ถึง 71 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว ต้องดื่มน้ำมะพร้าวเป็นประจำแล้วค่ะ
10. ฝรั่ง
ฝรั่งมีวิตามินซีสูงมาก ที่สำคัญยังเป็นผลไม้ลดความดันโลหิตสูงเพราะมีโพแทสเซียมที่ช่วยคุมจังหวะการเต้นของหัวใจ ทำให้หัวใจเต้นเป็นปกติ ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดสมองและโรคความดันโลหิตสูงได้ดี สามารถกินสดๆ กินกับสลัด หรือกินในรูปแบบน้ำฝรั่งก็ได้เช่นกัน
เกร็ดสุขภาพ : ใครอยากทำน้ำฝรั่งกินเองก็ไม่ยากค่ะ เรามีสูตรน้ำฝรั่งทำง่ายๆ แต่อร่อยมาฝาก เริ่มจากการล้างผลฝรั่งให้สะอาด เสร็จแล้วนำมาหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ และนำเมล็ดออก เตรียมไว้ ระหว่างนี้นำน้ำสะอาดไปต้มสุก เติมหญ้าหวานลงไปเล็กน้อยเพื่อทำเป็นน้ำเชื่อม จากนั้นนำเนื้อฝรั่ง น้ำเชื่อม และน้ำสะอาดปั่นรวมกันจนเป็นเนื้อเดียว เติมเกลือติดปลายช้อนชาเพื่อความกลมกล่อมแล้วปั่นให้เข้ากันอีกครั้ง เท่านี้ก็ได้น้ำฝรั่งอร่อยๆ พร้อมดื่มแล้วค่ะ
โรคความดันโลหิตสูงเป็นสาเหตุของการเกิดโรคอันตรายอื่นๆ อีกมากมาย เช่น โรคหัวใจ โรคเส้นเลือดในสมองตีบ แตก อุดตัน โรคลิ่มเลือดอุดตัน เป็นต้น ดังนั้น จึงควรป้องกันเอาไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ และดูแลสุขภาพของตัวเองให้ดี ทำได้โดยการออกกำลังกายเป็นประจำ งดสูบุหรี่ งดแอลกอฮอล์ และสารเสพติดทุกชนิด รวมถึงบริหารจัดการอารมณ์ให้ดี เพราะความเครียดสูงก็ทำให้มีภาวะความดันโลหิตสูงได้ด้วย ที่สำคัญคือ ดูแลเรื่องอาหารการกินของตัวเองอย่างการกินผลไม้ลดความดัน ก็จะช่วยบรรเทาอาการของโรคความดันได้ค่ะ
อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : ncoa.org, healthline.com, medicalnewstoday.com
Featured Image Credit : freepik.com
ติดตามเราได้ที่ … เฟสบุ๊ค : เกร็ดสุขภาพ