“เพื่อสุขภาพ” ชุมชนสุขภาพ เรื่องราวตรงใจ ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย รุ่นไหนก็รัก ♡
ประโยชน์ของมะม่วงสุก มีอะไรบ้าง ? กินให้ดี มีประโยชน์ต่อร่างกาย ดีต่อสุขภาพ
ในช่วงหน้าร้อน ผลไม้ที่จะมีขายเยอะมากๆ ก็คือมะม่วงสุกนั่นเอง มาพร้อมกับเมนูฮิตคือ ข้าวเหนียวมะม่วง ของหวานไทยเมนูโปรดของใครหลายๆ คน มะม่วงเป็นผลไม้หน้าร้อนที่อยู่คู่คนไทยมานาน สามารถกินได้ทั้งแบบดิบและแบบสุก เอาไปทำเมนูได้ทั้งแบบคาวและแบบหวาน ยอดมะม่วงก็เอาไปกินแกล้มอาหารได้ แต่ในบทความนี้ ขอพูดถึง ประโยชน์ของมะม่วงสุก ผลไม้ยอดนิยมสำหรับทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ มะม่วงสุกมีประโยชน์มากแค่ไหน กินยังไงถึงจะดีต่อสุขภาพ มาดูกันเลยค่ะ
ชวนดู ประโยชน์ของมะม่วงสุก ผลไม้ยอดนิยม รสชาติหวานหอมอร่อย และดีต่อสุขภาพ
มะม่วงสุกประโยชน์ต่อสุขภาพนั้นมีมากมาย เพราะอุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ และสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามินเคที่ช่วยในการแข็งตัวของเลือด และสำคัญต่อกระดูกของเรา มีวิตามินเอที่ช่วยบำรุงสายตา มีวิตามินซีสูงซึ่งช่วยบำรุงผิวพรรณของเรา นอกจากนี้ ยังมีวิตามินบี 6 มีใยอาหารและมีโพแทสเซียมอีกด้วย เรามาเจาะลึกประโยชน์ของมะม่วงสุกกันเลยค่ะ
1. ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง
มะม่วงอุดมไปด้วยเบต้าแคโรทีนที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระชนิดหนึ่งที่พบในมะม่วงสุก และยังเต็มไปด้วยโพลีฟีนอลซึ่งเป็นสารประกอบจากพืชที่ทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระเช่นกัน และโพลีฟีนอลมีคุณสมบัติในการช่วยปกป้องเซลล์จากการทำลายของอนุมูลอิสระ จึงช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็ง โรคเบาหวาน และโรคอื่นๆ ได้
2. ช่วยต้านอนุมูลอิสระ
เนื้อมะม่วงอุดมไปด้วยสารที่ชื่อว่า แมงจิเฟอร์รีน (Mangiferin) ซึ่งเป็นสารโพลีฟีนอลธรรมชาติที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ และป้องกันการเกิดความเสียหายในร่างกายจากสารอนุมูลอิสระ ซึ่งอาจเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ เช่น โรคมะเร็ง โรคจอประสาทตาเสื่อม โรคอัลไซเมอร์ โรคหลอดเลือด โรคข้ออักเสบ เป็นต้น
เกร็ดสุขภาพ : ในมะม่วงอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด เช่น แมงจิเฟอรีน (Mangiferin) กรดแกลลิก (Gallic Acid) แกลโลแทนนิน (Gallotannins) เควอซิทิน (Quercetin) ไอโซเควอซิทิน (Isoquercetin) กรดเอลลาจิก (Ellagic Acid) เป็นต้น ซึ่งจะทำหน้าที่ต่อต้านอนุมูลอิสระในร่างกายของเรา ช่วยต้านความเสื่อมและป้องกันการเกิดโรคบางชนิดได้
3. ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย
ประโยชน์ของมะม่วงสุกอีกอย่างหนึ่งก็คือ ดีต่อระบบภูมิคุ้มกันของเรา ในมะม่วงสุกอุดมไปด้วยวิตามินเอและวิตามินซี มะม่วง 165 กรัม มีวิตามินเอมากถึง 25% ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน วิตามินเอจำเป็นต่อระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง เนื่องจากช่วยต้านการติดเชื้อในร่างกาย ในขณะเดียวกันการได้รับวิตามินเอไม่เพียงพอจะทำให้เกิดความเสี่ยงในการติดเชื้อมากขึ้นได้ นอกจากนี้ ในมะม่วงยังมีวิตามินซีสูง ซึ่งวิตามินซีสามารถช่วยให้ร่างกายของเราผลิตเซลล์เม็ดเลือดขาวที่ต่อสู้กับเชื้อโรคได้มากขึ้น และช่วยให้เซลล์เม็ดเลือดขาวทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงมะม่วงยังมีโฟเลต วิตามินเค วิตามินอี และวิตามินบีหลายชนิด ซึ่งช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย จัดได้ว่าเป็นผลไม้ที่ดีต่อสุขภาพจริงๆ ค่ะ
4. ดีต่อผมและผิวพรรรณของเรา
อย่างที่กล่าวไปว่าในมะม่วงสุกมีวิตามินซีสูง อาหารวิตามินซีสูงนั้นนอกจากจะช่วยเสริมภูมิต้านทานแล้ว ยังมีส่วนช่วยในการสร้างคอลลาเจนให้กับผิวและเส้นผมของเราด้วย ทำให้ผิวนุ่มชุ่มชื้น มีความยืดหยุ่นไม่หย่อนคล้อย ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง ชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัย และยังทำให้เส้นผมแข็งแรง กระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผมอีกด้วยค่ะ มะม่วงสุกประโยชน์จึงดีต่อผมและผิวของเรานั่นเอง
5. ช่วยบำรุงหัวใจ
ประโยชน์ของมะม่วงสุกที่หลายคนอาจนึกไม่ถึงก็คือ ช่วยส่งเสริมสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดของเรา เพราะในมะม่วงสุกอุดมไปด้วยแมกนีเซียมและโพแทสเซียม ซึ่งแร่ธาตุทั้งสองชนิดนี้เกี่ยวข้องกับการลดความดันโลหิตและอัตราการเต้นของหัวใจ นอกจากนี้ มะม่วงยังเป็นแหล่งของสารประกอบที่เรียกว่าแมงนิเฟอร์รินที่อาจช่วยลดการอักเสบของหัวใจได้ ช่วยให้หัวใจแข็งแรง และมะม่วงยังอาจช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือดและไตรกลีเซอไรด์อีกด้วย ซึ่งดีต่อหัวใจของเราด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ มะม่วงสุกจัดว่าเป็นผลไม้ฤทธิ์ร้อน จึงควรกินแต่พอดีนะคะ
6. ดีต่อระบบทางเดินอาหาร
ประโยชน์ของมะม่วงสุกอีกอย่างหนึ่งก็คือ ดีต่อระบบทางเดินอาหารและระบบขับถ่ายของเรา ในมะม่วงสุกมีทั้งสารประกอบอะไมเลสและใยอาหารซึ่งช่วยลดอาการท้องผูกได้ สารประกอบอะไมเลสช่วยย่อยแป้งที่ย่อยยากได้ โดยช่วยสลายคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนให้เป็นน้ำตาล เช่น กลูโคสและมอลโตส ในขณะเดียวกันไฟเบอร์ในมะม่วงก็ช่วยให้ขับถ่ายได้ง่ายขึ้น และยังช่วยบรรเทาอาการท้องผูกอีกด้วยค่ะ
7. ช่วยบำรุงดวงตา
มะม่วงสุกประโยชน์ที่ดีต่อสุขภาพอีกอย่างหนึ่งก็คือ ช่วยบำรุงดวงตาของเรา เพราะในมะม่วงสุกเต็มไปด้วยลูทีนและซีแซนทีน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ และภายในจอประสาทตานั้นลูทีนและซีแซนทีนทำหน้าที่เหมือนแว่นกันแดดตามธรรมชาติช่วยดูดซับแสงส่วนเกิน และช่วยปกป้องดวงตาของเราจากแสงสีฟ้าที่เป็นอันตรายอีกด้วย นอกจากนี้มะม่วงยังเป็นแหล่งวิตามินเอที่ดีซึ่งช่วยส่งเสริมสุขภาพดวงตา และการขาดวิตามินเอในอาหารนั้นอาจทำให้ตาแห้งและตาบอดในเวลากลางคืนได้ค่ะ
แชร์เมนูอร่อยจากมะม่วงสุก สุดเฮลท์ตี้ ดีต่อสุขภาพ
ตอนนี้เราก็ได้รู้ประโยชน์ของมะม่วงสุกกันไปเรียบร้อยแล้ว เริ่มอยากกินมะม่วงสุกกันมาบ้างแล้วใช่มั้ยคะ นอกจากจะกินเปล่าๆ หรือกินในเมนูข้าวเหนียวมะม่วงแล้ว มะม่วงสุกยังเอาไปทำเมนูอะไรได้อีกบ้าง มาดูกันเลยค่ะ
เกร็ดสุขภาพ : เนื้อมะม่วงสุกที่อร่อย ควรนุ่มและมีสีเหลืองส้มสดใส เพื่อไม่ให้เปรี้ยวจนเกินไป และได้รสหวานที่กำลังพอดี แต่ถึงแม้ว่ามะม่วงสุกประโยชน์จะมากมายแต่ก็มีน้ำตาลสูง หากต้องการกินมะม่วงให้ปลอดภัยต่อสุขภาพ ไม่ควรกินเกินวันละ 2 หน่วยบริโภค หรือประมาณ 160 กรัม และเลือกกินผลไม้ที่มีน้ำตาลน้อยหรือมีเส้นใยอาหารสูงอื่นๆ เพิ่มเติม เพื่อการมีสุขภาพที่ดีนะคะ
1. ซัลซ่ามะม่วงสุกและอะโวคาโด
ซัลซ่ามะม่วงรสชาติกลมกล่อมทั้งเปรี้ยวหวาน มีความหอมมันจากอะโวคาโด และมีรสหวานหอมจากมะม่วงสุก สามารถกินกับข้าวเกรียบ ขนมปังกรอบ แครกเกอร์ มันฝรั่งอบกรอบ หรือนาโช่ก็ได้เช่นกัน วัตถุดิบอื่นๆ ก็เตรียมไม่ยาก จะทำได้อย่างไร ไปดูกันค่ะ
วัตถุดิบ :
- มะม่วงสุกหั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า ½ ถ้วย
- อะโวคาโดหั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า 1 ถ้วย
- หอมแขกหั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า ¼ ถ้วย
- พริกหวานแดงหั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำเลม่อน 2 ช้อนโต๊ะ
- เกลือป่น 1 ช้อนชา
- พริกไทนป่น 1 ช้อนชา
- น้ำมันมะกอก 3 ช้อนโต๊ะ
- พาสลีย์สับเล็กน้อย
วิธีทำ :
- ทำซัลซ่าโดยการผสมมะม่วงสุก อะโวคาโด หอมหัวใหญ่ และพริกหวานเข้าด้วยกัน ปรุงรสด้วยน้ำเลม่อน น้ำมันมะกอก เกลือ พริกไทย และพาสลีย์สับให้เข้ากัน
- ตักใส่ถ้วย เสิร์ฟพร้อมขนมปังกรอบ แครกเกอร์ หรือนาโช่ตามต้องการ
2. สมูทตี้มะม่วงสุก
เติมความสดชื่นด้วยสมูทตี้รสชาติเปรี้ยวหวาน มากด้วยคุณประโยชน์ของมะม่วงสุกและผลไม้อื่นๆ หลากชนิดที่ดีต่อสุขภาพ สมูทตี้แก้วนี้มีวิตามินซีสูง ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันในร่างกายและบำรุงผิวพรรณได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ
วัตถุดิบ :
- มะม่วงสุกหั่นเป็นชิ้น 1ถ้วย
- เสาวรส ¼ ถ้วย
- สับปะรดหั่นเป็นชิ้น ½ ถ้วย
- น้ำมะพร้าว ½ ถ้วย
- น้ำแข็ง 1 แก้ว
วิธีทำ :
- นำมะม่วงสุก เสาวรส สับปะรด และน้ำมะพร้าวใส่ลงในโถปั่น และปั่นให้เข้ากัน
- เมื่อปั่นจนเป็นเนื้อเดียวกันแล้ว ใส่น้ำแข็งลงไป และปั่นให้เข้ากันอีกครั้ง
- เทใส่แก้ว พร้อมเสิร์ฟ
3. ไอศกรีมมะม่วงสุก
มากันที่เมนูของหวานบ้างค่ะ รับรองว่าดีต่อสุขภาพอย่างแน่นอน เพราะไม่มีครีม ไม่ใส่น้ำตาลเพิ่ม ใช้ส่วนผสมเพียง 2 อย่างเท่านั้น ซึ่งก็คือมะม่วงสุกและนมสด จะได้รสชาติหอมหวานจากมะม่วงสุกไปเต็มๆ เพิ่มความมันกลมกล่อมด้วยนมสดเล็กน้อย เป็นเมนูของหวานง่ายๆ ที่ไม่ทำลายสุขภาพค่ะ
วัตถุดิบ :
- มะม่วงน้ำดอกไม้ 4 ลูก
- นมจืด 150 มิลลิลิตร
วิธีทำ :
- หั่นมะม่วงสุกเป็นชิ้นเล็กๆ จากนั้นนำเอาเข้าช่องฟรีซประมาณ 4-5 ชั่วโมงหรือ 1 คืน
- นำเอาเนื้อมะม่วงมาปั่นกับนมจืดจนเป็นเนื้อเดียวกัน
- เทใส่พิมพ์ที่เตรียมไว้ นำเอาไปแช่ในช่องฟรีซอีกประมาณ 5 ชั่วโมง เพื่อให้เซ็ตตัว และตักเสิร์ฟ
ประโยชน์ของมะม่วงสุกมีมากมายด้วยกัน ทั้งดีต่อผิวพรรณ ดีต่อดวงตาของเรา และยังมีสารต้านอนุมูลอิสระอีกหลายชนิดที่มีคุณสมบัติช่วยป้องกันโรคได้ ทั้งนี้ มะม่วงสุกก็จัดว่าเป็นผลไม้ที่มีน้ำตาลสูง จึงควรรับประทานแต่พอดี โดยเฉพาะผู้ที่เป็นเบาหวานหรือต้องการควบคุมระดับน้ำตาล หากรับประทานมากเกินไป ก็อาจจะส่งผลเสียต่อสุขภาพได้นะคะ
อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : gourmetandcuisine.com, webmd.com, healthline.com, bbcgoodfood.com
Featured Image Credit : vecteezy.com/syamhari syamhari
ติดตามเราได้ที่ … เฟสบุ๊ค : เกร็ดสุขภาพ