“เพื่อสุขภาพ” ชุมชนสุขภาพ เรื่องราวตรงใจ ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย รุ่นไหนก็รัก ♡
รวม 8 สูตรแกงเลียง ผักรวมนานาชนิด เมนูคลีนๆ อร่อย ดีต่อสุขภาพ
แกงเลียงเป็นเมนูอาหารไทยที่ได้รับความนิยมในกลุ่มคนรักสุขภาพ มีกลิ่นหอมและมีรสชาติเฉพาะตัว ที่สำคัญยังได้ประโยชน์จากผักและสมุนไพรไทยนานาชนิด จึงสามารถกินได้ทุกวันและดีต่อสุขภาพของคนทุกเพศทุกวัย ซึ่ง สูตรแกงเลียง ก็มีหลากหลาย สามารถเลือกเอาผักที่เราชอบเป็นวัตถุดิบหลักได้เลย เช่น แกงเลียงผักหวาน แกงเลียงฟักทอง แกงเลียงบวบ เป็นต้น ถ้าใครที่ไม่เคยทำมาก่อนอาจจะคิดว่าทำยาก แต่ความจริงแล้วเป็นเมนูที่ทำได้ไม่ยากเลยค่ะ เรามี 8 สูตรทำแกงเลียง มาแนะนำ เอาใจคนชอบเมนูนี้โดยเฉพาะ ใครอยากลองเข้าครัวทำแกงเลียงกินเองดูบ้าง ก็ตามมาเลยค่ะ
สูตรแกงเลียง 8 เมนู ทำได้ไม่อยาก รสชาติดี ได้ประโยชน์แบบจัดเต็ม
แกงเลียง เป็นแกงประเภทแกงน้ำใส ที่มีรสเผ็ดร้อนจากพริกไทย จึงมีการสันนิษฐานว่าเป็นแกงโบราณของไทยก่อนที่ไทยจะได้รับอิทธิพลการปรุงอาหารด้วยการใส่พริกจากชาวโปรตุเกสที่เข้ามาในสมัยอยุธยา ซึ่งผักที่ใช้ก็จะเป็นผักพื้นบ้านที่หาได้ตามริมรั้ว เช่น ฟักทอง บวบ ตำลึง ใบแมงลัก บางครั้งจะใส่กุ้งแห้งเพื่อให้มีรสชาติกลมกล่อมมากขึ้นด้วย
แกงเลียงจัดเป็นเมนูเพื่อสุขภาพที่นอกจากจะได้ประโยชน์จากผักนานาชนิดแล้ว แกงเลียงยังมีรสเผ็ดร้อนจากพริกไทยที่ช่วยกระตุ้นระบบย่อยอาหาร ช่วยให้ระบบไหลเวียนเลือดทำงานได้ดีขึ้น ว่ากันว่า แกงเลียงช่วยบำรุงสุขภาพของคุณแม่ที่เพิ่งคลอดบุตรได้ดี ก็เพราะว่าในแกงเลียงมีบวบที่มีสรรพคุณช่วยบำรุงน้ำนม ทั้งยังมีใบแมงลัก สรรพคุณดีๆ มีมากมาย เช่น ช่วยต้านการอักเสบ ช่วยควบคุมน้ำตาลในเลือด บรรเทาอาการท้องอืด ช่วยบำรุงกระดูก และยังได้แร่ธาตุวิตามินจากผักนานาชนิด จึงช่วยบำรุงสุขภาพได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ แกงเลียงเป็นเมนูที่ดีต่อสุขภาพของคนทุกเพศทุกวัย มีสูตรแกงเลียงอะไรบ้างที่เอาไปทำตามกันได้ง่ายๆ ไปดูกันเลยค่ะ
เกร็ดสุขภาพ : วิธีการทำแกงเลียงคือ จะต้องไม่ให้ผักในแกงเลียงเปื่อยมาก และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ ใบแมงลัก วัตถุดิบสำคัญที่จะต้องใส่ในแกงเลียงทุกสูตร และเป็นลักษณะเฉพาะของแกงเลียงเลยค่ะ ในสมัยก่อน สูตรการทำแกงเลียงจะมีเฉพาะเนื้อปลาที่โขลกหรือตำลงในน้ำแกงเท่านั้น ซึ่งจะใช้เป็นปลาแห้งหรือปลาย่าง หรืออาจจะเป็นกุ้งแห้งก็ได้ ซึ่งจะทำให้น้ำแกงมีความเข้มข้นมากขึ้น
1. แกงเลียงโบราณ
สูตรแกงเลียงสูตรแรก เป็นแกงเลียงโบราณ เข้มข้นด้วยเครืองแกงอย่างหอมแดง กะปิ และเพิ่มกระชายกับปลาแห้งลงไปในเครื่องแกงด้วย ส่วนผักนั้นจะเป็นผักพื้นบ้านอย่างบวบ น้ำเต้า ฟักทอง และหัวปลี ซดร้อนๆ เรียกน้ำย่อยได้ดีค่ะ
วัตถุดิบ :
- น้ำซุปกระดูกไก่ 6 ถ้วย
- น้ำเต้าปอกเปลือกหั่นชิ้น 100 กรัม
- ปลีกล้วยตานีซอยบางๆ 100 กรัม
- บวบปอกเปลือกหั่นแฉลบ 100 กรัม
- ตำลึงเด็ดใบ 50 กรัม
- ยอดฟักทองเด็ด 50 กรัม
- ผักหวาน 50 กรัม
- น้ำปลา 4 ช้อนโต๊ะ
- เกลือสมุทร 1 ช้อนชา
- แมงลักเด็ดใบ ½ ถ้วย
- พริกไทยขาวเม็ด 2 ช้อนชา
- หอมแดงหั่น 2 หัว
- กระชายหั่น ¾ ถ้วย
- กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ
- ปลาช่อนย่างแกะเนื้อ 150 กรัม
วิธีทำ :
- ทำน้ำพริกแกงเลียงโดยเริ่มจากการโขลกพริกไทย หอมแดง กระชาย กะปิ และเนื้อปลาช่อนย่างเข้าด้วยกันให้ละเอียด ตักใส่ถ้วยพักไว้
- ตั้งหม้อน้ำซุปบนไฟกลาง เมื่อน้ำซุปเดือด ใส่พริกแกงที่โขลกไว้ลงไป คนให้ทั่วและเคี่ยวให้เดือด จากนั้นใส่น้ำเต้า ปลีกล้วย บวบ ใบตำลึง ยอดฟักทอง ผักหวาน ปรุงรสด้วยน้ำปลาและเกลือ เคี่ยวให้เดือด รอจนผักสุกดี จากนั้นชิมรสและปรุงให้ได้รสเค็มตามต้องการ
- ใส่ใบแมงลักเป็นขั้นตอนสุดท้าย จากนั้นปิดไฟ และตักเสิร์ฟ
2. แกงเลียงกุ้งสด
มาต่อกันที่วิธีทําแกงเลียงกุ้งสด ผักรวม เมนูคลาสสิกที่คนชอบกินแกงเลียงจะต้องไม่พลาด ใช้เป็นกุ้งสดเนื้อแน่นๆ ช่วยชูรสแกงเลียงได้เป็นอย่างดี ทั้งยังได้ประโยชน์จากผักอีกนานาชนิด สำหรับใครที่กำลังควบคุมน้ำหนักอยู่ จะกินเปล่าๆ เป็นเมนูมื้อเย็นก็อยู่ท้องค่ะ
วัตถุดิบ :
- กุ้งสดแกะเปลือกผ่าเอาเส้นดำออก 100 กรัม
- กุ้งแห้ง 10 กรัม
- หอมแดงซอย ¼ ถ้วยตวง
- กระชาย 1 แง่ง
- กะปิ 1 ช้อนชา
- พริกไทยเม็ด ¼ ช้อนชา
- น้ำสะอาด 1 ½ ถ้วยตวง
- ข้าวโพดอ่อน 50 กรัม
- ฟักทองชิ้นใหญ่ 80 กรัม
- บวบหั่นแฉลบ 60 กรัม
- เห็ดออรินจิหั่นเฉียง 50 กรัม
- ใบตำลึง 1 ถ้วยตวง
- ใบแมงลัก ½ ถ้วยตวง
- น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ :
- โขลกกุ้งแห้งให้ละเอียด ใส่หอมแดง และกระชายลงไปโขลกให้เข้ากัน
- ใส่กะปิลงไปโขลกให้พอเข้ากันอีกครั้ง และใส่พริกไทยเม็ดโขลกให้ละเอียด
- ตั้งน้ำให้เดือด ใส่เครื่องแกงที่โขกลงไปใส่ข้าวโพดอ่อน ฟักทอง ตามด้วยบวบและเห็ดออรินจิ ต้มจนผักสุก
- ปรุงรสด้วยน้ำปลา
- ใส่กุ้งและใบตพลึงตามลงไป พอน้ำเดือดอีกครั้งใส่ใบแมงลัก คนให้เข้ากัน ปิดไฟ และตักเสิร์ฟ
3. แกงเลียงผักกวางตุ้ง
สูตรแกงเลียงสูตรนี้ เพิ่มความพิเศษด้วยการใส่ผักกวางตุ้งลงไป พร้อมผักอีกหลายชนิด เพิ่มความกลมกล่อมของพริกแกงด้วยเนื้อปลาทู เป็นแกงเลียงที่รสชาติเผ็ดร้อนแล้วก็เข้มข้นมากๆ ค่ะ
วัตถุดิบ :
- กวางตุ้งแบบมีดอก 1 กำ
- ผักหวาน 1 กำ
- ชะอม 1 กำ
- ใบแมงลัก 1 กำ
- บวบหั่นแฉลบ ตามต้องการ
- ฟักทองหั่นเป็นชิ้น ตามต้องการ
- กระชาย 1 กำ
- หอมแดง 1 กำ
- กะปิอย่างดี 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา ตามต้องการ
- พริกไทยขาว 1 ช้อนโต๊ะ
- เนื้อปลาทูนึ่ง แกะแล้ว 200 กรัม
- น้ำซุปกระดูกหมู หรือน้ำเปล่า
วิธีทำ :
- นำกระชาย หอมแดง กะปิ พริกไทย และเนื้อปลาทูนึ่งมาโขลกให้เข้ากัน จากนั้นพักไว้
- ตั้งหม้อน้ำซุป เมื่อน้ำซุปเดือด ใส่พริกแกงลงไป คนให้เข้ากัน
- เมื่อน้ำเดือดอีกครั้งใส่ผักลงไป โดยใส่ผักที่สุกยากก่อนอย่างฟักทอง ตามด้วยบวบ ผักหวาน ผักกวางตุ้ง และชะอม รอจนผักสุก
- ปรุงรสด้วยน้ำปลา ชิมรสตามต้องการ
- เมื่อเดือดอีกครั้งให้ใส่เม็ดแมงลักลงไป และปิดไฟ ตักเสิร์ฟ
4. แกงเลียงผักรวมใส่ไข่
ถ้าอยากเพิ่มโปรตีนแล้วก็เพิ่มความเข้มข้นให้กับแกงเลียงของเรา ลองเป็นสูตรแกงเลียงใส่ไข่ดีไหมคะ ไข่จะทำให้น้ำแกงมีความเข้มข้นมากขึ้น มีรสชาติกลมกล่อมมากขึ้น แล้วก็ยังได้โปรตีน ได้แร่ธาตุวิตามินจากไข่ไก่อีกด้วย
วัตถุดิบ :
- ใบแมงลัก 1 กำมือ
- ผักกาดขาวหั่นชิ้นใหญ่
- ตำลึง 1 กำมือ
- ฝักทองหั่นชิ้นพอคำ ตามต้องการ
- ฟักเขียวหั่นชิ้นพอคำ ตามต้องการ
- บวบเหลี่ยมหั่นท่อน ตามต้องการ
- เห็ดนางฟ้าฉีกเป็นเส้น 1 กำ
- เห็ดนางรมหลวงหั่นชิ้นพอคำ 1 กำ
- เห็ดหูหนูฉีกเป็นเส้น 1 กำ
- ไข่ไก่ 2 ฟอง ตีให้แตก
- พริกไทย 5 เม็ด
- กุ้งแห้ง ½ ถ้วย
- กระเทียม 2 กลีบ ทุบพอแตก
- หอมแดง 1/2 หัว ทุบพอแตก
- กะปิ 1 ช้อนชา ละลายน้ำเตรียมไว้
- น้ำตาลปี๊บ 1/2 ช้อนชา
- เกลือ เล็กน้อย
วิธีทำ :
- ล้างผักทุกอย่างให้สะอาด ปอกเปลือง เด็ดใบ หั่นเตรียมไว้ก่อน
- โขลกกุ้งแห้ง พริกไทย กระเทียม หอมแดง ให้ละเอียดผสมกับกะปิที่ละลายน้ำไว้
- ตั้งหม้อเปิดไฟปานกลาง เติมน้ำสะอาด ใส่เครื่องแกงและผักที่สุกยากลงไปก่อน
- รอจนน้ำเดือด ปรุงรสตามชอบ จากนั้นใส่ไข่ลงไป เติมใบแมงลักและผักประเภทใบ เมื่อผักสุกนิ่มดีแล้วปิดไฟ ตักเสิร์ฟ
5. แกงเลียงผักรวม สูตรเจ
ใครที่เป็นมังสวิรัติหรือเป็นวีแกน แล้วกังวลว่าจะกินแกงเลียงไม่ได้ ขอแนะนำเป็นแกงเลียงผักรวมสูตรเจเลยค่ะ ไม่ใส่กะปิ ไม่ใส่กุ้งแห้ง แต่ยังคงความอร่อย ได้รสชาติเผ็ดร้อนกลมกล่อมตามแบบฉบับแกงเลียงดั้งเดิม
วัตถุดิบ :
- ฟักทองลูกเล็ก 1 ลูก
- บวบ 3 ลูก
- เห็ด ตามชอบ
- ข้าวโพดอ่อนตามชอบ
- ใบตำลึง 1 กำ
- ใบแมงลัก ตามชอบ
- เห็ดหูหนูขาว ตามชอบ
- เกลือป่น เล็กน้อย
- น้ำสะอาด
- น้ำตาลจากหญ้าหวาน 1 ช้อนชา
- หอมแดง 4 – 5 หัว
- พริกขี้หนู ตามชอบ
วิธีทำ :
- ล้างผักทุกชนิดให้สะอาด หั่นฟักทองและเห็ดต่างๆ เป็นชิ้นพอคำ ส่วนใบแมงลักเด็ดไว้แล้วพักให้สะเด็ดน้ำ
- ปั่นพริกกับหอมแดงรวมกันให้ละเอียด เติมเห็ดลงไปด้วยเล็กน้อย
- ตั้งหม้อใส่น้ำสะอาดลงไป รอน้ำเดือดแล้วให้ใส่น้ำพริกที่เตรียมไว้ ตามด้วยฟักทอง รอจนฟักทองสุกนิ่มจึงใส่ผักอื่นๆ ตามลงไป
- รอจนเดือดอีกครั้ง ปรุงรสตามชอบ จากนั้นใส่ใบแมงลักลงไป ปิดไฟ พร้อมเสิร์ฟ
เกร็ดสุขภาพ : แกงเลียงถือเป็นเมนูสุขภาพที่กินแล้วไม่ต้องกลัวอ้วน ได้ประโยชน์จากผักและสมุนไพร อย่างไรก็ตาม การเลือกเครื่องปรุงและการปรุงรสต้องระวังเรื่อง “รสเค็ม” เพราะเครื่องแกงเลียงมีทั้งกุ้งแห้ง กะปิ และเกลือ ดังนั้นต้องเลือกกะปิคุณภาพดี กุ้งแห้งที่สะอาด สดใหม่ รวมถึงไม่ใส่เกลือหรือปรุงรสให้เค็มจนเกินไป เพื่อป้องกันปริมาณโซเดียมสูง และเพื่อให้เมนูแกงเลียงของเราเป็นเมนูเพื่อสุขภาพอย่างแท้จริงค่ะ
6. แกงเลียงกุ้งสดแบบเผ็ด
มาดูวิธีทําแกงเลียงกุ้งสด ผักรวมอีกสูตรหนึ่งกันค่ะ เป็นสูตรที่เพิ่มความเผ็ดด้วยพริกขี้หนู ทำให้มีรสชาติจัดจ้านมากขึ้น เพิ่มเนื้อกุ้งสดลงไปเพื่อช่วยชูรสให้แกงเลียงมีความกลมกล่อมมากขึ้น เป็นเมนูเพื่อสุขภาพที่จะต้องถูกใจสาวๆ เอามากๆ ค่ะ
วัตถุดิบ :
- กุ้งสด 10 – 15 ตัว
- น้ำสะอาด 2 ลิตร
- ผักต่างๆ ตามชอบ เช่น ผักหวาน ฟักทอง บวบ เห็ด เป็นต้น
- ใบแมงลัก 1 กำมือ
- พริกขี้หนูสับละเอียด 1-2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลาโซเดียมต่ำ เล็กน้อย
- หอมแดง 2 หัว
- พริกไทยเม็ด 2-3 ช้อนชา
- กุ้งแห้ง 3 ช้อนโต๊ะ
- กระชาย 35 กรัม
- กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ 1/2 ช้อนชา
- ปลาย่าง 1 ตัว
วิธีทำ :
- เตรียมพริกแกงเลียงโดยโขลกพริกไทย กระชาย หอมแดงและเกลือรวมกัน จากนั้นเติมกุ้งแห้ง กะปิ และเนื้อปลาย่างลงไป โขลกจนเข้ากันดี
- ล้างและหั่นผักเตรียมไว้ หากต้องการทำเป็นแกงเลียงผักหวานก็เตรียมผักหวานเอาไว้ได้เลย
- ตั้งหม้อเติมน้ำสะอาด เมื่อน้ำเริ่มเดือดให้ใส่พริกแกงและผักที่สุกยากลงไปก่อน จากนั้นเมื่อน้ำเดือดอีกครั้งจึงเติมผักอื่นๆ ปรุงรสตามชอบ
- ใส่กุ้งสดและใบแมงลักลงไป ชิมรสอีกครั้ง เมื่อได้ที่แล้วปิดไฟ ตักเสิร์ฟ
7. แกงเลียงเห็ดรวม
สูตรแกงเลียงผักรวมสูตรนี้ เป็นอีกสูตรหนึ่งที่ไม่ใส่เนื้อสัตว์ ผู้ที่เป็นมังสวิรัติหรือเป็นวีแกนก็กินได้ แล้วก็ยังได้กลิ่นรสแกงเลียงที่เข้มข้นกลมกล่อม เป็นแกงเลียงเห็ดอร่อยๆ มากวิตามินและคุณค่าที่ดีต่อร่างกาย
วัตถุดิบ :
- หัวหอมแดง 10 หัว
- พริกขี้หนู 2 เม็ด
- กระชาย 3 ต้น
- ใบแมงลัก 1 กำมือ
- บวบ ตามชอบ
- ผักโขม ตามชอบ
- ตำลึง ตามชอบ
- เห็ดรวม ตามชอบ
- เกลือ เล็กน้อย
วิธีทำ :
- โขลกหอมแดง กระชาย และพริกให้ละเอียด
- ตั้งหม้อเติมน้ำสะอาด ใส่เครื่องแกงที่ปั่นไว้ลงไป จากนั้นเติมผักที่เตรียมไว้
- เมื่อน้ำเดือดอีกครั้งจึงใส่เห็ดและใบแมงลัก ปรุงรสด้วยเกลือให้ได้ความกลมกล่อม ปิดไฟ ตักเสิร์ฟ
8. แกงเลี้ยงกะทิยอดมะขามอ่อน
เมนูนี้เป็นสูตรแกงเลียงแบบแปลกใหม่สไตล์ไทยโบราณที่กลมกล่อมด้วยรสชาติของกะทิ ได้กลิ่นหอมและความเปรี้ยวจากยอดมะขามอ่อน ช่วยให้อาหารมีรสเปรี้ยวอ่อนๆ ตามธรรมชาติ เพิ่มความอร่อย แล้วก็ช่วยให้เจริญอาหารมากขึ้นด้วย แถมยังเพิ่มความหอมมันด้วยเม็ดมะม่วงหิมพานต์ เป็นแกงเลียงสูตรที่ไม่เหมือนใครเลยค่ะ
วัตถุดิบ :
- ยอดมะขามอ่อน 100 กรัม
- หัวและหางกะทิ 2 ถ้วยตวง
- เม็ดมะม่วงหิมพานต์ 2 ช้อนโต๊ะ
- กะปิ 1/2 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ 2 ช้อนชา
- น้ำตาลปี๊บ 1/2 ช้อนโต๊ะ
- หอมแดง 2 หัว
- กุ้งสด 1 ถ้วย
- เห็ดและผักอื่นๆ ตามชอบ
วิธีทำ :
- ตั้งหม้อ เติมหัวและหางกะทิลงไป ต้มให้เดือด
- เติมหอมแดงงที่บุบหยาบๆ กะปิ เกลือ กุ้ง และผักที่สุกยากลงไป
- เมื่อกะทิเริ่มเดือด เติมใบมะขาม จากนั้นปรุงรสตามชอบ
- ปิดไฟ ตักใส่ถ้วยพร้อมเสิร์ฟ
และนี่ก็เป็น สูตรแกงเลียง ทั้ง 8 สูตรที่เราเอามาฝากกัน มีทั้งวิธีทําแกงเลียงกุ้งสด ผักรวม และวิธีทำแกงเลียงสูตรอื่นๆ ซึ่งสามารเลือกได้ตามใจชอบเลยนะคะ นอกจากจะใส่ผักต่างๆ ตามสูตรแล้ว จะใส่ผักพื้นบ้านลงไปด้วยก็ได้เช่นกัน เพิ่มความแปลกใหม่ให้กับแกงเลียงถ้วยโปรดของเรา ที่สำคัญคือ ต้องมีวิธีล้างผักที่ล้างได้สะอาด แล้วก็เลือกผักปลอดสาร ถ้าเป็นผักอินทรีย์ก้จะดีมาก จะได้ปลอดภัยจากสารเคมีปนเปื้อนด้วยค่ะ
อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : cookpad.com, maeban.co.th, krua.co, doctor.or.th, ajinomoto.co.th, technologychaoban.com
Featured Image Credit : vecteezy.com/Prakasit Khuansuw
ติดตามเราได้ที่ … เฟสบุ๊ค : เกร็ดสุขภาพ