“เพื่อสุขภาพ” ชุมชนสุขภาพ เรื่องราวตรงใจ ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย รุ่นไหนก็รัก ♡
Mindset คืออะไร มีกี่ประเภท ? สำคัญแค่ไหน ? จะพัฒนา Mindset ของตัวเองได้อย่างไร ไปดูกัน !
หลายๆ คนคงเคยได้ยินคำว่า Mindset กันมาบ้างแล้ว และมีการหยิบยกเอาคำนี้ไปใช้กันมาบ้าง แต่สำหรับบางคนก็อาจจะสงสัยว่า Mindset คืออะไรกันแน่ ? และมีความสำคัญอย่างไรกับตัวเรา ในขณะที่บางคนก็เคยได้ยินมาว่า ชีวิตของเรานั้น ขึ้นอยู่กับ Mindset เป็นหลัก คนเราจะประสบความสำเร็จหรือไม่ประสบความสำเร็จได้นั้น ส่วนหนึ่งก็มาจากทัศนคติหรือ Mindset ของเรานั่นเอง เพราะเป็นสิ่งกำหนดความคิด ความรู้สึก และก่อให้เกิดการกระทำตามมา มารู้จัก Mindset กันให้มากขึ้นว่า Mindset คืออะไร มีกี่ประเภท ? และมีความสำคัญอย่างไร ? เพื่อให้เราเข้าใจตัวเองได้มากขึ้นกันค่ะ
Mindset คืออะไร มีกี่ประเภท ? ชวนรู้จักความหมายและชนิดของ Mindset กันให้มากขึ้น
หลายคนคงอยากรู้แล้วว่า Mindset คืออะไร มีกี่ประเภท ? นิยามของ Mindset หากพูดง่ายๆ ให้เข้าใจก็คือ เป็นความคิด ความเชื่อ ทัศนคติ หรือกระบวนการคิดที่เกิดขึ้นเองโดยอัตโนมัติ เนื่องจากเป็นการทำงานของระบบประสาทที่ได้ถูกกำหนดเอาไว้ในระบบความคิดและการประมวลผลในสมองของเรา ความคิดของคนเรานั้นได้ถูกสร้างและหล่อหลอมขึ้นเมื่อเรายังเป็นเด็ก ทั้งจากการเลี้ยงดูและสิ่งแวดล้อมรอบตัวต่างๆ รวมถึงประสบการณ์ที่เกิดขึ้นกับเราด้วย ก่อเกิดเป็น Mindset หรือชุดความคิดที่เรามีทั้งต่อตัวเองและโลกภายนอก ซึ่งกระบวนการคิดเหล่านี้เป็นตัวกำหนดพฤติกรรมและการแสดงออกของเราต่อสิ่งต่างๆ และยังเป็นปัจจัยที่ทำให้เราประสบความสำเร็จหรือไม่ประสบความสำเร็จได้ด้วย ทั้งนี้ หากอ้างอิงตามทฤษฎีของ Coral Dweck นักจิตวิทยาจากสแตนฟอร์ดแล้ว สามารถแบ่งประเภทของ Mindset ออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ คือ Fixed Mindset และ Growth Mindset แต่ละประเภทนั้นมีความแตกต่างกันอย่างไร ไปดูกันเลยค่ะ
1. Fixed Mindsets
Fixed Mindset คือชุดความคิดที่เชื่อว่าคุณสมบัติต่างๆ หรือความสามารถของเรานั้นเป็นสิ่งที่มีมาแต่กำเนิด มีความคงที่และเปลี่ยนแปลงไม่ได้ เช่น คิดว่าเราไม่สามารถดีกว่านี้ได้ หรือเราไม่สามารถพัฒนาตัวเองได้แล้ว เป็นการยึดติดอยู่ในกรอบเดิมๆ ซึ่งความคิดในลักษณะนี้จะส่งผลต่อพฤติกรรม การมองโลก วิธีการตัดสินตัวเองและผู้อื่น รวมถึงมีความกลัวว่าจะไม่ประสบความสำเร็จและไม่สามารถทำได้ตามที่คาดหวังเอาไว้ เนื่องจากเชื่อว่าสิ่งต่างๆ มักเป็นไปแบบนั้นและไม่สามารถทำให้ดีขึ้นได้นั่นเอง
2. Growth Mindsets
Growth Mindset จะมีความตรงข้ามกับ Fixed Mindset คือ เป็นชุดความคิดที่ว่าคนเราสามารถเติบโตและพัฒนาตัวเองได้จากความมุ่งมั่นและการทำงานหนัก เช่นเดียวกับเด็กที่ได้รับการสอนให้หัดสำรวจและเปิดรับประสบการณ์ใหม่ๆ และสนุกไปกับความท้าทายต่างๆ ในชีวิต ซึ่งความคิดลักษณะนี้จะมีแนวโน้มที่จะพัฒนาไปเป็นความคิดแบบ Growth Mindsets ได้นั่นเอง เพราะแทนที่จะมองว่าความผิดพลาดเป็นความพ่ายแพ้ กลับมองว่าเป็นโอกาสที่จะได้ลองทำสิ่งใหม่ๆ และทำให้ข้อผิดพลาดทั้งหมดนั้นเป็นเหมือนการเรียนรู้ เพื่อให้ตนเองเก่งและมีศักยภาพยิ่งขึ้นได้ ทั้งนี้ บางคนอาจจะเห็นว่ายังมีชนิดของ Mindset อื่นๆ อีกมากมายที่เป็นชุดความคิดเชิงบวก ซึ่งสามารถเอามาจัดอยู่ใน Growth Mindset ได้ ดังนี้
• Positive Mindsets :
Positive Mindsets คือการมีมุมมองต่อสิ่งต่างๆ ในเชิงบวก และให้ความสำคัญกับความดีงามที่เกิดขึ้นในชีวิตมากกว่าการไปโฟกัสที่เรื่องลบๆ คนที่มี Positive Mindsets มักจะมองเห็นในด้านดีของสถานการณ์ต่างๆ อยู่เสมอ หรือเป็นคนที่มองโลกในแง่บวกนั่นเอง และการมองโลกในแง่บวกนั้น ต้องอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริงด้วย เช่น มองว่าความล้มเหลวที่เกิดขึ้นเป็นประสบการณ์และบทเรียนที่ทำให้เราได้เรียนรู้และเติบโตมากขึ้น มากกว่าการกล่าวโทษตัวเองหรือจมอยู่กับความผิดหวัง รวมถึงขอบคุณสิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตแม้จะเป็นสิ่งเล็กน้อยก็ตาม ซึ่งการมี Positive Mindsets นั้นดีต่อสุขภาพจิตของเราและยังช่วยทำให้เราประสบความสำเร็จได้มากขึ้นด้วย เพราะคนที่มองโลกในแง่บวกมักจะมองหาโอกาสหรือความเป็นไปได้ใหม่ๆ อยู่เสมอ ไม่ยึดติดกับความล้มเหลวหรือความผิดหวัง ทำให้มีโอกาสที่จะพัฒนาตนเองและสามารถบรรลุเป้าหมายได้ในที่สุด
• Solution Oriented Mindset :
เป็น Mindset ที่มุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหาและไม่เพิกเฉยต่อปัญหา เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้น จะมุ่งเน้นไปที่วิธีการแก้ไขปัญหามากกว่าการหมกมุ่นอยู่กับอารมณ์ความรู้สึกที่เกิดขึ้น และลงมือทำเพื่อให้ปัญหานั้นคลี่คลาย ซึ่งจะช่วยลดความเครียดความวิตกกังวลลงไปได้ ทำให้บุคคลนั้นมีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น ได้รับรู้ถึงความสามารถและศักยภาพของตัวเองต่อการจัดการกับปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ทำให้เกิดการเรียนรู้และค้นพบวิธีการใหม่ๆ ในการเอาชนะปัญหาอุปสรรคต่างๆ ส่งผลให้มีการเติบโตพัฒนาตนเองมากขึ้นด้วย
• Mindful Mindset :
Mindset คืออะไร มีกี่ประเภท ? อีกหนึ่ง Mindset ที่อยากจะยกตัวอย่างคือ Mindful Mindset ซึ่งหมายถึงการมีสติและมีการตระหนักรู้ในตัวเอง มีความอิ่มเอมใจและรู้สึกได้รับการเติมเต็มในชีวิต เข้าใจถึงความคิดและการกระทำตัวเอง พร้อมทั้งเปิดกว้างต่อสิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นประสบการณ์ใหม่ๆ หรือสิ่งใหม่ๆ ในชีวิต รวมถึงยอมรับและเข้าใจความเป็นไปของชีวิต มีสติอยู่กับปัจจุบัน ไม่กังวลเกี่ยวกับอนาคตมากเกินไปและไม่ยึดติดอยู่ในอดีต คนที่มี Mindful Mindset จะเป็นผู้ที่ใช้ชีวิตได้อย่างมีความผาสุกและมีสุขภาพจิตที่ดี มีการพัฒนาจิตใจตัวเองอยู่เสมอ ทั้งยังรู้วิธีผ่อนคลายความเครียดได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
ความสำคัญของ Mindset คืออะไร ?
หลังจากที่เรารู้ความหมายกันแล้วว่า Mindset คืออะไร มีกี่ประเภท เรามารู้ถึงความสำคัญของ Mindset กันบ้างว่า ทำไม Mindset ถึงมีความสำคัญกับชีวิตของเรา ด้วยเพราะ Mindset นั้นมีรากฐานมาจากระบบความคิด ความเชื่อ และการประมวลผลข้อมูลในสมองของเรา ทัศนคติที่มีต่อสิ่งต่างๆ นั้น ส่งผลต่อวิธีการรับมือกับความท้าทายในชีวิต เริ่มตั้งแต่ในโรงเรียนไปจนถึงในที่ทำงานเมื่อเราเติบโตขึ้น อย่างที่กล่าวไปว่า Mindset นั้นเป็นตัวกำหนดความคิด ความรู้สึก และพฤติกรรมของเรา หากมี Mindset ในเชิงบวกก็จะนำไปสู่ความสำเร็จและความพยายามที่เพิ่มขึ้นได้ ยกตัวอย่างเช่น เมื่อเราต้องเผชิญกับปัญหา กำลังตกงานและพยายามหางานใหม่อยู่ คนที่มีความคิดแบบ Growth Mindset ก็จะมีความยืดหยุ่นมากขึ้น และมีแนวโน้มที่จะรับมือกับสถานการณ์ได้ดีกว่า ในขณะที่คนที่มีความคิดแบบ Fixed Mindsets จะมีแนวโน้มที่จะยอมแพ้ ทำให้เราขาดการพัฒนาตนเอง รวมถึงไม่สามารถก้าวข้ามขีดความสามารถของตนเองไปได้ด้วย
เกร็ดสุขภาพ : การฝึกจัดการกับความคิด หรือ Mindset ของเรานั้น เป็นสิ่งที่จะช่วยให้พฤติกรรมของเราเกิดการเปลี่ยนแปลงได้ เพราะคนที่มีความคิดแตกต่างกันระหว่าง Fixed Mindsets และ Mindset ด้านบวกอื่นๆ นั้นจะมีการตอบสนองต่อสิ่งต่างๆ ต่างกัน และมีประสิทธิภาพในการทำงานที่ต่างกันด้วย ในคนที่มีความคิดแบบ Fixed Mindset สมองจะทำงานมากที่สุดเมื่อได้รับข้อมูลว่าพวกเขาทำได้ดีเพียงใด เช่น ผลการทดสอบหรือเกรดที่ออกมา ส่วนในคนที่มีความคิดแบบ Growth Mindset นั้น สมองจะทำงานมากที่สุดเมื่อได้รับแจ้งว่าพวกเขาสามารถทำอะไรได้บ้างเพื่อปรับปรุงให้ดีขึ้น และค้นหาวิธีการ ความเป็นไปได้ใหม่ๆ ที่จะสามารถพัฒนาสิ่งๆ นั้นได้ต่อไป
จะปรับ Fixed Mindset ให้เปลี่ยนเป็น Growth Mindset ได้อย่างไร ? ชวนดู Mindset ที่ควรฝึก เพื่อพัฒนาตัวเองให้ดีกว่าเดิม
เมื่อเราได้รู้แล้วว่า Mindset คืออะไร และมีกี่ประเภท ก็คงจะมีการประเมินตัวเองได้บ้างว่าเรามี Mindset แบบใด หากใครที่กำลังรู้ตัวเองว่ามีความคิดแบบ Fixed Mindset ก็ไม่ต้องกังวลไป เราสามารถปรับเปลี่ยนกระบวนการคิดของเราให้มี Mindset ในเชิงบวกมากขึ้นได้ เพื่อที่ได้มีการปรับปรุงตนเอง และมีกระบวนการคิดที่ส่งเสริมการพัฒนาตนเองได้มากขึ้น โดยสามารถฝึก Mindset ต่างๆ ได้ดังนี้
• Self – Trust Mindset
คือ Mindset ของการเชื่อมั่นในตัวเอง สำหรับการเปลี่ยนทัศนคติหรือเปลี่ยนแปลงตัวเองให้มีความคิดเชิงบวกมากขึ้นนั้น สิ่งที่สำคัญคือ ต้องมีความเชื่อมั่นในตัวเองก่อนว่าเราสามารถทำได้ เราสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีกว่าเดิมได้ จะสังเกตเห็นว่า Fixed Mindset นั้น คือการยึดติดอยู่กับกรอบเดิมๆ และไม่เชื่อว่าตนเองจะสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ หาเราปรับเปลี่ยนความเชื่อว่าเราสามารถเปลี่ยนได้ ก็จะเป็นการปลดล็อคและนำไปสู่พฤติกรรมในเชิงบวกอื่นๆ มากมาย อาจจะเริ่มจากการใช้คำพูดในเชิงบวกกับตัวเอง กล่าวชมตัวเองเมื่อทำสำเร็จ มีการสร้างกำลังใจให้ตัวเอง และไม่กล่าวโทษตัวเองเมื่อทำผิดพลาด เมื่อเรามองตัวเองในด้านบวกมากขึ้นแล้ว ก็จะส่งผลให้เรามองสิ่งต่างๆ รอบตัวในทิศทางที่ดีขึ้นด้วยเช่นกัน ทำให้เรามี Mindset ต่อสิ่งต่างๆ ดีขึ้นตามมาด้วยนั่นเอง
• Challenge Mindset
เมื่อมีสิ่งต่างๆ เกิดขึ้น การฝึก Challenge Mindset จะทำให้เรามองสถานการณ์ต่างๆ ว่าเป็นความท้าทายอย่างหนึ่งมากกว่าเป็นสิ่งคุกคาม เช่น มองว่าปัญหาอุปสรรคที่เกิดขึ้น การสอบ บททดสอบต่างๆ หรือการได้รับมอบหมายในงานที่มีความยากมากขึ้น เป็นสิ่งที่ตนเองสามารถรับมือได้ และให้มองว่าความท้าทายนั้นเป็นโอกาสอย่างหนึ่ง เพื่อให้เราได้มีประสบการณ์ใหม่ๆ ในชีวิต สิ่งเหล่านี้จะสามารถส่งผลต่อวิธีที่เราคิดเกี่ยวกับทุกสิ่งได้ดียิ่งขึ้น รวมถึงมองว่าความท้าทายเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้น เป็นหนทางที่ทำให้เราได้เรียนรู้และค้นพบวิธีการใหม่ๆ ทำให้เราสามารถก้าวไปสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิมได้ ซึ่งคนที่มี Mindset แบบนี้ มักจะประเมินตัวเองได้ว่าตนเองมีศักยภาพมากน้อยเพียงใด และรู้ว่าตนเองจะได้รับการสนับสนุนจากไหนบ้างเพื่อให้สามารถเอาชนะอุปสรรคได้ และแม้จะไม่สำเร็จ ก็รู้ว่าตนเองจะสามารถฮีลใจได้อย่างไรให้ฟื้นตัวจากความล้มเหลวและลุกขึ้นสู้ต่อได้ในที่สุด
• Learning Mindset
การฝึก Learning Mindset นั้น จะทำให้เรามองว่าทุกๆ อย่างเป็นการเรียนรู้ แม้สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นจะเป็นเรื่องที่ดีหรือไม่ดีก็ตาม และไม่กลัวความล้มเหลว เพราะเชื่อว่าความผิดพลาดล้มเหลวนั้นเป็นบทเรียนอันล้ำค่าที่ทำให้เราได้เกิดการเรียนรู้ และปรับปรุงตัวเองเพื่อให้มีการพัฒนาต่อไป การที่จะฝึกให้เรามองว่าทุกสิ่งเป็นการเรียนรู้ได้ก็คือ จะต้องไม่ยึดติดกับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น และมองหาสิ่งที่ได้จากประสบการณ์นั้นๆ รวมทั้งมองว่าประสบการณ์ใหม่ๆ นั้นเป็นเรื่องสนุก คล้ายกับเด็กๆ ที่ได้เล่นซนและเกิดการเรียนรู้สิ่งต่างๆ จากโลกภายนอกมากขึ้น ซึ่งจะทำให้เราพัฒนา Growth Mindset ได้มากขึ้น
อย่างไรก็ตาม การปรับปรุง Mindset ตัวเองให้เป็นไปในทิศทางบวกมากขึ้นนั้น เป็นกระบวนการที่ต้องค่อยเป็นค่อยไปและต้องมีการตระหนักรู้ถึงความคิด ความรู้สึก และทัศนคติของตัวเองอยู่เสมอ การเปลี่ยนทัศนคติเดิมๆ ที่มีอยู่ในตัวมานานนั้น ไม่สามารถทำได้ในชั่วข้ามคืน แต่เป็นสิ่งที่ต้องค่อยๆ ปรับ ค่อยๆ เปลี่ยนไปทีละเล็กละน้อย ที่สำคัญคือ การรู้ตัวเองว่าเรากำลังคิดแบบไหน รู้สึกอย่างไร และมีการทำความเข้าใจกับตัวเองว่า ควรจะปรับเปลี่ยนวิธีการคิดของตัวเองอย่างไรให้เป็นไปในทิศทางบวกมากขึ้น การบังคับตัวเองหรือกล่าวโทษตัวเองเมื่อมีทัศนคติลบๆ เกิดขึ้น จะยิ่งทำให้เราเกิดความเครียดและกดดันตัวเองมากเกินไป และไม่ทำให้เกิดการพัฒนาตัวเองได้ตามที่ควรจะเป็นค่ะ
เกร็ดสุขภาพ : เราสามารถเปลี่ยน Mindset ของเราได้หรือไม่ ? Mindset คืออะไรที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ เพียงแค่เราฝึกหัดและทำตามขั้นตอนต่างๆ ที่แนะนำไป เพื่อให้เราได้พัฒนาความคิดของเรา โดยมุ่งเน้นไปที่ความพยายามแทนที่จะมุ่งเน้นไปที่ผลลัพธ์ เพราะความพยายามในการทำงานหนักและการอุทิศตนต่อสิ่งที่ทำ สามารถนำไปสู่การเปลี่ยนแปลง ก่อให้เกิดการเรียนรู้และการเติบโตทั้งในปัจจุบันและอนาคตได้
บทความนี้คงจะทำให้ทุกคนได้รู้จักกับ Mindset มากขึ้น และรู้ว่า Mindset คืออะไร มีกี่ประเภท และ Mindset มีความสำคัญอย่างไรต่อชีวิตของเรา รวมถึงวิธีในการฝึกฝนตนเองเพื่อให้เปลี่ยนแปลงความคิด และพัฒนาไปเป็น Mindset ในเชิงบวกมากขึ้น สิ่งสำคัญคือการเชื่อมั่นในตนเอง และพร้อมที่จะเรียนรู้ พัฒนาตัวเองอยู่เสมอ นอกจากจะทำให้เราได้มีการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้นแล้ว ยังช่วยในการจัดการอารมณ์ของเราให้นิ่งและเข้าใจในสิ่งต่างๆ มากขึ้นอีกด้วย ได้รู้ถึงความสำคัญของ Mindset กันแล้ว อย่าลังเลที่จะลุกขึ้นมาเปลี่ยนตัวเองเพื่อสิ่งที่ดีกว่ากันนะคะ
อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : berkeleywellbeing.com, inc.com, verywellmind.com, medium.com, psychologytoday.com
Featured Image Credit : freepik.com
ติดตามเราได้ที่ … เฟสบุ๊ค : เกร็ดสุขภาพ