“เพื่อสุขภาพ” ชุมชนสุขภาพ เรื่องราวตรงใจ ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย รุ่นไหนก็รัก ♡

10 กล้วยน้ำว้าสุก เมนู ทำง่าย เตรียมของไม่เยอะ กินกับใคร ก็บอกว่าอร่อย !

มีใครชอบกิน “กล้วยน้ำว้า” เป็นพิเศษบ้างคะ ?

กล้วยน้ำว้าเป็นผลไม้เขตร้อนที่อุดมไปด้วยสารอาหารและมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย กล้วยน้ำว้า ประโยชน์นั้นคือเป็นแหล่งที่ดีของวิตามินซี โพแทสเซียม และแมงกานีส รวมทั้งเส้นใยอาหารและสารต้านอนุมูลอิสระ กล้วยน้ำว้ามีรสชาติหวานตามธรรมชาติและสามารถรับประทานได้ทั้งแบบดิบและสุก กล้วยสุกจะมีเนื้อนุ่มและหวานกว่ากล้วยดิบ กล้วยเป็นอาหารว่างเพื่อสุขภาพที่สะดวกและสามารถนำไปใช้ในอาหารหลากหลาย เช่น สลัด สมูทตี้ ขนมปัง และเค้ก สำหรับบทความนี้ เพื่อสุขภาพ จะชวนคนที่กำลังคิดว่ากล้วยน้ำว้าสุก กินไม่ทัน ทำอะไรได้บ้าง ไปทำเมนูอร่อยๆ จากกล้วยน้ำว้าสุกกันค่ะ รอรับความอร่อยกันได้เลย

กล้วยน้ำว้าสุกแล้ว กินไม่ทัน ลองดู 10 กล้วยน้ำว้าสุก เมนู อร่อย ใครๆ ก็ชอบกิน

1. กล้วยน้ำว้าปั่น

กล้วยน้ำว้าปั่นเป็นเครื่องดื่มที่สดชื่นและมีประโยชน์ต่อสุขภาพ เตรียมกล้วยน้ำว้าสุก นม และน้ำแข็ง ปั่นจนเนียน เพิ่มน้ำผึ้งหรือน้ำเชื่อมเพื่อความหวานตามชอบ

วัตถุดิบ :

1. กล้วยน้ำว้าสุก 2 ลูก
2. นม 1 แก้ว
3. น้ำแข็ง 1/2 แก้ว
4. น้ำผึ้ง หรือน้ำเชื่อมตามชอบ

วิธีทำกล้วยน้ำว้าปั่น :

1. ปอกเปลือกกล้วยน้ำว้าแล้วหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ
2. ใส่กล้วยน้ำว้า นม และน้ำแข็งลงในเครื่องปั่น
3. ปั่นจนส่วนผสมเข้ากันดี
4. เติมน้ำผึ้งหรือน้ำเชื่อมตามชอบ
5. เทใส่แก้วและเสิร์ฟ

2. กล้วยน้ำว้าทอด

กล้วยน้ำว้าทอดเป็นของว่างหรือของหวานที่อร่อยและทำง่าย ทอดกรอบๆ เหมาะกับเป็นของกินเล่นระหว่างวัน เด็กๆ ก็ชอบ เสิร์ฟพร้อมน้ำผึ้งหรือน้ำเชื่อมก็ได้

วัตถุดิบ :

1. กล้วยน้ำว้าสุก 2 ลูก
2. แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1/2 ถ้วย
3. น้ำตาล 1/4 ถ้วย
4. ผงฟู 1 ช้อนชา
5. ไข่ไก่ 1 ฟอง
6. นม 1/4 ถ้วย
7. น้ำมันสำหรับทอด

วิธีทำกล้วยน้ำว้าทอด :

1. ปอกเปลือกกล้วยน้ำว้าแล้วหั่นเป็นชิ้นหนาประมาณ 1 เซนติเมตร
2. ในชามผสมแป้งสาลี น้ำตาล ผงฟู และเกลือ
3. ในชามแยกต่างหาก ตีไข่ นม และน้ำมันเข้าด้วยกัน
4. ค่อยๆ เติมส่วนผสมเปียกลงในส่วนผสมแห้ง คนจนเข้ากันดี
5. ชุบกล้วยน้ำว้าลงในแป้งทอด
6. ทอดกล้วยน้ำว้าในน้ำมันร้อนจนเป็นสีเหลืองทอง
7. ตักขึ้นจากน้ำมันแล้วซับน้ำมันส่วนเกิน
8. เสิร์ฟพร้อมน้ำผึ้งหรือน้ำเชื่อมตามชอบ

3. กล้วยน้ำว้าอบ

กล้วยน้ำว้าอบเป็นอีกหนึ่ง กล้วยน้ำว้าสุก เมนู ที่น่าสนใจ วิธีทำก็ไม่ยุ่งยากตามเคย ใช้น้ำตาลทรายแดง และอบเชย แค่นี้ก็จะได้กล้วยอบจนนุ่ม และดูเป็นคาราเมลน่ากินแล้วหล่ะ

วัตถุดิบ :

1. กล้วยน้ำว้าสุก 2 ลูก
2. น้ำตาลทรายแดง 1/4 ถ้วย
3. อบเชยป่น 1/2 ช้อนชา
4. เนยละลาย 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำกล้วยน้ำว้าอบ :

1. ปอกเปลือกกล้วยน้ำว้าแล้วหั่นเป็นชิ้นหนาประมาณ 1 เซนติเมตร
2. วางกล้วยน้ำว้าลงในถาดอบที่รองด้วยกระดาษไข
3. ผสมน้ำตาลทรายแดง อบเชย และเกลือลงในชาม
4. โรยส่วนผสมน้ำตาลลงบนกล้วยน้ำว้า
5. ราดเนยละลายลงบนกล้วยน้ำว้า
6. อบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียสเป็นเวลา 20-25 นาที หรือจนกล้วยน้ำว้าสุกและเป็นสีน้ำตาลทอง
7. เสิร์ฟพร้อมไอศกรีมหรือวิปครีมตามชอบ

4. กล้วยน้ำว้าบด

กล้วยน้ำว้าบดเป็นอาหารเด็กหรือของว่างที่ง่ายและมีประโยชน์ต่อสุขภาพ ทำจากกล้วยน้ำว้าสุกบด ผสมกับนมและน้ำผึ้งหรือน้ำเชื่อมเพื่อความหวาน

วัตถุดิบ :

1. กล้วยน้ำว้าสุก 2 ลูก
2. นม 1/4 ถ้วย
3. น้ำผึ้งหรือน้ำเชื่อมตามชอบ

วิธีทำ :

1. ปอกเปลือกกล้วยน้ำว้าแล้วหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ
2. ใส่กล้วยน้ำว้าลงในชามผสม
3. บดกล้วยน้ำว้าด้วยส้อมหรือเครื่องบดอาหาร
4. เติมนมและน้ำผึ้งหรือน้ำเชื่อมตามชอบ
5. คนให้เข้ากัน
6. เสิร์ฟพร้อมแพนเค้ก วาฟเฟิล หรือขนมปังปิ้ง

5. กล้วยน้ำว้าคุกกี้

กล้วยน้ำว้าคุกกี้เป็นคุกกี้ที่นุ่มและชุ่มฉ่ำ ใช้กล้วยน้ำว้าสุก แป้งสาลี น้ำตาล และเนย อบจนขอบเป็นสีน้ำตาลทอง เก็บใส่กล่องกินเป็นของว่างก็ได้ เป็นของฝากก็น่าก็ประทับใจ

วัตถุดิบ :

1. กล้วยน้ำว้าสุก 3 ลูก
2. แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1 ถ้วย
3. น้ำตาลทรายแดง 1/2 ถ้วย
4. ผงฟู 1 ช้อนชา
5. โซดาคุกกี้ 1/2 ช้อนชา
6. เนยละลาย 1/2 ถ้วย
7. ไข่ไก่ 1 ฟอง

วิธีทำกล้วยน้ำว้าคุกกี้ :

1. ปอกเปลือกกล้วยน้ำว้าแล้วบดด้วยส้อม
2. ในชามผสมแป้งสาลี น้ำตาลทรายแดง ผงฟู โซดาคุกกี้ และเกลือ
3. ในชามแยกต่างหาก ตีเนยและน้ำตาลทรายขาวเข้าด้วยกันจนขึ้นฟู
4. ใส่ไข่ลงไปทีละฟอง ตีให้เข้ากัน
5. ใส่กล้วยน้ำว้าบดลงไป คนให้เข้ากัน
6. ค่อยๆ เติมส่วนผสมแห้งลงในส่วนผสมเปียก คนจนเข้ากันดี
7. ตักแป้งคุกกี้ใส่ถาดอบที่รองด้วยกระดาษไข
8. อบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียสเป็นเวลา 10-12 นาที หรือจนคุกกี้สุกและเป็นสีน้ำตาลทอง
9. ตักขึ้นจากถาดอบแล้วพักให้เย็นบนตะแกรง

เกร็ดสุขภาพ : ชนิดของกล้วยมีอยู่หลากหลาย กล้วยเป็นแหล่งของเส้นใยอาหารที่ดี โดยกล้วยขนาดกลางให้เส้นใยประมาณ 10-12% ของความต้องการเส้นใยในแต่ละวัน เส้นใยที่ละลายน้ำได้ในกล้วยช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและลดคอเลสเตอรอล ในขณะที่เส้นใยที่ไม่ละลายน้ำได้จะเพิ่มปริมาณอุจจาระและส่งเสริมการขับถ่ายเป็นประจำ นอกจากนี้ กล้วยยังมีแป้งที่ย่อยไม่ได้ ซึ่งจะผ่านเข้าไปในลำไส้ใหญ่และช่วยควบคุมน้ำหนักโดยทำให้คุณรู้สึกอิ่มนานขึ้น

6. เค้กกล้วยน้ำว้า

กล้วยน้ำว้าเค้กเป็นเค้กที่ชุ่มชื้นและมีรสชาติ กล้วยน้ำว้าสุกจะผสมกับแป้งสาลี น้ำตาล และเนย เค้กจะอบจนสุกและมีสีน้ำตาลทอง

วัตถุดิบ :

1. กล้วยน้ำว้าสุก 2 ลูก
2. แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1 ถ้วยครึ่ง
3. น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
4. ผงฟู 1 ช้อนชา
5. โซดาคุกกี้ 1/2 ช้อนชา
6. เนยละลาย 1/2 ถ้วย
7. ไข่ไก่ 2 ฟอง
8. นม 1/2 ถ้วย

วิธีทำเค้กกล้วยน้ำว้า :

1. ปอกเปลือกกล้วยน้ำว้าแล้วบดด้วยส้อม
2. ผสมแป้งสาลี น้ำตาลทราย ผงฟู โซดาคุกกี้ และเกลือในชามให้เข้ากัน
3. ตีเนยและน้ำตาลทรายขาวเข้าด้วยกันจนขึ้นฟูในชามแยกต่างหาก 
4. ใส่ไข่ลงไปทีละฟอง ตีให้เข้ากัน
5. สลับกันใส่ส่วนผสมแห้งและนมลงไปในส่วนผสมเปียก คนจนเข้ากันดี
6. ใส่กล้วยน้ำว้าบดลงไป คนให้เข้ากัน
7. เทส่วนผสมเค้กลงในพิมพ์เค้กขนาด 9×13 นิ้ว ที่ทาเนยและโรยแป้งไว้
8. อบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 30 – 35 นาที หรือจนเค้กสุกและเป็นสีน้ำตาลทอง
9. แกะเค้กออกจากพิมพ์แล้วพักให้เย็นบนตะแกรง

7. กล้วยน้ำว้าสมูทตี้

กล้วยน้ำว้าสมูทตี้เป็นเครื่องดื่มที่สดชื่นและมีประโยชน์ต่อสุขภาพ ทำจากกล้วยน้ำว้าสุก ผักโขม นม และโยเกิร์ต ปั่นจนเนียน เพิ่มน้ำผึ้งหรือน้ำเชื่อมเพื่อความหวานตามชอบ

วัตถุดิบ :

1. กล้วยน้ำว้าสุก 1 ลูก
2. ผักโขม 1 ถ้วย
3. นม 1/2 ถ้วย
4. โยเกิร์ต 1/2 ถ้วย
5. น้ำผึ้งหรือน้ำเชื่อมตามชอบ

วิธีทำกล้วยน้ำว้าสมูทตี้ :

1. ปอกเปลือกกล้วยน้ำว้าแล้วหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ
2. ใส่กล้วยน้ำว้า ผักโขม นม โยเกิร์ต และน้ำผึ้งหรือน้ำเชื่อมลงในเครื่องปั่น
3. ปั่นจนส่วนผสมเข้ากันดี
4. เทใส่แก้วและเสิร์ฟ

8. กล้วยน้ำว้าแพนเค้ก

กล้วยน้ำว้าแพนเค้กเป็นอีกหนึ่งกล้วยน้ำว้าสุก เมนูที่จะกินเป็นของว่างก็ได้ กินเป็นอาหารเช้าก็เพลิน ลองมาดูวิธีทำกันค่ะ

วัตถุดิบ :

1. กล้วยน้ำว้าสุก 1 ลูก
2. แป้งแพนเค้ก 1 ถ้วย
3. นม 1 ถ้วย
4. ไข่ไก่ 1 ฟอง
5. น้ำมันสำหรับทอด

วิธีทำกล้วยน้ำว้าแพนเค้ก :

1. ปอกเปลือกกล้วยน้ำว้าแล้วบดด้วยส้อม
2. ในชามผสมแป้งแพนเค้ก นม ไข่ และกล้วยน้ำว้าบด
3. คนให้เข้ากันจนส่วนผสมเป็นเนื้อเดียวกัน
4. ตั้งกระทะบนไฟกลาง ใส่น้ำมันเล็กน้อย
5. ตักส่วนผสมของแพนเค้กใส่กระทะเป็นวงกลม
6. ทอดจนแพนเค้กสุกทั้งสองด้าน
7. เสิร์ฟพร้อมเนย น้ำผึ้ง หรือน้ำเชื่อมตามชอบ

9. กล้วยน้ำว้าไอศกรีม

กล้วยน้ำว้าไอศกรีมเป็นกล้วยน้ำว้าสุก เมนูที่น่าสนใจเหมาะกับหน้าร้อนของประเทศไทย วิธีการทำไม่ยาก กินแล้วจะติดใจ

วัตถุดิบ :

1. กล้วยน้ำว้าสุก 2 ลูก
2. นม 1/2 ถ้วย
3. น้ำผึ้งหรือน้ำเชื่อมตามชอบ

วิธีทำกล้วยน้ำว้าไอศกรีม :

1. ปอกเปลือกกล้วยน้ำว้าแล้วหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ
2. ใส่กล้วยน้ำว้า นม และน้ำผึ้งหรือน้ำเชื่อมลงในเครื่องปั่น
3. ปั่นจนส่วนผสมเข้ากันดี
4. เทส่วนผสมไอศกรีมลงในภาชนะที่ปิดสนิท
5. แช่แข็งอย่างน้อย 4 ชั่วโมง หรือจนไอศกรีมแข็งตัว
6. ตักไอศกรีมเสิร์ฟ

10. กล้วยน้ำว้าข้าวโอ๊ต

กล้วยน้ำว้าข้าวโอ๊ตเป็นอาหารเช้าหรือของว่างที่ง่ายและมีประโยชน์ต่อสุขภาพ ทำจากกล้วยน้ำว้าสุก ข้าวโอ๊ต และนม กล้วยจะบดแล้วผสมกับข้าวโอ๊ตและนม นำไปอุ่นจนข้น

วัตถุดิบ :

1. กล้วยน้ำว้าสุก 1 ลูก
2. ข้าวโอ๊ต 1/2 ถ้วย
3. นม 1 ถ้วย
4. น้ำผึ้งหรือน้ำเชื่อมตามชอบ

วิธีทำกล้วยน้ำว้าข้าวโอ๊ต :

1. ปอกเปลือกกล้วยน้ำว้าแล้วหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ
2. ในหม้อผสมข้าวโอ๊ต นม และน้ำ
3. นำไปตั้งไฟกลาง คนจนข้าวโอ๊ตสุกและข้น
4. ใส่กล้วยน้ำว้าและน้ำผึ้งหรือน้ำเชื่อมลงไป คนให้เข้ากัน
5. ปรุงรสตามชอบ
6. เสิร์ฟร้อนๆ

เกร็ดสุขภาพ : กล้วยยังมีประโยชน์สำหรับนักกีฬาและเด็กๆ เนื่องจากให้พลังงานอย่างรวดเร็วและสามารถช่วยในการทำงานของกล้ามเนื้อและการฟื้นฟูได้ บางการศึกษาชี้ให้เห็นว่ากล้วยอาจมีคุณสมบัติต้านมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก มะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก มะเร็งหลอดอาหาร มะเร็งตับ มะเร็งในช่องปาก มะเร็งต่อมลูกหมาก และมะเร็งผิวหนัง อย่างไรก็ตาม จำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อทำความเข้าใจผลกระทบเหล่านี้อย่างถ่องแท้

เป็นยังไงบ้างคะ กับเมนูกล้วยน้ำว้าที่เราเลือกมานำเสนอ หากยังไม่จุใจ สามารถดูไอเดียเมนูกล้วยสุกงอมที่เราเคยนำเสนอไปแล้วเพิ่มเติมกันอีกได้เลยนะคะ การกินกล้วยในปริมาณที่พอเหมาะ (ประมาณ 1-2 ลูกต่อวัน) ถือว่าปลอดภัยสำหรับคนส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตามในกล้วยนั้นมีปริมาณโพแทสเซียมที่สูง ถึงแม้ว่ากล้วยจะเป็นแหล่งโพแทสเซียมที่ดี แต่การรับประทานกล้วยมากเกินไปอาจทำให้เกิดภาวะโพแทสเซียมในเลือดสูงได้ ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพ เช่น หัวใจเต้นผิดจังหวะและกล้ามเนื้ออ่อนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับไต ดังนั้นจึงควรกินแต่พอดี หรือหากกังวลอาจปรึกษาแพทย์ประจำตัวของท่านเพื่อการกินที่เหมาะสมนะคะ

อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : forksoverknives.com

Featured Image Credit : freepik.com/8photo

ติดตามเราได้ที่ … เฟสบุ๊ค : เกร็ดสุขภาพ

pueasukkapab กล้วยน้ำว้าสุก กินไม่ทัน ทำอะไรได้บ้าง กล้วยน้ำว้าสุก เมนู เพื่อสุขภาพ