“เพื่อสุขภาพ” ชุมชนสุขภาพ เรื่องราวตรงใจ ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย รุ่นไหนก็รัก ♡
มีเสมหะ ตอนกลางคืน เป็นสัญญาณของโรคอะไรหรือเปล่า ? ชวนสังเกตตัวเองกับอาการเสมหะในช่วงเวลาต่างๆ !
เคยไหมคะ ? ที่ตื่นนอนในตอนเช้า หรือในกลางดึก มักจะไอและมีเสมหะตลอดเวลา จนสร้างความรำคาญใจ และรบกวนเวลานอนเป็นอย่างมาก จนทำให้หลายคนเกิดความกังวลใจว่ามีเสมหะตอนกลางคืน หรือมีเสมหะตอนเช้า รวมถึงตลอดเวลานั้น บ่งบอกอาการของโรคอะไรหรือไม่ และมีการดูแลและรักษาได้อย่างไรบ้าง เรามาเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับสาเหตุของการ มีเสมหะ ตอนกลางคืน และเวลาอื่นๆ และวิธีจัดการกับอาการเหล่านี้กัน เพื่อให้มีสุขภาพที่ดีขึ้นกันค่ะ
มีเสมหะ ตอนกลางคืน เกิดจากอะไร ? เป็นสัญญาณอันตรายหรือไม่ ?
การไอและมีเสมหะ ตอนกลางคืนนั้น สาเหตุหลักมาจากกฎแห่งแรงโน้มถ่วง เมื่อคุณล้มตัวลงนอน เมือกจะเริ่มสะสมในลำคอโดยธรรมชาติ ทำให้เกิดการไอสะท้อนออกมาเพื่อเป็นการเคลื่อนย้ายเมือกนั้นออก และอาจทำให้คุณมีเสมหะตลอดเวลาและตลอดทั้งคืนได้หากเจอกับสภาพอากาศที่แห้ง ความชื้นน้อย เพราะทำให้คอและจมูกระคายเคืองรุนแรงขึ้น ทำให้เสมหะไม่สามารถคลายตัวได้ เมื่อมีเมือกสะสมในลำคอและไม่มีการเคลื่อนไหว อาจทำให้เริ่มอุดตันทางเดินหายใจและทำให้คุณไอและมีเสมหะได้นั่นเอง ปัญหาเหล่านี้มักเกิดขึ้นบ่อยในฤดูหนาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณอาศัยอยู่ในสภาพอากาศที่หนาวเย็นค่ะ
มีเสมหะ ตอนกลางคืน บอกโรคหรือไม่ ?
อาการมีเสมหะนั้นอาจเกิดร่วมกับอาการอื่นๆ ซึ่งแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับโรค หรือความผิดปกติได้ ดังนี้
1. หากคุณมีไข้และปวดเมื่อยตามร่างกาย
อาจมีเสมหะที่เกิดจากการติดเชื้อ เช่น ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ และไซนัสอักเสบได้ และอาจทำให้เกิดอาการอื่นๆ ร่วมด้วย ได้แก่ ไอ อ่อนเพลีย มีไข้ หนาวสั่นและมีเหงื่อออก ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ คลื่นไส้และเบื่ออาหาร น้ำมูกไหลหรือคัดจมูก มักมีน้ำมูกสีเขียวหรือสีเหลือง จาม ต่อมน้ำเหลืองที่คอบวม เจ็บคอ คอแห้ง ต่อมทอนซิลโต และตาแฉะ เป็นต้น
1. อาการภูมิแพ้ที่อาจเกิดขึ้นได้กับอาการเสมหะ
ซึ่งการแพ้อาจทำให้เกิดอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น ตาแดง ไอ อาการคันที่จมูก คอ หรือหูมีผื่น น้ำมูกไหลหรือคัดจมูกและน้ำมูกไหลลงคอ จาม น้ำตาไหล คันตา เป็นต้น
นอกจากนี้ อาการมีเสมหะ ตอนกลางคืนอาจเกิดขึ้นพร้อมกับอาการอื่นๆ ที่อาจบ่งบอกถึงภาวะร้ายแรงหรือเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ เช่น ปอดบวมน้ำเฉียบพลัน หรือโรคหอบหืดรุนแรง ซึ่งควรรีบไปพบแพทย์ทันที หากคุณมีเสมหะร่วมกับอาการดังต่อไปนี้
- ริมฝีปาก เล็บ เป็นสีน้ำเงิน
- เจ็บหน้าอก แน่นหน้าอก หรือรู้สึกเหมือนถูกกดทับ
- ไอเป็นเลือดหรือเป็นสีชมพู เสมหะมีเลือดปนออกมา
- ไอมีเสมหะหรือเสมหะเป็นฟองจำนวนมาก
- ระดับการมีสติสัมปชัญญะลดลงหรือไม่ตื่นตัว รวมถึงมีความสับสนมึนงง
- พูดลำบาก
- หัวใจเต้นเร็ว
- มีปัญหาที่ระบบทางเดินหายใจหรือการหายใจ ได้แก่ สำลัก หอบ หายใจลำบาก ไม่หายใจ หายใจไม่ออก หายใจถี่ หรือหายใจดังเสียงฮืดๆ
- มีอาการปวดอย่างรุนแรงเมื่อกลืน หรือกลืนไม่ได้ หรือน้ำลายไหล
- มีอาการบวมอย่างฉับพลันของลิ้น ริมฝีปาก หรือใบหน้า หรือมีลมพิษที่ใบหน้าหรือลำคอ
วิธีแก้อาการมีเสมหะ ตอนกลางคืน
แม้ว่าจะไม่มีวิธีแก้ไอและลดเสมหะในตอนกลางคืนได้ในทันที แต่คุณก็สามารถทำตามขั้นตอนต่างๆ นี้เพื่อทำให้อาการดีขึ้นได้ ดังนี้
- ใช้หมอนเสริม การเงยศีรษะและคอขึ้นเล็กน้อยจะช่วยต้านแรงดึงดูดที่ทำให้เมือกสะสมในลำคอได้
- หลีกเลี่ยงการกินอาหารก่อนนอนหากคุณมีแนวโน้มที่จะเป็นกรดไหลย้อน
- อาบน้ำอุ่นก่อนนอน สามารถช่วยบรรเทาอาการเสมหะและไอได้โดยการสร้างสภาพแวดล้อมที่ชื้น
- ใช้เครื่องทำความชื้น เพื่อเพิ่มความชื้นในอากาศที่หายใจเข้าไป5. ดื่มน้ำและเครื่องดื่มอื่นๆ เช่น น้ำซุปหรือชาสมุนไพรที่ปราศจากคาเฟอีน สามารถช่วยลดอาการคอแห้งที่อาจนำไปสู่การไอตอนกลางคืนได้ และหากอาการไม่ดีขึ้นภายในหนึ่งสัปดาห์หรือแย่ลงอย่างกะทันหัน และนำให้ปรึกษาแพทย์
เกร็ดสุขภาพ : สิ่งสำคัญคือคุณต้องหมั่นสังเกตอาการเสมหะของตนเองด้วย ว่าเสมหะของคุณมีลักษณะอย่างไร หนาหรือบาง และเป็นสีอะไร มีเสมหะมานานแค่ไหน ช่วงเวลาไหนบ้าง รวมถึงการมีเสมหะของคุณทำให้นอนไม่หลับ หรือต้องหายใจทางปากแทนจมูกหรือไม่ เพื่อช่วยแพทย์ในการวินิจฉัยสาเหตุของอาการเสมหะได้อย่างถูกต้อง
มีเสมหะตอนเช้า อันตรายหรือไม่ ?
อาการไอในตอนเช้าส่วนใหญ่ไม่ใช่สัญญาณของการเจ็บป่วยที่รุนแรง แต่ถ้ามีเสมหะทำให้หายใจลำบาก ควรจะต้องไปพบแพทย์เพื่อค้นหาสาเหตุที่แท้จริงและหาทางแก้ไขให้ตรงจุด
สาเหตุของอาการไอมีเสมหะในตอนเช้า
การไอเป็นวิธีการของร่างกายในการกำจัดและล้างสารระคายเคืองออกจากระบบทางเดินหายใจ การไอมีเสมหะทุกเช้าเป็นภาวะทางการแพทย์ทั่วไป เกิดจากหลายสาเหตุ ได้แก่
- หวัด หวัดเป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของอาการไอที่มีเสมหะ บางครั้งมีเสมหะมากเกินไปในตอนกลางคืน และทำให้รู้สึกไม่สบายตัว
- การแพ้ การตอบสนองทางภูมิคุ้มกันต่อสารก่อภูมิแพ้ เช่น ฝุ่น เชื้อรา ขนนก ละอองเกสร และของเสียจากจุลินทรีย์ ผู้ที่แพ้ไรฝุ่นมักจะมีอาการไอที่แย่ลงในตอนเช้า
- หลอดลมอักเสบ การอักเสบของทางเดินหายใจที่นำอากาศไปยังปอด ซึ่งอาจเป็นแบบเฉียบพลันหรือเรื้อรัง ภาวะเฉียบพลันมักเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัสในระบบทางเดินหายใจ มักเกิดจากการสูบบุหรี่ และคนที่เป็นโรคหลอดลมอักเสบมักมีเสมหะมากทุกเช้า
- หอบหืด อาการแพ้ที่ทำให้เกิดการอักเสบเรื้อรัง นำไปสู่การตีบตันของหลอดลม ส่งผลให้หายใจถี่เล็กน้อยถึงอันตรายถึงชีวิตได้
- โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคหลอดลมอักเสบเรื้อรังหรือการขยายตัวของถุงลม มักเกิดจากการสูบบุหรี่เป็นเวลาหลายปี อาการหลักๆ คือ ไอมีเสมหะและหายใจลำบาก และมักจะกำเริบหลายครั้ง
- โรคกรดไหลย้อน ประมาณ 25% ของผู้ที่เป็นโรคกรดไหลย้อนจะมีอาการไอและมีเสมหะในตอนเช้า ภาวะนี้เกิดขึ้นเมื่อกรดในกระเพาะสะสมกลับเข้าไปในหลอดอาหารและส่งผลต่ออาการในลำคอ
วิธีแก้อาการมีเสมหะตอนเช้า
วิธีที่ดีที่สุดในการรักษาอาการไอและมีเสมหะในตอนเช้า คือการหาสาเหตุและรักษาสาเหตุนั้น กล่าวคือ
- ในกรณีที่เป็นหวัด การติดเชื้อทางเดินหายใจซึ่งมักเกิดจากไวรัส มักจะหายไปเองหลังจากผ่านไป 2 – 3 วัน ควรพักผ่อน ดื่มน้ำให้มาก เสริมวิตามิน และมีโภชนาการที่ดี
- หากสาเหตุของการมีเสมหะมาจากการแพ้ จำเป็นต้องหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้ ใช้ยาแก้แพ้ ยาต้านการแข็งตัวของเลือด และเสริมด้วยวิตามินภูมิแพ้ (อ่านเพิ่มเติมเรื่อง วิตามินภูมิแพ้ ยี่ห้อไหนดี)
- สำหรับโรคหลอดลมอุดกั้น จำเป็นต้องเลิกสูบบุหรี่ และใช้ยาขยายหลอดลมเมื่อมีสิ่งกีดขวางทางเดินหายใจ หรือใช้ออกซิเจนเมื่อมีภาวะขาดออกซิเจน
- หากสาเหตุของอาการไอเกี่ยวข้องกับโรคกรดไหลย้อน ให้กินยาลดกรด หลีกเลี่ยงความเครียด จำกัดการกินอาหารที่เป็นกรด และไม่กินอาหารก่อนเข้านอน 3 ชั่วโมง และนอนหงายศีรษะขึ้น 20 – 30 องศา
มีเสมหะตลอดเวลาบอกอะไรได้บ้าง ?
สาเหตุของการผลิตเสมหะมากเกินไปในลำคอของคุณนั้น หากมีเสมหะตลอดทั้งวันหรือตลอดเวลา ก็อาจมาจากสาเหตุเดียวกันกับสองอาการข้างต้น นอกจากนี้การผลิตเมือกเสมหะที่มากเกินไปอาจเป็นผลมาจากวิถีชีวิตและปัจจัยแวดล้อมบางอย่าง เช่น สภาพแวดล้อมในร่มที่แห้ง การดื่มน้ำน้อย หรือการบริโภคกาแฟ ชา และแอลกอฮอล์มากเกินไป อาจทำให้สูญเสียของเหลวได้ รวมถึงการกินยาบางชนิด และการสูบบุหรี่ เป็นต้น
วิธีแก้อาการมีเสมหะอยู่ตลอดเวลา
หากมีการผลิตเมือกในลำคอมากเกินไปทำให้มีเสมหะและไม่สบายตัว อาจใช้ยาที่ไม่ต้องสั่งโดยแพทย์ เช่น ไกวเฟเนซิน (Guaifenesin) สามารถทำให้เสมหะบางและคลายตัว หรือใช้สเปรย์พ่นคอแก้ไอเพื่อบรรเทาอาการระคายเคือง และยังมีขั้นตอนการดูแลตนเองที่สามารถช่วยลดเสมหะได้ ดังนี้
- กลั้วคอด้วยน้ำเกลืออุ่นๆ สามารถช่วยล้างเมือกในลำคอและอาจช่วยฆ่าเชื้อโรคได้
- ทำให้อากาศโดยรอบมีความชื้นมากขึ้น ความชื้นในอากาศสามารถช่วยให้เสมหะบางลงได้
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ สามารถช่วยละลายเมือกเสมหะได้ การดื่มเครื่องดื่มอุ่นๆ จะให้ผลดี แต่ควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน
- นอนยกศีรษะ เพราะการนอนราบอาจทำให้รู้สึกเหมือนมีเสมหะสะสมอยู่ในลำคอ
- หลีกเลี่ยงสารระคายเคือง น้ำหอม สารเคมี และมลภาวะ สิ่งเหล่านี้สามารถทำให้เยื่อเมือกระคายเคือง และส่งสัญญาณให้ร่างกายผลิตเมือกมากขึ้น
- เลิกสูบบุหรี่ การเลิกบุหรี่เป็นผลดีต่อร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับโรคปอดเรื้อรัง เช่น โรคหอบหืด หรือโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง
เกร็ดสุขภาพ : อีกหนึ่งวิธีง่ายๆ ที่อาจช่วยให้อาการมีเสมหะของคุณดีขึ้นได้ ลองใช้ผลิตภัณฑ์จากยูคาลิปตัส ไม่ว่าจะเป็นบาล์มยูคาลิปตัสหรือน้ำมันหอมระเหย เพราะกลิ่นของยูคาลิปตัสสามารถช่วยละลายเมือกที่คั่งค้างอยู่บริเวณหน้าอกของคุณได้
ไม่ว่าคุณจะมีเสมหะ ตอนกลางคืน ตอนเช้า หรือตลอดเวลานั้น สิ่งสำคัญคือการดูแลสุขภาพของตนเองอย่างสม่ำเสมอ ด้วยวิธีดูแลสุขภาพพื้นฐาน ก็จะช่วยลดอาการมีเสมหะลงได้ หรือสามารถลองใช้วิธีขับเสมหะจากคอและปอดดูเพื่อช่วยบรรเทาอาการ การมีเสมหะนั้นมาจากหลายสาเหตุและบ่อยครั้งที่อาการไม่น่ากังวล แต่หากอาการยังคงอยู่นานกว่า 2 สัปดาห์ หรือหากคุณมีปัญหาในการหายใจ คุณควรไปพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยที่ถูกต้องค่ะ
อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : health.clevelandclinic.org, healthgrades.com, healthline.com
Featured Image Credit : freepik.com/katemangostar
ติดตามเราได้ที่ … เฟสบุ๊ค : เกร็ดสุขภาพ