“เพื่อสุขภาพ” ชุมชนสุขภาพ เรื่องราวตรงใจ ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย รุ่นไหนก็รัก ♡
ปวดหัวด้านหลังซ้าย และขวา เกิดจากอะไร ? อันตรายหรือไม่ ?!
อาการปวดหัวอาจมีตั้งแต่ปวดแบบน่ารำคาญไปจนถึงปวดแบบรุนแรง และสามารถปวดในตำแหน่งใดก็ได้บนศีรษะของเรา และหนึ่งในบริเวณที่หลายคนเป็นก็คือ ปวดหัวบริเวณด้านหลัง ซึ่งอาการปวดหัวที่เกี่ยวข้องกับอาการปวดหลังศีรษะนั้นทั้งด้านซ้ายและขวาสามารถมีได้หลายสาเหตุ และเพื่อให้ทุกคนได้ระวังและดูแลตนเอง เรามารู้จักการ ปวดหัวด้านหลังซ้าย และปวดหัวด้านหลังขวากันว่าบ่งบอกถึงอะไรได้บ้าง และเกิดจากอะไร พร้อมวิธีแก้ไขกันค่ะ
ปวดหัวด้านหลังซ้าย และขวา เกิดจากอะไร ?
อะไรทำให้เกิดอาการปวดหัวด้านหลังกะโหลก ? มีสาเหตุหลายประการที่สามารถนำไปสู่อาการปวดหัวที่เกิดขึ้นที่ด้านหลังศีรษะของคุณได้ และอาการปวดหัวเหล่านี้ยังทำให้เกิดอาการปวดในบริเวณอื่นๆ ได้ด้วย ได้แก่ ปวดหัวด้านหลังซ้าย และปวดหัวด้านหลังขวา หรือปวดหัวเวลาก้ม มาดูสาเหตุกันว่า การปวดหัวเหล่านี้มีสาเหตุมาจากอะไร
ปวดหัวด้านหลังซ้าย
สาเหตุหลักของการปวดหัวด้านหลังซ้ายคือ อาการไมเกรน ไมเกรนเป็นโรคที่พบได้บ่อยที่สุดในโลก และผู้หญิงมีแนวโน้มที่จะมีอาการไมเกรนกำเริบมากกว่าผู้ชาย 2-3 เท่า การปวดหัวที่เกิดจากไมเกรนสามารถเกิดขึ้นได้ทุกบริเวณ อาจจะปวดฝั่งเดียวหรือสลับข้าง แต่หลายคนมักจะปวดที่ด้านซ้ายของศีรษะ หรือปวดหัวด้านหลัง จี๊ดๆ เต้นเป็นจังหวะ หรือบางครั้งอาจมีอาการปวดท้ายทอย มึนหัว ซึ่งอาการปวดหัวไมเกรนอาจเริ่มที่ด้านซ้ายของศีรษะ แล้วเคลื่อนไปรอบๆ ทางด้านหลังศีรษะ อาการปวดมักมีอาการต่างๆ ร่วมด้วย เช่น
- มีความไวต่อแสงหรือเสียง
- คลื่นไส้
- อาเจียน
- อาการจะกำเริบเมื่อเจออุณภูมิอากาศที่ร้อนจัด หรือหนาวจัด
นอกจากนี้อาจมีสาเหตุทางระบบประสาทได้ เพราะปัญหาเส้นประสาทบางครั้งอาจเป็นสาเหตุของอาการปวดศีรษะด้านหลัง ซึ่งเส้นประสาทบริเวณท้ายทอยจะวิ่งจากด้านบนของไขสันหลัง ขึ้นไปที่คอ ไปจนถึงฐานของกะโหลกศีรษะ การระคายเคืองของเส้นประสาทเหล่านี้อาจทำให้เกิดอาการปวดอย่างรุนแรง ที่ด้านหลังศีรษะหรือฐานของกะโหลกศีรษะ ความเจ็บปวดจะคงอยู่ตั้งแต่ไม่กี่วินาทีจนถึงหลายนาที
เกร็ดสุขภาพ : พฤติกรรมการใช้ชีวิตต่างๆ เช่น การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มีฤทธิ์ทำให้หลอดเลือดขยายตัว จึงอาจทำให้ปวดหัวได้ รวมถึงการกินอาหารบางชนิด เช่น ชีส พืชตระกูลถั่ว เนื้อสัตว์แปรรูป หรืออาหารที่ใส่สารกันบูด อาจกระตุ้นให้เกิดอาการปวดหัวได้เช่นกัน
ปวดหัวด้านหลังขวา
สาเหตุของอาการปวดหัวที่ด้านขวาและด้านหลังศีรษะนั้นมาจากปัจจัยด้านไลฟ์สไตล์ และมีลักษณะการปวดหัวคือปวดบริเวณหลังศีรษะและลุกลามมาทางศีรษะด้านขวา ซึ่งอาการปวดหัวมักเกิดจากปัจจัยต่างๆ เช่น
- ความตึงเครียด ซึ่งเป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของอาการปวดที่ด้านขวาและด้านหลังศีรษะ โดยจะรู้สึกเหมือนความเจ็บปวดที่ตึงและรัดแน่นบริเวณศีรษะด้านหลัง
- ความเหนื่อยล้า
- การอดอาหาร
- ปัญหากล้ามเนื้อคอ
- ผลข้างเคียงของยา เช่น การใช้ยาแก้ปวดเป็นเวลานาน
- การติดเชื้อและภูมิแพ้ การติดเชื้อไซนัสและการแพ้อาจทำให้ปวดหัวด้านขวาและหลังศีรษะได้
อาการปวดหัวด้านหลังกะโหลกมีวิธีรักษาอย่างไร ?
อาการของการปวดหัวด้านหลัง จี๊ดๆ นั้น สามารถลดลงได้ด้วยยาบรรเทาปวด เช่น อะเซตามิโนเฟน (ไทลินอล) และยาบางชนิด เช่น Extra-Strength Tylenol สามารถช่วยได้หากคุณมีอาการปวดหัวเรื้อรัง ปวดหัวด้านหลังซ้าย และการรักษาจะได้ผลดีที่สุดเมื่อพิจารณาจากสาเหตุที่แท้จริงของอาการปวดศีรษะ และมีวิธีรักษาดังต่อไปนี้
1. รักษาไมเกรน
สำหรับไมเกรน แพทย์อาจใช้ทั้งยาป้องกันและยาแก้ปวดแบบทันที ยาที่ไม่ต้องสั่งโดยแพทย์บางชนิดได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับรักษาอาการไมเกรน และอาจใช้บรรเทาอาการไมเกรนได้ นอกจากนี้สามารถป้องกันอาการปวดได้ ด้วยการค้นหาว่าอะไรคือตัวกระตุ้นอาการไมเกรนของคุณ เพื่อที่คุณจะหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นเหล่านั้นได้
2. รักษาอาการปวดหัวตึงเครียด
อาการปวดหัวจากความตึงเครียดมักได้รับการรักษาด้วยยาแก้ปวด แพทย์อาจสั่งจ่ายยาสำหรับอาการปวดเรื้อรังอย่างรุนแรง และใช้ยาป้องกัน เช่น ยากล่อมประสาทหรือยาคลายกล้ามเนื้อ เพื่อลดอาการปวดศีรษะไม่ให้เกิดขึ้นอีกในอนาคต
เกร็ดสุขภาพ : นอกจากวิธีการรักษาด้วยยาแล้วนั้น ลองใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นหรือน้ำเย็นประคบบริเวณศีรษะ ดวงตา หรือต้นคอ จะช่วยบรรเทาอาการปวดให้ดีขึ้นค่ะ
อาการปวดหัวแบบนี้อันตรายไหม ?
ปวดหัวด้านหลังซ้ายและขวา หากเกิดจากสาเหตุดังกล่าวและมีอาการปวดเพียงเล็กน้อย หรืออาการค่อยๆ บรรเทาลงได้เมื่อได้รับยา ก็จัดว่าไม่เป็นอันตรายค่ะ แต่ถ้าคุณเริ่มมีอาการปวดหัวที่กินเวลานานกว่า 2-3 วัน และความเจ็บปวดจะมาพร้อมกับความปวดขมับของคุณ หรืออาการปวดหัวเริ่มรบกวนกิจกรรมปกติของคุณ รวมถึงอาการปวดหัวรุนแรงหรือแย่กว่าที่เคยเป็นมา โดยเฉพาะหากมีอาการปวดหัวร่วมกับอาการใดๆ ต่อไปนี้ ให้รีบไปพบแพทย์ให้เร็วที่สุดค่ะ
- มีการเปลี่ยนแปลงบุคลิกภาพของคุณกะทันหัน รวมถึงการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์หรือความปั่นป่วนที่ไม่เคยมีมาก่อน
- มีไข้ คอเคล็ด รู้สึกสับสน และความตื่นตัวลดลง จนถึงจุดที่คุณไม่สามารถจดจ่อกับการสนทนาได้
- การมองเห็นไม่ชัด พูดไม่ชัด อ่อนแรง และมีอาการชาที่ใดก็ได้ในร่างกาย
- ปวดหัวอย่างรุนแรงหลังจากถูกกระแทกที่ศีรษะ
- อาการปวดหัวที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน โดยเฉพาะปวดมากหลังจากตื่นนอน
ดูแลตัวเองอย่างไรเมื่อปวดหัว
อาการปวดศีรษะประเภทต่างๆ นั้นทำให้เกิดอาการปวดศีรษะเพียงข้างเดียวได้ทั้งซ้ายและขวา คุณสามารถบรรเทาอาการปวดหัวเหล่านี้ได้ด้วยยาแก้ปวด และการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต เช่น การผ่อนคลาย ไม่เครียด พักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำมากๆ และออกกำลังกายเบาๆ ก็จะช่วยให้ผ่อนคลาย ลดความเครียด และระบบไหลเวียนเลือดและการหายใจดีขึ้นอีกด้วย ก็จะส่งผลให้อาการปวดหัวทุเลาลงค่ะ
อาการปวดศีรษะมีหลายประเภทที่ทำให้เกิดการปวดหัวด้านหลังซ้าย หรือด้านหลังขวา หลายคนมีสาเหตุที่ไม่เป็นอันตรายและสามารถหายไปเอง ด้วยการเปลี่ยนท่าทาง ดื่มน้ำมากขึ้น นอนพักผ่อนเพียงพอ หรือกินยาแก้ปวดบรรเทาอาการ แต่หากอาการมากขึ้นและรุนแรง จนอาการปวดหัวรบกวนชีวิตประจำวัน ต้องให้แพทย์วินิจฉัยสาเหตุของอาการปวดหัว เพื่อแนะนำการจัดการกับความเจ็บปวดและป้องกันอาการปวดหัวในอนาคตได้อีกด้วยค่ะ
อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : hellokhunmor.com
Featured Image Credit : freepik.com
ติดตามเราได้ที่ … เฟสบุ๊ค : เกร็ดสุขภาพ