“เพื่อสุขภาพ” ชุมชนสุขภาพ เรื่องราวตรงใจ ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย รุ่นไหนก็รัก ♡
ทำเองได้ไม่ยาก ! ชวนดู วิธีทำซอสมะเขือเทศ ง่ายๆ ด้วยตัวเอง !
ซอสมะเขือเทศเป็นซอสที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก คนทุกวัยสามารถเพลิดเพลินกับซอสมะเขือเทศเพราะซอสมะเขือเทศเข้ากันได้ดีกับอาหารเกือบทุกอย่าง และรสชาติก็ดีมาก โดยทั่วไปแล้วซอสมะเขือเทศจะเป็นซอสที่มีรสหวานและเปรี้ยว ผลิตจากมะเขือเทศสด เครื่องปรุงรส และเครื่องเทศต่างๆ ซึ่งวิธีทำซอสมะเขือเทศก็สามารถใช้ส่วนผสมพื้นฐานง่ายๆ ที่หาได้ทั่วไป เรามาลองดูกันว่า วิธีทำซอสมะเขือเทศ แบบโฮมเมดและวิธีทำซอสมะเขือเทศ คีโตจะใช้เครื่องปรุงรสและเครื่องเทศเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร
ซอสมะเขือเทศมีคุณค่า ชวนมาเลือกตาม วิธีทำซอสมะเขือเทศ แบบโฮมเมดหรือคีโต !
วิธีทำซอสมะเขือเทศ แบบโฮมเมด
ซอสมะเขือเทศแบบโฮมเมดทำได้ง่ายและให้ประโยชน์ต่อสุขภาพดีกว่าซอสมะเขือเทศที่ซื้อจากร้านค้า เพราะวิธีทำซอสมะเขือเทศจะใช้มะเขือเทศสด(ในขณะที่บางสูตรใช้มะเขือเทศกระป๋อง) นอกจากนี้ยังไม่มีสารกันบูด ไม่มีน้ำเชื่อมข้าวโพด และไม่ใส่สีผสมอาหาร หากถามว่ามะเขือเทศทำอะไรได้บ้าง การใช้มะเขือเทศสดทำซอสมะเขือเทศอาจจะต้องใช้ความพยายามในการทำเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่ก็คุ้มค่า เพราะไม่มีอะไรดีไปกว่ารสชาติที่สดใหม่ของซอสมะเขือเทศที่สะอาดเเละปลอดภัย เพราะเราเป็นคนทำเอง
วัตถุดิบ :
- มะเขือเทศสดและสุก 1.4 ก.ก. ล้างและผ่าครึ่ง
- น้ำเปล่า ¼ ถ้วยตวง
- น้ำตาลทรายแดง ¼ ถ้วยตวง
- น้ำส้มสายชูกลั่น 1/3 ถ้วยตวง
- เกลือ 1/8 ช้อนชา
- ซอสวูสเตอร์ไชร์ ½ ช้อนชา
- กระเทียมบด ½ ช้อนชา
- มัสตาร์ดบด 1/8 ช้อนชา
- กานพลู 1 ก้าน บดละเอียด
- พริกป่น 1/8 ช้อนชา
- หัวหอมสับ 1 ช้อนชา
- พริกไทยดำ 1/8 ช้อนชา
วิธีทำ :
- เตรียมหม้อ ใส่มะเขือเทศที่ผ่าแล้วและน้ำลงในหม้อ นำไปตั้งไฟจนเดือด แล้วลดไฟลง ต้มต่อไปอีก 10-15 นาที หรือจนกว่ามะเขือเทศจะนิ่ม
- ในขั้นต่อมาวิธีทำซอสมะเขือเทศ ให้นำมะเขือเทศไปบดให้เครื่องบดผสมอาหาร จนได้ส่วนผสมที่ข้นเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นใช้ตะแกรงกรองน้ำมะเขือเทศข้น และเทใส่ลงในหม้อ
- นำหม้อไปตั้งไฟอีกครั้งแล้วเติมน้ำตาล น้ำส้มสายชู และเครื่องเทศต่างๆ ผสมให้เข้ากัน เเละต้มเป็นเวลา 35-40 นาทีหรือจนได้เนื้อข้นตามต้องการ กวนมะเขือเทศผสมกันเป็นครั้งคราว
- ปรุงรสด้วย เกลือ พริกไทย แล้วปิดไฟ ยกออกจากเตา ทิ้งไว้ให้ซอสมะเขือเทศเย็นตัว
- เทซอสมะเขือเทศลงในขวดที่สะอาด แช่เย็นค้างคืนเพื่อให้รสชาติทั้งหมดเข้ากันดี เท่านั้นก็สามารถเพลิดเพลินกับซอสมะเขือเทศจากวิธีทำซอสมะเขือเทศแบบโฮมเมดแล้ว
เกร็ดสุขภาพ : ข้อมูลโภชนาการของซอสมะเขือเทศ 1 ช้อนโต๊ะ (หรือ 15 กรัม) ให้พลังงานเพียง 15 แคลอรีและมีคาร์โบไฮเดรตน้อยกว่า 4 กรัม ทำให้ซอสมะเขือเทศที่ได้จากวิธีทำซอสมะเขือเทศนี้ไม่เพิ่มน้ำตาลในเลือด ประกอบกับการใช้ซอสมะเขือเทศในแต่ละมื้อก็ไม่ได้มากจนเกินไป สารอาหารจึงไม่ได้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ อย่างไรก็ตาม ในซอสมะเขือเทศจากวิธีทำซอสมะเขือเทศนี้จะมีวิตามินซีและวิตามินเอสูง ซึ่งทำให้ได้ประโยชน์มะเขือเทศสรรพคุณผิวที่ดีตามมาอีกด้วย รวมถึงการเป็นแหล่งวิตามินเค โพแทสเซียม และแมงกานีสที่ดีอีก
วิธีทำซอสมะเขือเทศ คีโต
ซอสมะเขือเทศคีโต เรามารู้จักการวิธีทำซอสมะเขือเทศ คีโต สามารถทำง่าย ประหยัดเงิน ประหยัดเวลา ใช้เวลาประมาณ 10 นาที
วัตถุดิบ :
- มะเขือเทศเข้มข้น 1 กระป๋องเล็ก
- น้ำสะอาด 200 มิลลิลิตร
- อิริทริทอล ป่นละเอียด 7 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ ¼ ช้อนชา
วิธีทำ :
- ขั้นตอนแรกของวิธีทำซอสมะเขือเทศ ให้เทวัตถุดิบทั้งหมดลงในหม้อ แล้วผสมทุกอย่างให้เข้ากันใช้โดยตะกร้อมือ
- นำหม้อบรรจุส่วนผสมไปตั้งไฟอ่อนๆ พอเดือดยกลง
- บรรจุลงในขวดแก้วที่ผ่านการฆ่าเชื้อแล้ว ซอสมะเขือเทศจากวิธีทำซอสมะเขือเทศ คีโตนี้เก็บรักษาในตู้เย็นได้ 1 เดือน
เกร็ดสุขภาพ : นอกเหนือจากวิธีทำซอสมะเขือเทศให้ดีมีคุณภาพแล้ว ตัวซอสมะเขือเทศเองยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพคือ ช่วยลดความเสี่ยงของมะเร็งต่อมลูกหมาก เนื่องจากมีไลโคปีนซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่พบในมะเขือเทศที่มีบทบาทสำคัญที่ช่วยลดความเสี่ยงต่อมะเร็ง ลดคอเลสเตอรอล โดยเฉพาะไลโปโปรตีนชนิดความหนาแน่นต่ำ หรือที่เรียกว่า “คอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี” ได้ และช่วยบำรุงสายตา เพราะมีวิตามินเอ ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญสำหรับระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงและการมองเห็นที่ดี
ถึงแม้ว่าซอสมะเขือเทศที่มาจากวิธีทำซอสมะเขือเทศข้างต้นนั้นจะไม่สามารถรับประทานได้ในปริมาณมากๆ แต่ซอสมะเขือเทศช่วยให้ทำให้เพื่อนๆ รับประทานอาหารเพื่อสุขภาพได้มากขึ้น เพราะอาหารเพื่อสุขภาพส่วนใหญ่อาจจะไม่ค่อยอร่อยมากนัก แต่เมื่อมีซอสมะเขือเทศมาร่วมกับอาหารแล้วจะพบว่าอาหารเพื่อสุขภาพเหล่านั้นมักรับประทานได้มากขึ้น รสชาติเดิมมักถูกกลบเกลื่อนไปด้วยรสชาติของซอสมะเขือเทศ นอกจากนี้เพื่อนๆ ยังใช้รับประทานคู่กับไข่เจียวเป็นกับข้าวตอนเช้าก็ได้
อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : cookpad.com, livingsmartandhealthy.com, smh.com.au
Featured Image Credit : freepik.com/mdjaff
ติดตามเราได้ที่ … เฟสบุ๊ค : เกร็ดสุขภาพ