“เพื่อสุขภาพ” ชุมชนสุขภาพ เรื่องราวตรงใจ ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย รุ่นไหนก็รัก ♡
วิตามินคนท้องมีอะไรบ้าง ? พร้อมยี่ห้อวิตามินแนะนำ
โภชนาการที่ดีระหว่างการตั้งท้องมีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของลูกน้อย ว่าที่คุณแม่ต้องบริโภคสารอาหารให้เพียงพอต่อความต้องการของทารก ในขณะเดียวกันก็ต้องพอเพียงต่อตัวคุณแม่ด้วยเช่นกัน ดังนั้นขณะตั้งท้องคุณแม่จำเป็นต้องได้รับสารอาหารหลายๆ ชนิดเพิ่มเติม ซึ่งในบทความนี้จึงมาแนะนำวิตามินธรรมชาติและอาหารเสริมที่เป็นประโยชน์สำหรับคนท้อง ทั้งรายละเอียดของ วิตามินคนท้อง แต่ละชนิด สิ่งที่คนท้องควรกินและไม่ควรกิน ตลอดจนแนะนำวิตามิน-อาหารเสริมที่เกี่ยวกับคนท้อง ข้อมูลที่สำคัญๆ ราคาโดยประมาณและช่องทางการซื้อออนไลน์
เพื่อลูกน้อยแรกเกิดมีสุขภาพแข็งแรง คุณแม่ต้องเลือกวิตามินคนท้องอย่างไรบ้าง ?
• สารอาหารเพิ่มเติมสำหรับคนท้อง
เมื่อคุณแม่ตั้งท้อง ร่างกายจะต้องการสารอาหารเพิ่มเติม ได้แก่ โฟเลต วิตามินคนท้อง ชนิดนี้ช่วยป้องกันความบกพร่องของท่อประสาทเช่น โรคกระดูกสันหลังคด ควรได้รับตั้งแต่ 1 เดือนก่อนตั้งท้อง และตลอด 3 เดือนแรกของการตั้งท้อง วิตามินบี 12 ช่วยในการพัฒนาระบบประสาทของทารก วิตามินดี วิตามินคนท้องชนิดนี้ช่วยในการพัฒนาโครงกระดูก วิตามินซีที่เพียงพอช่วยเพิ่มการดูดซึมธาตุเหล็กจากอาหารที่กินเข้าไป ไอโอดีนจำเป็นต่อการพัฒนาสมองและระบบประสาท เหล็กช่วยป้องกันโรคโลหิตจางในแม่ และทารกที่มีน้ำหนักแรกเกิดต่ำ
• ความจำเป็นของอาหารเสริมสำหรับคนท้อง
อย่างไรก็ตาม หญิงตั้งท้องบางรายอาจต้องการอาหารเสริมที่มีสารอาหารอื่นนอกเหนือจากกรดโฟลิก ไอโอดีน และวิตามินดี เป็นอาหารเสริมคนท้อง ทั้งนี้ต้องเป็นไปตามที่แพทย์แนะนำ ซึ่งกลุ่มตัวอย่างดังกล่าว เช่น เป็นผู้กินมังสวิรัติและได้รับวิตามินบี 12 ที่เป็นวิตามินคนท้องชนิดหนึ่งไม่เพียงพอ เป็นผู้ได้รับแคลเซียมไม่เพียงพอ มีธาตุเหล็กต่ำ หรือกินอาหารทะเลน้อยมาก จนมีกรดไขมันโอเมก้า 3 ต่ำ ทั้งนี้การวิจัยใหม่ๆ แสดงให้เห็นว่าการได้รับอาหารเสริมโอเมก้า 3 ระหว่างตั้งท้องอาจช่วยลดความเสี่ยงของการคลอดก่อนกำหนด ตลอดจนโปรไบโอติกอาจช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดระหว่างการตั้งท้อง
• วิตามินรวมระหว่างตั้งท้อง
วิตามินรวมคือการรวมกันของวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ มักอยู่ในรูปยาเม็ด วิตามินบางชนิดได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับหญิงตั้งท้อง (วิตามินรวมก่อนคลอด) โดยเฉพาะ ดังนั้นหญิงตั้งท้องต้องหลีกเลี่ยงการกินวิตามินรวมที่ไม่ได้ออกแบบมาสำหรับการตั้งท้อง
• วิตามินบางชนิดก็ต้องระวัง
ร่างกายของคุณแม่ตั้งท้องต้องการสารอาหารแต่ละอย่างเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และปริมาณที่มากขึ้นก็ไม่ได้แปลว่าจะดีกว่าเสมอไป ในบางครั้งหากบริโภคเกินความจำเป็นอาจทำให้เกิดอันตรายได้ ตัวอย่างเช่น ปริมาณวิตามินเอ วิตามินซี หรือวิตามินอี ในระดับสูงจะก่อให้เกิดอันตรายได้ จึงไม่ควรใช้วิตามินเหล่านี้ในปริมาณมากๆ รวมทั้งหลีกเลี่ยงอาหารที่มีวิตามินเอสูงมาก ตลอดจนตับและผลิตภัณฑ์จากตับ
เกร็ดสุขภาพ : การตั้งท้องเป็นช่วงเวลาที่คุณแม่ต้องดูแลสุขภาพอย่างจริงจังและคิดให้รอบคอบว่าจะกินอะไรในระหว่างนี้ อาหารเพื่อสุขภาพมีความสำคัญอย่างมากในการบำรุงรักษาลูกน้อยอย่างดีตั้งแต่เริ่มปฏิสนธิ ซึ่งคุณแม่หลายๆ คนก็เริ่มปรับเปลี่ยนอาหารในทันทีที่พบว่ากำลังตั้งท้อง ในขณะที่บางคนก็อาจจะขอคำแนะนำจากแม่หรือเพื่อน หรือจากอินเทอร์เน็ต หรืออาศัยประสบการณ์การตั้งท้องในอดีตของตนเอง แต่สิ่งที่คุณแม่หลายคนอาจไม่รู้ก็คือ การตั้งท้องแต่ละครั้งมีความแตกต่างกัน อายุหรือสภาพแวดล้อมอาจเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายหรือฮอร์โมนที่อาจส่งผลต่อการตั้งท้อง ดังนั้นการตอบสนองของร่างกายจึงอาจแตกต่างกัน
อาหารสำหรับที่เหมาะกับหญิงตั้งท้องมีอะไรบ้าง
• กินผักมากขึ้น
ผักเป็นแหล่งใยอาหารที่ดี (เพื่อช่วยป้องกันอาการท้องผูก) มีวิตามินและแร่ธาตุมากมายรวมทั้งโฟเลต วิตามินคนท้องที่ช่วยลดความเสี่ยงของข้อบกพร่องในท่อประสาทของทารกในท้อง คุณแม่สามารถสร้างสรรค์มื้ออาหารด้วยการเพิ่มผักลงไป เช่น ใส่ในแซนวิช เติมลงในจาน หรือปั่นเป็นสมูทตี้ อีกทั้งยังสามารถลองกินผักหลากหลายชนิดในรูปแบบใดก็ได้ (ดิบ ปรุงสุก สด แช่แข็ง กระป๋อง แห้ง ทำผักนึงเพื่อสุขภาพ) และในสีต่างๆ ที่หลากหลาย เพราะนั่นมีวิตามินและแร่ธาตุที่แตกต่างกัน อย่างไรก็ตาม การกินผักใบดิบมักจะถือว่าดีที่สุด แต่อย่าลืมล้างผักให้สะอาดก่อน เพื่อป้องกันการติดเชื้อระหว่างตั้งท้อง
• เติมจานด้วยโปรตีนเพื่อสุขภาพ
อาหารที่อุดมด้วยโปรตีนจะช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของทารกได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งช่วยส่งเสริมการพัฒนาสมองและหัวใจที่แข็งแรงของลูกน้อย และในขณะเดียวกันก็ให้พลังงานที่ร่างกายต้องการ แหล่งโปรตีนต่อไปนี้ที่ควรลงในรายการอาหารประจำวันของคุณแม่ ได้แก่ ปลา ไก่ ไก่งวง เนื้อไม่ติดมัน เนื้อหมู เนื้อแกะ เนื้อลูกวัว ไข่ เนยถั่ว ถั่ว อาหารทดแทนเนื้อสัตว์เช่น เต้าหู้ และที่สำคัญอย่าลืมธัญพืช ซึ่งควรเป็นธัญพืชไม่ขัดสี เช่น ข้าวกล้อง พาสต้าโฮลวีต ซีเรียล และข้าวโอ๊ต อุดมด้วยใยอาหาร ธาตุเหล็ก วิตามินบี และกรดโฟลิก ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อพัฒนาการทางร่างกายของลูกน้อย
• สร้างสีสันให้อาหารด้วยผลไม้
ผลไม้ไม่ใช่แค่อร่อยเท่านั้น สามารถช่วยลดความอยากน้ำตาลของคุณแม่ และให้สารอาหารที่จำเป็นรวมถึงวิตามินคนท้องแก่คุณแม่และลูกน้อย ตราบใดที่ไม่ได้กินมันในรูปแบบน้ำผลไม้บ่อยเกินไป ผลไม้นั้นเป็นส่วนสำคัญของอาหารเพื่อการตั้งท้อง แต่ต้องระมัดระวังในการเตรียมผลไม้ อย่าใช้มีดที่ใช้กับอาหารดิบอื่นๆ เพราะอาจมีแบคทีเรีย และล้างผลไม้ดิบให้สะอาดเสมอ การล้างผลไม้เป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากแบคทีเรียที่เปลือกหรือผิวด้านนอกอาจทำให้เกิดการเจ็บป่วยหรือเป็นอันตรายต่อคุณแม่และทารก ควรตัดบริเวณที่ช้ำออกเพื่อช่วยกำจัดแบคทีเรียที่ซ่อนอยู่ในบริเวณเหล่านี้
• ดื่มนมและผลิตภัณฑ์นมเพื่อสุขภาพ
ผลิตภัณฑ์จากนมเป็นแหล่งโปรตีนและแคลเซียมที่ดี ซึ่งช่วยในการพัฒนากระดูกของทารก หากได้รับในปริมาณที่พอเหมาะ ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำหนักขึ้น แต่สิ่งที่ควรกังวลเกี่ยวกับนมและผลิตภัณฑ์นมคือ การฆ่าเชื้อ เพราะในระหว่างตั้งท้อง ร่างกายมีแนวโน้มที่จะติดเชื้อมากขึ้น จึงควรซื้อผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการพาสเจอร์ไรส์ ที่ช่วยฆ่าเชื้อโรคในผลิตภัณฑ์นมต่างๆ และอีกประการคือ ควรเลือกผลิตภัณฑ์นมที่มีไขมันต่ำ หรือนมถั่วเหลือง
• เลือกไขมันและน้ำมันที่ดีต่อสุขภาพ
ในบรรดาข้อจำกัดด้านอาหารหลายอย่างระหว่างตั้งท้อง น้ำมันและไขมันมักเป็นสิ่งที่ถูกยกเว้น นักโภชนาการไม่แนะนำให้เลิกกินเพราะมีประโยชน์ต่อการพัฒนาสมองและดวงตาของทารก อย่างไรก็ตาม ปริมาณน้ำมันของคุณแม่ควรจำกัดเพียงวันละ 6 ช้อนชา สิ่งสำคัญคือต้องบริโภคเฉพาะน้ำมันพืช เช่น มะกอก คาโนลา หรือดอกคำฝอย ส่วนไขมันที่เป็นของแข็ง (เช่น น้ำมันหมูและเนย) เป็นอาหารที่คุณแม่ควรหลีกเลี่ยงในขณะตั้งท้อง เพื่อไม่ให้น้ำหนักเกิน
• เมื่อกินเพื่อสุขภาพแล้ว จงดื่มเพื่อสุขภาพด้วย!
น้ำเป็นเครื่องดื่มมหัศจรรย์ ที่เกี่ยวข้องกับปัญหาสุขภาพหลายประเภทและการตั้งท้องก็ไม่มีข้อยกเว้น จึงควรดื่มน้ำตามปริมาณที่แนะนำทุกวันให้มากที่สุด การดื่มน้ำเพียงพออาจช่วยบรรเทาอาการแพ้ท้องและคลื่นไส้ ในทางตรงกันข้ามภาวะขาดน้ำโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเกิดขึ้นในช่วงอายุครรภ์ไตรมาสที่ 3 อาจนำไปสู่การหดตัวและการคลอดก่อนกำหนด คุณแม่ที่ตั้งท้องควรลดการบริโภคโซดาและคาเฟอีน เปลี่ยนไปดื่มน้ำผลไม้แทน แต่ยังคงพยายามจำกัดปริมาณน้ำผลไม้เพื่อไม่ให้น้ำตาลมากเกินไป การกินผลไม้สักเล็กน้อยจะช่วยสนองความอยากน้ำตาลหรือคาเฟอีนได้ดียิ่งขึ้น ที่สำคัญให้หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์ทุกชนิดเพราะจะส่งผลต่อสุขภาพของลูกน้อย
นอกจากอาหารธรรมชาติแล้วการจะได้วิตามินคนท้องนั้น บางชนิดจำเป็นต้องได้รับในรูปอาหารเสริม ลองมาดูกันว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง
1. โฟลิค ของ Giffarine
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารนี้เป็นอาหารเสริมคนท้องที่มีส่วนประกอบที่สำคัญโดยประมาณใน 1 เม็ด (450 มิลลิกรัม) คือ วิตามินซี 60 มก. วิตามินบี 6 2 มก. วิตามินบี 12 0.1% 2 มก. (ให้วิตามินบี 12 2 มคก.) วิตามินบี 1 1.5 มก. และกรดโฟลิค 0.2 มก. โดยวิตามินบี 6 ทำหน้าที่ในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันและการเจริญเติบโตของเซลล์ใหม่ ช่วยสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง และช่วยเสริมสร้างกรดนิวคลีอิคใน RNA และ DNA ส่วนวิตามินบี 12 ทำงานร่วมกับกรดโฟลิค จะช่วยในการเสริมสร้างเม็ดเลือด ป้องกันภาวะโลหิตจาง มีความสำคัญต่อระบบประสาทและสมอง โดยเฉพาะของทารุกในครรภ์ จึงเป็นวิตามินคนท้องที่น่าสนใจ
วิธีกิน : วันละ 1 เม็ด พร้อมอาหาร
ขนาดบรรจุ : 60 เม็ด/กล่อง
ราคาโดยประมาณ : 180 บาท
2. วิตามินสำหรับหญิงเตรียมและขณะตั้งท้อง ของ Nature Made
วิตามินนี้เหมาะสำหรับหญิงเตรียมและขณะตั้งท้อง ให้ผลดีต่อทารกในท้อง เพราะมีวิตามินรวม 18 ชนิด ที่เป็นวิตามินคนท้อง และ DHA ซึ่งเป็นกรดไขมันโอเมก้า 3 ช่วยในเรื่องการพัฒนาสมอง ระบบประสาท กระดูกและดวงตาของเด็กในท้อง
วิธีกิน : วันละ 1 เม็ด พร้อมมื้ออาหาร
ขนาดบรรจุ : 150 เม็ด/กล่อง
ราคาโดยประมาณ : 1,388 บาท
3. อาหารเสริมหญิงท้องและให้นมลูก ของ Blackmores
อาหารเสริมจาก Blackmores นี้เหมาะสำหรับคุณแม่ตั้งท้อง และคุณแม่ให้นมบุตร เป็นอาหารเสริมที่ประกอบด้วยสารอาหารและแร่ธาตุที่สำคัญต่อพัฒนาการของลูกน้อย ตั้งแต่ที่อยู่ในท้องจนถึงระหว่างลูกน้อยกินนมแม่ จัดเป็นอาหารเสริมคนท้องบำรุงลูกน้อยในครรภ์และบำรุงน้ำนม มีสารอาหารที่จำเป็น 17 ชนิด ประกอบด้วยวิตามิน 10 ชนิดแร่ธาตุ 6 ชนิด และกรดไขมัน Omega-3 ซึ่งจำเป็นสำหรับการพัฒนาการของทารกในครรภ์ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ และควรทานเสริมต่อเนื่องตลอดช่วงเวลาให้นมบุตร
วิธีกิน : วันละ 2 เม็ด พร้อมอาหาร
ขนาดบรรจุ : 180 เม็ด/กล่อง
ราคาโดยประมาณ : 1,700 บาท
เกร็ดสุขภาพ : วิตามินคนท้องที่ร่างกายจะต้องการเพิ่มเติม ได้แก่ โฟเลต วิตามินบี 12 วิตามินดี และวิตามินซี ที่สำคัญเพราะร่างกายสังเคราะห์เองไม่ได้ จึงต้องได้รับเข้าไปในรูปวิตามินอาหารเสริม ซึ่งมีส่วนสำคัญต่อการเจริญเติบโตของทารกในท้อง
Featured Image Credit : unsplash.com/leohoho
ติดตามเราได้ที่ … เฟสบุ๊ค : เกร็ดสุขภาพ