“เพื่อสุขภาพ” ชุมชนสุขภาพ เรื่องราวตรงใจ ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย รุ่นไหนก็รัก ♡
ผักกะแยง เมนู 5 อย่าง ที่ทำตามง่าย อร่อย จนอยากบอกต่อ !
ถ้าใครได้เคยดูละครเรื่อง ‘มนต์รักหนองผักกะแยง’ อันโด่งดังกันไปแล้วนั้น อาจจะไม่คุ้นชื่อว่า ผักกะแยงนั้นคืออะไร ? ผักกะแยงหรือผักแขยง เป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดในเอเชีย และในประเทศไทยเรานั้นสามารถพบได้ทั่วทุกภาคของประเทศ โดยเฉพาะในภาคอีสานและภาคเหนือ จึงกลายเป็นผักพื้นบ้านที่คนนิยมนำมาทำอาหารกินกันค่ะ นอกจากแกงคั่ว มะระ เมนูแสนอร่อยแล้ว ลองมาทำเมนูต่างๆ จากผักกะแยงกันบ้างดีกว่า วันนี้เรามี ผักกะแยง เมนู ทำง่าย อร่อยเลิศรส 5 เมนูมาแนะนำพร้อมวิธีทำกันค่ะ
ผักกะแยง เมนูสุดอร่อย อร่อยได้ง่ายๆ 5 เมนู
ผักกะแยง เป็นผักท้องถิ่นของทางภาคเหนือและอีสาน เมื่อหักต้นและใบจะมีกลิ่นหอมฉุนและเผ็ดร้อน ในขณะที่ดอกผักกะแยงจะออกดอกในช่วงประมาณเดือนมีนาคมถึงเดือนกันยายน สรรพคุณของผักกะแยงนั้นมีมากมาย ไม่แพ้ผักชีลาว สรรพคุณที่ดีต่อร่างกายเลยค่ะ เช่น ทำให้เจริญอาหาร ป้องกันเส้นเลือดตีบตัน ใช้เป็นยาแก้ไข้ ลดไข้ได้ รวมถึงใช้เป็นยาขับลมและเป็นยาระบายด้วยค่ะ สรรพคุณดีต่อร่างกายขนาดนี้ เรามาทำอาหารจากผักกะแยง เมนูสุดอร่อยนี้กันเลยค่ะ
แกงผักกะแยงใส่ไก่
ด้วยเพราะผักกะแยงมีรสฉุน แต่มีกลิ่นที่หอม จึงสามารถชูรสอาหารได้อย่างดี และหนึ่งในเมนูอาหารที่นิยมทำคือ แกงผักกะแยงใส่ไก่ ที่อร่อยและดีต่อสุขภาพ ผักกะแยง เมนูนี้จะทำอย่างไรมาดูกันเลยค่ะ
วัตถุดิบ
- น้ำสต็อกไก่ 2 ½ ถ้วย
- สะโพกไก่หั่นชิ้น 200 กรัม
- ข้าวเหนียวนึ่งปิ้งจนกรอบนำไปโขลก 2 ช้อนโต๊ะ
- ยอดฟักแม้ว ½ ถ้วย
- ดอกแค ½ ถ้วย
- ตำลึง 1 ถ้วย
- ผักกะแยงหั่นท่อน 1 ถ้วย
- พริกขี้หนูอีสานบุบ 6 เม็ด
- พริกขี้หนูสวน 11 เม็ด
- ข่า 1 ช้อนโต๊ะ
- ตะไคร้ซอย 2 ต้น
- น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลาร้า 1 ½ ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
- โขลกพริกขี้หนูสวน ข่า และตะไคร้ ให้พอแหลก ตักใส่ถ้วยพักไว้
- ตั้งหม้อด้วยไฟกลาง ต้มน้ำสต๊อกไก่จนเดือด จากนั้นใส่เครื่องที่โขลกลงไปแล้วคนให้เข้ากัน
- พอน้ำแกงเดือดอีกครั้ง ใส่สะโพกไก่ลงไปต้มให้พอสุก แล้วใส่ข้าวเหนียวที่โขลกลงไป ต้มจนมีกลิ่นหอม
- ปรุงรสด้วยน้ำปลา และน้ำปลาร้า รอให้เดือดอีกครั้งแล้วใส่ยอดฟักแม้ว ดอกแค ตำลึง และผักกะแยง ลงไปต้มจนสุก ใส่พริกขี้หนูอีสาน แล้วปิดไฟ ตักใส่ชาม พร้อมเสิร์ฟ
- แกงเปรอะหน่อไม้ผักกะแยง
แกงเปรอะหน่อไม้ผักกะแยง เมนูนี้เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ขึ้นชื่อของทางภาคอีสาน ที่ได้รับความนิยมและทำกินกันอย่างแพร่หลาย เป็นเมนูที่นำเอาผักหลากหลายชนิดมาแกงรวมกันจนได้รสอร่อย เหมาะสำหรับใครที่ชอบกินผักนึ่งเพื่อสุขภาพ ลองเปลี่ยนมาทำแกงเปรอะกันบ้างค่ะ
วัตถุดิบ
- หน่อไม้ 1 ถ้วย
- ผักกะแยง 1 ถ้วย
- ต้นหอมซอย 1 ช้อนโต๊ะ
- หอมแดงซอย 3 หัว
- พริกแดงแห้ง 2 เม็ด
- กระชาย 3 ต้น
- บวบเหลี่ยม 1 ลูก
- เมล็ดข้าวโพด 1 ถ้วย
- เห็ดแชมปิญอง 100 กรัม
- เห็ดออรินจิ 250 กรัม
- น้ำใบย่านาง 1 ถ้วย
- เกลือ เล็กน้อย
วิธีทำ
- ล้างผักทุกอย่างให้สะอาด แล้วหั่นเป็นชิ้นพอดีคำเตรียมไว้
- ตั้งหม้อด้วยไฟกลาง ใส่น้ำใบย่านางลงไป พอน้ำเดือดใส่หอมแดง พริก กระชายลงไป แล้วตามด้วยหน่อไม้ บวบ และเห็ดทั้งสองอย่าง จากนั้นปิดฝาหม้อเพื่อต้ม
- เมื่อส่วนผสมในหม้อใกล้สุกแล้ว ใส่ผักกะแยง และเมล็ดข้าวโพดลงไป ปรุงรสด้วยเกลือ แล้วต้มจนสุกดีอีกครั้ง
- ตักใส่ชาม พร้อมเสิร์ฟ
เกร็ดสุขภาพ : ผักกะแยงเป็นผักพื้นบ้านที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง จึงช่วยในการต้านมะเร็ง และต้านการเจริญเติบโตของเชื้อโรคต่างๆ ได้ ทั้งต้น ยอดอ่อน และใบอ่อน สามารถนำมาปรุงอาหารหรือกินเป็นผักสดได้ การกินผักกะแยงแบบสดๆ นั้น นอกจากได้ประโยชน์ต่างๆ แล้ว ยังช่วยดับกลิ่นตัวได้อีกด้วย
- ผักกะแยงลุยสวน
ผักกะแยง เมนูเพื่อสุขภาพจานนี้ เป็นเมนูที่ใช้ผักสดหลายชนิด ที่ใช้ทั้งใบและดอกแล้วนำมาผสมให้เข้ากัน ราดด้วยน้ำจิ้มซีฟู้ดสุดแซ่บ ได้รสแบบไทยๆ เมนูนี้จะใส่ดอกผักกะแยงด้วยก็ได้นะคะ
วัตถุดิบ
- กุ้งสดปอกเปลือกผ่าหลัง 10 ตัว
- ดอกโสน 1 ถ้วย
- ดอกอัญชันเด็ดขั้วออก 10 ดอก
- เกสรชมพู่มะเหมี่ยว 10 ดอก
- ยอดผักกะแยง ¾ ถ้วย
- ยอดผักแพว 1 ถ้วย
- ดอกผักปลัง 1 ถ้วย
- ผักกาดหิน 1 ถ้วย
- ใบโหระพา ¾ ถ้วย
- แตงร้านสไลซ์บาง 1 ลูก
วิธีทำ
- ตั้งหม้อต้มน้ำให้พอเดือด จากนั้นใส่ดอกโสน ดอกผักปลัง ลงไปลวกพอสุก แล้วตักขึ้นแช่ลงในน้ำเย็น พักไว้
- นำกุ้งลงไปลวกจนสุก แล้วตักขึ้นพักไว้
- วางแตงร้านลงบนภาชนะเรียบ วางกุ้งสด ดอกโสน ดอกอัญชัน เกสรชมพู่มะเหมี่ยว ดอกผักปลัง ผักกาดหิน ยอดผักกะแยง ยอดผักแพว และใบโหระพา ลงบนแตงร้าน จากนั้นม้วนให้แน่น
- จัดวางใส่จาน กินคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ด
- แกงอ่อมปลานิลใส่ผักกะแยง
เมนูบ้านๆ แต่รับรองอร่อยเลิศ แกงอ่อมปลานิลผักกะแยง เมนูนี้ซดน้ำแล้วคล่องคอ เหมาะทำกินเป็นเมนูประจำบ้าน นอกจากให้รสอร่อยแล้ว ยังอัดแน่นไปด้วยวัตถุดิบที่ดีต่อสุขภาพด้วยค่ะ
วัตถุดิบ
- ปลานิลหั่นเป็นท่อน 1 ตัว
- มะเขือขื่นหั่นชิ้น 1 ถ้วย
- ผักกะแยง 1 ถ้วย
- ผักชีลาวหั่นท่อน 1 กำ
- ต้นหอมหั่นท่อน 1 กำ
- ข้าวคั่ว 1 ช้อน
- น้ำปลาร้า 2 ทัพพี
- น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
- ข่าฝาน 4-5 แว่น
- ตะไคร้หั่น 3 ต้น
- หัวหอมแดง 4-5 หัว
- พริกแห้ง 5 เม็ด
- พริกขี้หนูสวน 10 เม็ด
วิธีทำ
- โขลกพริกแกงอ่อมด้วยส่วนผสม ข่า ตะไคร้ หัวหอมแดง พริกแห้ง และพริกขี้หนูสวน
- ตั้งหม้อใส่น้ำเปล่าลงไปพอประมาณ จากนั้นใส่เครื่องแกงอ่อมที่โขลกไว้ลงไป แล้วคนให้ละลาย
- พอน้ำเดือด ปรุงรสด้วยน้ำปลาและใส่น้ำปลาร้า ชิมรสตามชอบ
- ใส่ปลานิลลงไปต้ม แล้วปล่อยให้น้ำแกงเดือดจนปลาสุก โดยไม่ต้องคน
- ใส่มะเขือขื่นลงไปแล้วคนเบาๆ จากนั้นปิดไฟ ใส่ต้นหอมหั่น ผักกะแยง ผักชีลาว และข้าวคั่วลงไป ตักใส่ถ้วย พร้อมเสิร์ฟ
แกงปลาช่อนผักกะแยง
ผักกะแยง เมนูนี้ให้กลิ่นหอมชวนอร่อย เป็นเมนูที่หลายคนชื่นชอบและทำไม่ยาก เน้นใส่ผักกะแยงเยอะๆ นอกจากชูรสเรื่องกลิ่นของแกงแล้ว ยังมีสรรพคุณที่ดีต่อร่างกายมากมายเลยหล่ะค่ะ
วัตถุดิบ
- ปลาช่อนหั่นท่อน 1 กิโลกรัม
- ผักกะแยง 500 กรัม
- ผักชีลาว 200 กรัม
- พริกขี้หนูตามชอบ
- ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด รวม 1 ถ้วย
- ต้นหอม ผักชีซอย รวม 3 ช้อนโต๊ะ
- มะนาว 2 ลูก
- น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
- เกลือเล็กน้อย
- พริกแดง 4-5 เม็ด
- กระเทียม 5 กลีบ
วิธีทำ
- โขลกพริกแดง กระเทียม เกลือ เข้าด้วยกัน พักไว้
- ตั้งหม้อใส่น้ำจนเดือด ใส่น้ำมะนาว ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูดลงไป แล้วตามด้วยปลาช่อน
- เมื่อน้ำเดือดใส่พริกที่โขลกไว้ลงไป เมื่อเนื้อปลาสุกแล้ว ใส่ผักกะแยง และผักชีลาวลงไป
- ใส่พริกขี้หนูลงไป แล้วปรุงรสด้วยน้ำปลา ใส่ต้นหอม ผักชี คนเบาๆ ให้เข้ากัน ปิดไฟ ตักใส่ถ้วย พร้อมเสิร์ฟ
เกร็ดสุขภาพ : น้ำมันหอมระเหยจากผักกะแยงมีฤทธิ์ต่อต้านจุลินทรีย์ จึงได้มีการนำมาใช้เป็นส่วนประกอบในเครื่องสำอางเพื่อป้องกันการปนเปื้อนของจุลินทรีย์ นอกจากนี้น้ำมันหอมระเหยผักกะแยงยังมีคุณสมบัติเป็นยาฆ่าแมลงได้อีกด้วย
ผักกะแยง เมนูต่างๆ ที่เราแนะนำไปนั้น เป็นเมนูพื้นบ้านที่นิยมทำกินกันเป็นประจำ แม้ว่าจะไม่นิยมนำดอกผักกะแยงมาปรุงอาหาร แต่ใบ ต้น และยอดอ่อนของมันนั้น สามารถใช้ทำอาหารได้แถมยังอร่อยอีกด้วย ผักกะแยงเป็นผักที่สุกไว้ เพราะฉะนั้น หากต้มหรือแกง ให้ใส่ผักกะแยงเป็นอย่างสุดท้าย เพื่อที่ผักจะได้ไม่สุกหรือเละจนเกินไป ใครที่ชอบเมนูเพื่อสุขภาพลองเอาเมนูที่เราแนะนำนี้ไปทำกินกันดูนะคะ ทั้งอร่อย ทั้งดีต่อสุขภาพเลยหล่ะค่ะ
อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : maeban.co.th, lib.vijjaram.ac.th, krua.co, facebook.com/pangmediafood/photos, cwk-food.com, medthai.com
Featured Image Credit : ต้นกล้าความรู้.com
ติดตามเราได้ที่ … เฟสบุ๊ค : เกร็ดสุขภาพ