“เพื่อสุขภาพ” ชุมชนสุขภาพ เรื่องราวตรงใจ ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย รุ่นไหนก็รัก ♡
โกโก้ ประโยชน์ โทษ ที่มีมากกว่าความอร่อย คนรักโกโก้ต้องรู้ ก่อนกินต้องเช็ก !
มีใครชอบกินช็อกโกแลตบ้างมั้ยคะ ? หรือว่ามีเครื่องดื่มโปรดเป็นโกโก้รสชาติเข้มข้นหอมกรุ่น ซึ่งทั้งช็อกโกแลตและโกโก้นั้น ทำมาจากผงโกโก้ที่ได้จากเมล็ดโกโก้นั่นเองค่ะ เราอาจจะเคยได้ยินกันมาบ้างว่า โกโก้นั้นมีประโยชน์ต่อสุขภาพมาก หากกินให้ดี เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งใน Superfood หรือสุดยอดอาหารที่มีคุณประโยชน์ต่อสุภาพมากมายเลยทีเดียว นอกจากความอร่อยแล้ว โกโก้ ประโยชน์ โทษ จะมีอะไรบ้างนั้น ในบทความนี้ เพื่อสุขภาพจะพาไปเข้าใจพร้อมๆ กันเลยค่ะ
ชวนดู โกโก้ ประโยชน์ โทษ เพื่อประโยชน์ของร่างกายให้มากขึ้นกัน !
ถ้าใครเป็นคอกาแฟ เครื่องดื่มแก้วโปรดก็คงหนีไม่พ้นกาแฟหอมกรุ่นรสชาติเยี่ยม และถ้าเป็น Specialty Coffee หรือกาแฟพิเศษก็จะยิ่งถูกใจคอกาแฟอย่างแน่นอน แต่สำหรับคนที่ไม่ดื่มกาแฟแล้วละก็ เครื่องดื่มแก้วโปรดคงจะเป็นชาหรือโกโก้ ซึ่งผงโกโก้ที่เอามาชงเป็นเครื่องดื่ม หรือเอามาทำเป็นช็อกโกแลตนั้น มาจากเมล็ดโกโก้ดิบที่ต้องเอาไปแปรรูป ผ่านการตาก หมัก แล้วก็เอาไปคั่ว เสร็จแล้วก็เอาไปบดเป็นผง จนได้เป็นผงโกโก้เพื่อเอาไปใช้ประโยชน์อื่นๆ ต่อไป ไม่ว่าจะเอาไปทำเป็นขนมเบเกอรี่ต่างๆ เอาไปทำเป็นเครื่องดื่ม หรือเอาไปทำเป็นช็อกโกแลตบาร์ ทั้งนี้ การจะกินโกโก้ให้ได้ประโยชน์นั้น แนะนำเป็นการดื่มโกโก้โดยที่ใส่ครีมและน้ำตาลให้น้อยที่สุด หรือจะกินเป็นช็อกโกแลตบาร์ที่มีส่วนผสมของโกโก้ 70% ขึ้นไปก็ได้เหมือนกัน แต่ โกโก้ ประโยชน์ โทษ นั้นจะมีอะไรบ้าง ไปดูกันต่อดีกว่าค่ะ
เกร็ดสุขภาพ : การจะเลือกกินโกโก้ให้ได้ประโยชน์นั้น ควรเลือกกินเป็นช็อกโกแลตแท้ที่มีส่วนผสมของโกโก้มากกว่า 70% ขึ้นไป เพราะถึงแม้ว่าจะมีรสชาติขมแต่ก็ถือว่าดีต่อสุขภาพ และควรอ่านฉลากก่อนซื้อทุกครั้ง เพราะช็อกโกแลตที่วางขายตามท้องตลาดนั้น บางยี่ห้อเต็มไปด้วยน้ำตาลและไขมันอิ่มตัว ซึ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพหลายประการ รวมถึงการเลือกดื่มเครื่องดื่มโกโก้ที่ใส่ครีมและน้ำตาลน้อยที่สุด อาจจะเลือกเป็นใส่นมสดแทนหรือใช้หญ้าหวานแทนน้ำตาลเพื่อให้รสชาติกลมกล่อมมากขึ้น
1. ช่วยลดความดันโลหิต
โกโก้ ประโยชน์ที่คาดไม่ถึงมีอะไรบ้าง ? รู้หรือไม่ว่าไม่ว่าจะทั้งอยู่ในรูปแบบผง หรือในรูปของดาร์กช็อกโกแลตนั้น อาจช่วยลดความดันโลหิตได้ เพราะโกโก้เต็มไปด้วยสารฟลาโวนอยด์ ซึ่งมีสรรพคุณช่วยลดความดันโลหิต กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองและหัวใจได้ดีขึ้น ทั้งยังช่วยป้องกันลิ่มเลือด ช่วยลดความเสี่ยงของอาการหัวใจวาย และโรคหลอดเลือดสมองอีกด้วย
2. ลดความเสี่ยงในการเป็นโรคเบาหวาน
ในผงโกโก้นั้นมีสารโพลีฟีนอล ซึ่งจะช่วยชะลอกระบวนการย่อยอาหาร ทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาลได้ดีขึ้น นอกจากนี้ สารโพลีฟีนอลยังมีส่วนในการช่วยย่อยน้ำตาลกลูโคส ทำให้ร่างกายสามารถรักษาระดับน้ำตาลในเลือดได้อย่างสมดุล และยังลดภาวะดื้อต่ออินซูลินอีกด้วย จึงช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานนั่นเองค่ะ
3. ช่วยลดการอักเสบ
โกโก้มีประโยชน์ที่คาดไม่ถึงอีกอย่างหนึ่งก็คือ สารฟลาโวนอยด์ในผงโกโก้ช่วยลดการอักเสบทั่วร่างกายได้ ซึ่งอาจช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคที่เกิดจากการอักเสบในร่างกาย เช่น เบาหวาน โรคข้ออักเสบ โรคซึมเศร้า โรคอัลไซเมอร์ และโรคมะเร็ง ทั้งยังยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งและช่วยป้องกันการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งด้วยค่ะ
4. ดีต่อผู้ที่เป็นโรคหอบหืด
หอบหืดเป็นโรคอักเสบเรื้อรังที่ทำให้เกิดการอุดตันและเกิดการอักเสบของทางเดินหายใจ และอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ ซึ่งโกโก้อาจเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่เป็นโรคหอบหืด เนื่องจากมีสารที่ต่อต้านโรคหืด เช่น ธีโอโบรมีน และธีโอฟิลลีน ผงโกโก้ประกอบด้วยสารประกอบนี้ประมาณ 1.9 กรัมต่อ 100 กรัม ซึ่งจะช่วยให้หายใจสะดวกมากขึ้น ทั้งยังลดการอักเสบในทางเดินหายใจด้วย
5. มีประโยชน์ต่อฟันและสุขภาพช่องปาก
ประโยชน์ที่คาดไม่ถึงอีกข้อหนึ่งก็คือ ดีต่อสุขภาพช่องปากของเราค่ะ มีการศึกษาที่พูดถึงโกโก้ว่า มีคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรียและกระตุ้นภูมิคุ้มกัน สารประกอบหลายชนิดในโกโก้นั้น จะช่วยป้องกันฟันผุ และโรคเหงือกได้ เพราะมีคุณสมบัติต้านแบคทีเรียและกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ซึ่งอาจส่งผลต่อสุขภาพช่องปากนั่นเอง
6. ช่วยให้อารมณ์ดีขึ้น
กินช็อกโกแลตแล้วจะอารมณ์ดี ประโยคนี้ไม่ได้กล่าวเกินจริงแต่อย่างใด เพราะโกโก้มีฤทธิ์เป็นยากล่อมประสาทตามธรรมชาติ ที่ช่วยให้เรารู้สึกมีความสุขมากขึ้น เพราะโกโก้มีส่วนประกอบของสารอนันดาไมด์ที่ช่วยกระตุ้นอารมณ์เชิงบวก ทำให้เรารู้สึกร่าเริงมากขึ้น ทั้งยังช่วยให้สมองของเราปล่อยสารโดปามีน เซโรโทนิน และเอ็นดอร์ฟิน ทำให้สมองรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น คล้ายกับคนที่กำลังมีความรักเลยทีเดียว
7. ช่วยทำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า
ในโกโก้มีคาเฟอีนที่ไม่มากจนเกินไป ซึ่งคาเฟอีนมีประโยชน์ก็คือ ช่วยให้เรารู้สึกตื่นตัวมากขึ้นและมีพลังงานมากขึ้น การกินดาร์กช็อกโกแลตสักแท่งเล็กๆ จะช่วยให้เรามีพลังทำกิจกรรมต่างๆ ได้ดี นอกจากนี้ ยังมีแมกนีเซียมที่ทำให้ร่างกายมีเรี่ยวแรงมากขึ้น และแมกนีเซียมยังช่วยลดความดันโลหิตได้อีกด้วยนะคะ
8. ป้องกันภาวะสมองเสื่อม
ในโกโก้มีสารโพลีฟีนอล และสารฟลาโวนอยด์ ซึ่งมีส่วนช่วยกระตุ้นการทำงานของสมอง ช่วยให้เลือดไปเลี้ยงสมองได้ดี ทั้งยังช่วยป้องกันความเสื่อมของระบบประสาทอีกด้วย จึงอาจช่วยป้องกันภาวะสมองเสื่อมและโรคอัลไซเมอร์ได้ โกโก้ ประโยชน์ที่คาดไม่ถึงก็คือ นอกจากจะอร่อยแล้ว ยังดีต่อสมองของเราด้วยค่ะ
เกร็ดสุขภาพ : หากอยากผิวสวย ให้กินโกโก้เป็นประจำ เพราะประโยชน์ที่คาดไม่ถึงอีกอย่างหนึ่งก็คือ ช่วยบำรุงผิวพรรณของเราได้ สารโพลีฟีนอลในโกโก้มีประโยน์อย่างมากต่อผิวพรรณของเรา ช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งมากขึ้น และยังเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ช่วยให้ผิวพรรณดูสดใสมากขึ้นด้วย
โกโก้ ประโยชน์ โทษที่ควรรู้
แม้ว่าโกโก้จะมีประโยชน์มากมาย แต่ก็มีโทษที่เราควรรู้เหมือนกันค่ะ จริงๆ แล้วการกินโกโก้นั้น ปลอดภัยสำหรับคนส่วนใหญ่แต่ทั้งนี้ โกโก้ ประโยชน์ โทษที่ควรรู้ก็คือ ในโกโก้มีคาเฟอีน ถึงจะมีปริมาณไม่มาก แต่สำหรับผู้ที่ไวต่อคาเฟอีนหรือแพ้คาเฟอีน หากกินโกโก้ในปริมาณมากอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่เกี่ยวข้องกับคาเฟอีนได้ เช่น เกิดอาการหงุดหงิด ปัสสาวะเพิ่มขึ้น นอนไม่หลับ และหัวใจเต้นเร็ว นอกจากนี้โกโก้อาจทำให้เกิดอาการแพ้ทางผิวหนัง เกิดอาการปวดศีรษะไมเกรน และอาจมีอาการคลื่นไส้ ไม่สบายท้อง ท้องผูก และมีแก๊สในกระเพาะอาหารในบางคนได้เช่นกัน ดังนั้น จึงควรสังเกตตัวเองให้ดีว่ากินโกโก้แล้วมีความผิดปกติใดหรือไม่ และหากมีอาการผิดปกติ ก็อาจจะต้องเลี่ยงการกินโกโก้ หรือกินให้น้อยจะดีกว่านั่นเองค่ะ
คำแนะนำเพิ่มเติมในการกินโกโก้
เพื่อให้คุณเข้าใจเรื่องโกโก้ ประโยชน์ โทษ ให้มากขึ้น เรามีคำแนะนำเพิ่มเติมมาฝากกันอีกค่ะ
- กินในปริมาณที่เหมาะสม : โดยทั่วไป การดื่มโกโก้ 1-2 ถ้วยต่อวันถือว่าปลอดภัยสำหรับผู้ใหญ่ส่วนใหญ่นะคะ การดื่มในปริมาณนี้เราจะได้ประโยชน์โดยไม่เสี่ยงกับคาเฟอีนที่เป็นผลข้างเคียงมากเกินไป
- เลือกโกโก้คุณภาพดี : ควรเลือกโกโก้ที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน เช่น มาตรฐานเกษตรอินทรีย์เพื่อให้มั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัย
- ระวังการเติมน้ำตาล : เพราะว่าการน้ำตาลจะเป็นการเพิ่มแคลอรีให้กับร่างกายโดยไม่จำเป็น ให้ลองใช้สารให้ความหวาน เช่น สตีเวีย หรือดื่มโดยไม่เติมความหวานเพื่อให้ได้รสธรรมชาติของโกโก้ได้มากที่สุด
- เวลาในการดื่ม : ควรดื่มในช่วงเช้าหรือบ่าย หลีกเลี่ยงการดื่มหลัง 18:00 น. เพราะคาเฟอีนอาจรบกวนการนอนหลับ
- สังเกตอาการแพ้ : อาการแพ้อาจรวมถึงผื่นคัน หายใจลำบาก หรือปวดท้อง หากพบอาการเหล่านี้ ควรหยุดดื่มและปรึกษาแพทย์ทันที
- กลุ่มเสี่ยงควรระวัง : ผู้ที่มีโรคกระเพาะ โรคหัวใจ หรือความดันโลหิตสูง ควรปรึกษาแพทย์ก่อนดื่มโกโก้เป็นประจำ
- ไม่ดื่มแทนน้ำ : โกโก้ไม่สามารถทดแทนน้ำได้ ควรดื่มน้ำเปล่าอย่างน้อย 8 แก้วต่อวัน และใช้โกโก้เป็นเครื่องดื่มเสริม
- ระวังการผสมกับยา : โกโก้อาจมีปฏิกิริยากับยาบางชนิด เช่น ยาต้านซึมเศร้า หรือยาลดความดัน จึงควรปรึกษาแพทย์ก่อน หากคุณจะดื่มโกโก้เป็นประจำ
- เลือกส่วนผสมการชงที่ดีต่อสุขภาพ : ใช้นมไขมันต่ำ นมถั่วเหลือง หรือนมอัลมอนด์แทนครีมหรือนมไขมันเต็ม เพื่อลดแคลอรีและไขมันอิ่มตัว
แชร์ไอเดียเมนูจากโกโก้ วิธีการกินโกโก้ที่ทำให้ได้ประโยชน์เต็มๆ
แม้ว่าโกโก้ ประโยชน์ที่คาดไม่ถึงจะมีมากมาย แต่ถ้าเลือกกินไม่ถูกวิธี ก็อาจเป็นโทษต่อร่างกายแทน เช่น กินโกโก้เย็นรสชาติหวานมัน หรือกินช็อกโกแลตนม กินขนม เบเกอรี่ของหวานที่เป็นเมนูช็อกโกแลตบ่อยๆ เป็นต้น การจะกินโกโก้ให้ได้ประโยชน์นั้น แนะนำเป็นผงโกโก้ที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำตาลค่ะ ยิ่งเป็นผงโกโก้ 100% ก็จะดีที่สุด เพราะมีคุณค่าทางโภชนาการที่ดีต่อร่างกาย แม้ว่ารสชาติจะขม แต่ก็สามารถใช้หญ้าหวานหรือเติมนมไปเพื่อให้รสชาติกลมกล่อมมากขึ้น แล้วก็ไม่ทำลายสุขภาพด้วย นอกจากจะเอาไปชงเป็นเครื่องดื่มแล้ว เรามีไอเดียเมนูจากโกโก้มาฝากตามนี้ค่ะ
- โรยบนเนยถั่วทาขนมปัง
- ใช้เป็นส่วนผสมในการทำโกโก้ร้อนแบบโฮมเมด
- เพิ่มลงในสมูทตี้
- เพิ่มลงในกรีกโยเกิร์ต
- ผสมลงในข้าวโอ๊ตเพื่อทำเมนูข้าวโอ๊ตต้ม
- โรยบนกล้วยหรือสตรอเบอร์รี่
- ใส่ลงในกราโนล่าเพื่อผสมทำกราโนล่าแท่ง
- ผสมในเมนูมัฟฟินกล้วยหอมคลีน
- ผสมในแป้งแพนเค้กข้าวโอ๊ตแบบคลีน
- เอาใส่ในนมสด นมถั่วเหลือง นมข้าวโอ๊ต หรือนมธัญพืชต่างๆ
โกโก้ ประโยชน์ โทษ มีอะไรบ้างก็ได้รู้กันไปแล้ว และถึงแม้ว่าจะมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมายเลยทีเดียว แต่อย่างที่บอกไปว่า หากอยากได้ประโยชน์อย่างเต็มที่แล้วล่ะก็ควรเลือกกินเป็นผงโกโก้ 100% หรือกินเป็นดาร์กช็อกโกแลตที่มีส่วนผสมของโกโก้มากกว่า 70% ขึ้นไป และหลีกเลี่ยงการบริโภคโกโก้หรือช็อกโกแลตที่มีส่วนผสมของครีมและน้ำตาล หากกินได้แบบนี้ ในปริมาณที่พอดี รับรองว่าจะได้ประโยชน์แบบจัดเต็มและดีต่อสุขภาพอย่างแน่นอนค่ะ
ติดตามเราได้ที่ … เฟสบุ๊ค : เกร็ดสุขภาพ